วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 488 ลูกศรที่ยิงมาจากที่ลับนั้นยากที่จะระวัง

บทที่ 488 ลูกศรที่ยิงมาจากที่ลับนั้นยากที่จะระวัง

เขาไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าเธอไม่สนใจตระกูลจูเก่อ และก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนมีความคิดมาก

เพียงแต่เมื่อก่อน ไม่ว่าจะโดนปฏิเสธอย่างไร ภายในใจก็ยังคงมีความหวัง

วันนี้ความหวังนี้กลับแตกละเอียดโดยสิ้นเชิง

เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ฉันยอมรับ เธอพูดถูก เมื่อก่อนฉันเหนื่อยกับการแย่งชิง ไม่ได้ทุ่มเทแรงทั้งหมดในการตามหาเธอจริงๆ แม้กระทั่งมีอยู่หลายครั้ง มีข่าวคราวอยู่อย่างชัดเจน แต่เป็นเพราะเหตุผลบางอย่าง รอตอนที่ฉันงานไม่ยุ่งจะมาตามหาเธอ ก็หาไม่เจอแล้ว”

“ดังนั้นในตอนแรก ฉันละอายกับเธอ แต่ตอนหลังพอเห็นตระกูลลู่เลี้ยงดูเธออย่างดี ก็วางใจ”

“สำหรับเรื่องรับช่วงต่อของตระกูล ฉันอธิบายกับเธอแล้วหนิ! ที่ฉันตัดสินใจรับตำแหน่งนั้น แต่ว่าหนิงหนิง เธอต้องเข้าใจ ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ใครจะไม่อยากขึ้นไปบนตำแหน่งนั้น”

“พ่อของเธอหมกมุ่นอยู่กับความรักของลูกๆ เดิมทีเขาไม่ใช่คนเก่งและก็ไม่ชอบจัดการเรื่องอะไรแบบนี้ ยิ่งกว่านั้นคือไม่ยอมเข้ามาพัวพันกับเรื่องอำนาจสิทธิอะไรพวกนี้”

“แต่เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลจูเก่อ เป็นลิขิตของสวรรค์ ต้องรับช่วงต่อมรดกอย่างแน่นอน แต่ฉันมีความปรารถนาอันแรงกล้า หลายปีมานี้ทุ่มเทเพื่อตระกูลจูเก่อไปมากขนาดนี้ ตอนท้ายที่สุดก็อยากจะได้รับอะไรกลับมา แต่กลับถูกคนหาว่าพูดจาไม่เหมาะสมกับสิ่งที่รับผิดชอบอยู่”

จิ่งหนิงยิ้มเย็น “ดังนั้น คุณเลยอยากให้ฉันกลับไป จับฉันเป็นหุ่นเชิด จากนั้นตัวเองค่อยควบคุมความเป็นจริง ตระกูลจูเก่อทั้งหมดก็ยังเป็นของคุณเหมือนเดิม”

ใบหน้าของจูเก่อหลิวเฟิงมีความไม่สบายใจฉายออกมา

“ถ้าคุณคิดแบบนี้จริงๆ ฉันก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก”

จิ่งหนิงพูดเสียงเข้ม “นี่มันสมัยไหนแล้ว พวกคุณยังยึดกฎแบบนี้ไว้ให้ลำบากใจ”

จูเก่อหลิวเฟิงยิ้มเจื่อนๆ

“พูดจริงๆแล้ว ฉันก็รู้สึกว่ากฎนี้ช่างไร้สาระ แต่ในฐานะที่เป็นตระกูลที่สืบสานกันมาเกือบจะสามร้อยปี ประเพณีบางอย่างก็ใช่ว่าเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาอันสั้น และยิ่งมีผลประโยชน์นับไม่ถ้วนเข้ามาเกี่ยวข้อง เพียงแค่ขยับก็เกี่ยวข้องไปเต็มๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นฉัน ก็ยังต้องหวาดกลัว”

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว

“ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูด ฉันยิ่งไม่มีทางให้จิ้งจื๋อไปเสี่ยงกับคุณ”

จูเก่อหลิวเฟิงพูดอย่างยิ้มๆ “ฉันรู้ว่าเธอไม่มีทางรับปาก แต่ว่าแค่เข้ามาทำอย่างขอไปทีก็จบแล้ว”

เขานิ่งไปสักพัก “ตอนนี้คนที่รู้ความเป็นอยู่ของเธอไม่ได้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวแล้ว ถึงแม้ฉันจะไม่มาหาเธอ ก็จะมีคนอื่นมาหาเธอ”

“พวกเขาจะทำอะไรฉันได้อีก?”

“ต่อหน้าไม่ได้ แต่ถ้าลับหลังหล่ะ? แม้ตอนนี้ตระกูลลู่จะเจริญรุ่งเรืองมาก ลู่จิ่งเซินก็เพิ่มขึ้นสูงในเวลาที่เหมาะเจาะพอดี แต่ยังไงช่วงเวลาดีๆก็ใช่ว่าจะอยู่ได้นาน และอีกอย่างเมื่อก่อนตระกูลลู่มีอำนาจมาก แต่ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ไม่นานก็ต้องกลับมาในเส้นทางเดินที่ถูกต้องแล้ว นักธุรกิจที่ใสสะอาดจะต่อสู้กับอำนาจมืดได้อย่างไร? หนิงหนิง เธอไม่คิดเพื่อตัวเอง ถึงกับจะไม่คิดเพื่อเขาเลยหรือ?”

แววตาของจิ่งหนิงเฉียบคมขึ้นมาในทันที มองไปที่เขาด้วยสายตาที่เคร่งขรึมเด็ดขาด

“คุณหมายความว่ายังไง?”

“ฉันจะไม่โจมตีเขา ถึงแม้จะไม่ใช่เพราะหน้าตาของตระกูลลู่ แต่เพราะเขาเป็นหลานเขยของฉัน ที่ฉันกังวลคือคนอื่น”

“คนอื่นในตระกูลจูเก่อ?”

“อือ”

“เหอะ พวกเขากล้า!”

“เธออย่าดูถูกตระกูลจูเก่อ ถึงแม้ทุกวันนี้พวกเราจะดูเหมือนไม่ตกต่ำ ตระกูลผู้ดีที่ตกอับตกทอดจากราชวงศ์ก่อนหน้านี้ แต่มันเป็นการโยกย้ายอำนาจ สิ่งบางอย่าง ไม่เพียงแต่เธอไม่รู้ แต่มากจนกระทั่งเธอจินตนาการไม่ถึง โดยเฉพาะทุกแง่มุมของความสัมพันธ์ ตระกูลที่พัฒนามาสามร้อยปี ความซับซ้อนซ่อนเงื่อนในนั้น มันไกลเกินกว่าที่ตระกูลลู่จะเปรียบได้”

จิ่งหนิงเงียบลง

ไม่เพียงแต่ไม่พูด คำพูดที่จูเก่อหลิวเฟิงพูด ถึงแม้จะไม่น่าฟัง แต่พอคิดๆดูแล้ว เป็นเรื่องจริงทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้น หอกที่แทงจากด้านหน้านั้นหลบได้ง่าย แต่ลูกศรที่ยิงจากด้านหลังนั้นยากที่จะระวัง

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “พวกเขากลัวว่าสักวันนึงฉันจะออกไปแย่งตำแหน่งของพวกเขาขนาดนี้เชียวหรือ?”

จูเก่อหลิวเฟิงถอนหายใจออกมา

“ภายในของตระกูลจูเก่อ เน่าเฟะมากกว่าที่เธอจินตนาการมาก ขนบธรรมเนียมประเพณีมากมายที่มีมานานยังคงเหลืออยู่ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในเวลาอันสั้น”

จู่ๆเขาก็ฝืนยิ้มออกมา “ก็เหมือนกับ จนกระทั่งในตอนนี้ เลือกหัวหน้าครอบครัวคล้ายกับเลือกกษัตริย์ ต้องปฏิบัติตามความสำคัญของพี่น้อง ปฏิบัติตามประเพณีโบราณของบรรพบุรุษ”

จิ่งหนิงยิ้มเยาะและพูดว่า “งั้นถ้าพูดแบบนี้ คงเวียนมาไม่ถึงฉันที่เป็นผู้หญิง บรรพบุรุษของพวกคุณไม่ใช่ว่าดูแคลนผู้หญิงหรอ?”

จูเก่อหลิวเฟิงพยักหน้าอย่างจำใจ “ยังไม่ใช่แบบฉบับที่เรียนมาจากฝั่งตะวันตก รักษาขนบธรรมเนียมแบบเดิมไว้ด้วย และก็ยังจะเรียนรู้ความเท่าเทียมของชายหญิงจากฝั่งตะวันตก ผู้หญิงทุกคนสามารถแข่งขันแย่งชิงกันได้ พวกเราเป็นแค่เพียงหัวหน้าครอบครัว จะมีปัญหาอะไร”

จิ่งหนิงได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

นี่เป็นตระกูลที่อัศจรรย์อะไรเช่นนี้?

ตระกูลจูเก่อสามารถประคับประคองมาได้ถึงตอนนี้ เป็นอย่างนั้นจริงๆ……

ไม่พูดไม่ได้ บรรพบุรุษทิ้งรากฐานที่ดีไว้ ลูกหลังรุ่นหลังที่สมองโง่กลวงๆคงทำให้พวกเขามึนงงไปหลายชั่วอายุคน

“เอาหล่ะ ที่คุณพูดมาฉันเข้าใจทั้งหมด เรื่องนี้ฉันจะยอมคิดดูอีกที!”

เธอไม่ได้พูดปฏิเสธตรงๆ จูเก่อหลิวเฟิงแปลกใจเล็กน้อย

แต่ในเวลานี้ เขาก็เข้าใจ ดีที่สุดคือเจอสิ่งดีๆก็เก็บมาไว้ อย่าบีบบังคับมาจนเกินไป

จูเก่อหลิวเฟิงนั่งอยู่อีกสักพัก จิ่งหนิงได้เรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับตระกูลจากเขา ตอนกลางวันกินเลี้ยงงานมงคล ตอนบ่ายเขายังต้องไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ถึงได้ออกไป

ตอนบ่าย งานมงคลก็จบลงในที่สุด พอกลับถึงบ้าน จิ่งหนิงก็ให้คนรับใช้เรียกลู่จิ่งเซินเข้ามา

แต่งงานคลอดลูกงานมงคลยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ลู่จิ่งเซินในฐานะคนๆหนึ่งก็หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้าไม่ได้เป็นธรรมดา

หลังจากกลับบ้าน กลัวว่าเธอจะเหม็นกลิ่นเหล้า ดังนั้นจึงไปอาบน้ำก่อน ถึงเข้าไปในห้องนอน

“เป็นอะไร? ไม่ร่าเริงแล้ว?

เห็นเธอนั่งหน้าเบื่อๆเซ็งอยู่บนโซฟา เขาเดินไปหา นั่งลงข้างๆและกอดเธอ

หลังจากจิ่งหนิงคลอดลูกมา รูปร่างก็อวบอิ่มไม่น้อย ร่างกายก็อ้วนขึ้น แต่เดิมใบหน้าเล็กที่สูบผอม ตอนนี้สดใสอิ่มเอิบเป็นอย่างมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยแก้มขาวๆนิ่มๆ ดูยังไงก็ช่างน่ารัก

ในมุมของลู่จิ่งเฟินแล้ว ทั้งน่ารัก เวลาที่ลูบก็รู้สึกดี ดังนั้นชอบกอดเธอและเล่นเนื้อน้อยๆบนร่างกายของเธอมาก

แต่จิ่งหนิงกลุ้มใจเป็นอย่างมาก มักจะรู้สึกว่าตัวเองอ้วนเกินไป

ความเป็นจริงแล้ว เธอสูงหนึ่งร้อยหกสิบสาม น้ำหนักแค่สี่สิบห้ากิโลกรัม ตอนนี้คลอดลูกเสร็จก็ไม่เกินห้าสิบกิโลกรับ จริงๆแล้วไม่ได้อ้วนเลย

เนื้อนิ่มบนนิ้วมือโดนเขาเล่นอยู่ เธอผลักไหล่เขาอย่างขัดแย้ง “อย่ากอด มันหนักนะ ปล่อยฉันลงไป”

ชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะเบาๆ

“ไม่หนัก นิ่มๆออกจะสบาย”

พูดจบ ยังหอมแก้มเธออีก

หน้าของจิ่งหนิงแดงขึ้นในทันที

ตีมือของเขาเบาๆ “อย่าซน ลูกยังอยู่นะ!”

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาหัวเราะอย่างชัดเจน “ผมซนอะไร? คุณคิดไปถึงไหนแล้ว? ผมแค่อยากกอดคุณ คุณคงไม่ได้คิด……”

ใบหน้าของจิ่งหนิงแดงยิ่งกว่าเดิม หันหน้าไปมองค้อนเขา

ลู่จิ่งเซินรู้ทันทีว่าควรปิดปาก แต่รอยยิ้มบนหน้ายังไงก็ปิดบังไม่ได้

จิ่งหนิงโดนเขาทำให้ไม่มีทางเลี่ยง พูดอย่างไม่ดีใจว่า “คุณรังแกฉัน! คุณรู้แค่ว่ารังแกฉัน”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset