วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 484 ดาราอกหัก

บทที่ 484 ดาราอกหัก

กำปั้นของเธออยู่บนตัวของเขา เหมือนกับโดนจั๊กจี้อย่างงั้น

โวยวายอยู่สักพัก จิ่งหนิงก็เหนื่อยแล้ว ถึงหยุดพัก

เวลาผ่านไป สามเดือนผ่านไปในชั่วพริบตาเดียว

จิ่งหนิงใกล้จะคลอดลูกแล้ว

หนึ่งเดือนมานี้ ลู่จิ่งเซินไม่ไปบริษัทแล้ว งานในบริษัทมอบให้ซูมู่ ที่เหลือที่สามารถแก้ปัญหาที่บ้านได้ก็พยายามแก้ไขอย่างสุดความสามารถที่บ้าน

ก็เพื่ออยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอโดยเฉพาะ

วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบหกสิบปีของผู้อาวุโสตระกูลเฟิงพอดี เมื่อสองสามวันก่อนเฟิงยี่มาแจ้งพวกเขาแล้ว บอกให้ต้องไปถึงงานตรงเวลา

ดังนั้นวันนี้ ลู่จิ่งเซินและจิ่งหนิงเตรียมพร้อมทุกอย่าง นั่งรถไปบ้านตระกูลเฟิง

ตระกูลเฟิงเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมือง นายท่านฉลองวันเกิดต้องคึกคักมาเป็นธรรมดา

พี่ใหญ่ของตระกูลเฟิงและเฟิงยี่ถูกสั่งให้ไปต้อนรับแขก เพื่อให้ความช่วยเหลือสมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้หญิงก็เป็นคุณยายและคุณนายตระกูลเฟิงไปตามธรรมชาติ

หัวเหยาและจี้หลินยวนช่วงนี้ก็กลับมาแล้ว ดังนั้นก็ต้องมาร่วมงานเป็นธรรมดา

เมื่อเห็นจิ่งหนิงท้องใหญ่ หัวเหยารีบเรียกให้คนไปเอาเก้าอี้มา

จิ่งหนิงก็เกรงใจ ถือโอกาสนั่งลง

หัวเหยาถามอย่างยิ้มๆ “เก้าเดือนแล้วใช่ไหม?”

“อืม”

“ใกล้คลอดแล้ว กลัวไหม?”

พูดอย่างตรงไปตรงมา จิ่งหนิงกลัวอยู่เล็กน้อย

เมื่อก่อนได้ยินมาว่าคลอดลูกเจ็บปวดมากแค่ไหน เธอไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้นมาตลอด แต่พอตอนนี้มาถึงตัวเองแล้ว ไม่กลัวก็คงจะโกหก

หัวเหยาเห็นเธอตื่นเต้นขึ้นมาในทันทีทันใด ยิ้มและพูดว่า “จะลำบากนิดหน่อย แต่ยังโอเค รอตอนที่เธอเห็นลูกตัวเองเกิดมา ก็จะคิดว่าต่อให้ลำบากกว่านี้ก็คุ้ม

จิ่งหนิงพยักหน้า ยิ้มให้กับเธอ

“หวังว่าพอถึงเวลาจะราบรื่น”

“ต้องราบรื่นอย่างแน่นอน”

คุณพ่อเป็นคนชอบความสนุกสนาน อีกทั้งตำแหน่งยังเป็นที่เคารพอีก กลุ่มบุคคลในสังคมชนชั้นสูงของทั้งเมืองมาเกือบจะทั้งหมด

โรงแรมถูกเหมามาทั้งหมด ในงานเลี้ยงที่นั่งเต็มทั้งหมด บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขอย่างต่อเนื่อง

จิ่งหนิงถูกบรรยากาศดีๆแบบนี้ดึงดูดไปด้วย อารมณ์ค่อนข้างดี เลยทานอาหารเย็นมากขึ้นเล็กน้อย

หลังจากกินเลี้ยงเสร็จ อาหารยังไม่ค่อยย่อยนัก จึงจูงลู่จิ่งเซินไปเดินเล่นที่ลานด้านหลังโรงแรมด้วยกัน

ล้อมรอบด้วยเสียงประทัด ต้นไม้ที่ประดับด้วยแสงไฟมากมาย เป็นปรากฏการณ์ที่คึกคักสวยงาม

นึกไม่ถึงว่าพึ่งจะเดินเล่นได้ไม่นาน จู่ๆลู่จิ่งเซินก็มีโทรศัพท์เข้า เป็นเฟิงยี่ที่โทรเข้ามา

เพิ่งได้รับสาย ก็มีเสียงเพลงดังลั่นตามมา ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วเล็กน้อย ถือโทรศัพท์ห่างออกมาเล็กน้อย รอเสียงดังนั้นผ่านไป ค่อยเอาโทรศัพท์กลับเข้ามาแนบหูอีกครั้ง

“มีอะไร?”

เสียงตื่นเต้นดีใจของเฟิงยี่ดังมาจากฝั่งตรงข้าม “พี่รอง พี่สะใภ้รอง พวกพี่ยังอยู่ที่โรงแรมแล้วไหม? มาสนุกที่ชั้นสองกันเร็ว”

ชั้นหนึ่งของโรงแรมเป็นห้องโถงใหญ่ ชั้นสองเป็นบาร์เหล้าขนาดใหญ่ ชั้นสามและชั้นสี่ถึงจะเป็นห้องอาหาร

สาเหตุเพราะผลลัพธ์ของการกั้นเสียงทำได้ดีมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าบาร์เหล้าจะอยู่ชั้นล่าง ในห้องอาหารก็จะไม่ได้ยินเสียงดัง

ลู่จิ่งเซินถามอย่างเย็นชา “นายอยู่ที่บาร์เหล้าอีกแล้ว?”

เฟิงยี่หัวเราะฮาๆ “ใช่แล้ว ไม่ใช่ว่าพึ่งกินข้าวเสร็จหรอ? มีคนอารมณ์ไม่ดี ให้ผมมาดื่มเป็นเพื่อนแก้วสองแก้ว ผมก็มา พี่อยู่ที่ไหน? มาสนุกด้วยกันสิ”

ลู่จิ่งเซินปฏิเสธไปตรงๆ “ไม่”

“โธ่ อย่าสิ! พี่ไม่ได้ออกมาง่ายๆ ไหนๆออกมาแล้วก็มาผ่อนคลายสักหน่อยสิ”

ลู่จิ่งเซินตอบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หนวกหู”

“ก็ได้ งั้นพวกเราเปลี่ยนไปที่ที่ค่อนข้างเงียบ ดื่มชาโอเคไหม? เปลี่ยนชั้นขึ้นไปร้านชา”

ลู่จิ่งเซิน “……”

สุดท้าย ก็หลีกหนีการตามตื๊อของเฟิงยี่ไม่ได้ เขาตอบรับว่าจะไป

ลู่จิ่งเฟิงหันกลับมามองไปทางจิ่งหนิงที่อยู่ข้างๆ ถามว่า “เฟิงยี่เรียกพวกเราให้ขึ้นไปที่ร้านชาชั้นหกนั่งสักหน่อย คุณจะไปไหม? ถ้าไม่อยากไปเดี๋ยวผมจะไปส่งคุณกลับบ้านก่อน”

นึกไม่ถึงว่าดวงตาของจิ่งหนิงจะเป็นประกาย รีบตอบในทันที “ดีๆ ฉันอยากไป”

แท้จริงแล้วช่วงนี้เธอนอนเยอะเกินไปแล้ว เวลาครึ่งหนึ่งของทุกวันนั้นล้วนเอาแต่นอน

ลู่จิ่งเซินเป็นห่วงว่าตัวของเธอหนักขึ้น ออกไปข้างนอกจะไม่ปลอดภัย ทุกวันจึงให้เธออยู่แต่บ้าน ไม่สบายใจก็ให้ไปเดินเล่นที่ลานหลังบ้าน

ถ้าอยากออกไปจริงๆ ก็ต้องรอเขามีเวลาแล้วพาไปด้วยตัวเอง แม้แต่ซูมู่และโม่หนานไปเป็นเพื่อนก็ยังไม่วางใจ

ดังนั้นนี่ไม่ใช่ง่ายๆที่จะมีโอกาสออกมาเที่ยวเล่นข้างนอก เธอจะไม่ปล่อยมันไปแน่นอน

ลู่จิ่งเซินเห็นอย่างนั้น ก็พยักหน้า พาเธอขึ้นไปชั้นหกด้วยกัน

ทั้งสองคนมาถึงร้านน้ำชาชั้นหก ผลักประตูห้องเข้าไป พบว่าไม่เพียงแค่เฟิงยี่และจี้หยุนซูที่อยู่ คาดไม่ถึงว่าแม้แต่จิ้นเหลียงเฉิงก็อยู่

จิ่งหนิงแปลกใจมาก เรียกออกไป “จิ้นเหลียงเฉิง! คือนายจริงๆหรอ? นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

สวรรค์รู้ดี สำหรับคนๆนี้แล้ว เธอคุ้นเคยมากแค่ไหน

ไอดอลของเธอก่อนหน้านี้ คุณแม่จิ้นก็เป็นแฟนคลับของเขา

เธอและคุณแม่จิ้นก็ยังรู้จักกันที่งานแฟนมีตติ้งของเขา

จิ้นเหลียงเฉิงเงยหน้าขึ้นมามองเธอ หรี่ตาลงเล็กน้อย

ยิ้มออกมาบางๆทันที “ภรรยาของคุณชายลู่ ได้ยินชื่อมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอ”

เฟิงยี่พูดเย็นๆ “เอาหล่ะ จะพูดจาเรื่อยเปื่อยอะไรมากมาย นายและพวกเราตอนที่โตมาด้วยกัน ก็เรียกพี่รองพี่รองมาตลอดไม่ใช่หรอ? ตอนนี้จะมาเรียกภรรยาของคุณชายทำไม เรียกว่าพี่สะใภ้สิ!”

จิ้นเหลียงเฉิงไม่ได้พูดอะไร

ลู่จิ่งเซินก็ไม่ได้พูดอะไร พยุงจิ่งหนิงเดินไป ดึงเก้าอี้ออกมาแทนเธอ ให้เธอนั่งลง

จิ้นเหลียงเฉิงเห็นท่าที่รักกันมากของพวกเขา แววตาก็ค่อยๆมีความลึกมากขึ้น

เฟิงยี่พูด “พี่รอง ตาจิ้นอกหัก พี่รีบมา ช่วยปลอบใจเขาซะหน่อยเถอะ ผมแทบจะถูกพวกเขาสองคนทำให้กลัดกลุ้มตายอยู่แล้ว”

จิ่งหนิงตกใจเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจ

จิ้นเหลียงเฉิงอกหัก?

เกิดเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

ไม่ ไม่ใช่ จุดสำคัญไม่ใช่ตรงนี้ ที่สำคัญคือ เขามีความรักตอนไหน?

เห็นเธอมีอาการประหลาดใจมาก เฟิงยี่ก็หัวเราะอย่างรุนแรง “จิ่งหนิง เธอยังไม่รู้เรื่องหรอ? โชคดีที่พวกเธอยังเป็นคนวงใน!”

จิ่งหนิงสั่นหัว

ยกโทษให้เธอ ช่วงนี้เธอยุ่งมากจริงๆ ไม่ได้สนใจข่าวโดยสิ้นเชิง จะรู้จากไหนว่าเขามีความรักกันหล่ะ

“จิ้นมีเพื่อนสมัยเรียนมัธยม รักกับมาสิบปีแล้ว ไม่ยอมแต่งงานกับเขาสักที จิ้นตัดสินใจว่าจะคบกับเธอไปยาวๆ ไปๆมาๆ เธอก็หนีไปแต่งงานที่ต่างประเทศแล้ว เธอว่าแปลกไม่แปลก?”

จิ่งหนิงอ้าปากค้างอย่างตะลึง

ทำไมถึงคิดไม่ถึง ว่าจะมีเรื่องแบบนี้

หันไปมองจิ้นเหลียงเฉิงอีกครั้ง เห็นเพียงแค่เขากำลังนั่งโค้งงออยู่มุมโซฟา เดิมทีมีใบหน้าที่อ่อนหวาน เวลานี้มีหนวดเคราโผล่ขึ้นมาบริเวณคางเล็กน้อย

สำหรับนักแสดงที่ใช้ใบหน้าหากินแล้ว ไม่ดูแลผมเผ้าหน้าตาเลย จนเหมือนกับเป็นวิญญาณ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหล่ะ?”

จิ้นเหลียงเฉิงเหลือบตาขึ้นมามองเธอ แต่ไม่ได้พูดอะไร

ชายหนุ่มคนหนึ่งอกหัก เรียกพี่น้องมาดื่มเหล้าเพื่อเติมเต็มช่องว่างความเจ็บปวด

แต่จิ้นเหลียงเฉิงบังเอิญแพ้เหล้า ดื่มเหล้าไม่ได้ จึงทำได้เพียงดื่มชา

เมื่อกี้ที่อยู่ในบาร์เหล้า เฟิงยี่พูดว่าพาเขาออกไประบายอารมณ์ แต่ความเป็นจริงแล้วตัวเองสนุกอยู่คนเดียว เขาก็ไม่พอใจมาอยู่แล้ว

เมื่อสักครู่ยังพาคนมากมายมาล้อมดูท่าทางการอกหักของเขา ก็ไม่พอใจมากยิ่งขึ้นทันที

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset