วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 497 ไม่มีทางเลือก

บทที่ 497 ไม่มีทางเลือก

เฟิงยี่ควบคุมร่างกายของเธออย่างง่ายดาย แล้วโน้มตัวกระซิบข้างหูของเธอ พร้อมหายใจหอบว่า : “ไม่ต้องถามอะไรแล้ว ไปกับผมก่อน!”

ขณะที่พูด ตอนที่ถังลั่วเหยาก็เผยสายตาตกใจและกระวนกระวายใจขึ้นนั้น เขาก็ลากเธอเข้าไปในรถยนต์ของตัวเอง

ถังลั่วเหยาถูกเขากดนั่งบนที่นั่งข้างคนขับ จากนั้นเฟิงยี่ก็รีบไปนั่งที่นั่งคนขับ

แล้วเหยียบคันเร่ง พร้อมออกรถทันที เฟิงยี่ขับเร่งความเร็วถึงขีดสุด

จนรถยนต์แล่นออกไปอย่างโผบิน

ถังลั่วเหยาหลับตาลง พร้อมกรีดร้องขึ้น : “เฟิงยี่ ตกลงคุณคิดจะทำอะไร?”

เฟิงยี่ไม่ตอบคำถามเธอ มีเพียงปฏิกิริยาตอบรับเดียวที่ให้กับถังลั่วเหยานั่นคือเสียงเร่งความเร็วที่ดังจนหูหนวก

ไม่นานถังลั่วเหยาก็ถูกเฟิงยี่พามาที่คฤหาสน์นอกชานเมืองแห่งหนึ่ง

เขาลากถังลั่วเหยาออกมาจากรถยนต์ แล้วลากเธอเข้าไปภายในคฤหาสน์

ไม่ว่าถังลั่วเหยาขัดขืน คิดหนียังไง เธอก็ไม่สามารถทำให้เฟิงยี่ปล่อยมือของเธอได้

ความกลัวอันหนาแน่นเข้ามาปกคลุมถังลั่วเหยาแล้ว

เธอไม่รู้ว่าควรพูดอะไรชั่วขณะ

อันที่จริงเธอสามารถเลือกใช้การต่อสู้เทควันโดโจมตีเฟิงยี่

แต่ถังลั่วเหยารู้ว่า ถ้าหากตัวเองทำแบบนี้จริงๆ เช่นนั้นเกรงว่าเฟิงยี่คงจะเป็นบ้าแน่

ดังนั้นถังลั่วเหยาพยายามอดกลั้นความกลัวภายในใจ แล้วกัดฟันเดินตามเฟิงยี่ลากเข้าข้างในคฤหาสน์ จนกระทั่งพามาที่ห้องของเขา สุดท้ายก็โยนเธอทิ้งลงบนเตียงของเขา

ตอนที่ร่างกายแข็งแรงกำยำของเฟิงยี่นอนทับบนตัวถังลั่วเหยาที่บอกบางนั้น เธอก็มีสติกลับมา และกำลังคิดว่าเมื่อกี้เธอผ่านอะไรมาบ้าง

“ปล่อยฉัน! ปล่อย!” เธอพยายามผลักเฟิงยี่ออก

ลางสังหรณ์อันตรายผุดขึ้นในความรู้สึกของเธอ

ถังลั่วเหยาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมีปัญหากับเฟิงยี่ และไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย

ในตอนนี้ในสมองของเธอมีเพียงช่วยเหลือตัวเอง

เธอใช้ทุกวิธีการโจมตีของตัวเองทั้งหมดโจมตีต่อเฟิงยี่ แต่ไม่มีวิธีการไหนได้ผลสำเร็จเลย

เฟิงยี่เองก็มีวิชาการต่อสู้ติดตัวมาเหมือนกัน แถมเป็นผู้ชายเต็มตัวด้วย ดังนั้นเมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาจะถูกถังลั่วเหยาเล่นงานอย่างง่ายดายได้ยังไง?

แต่เขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดถังลั่วเหยาเวลามองเธอ

ใช่ เจ็บปวด

เขารู้ว่าถังลั่วเหยาเกลียดเขาในตอนนี้มาก และรู้ว่าเธอไม่ชอบการกระทำของเขาแบบนี้ด้วย

แต่เขาต้องทำแบบนี้ เพราะเขาไม่มีทางเลือกแล้ว

เขาไม่อยากแตะต้องผู้หญิงคนอื่น

อีกอย่างตอนนี้ มีเพียงเธอสามารถช่วยเขาได้

แต่เฟิงยี่ไม่ได้อธิบายจุดประสงค์ของตัวเองอย่างชัดเจน

และไม่ได้พูดอธิบายด้วยว่าไม่นานมานี้เขาประสบพบเจอกับเรื่องอะไรบ้าง

เขาออกแรงฉีกเสื้อของถังลั่วเหยาขาดอย่างคนป่าเถื่อน และปรากฏเป็นร่องรอยที่ตัวเองทิ้งไว้บนร่างกายของเธอ

สุดท้ายถังลั่วเหยาก็ล้มเลิกขัดขืน

เธอหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง และปลายหางตาก็มีน้ำตาไหลออกมา

“เฟิงยี่ ฉันเกลียดคุณ” ตอนที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังข่มเหงรังแกนั้น เธอพูดขึ้นว่า “เฟิงยี่ ฉันเกลียดคุณ”

เกินความคาดหมายของถังลั่วเหยา ทันใดนั้นจู่ๆเฟิงยี่ก็หยุดลง

เขาหายใจหอบนอนลงบนหน้าอกของเธอ ซึ่งร่างกายของเขาร้อนอุ่นมากอย่างน่าตกตะลึง

“ไสหัวไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้น

จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ

สำหรับการกระทำทั้งหมดของเฟิงยี่ ถึงแม้ถังลั่วเหยารู้สึกโกรธเคือง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่เป็นกังวลไม่ได้

เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของเฟิงยี่อย่างอ่อนไหว

วันนี้เฟิงยี่ทีท่าทางผิดปกติจริงๆ

ถึงแม้เขามีท่าทางป่าเถื่อน แต่เขาไม่บังคับใคร และไม่มีทางบังคับเธอด้วย

ถึงแม้เขามีอารมณ์ไม่ค่อยแน่นอน แต่คงไม่ไล่เธอไปอย่างไร้ปรานีแน่

อีกอย่าง……

เหตุการณ์ทุกอย่างกำลังบอกความจริงอยู่ว่า วันนี้เฟิงยี่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

แต่ถังลั่วเหยาไม่รู้หรอกว่าตกลงเขาผ่านอะไรมาบ้าง

ภายใต้การลังเล ถังลั่วเหยาเลือกอยู่ต่อ

เธอรู้สึกเป็นห่วงเขา

เมื่อเปิดประตูห้องน้ำ ในดวงตาก็ปรากฏเห็นเฟิงยี่กำลังหายใจหอบ และมีท่าทางเหมือนกำลังอดกลั้น

เขากำลังแช่น้ำเย็น

เพียงแค่ละอองไอน้ำที่กระจายเข้ามากระทบกับผิวของถังลั่วเหยา เธอยังรู้สึกถึงความหนาวเย็นได้

แล้วเฟิงยี่ที่แช่ตั้งหัวจรดเท้าจะเป็นยังไง

แต่ถึงแม้เป็นแบบนี้ ใบหน้าของเฟิงยี่ยังคงแดงก่ำอย่างผิดปกติ

เขามีสีหน้าท่าทางเหมือนกับกำลังอดกลั้นความเจ็บปวดอยู่

เฟิงยี่กำลังสนใจต่อต้านสภาพร่างกายที่ไม่อำนวยของตัวเองอยู่ จนแทบไม่สนใจการปรากฏตัวของถังลั่วเหยาเลย

ด้วยเหตุนี้ ถังลั่วเหยาจึงมีโอกาสสังเกตเขาอย่างละเอียด

ถังลั่วเหยาสังเกตมองสักพักใหญ่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเฟิงยี่เป็นอะไร

จนกระทั่งมองเห็นของสิ่งนั้น

ทำให้ถังลั่วเหยาเข้าใจทุกอย่าง

เธอปิดประตูห้องน้ำ แล้วหันหลังกลับ

มีวินาทีหนึ่งที่ลั่วเหยารู้สึกอยากหนี

แต่…..

เมื่อนึกถึงสีหน้าอันเจ็บปวดของเฟิงยี่ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ทำไม่ลงที่จะทอดทิ้งเขา และไม่สนใจ

ดังนั้นถังลั่วเหยาลังเลสักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจช่วยเฟิงยี่

ถึงแม้เธอต้องยอมแลกกับราคาอันน่าเวทนาก็ตาม

ก่อนที่จะเปิดประตูอีกครั้ง ถังลั่วเหยาก็พูดปลอบโยนตัวเอง

หลังจากกินยาประเภทนั้นคงไม่มีสติ และจำไม่ได้เรื่องนี้ไม่ได้ด้วย

ความเป็นจริงแล้วถังลั่วเหยาคิดถูกแล้ว

ในตอนนี้ในหัวสมองของเฟิงยี่มีแต่ความว่างเปล่า

อวัยวะทั้งหมดของเขากำลังช่วยตัวเขาต่อต้านความปรารถนานั่นอยู่

ตอนที่ถังลั่วเหยาเดินเข้าไปในห้องน้ำสภาพเปลือยกาย เขายังไม่มีสติว่าคนที่มาเป็นใคร

ในสมองของเขา เขาไม่สามารถปล่อยผู้หญิงคนนี้ ไม่เช่นนั้นเขาแย่แน่

ดังนั้นเขาจึงโอบกอดถังลั่วเหยาอย่างแน่น แล้วจู่โจมเธอเหมือนกับคนบ้า

ในค่ำคืนนี้ ถังลั่วเหยาผ่านประสบการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ของชีวิต

หลังจากที่เฟิงยี่นอนหลับ ถังลั่วเหยาก็เดินออกไปจากห้องด้วยท่าทางเหนื่อยล้า

เธอหันหน้ากลับมามองคฤหาสน์ข้างหลังแวบหนึ่ง โดยที่ในดวงตามีสายตาสับสน

ถ้าหากสามารถ ในชีวิตนี้เธอขอไม่กลับมาสถานที่แห่งนี้อีก

นี่เป็นการเหยียดยามเธอ ค่ำคืนที่เหยียดยามเธอที่สุด

ตอนที่เฟิงยี่ตื่นขึ้นมา เขาหรี่ตาและยื่นมือลูบด้านข้างที่ว่างเปล่า

หลังจากลูบหา กลับไม่พบผู้หญิงคนเมื่อวาน

“ตกลงเป็นใคร?” เฟิงยี่ขมวดคิ้ว

ถึงแม้จำคนนั้นไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่ความรู้สึกเมื่อคืนคุ้นเคยมาก

เหมือนตัวเองเคยผ่านมาก่อนแล้ว

แต่นอกจากเหยาเหยา ไม่มีผู้หญิงคนอื่นอีก

เมื่อคิดแบบนี้ เฟิงยี่ก็เบิกตากว้างขึ้น

เขาไม่กล้าเชื่อว่าทุกอย่างของเมื่อวานเหยาเหยาเป็นคนดำเนิน

ถ้าหากเป็นแบบนี้ เช่นนั้นทำไมเธอต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ?

ทำไมเธอไม่หนีไปตอนที่ตัวเองปล่อยเธอไป แต่ยังเลือกใช้ตัวเองเพื่อทำให้เขาหายจากเขา?

มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในสมองของเฟิงยี่ขึ้น

เขามีความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ แต่กลับมีความรู้สึกมีความสุขมากกว่า

อันที่จริงเหยาเหยายังรักเขา แต่เพราะมีเรื่องบางอย่างทำให้เธอต้องเลือกทอดทิ้งเขา

ใช่ ต้องเป็นแบบนี้แน่

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset