วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 498 ในใจมีเขาอยู่

บทที่ 498 ในใจมีเขาอยู่

เพื่อยืนยันความคิดของตัวเองเป็นความจริง เฟิงยี่ไปสืบดูวิดีโอบันทึกภาพกล้องวงจรปิดในคฤหาสน์

เป็นดั่งที่คาดการณ์ วิดีโอบันทึกภาพกล้องวงจรปิดปรากฏ ถังลั่วเหยาจากไปตอนเช้าเวลาแปดโมงเช้า

นั่นหมายความว่า เมื่อคืนทั้งคืนถังลั่วเหยาพักอยู่ในห้องนี้

เฟิงยี่จำได้อย่างแม่นว่าเมื่อคืนตัวเองมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่ง…..

สำหรับเรื่องนี้ เฟิงยี่มั่นใจมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

อันที่จริง หากบอกว่าไม่มีความสุขนับว่าเป็นการโกหก

เฟิงยี่ทำหลายอย่างมาก แต่ก็มีหลายสิ่งที่ไม่ได้ครอบครอง และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ เหตุผลเพราะเขาคิดว่าถังลั่วเหยาไม่ได้รักเขา

แต่ในค่ำคืนนี้ หลังจากผ่านประสบการณ์อันยากลำบาก เขามีเหตุผลอะไรที่ไม่เชื่อว่าถังลั่วเหยาไม่มีใจให้กับเขาบ้าง?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฟิงยี่ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

จู่ๆเขาก็รู้สึกขอบคุณคนที่วางยาให้กับเขาเมื่อคืน ถ้าหากไม่เป็นเช่นนี้ เขาจะได้รับหัวใจของถังลั่วเหยาได้ยังไงกัน?

แต่ถึงแม้เป็นแบบนี้

แต่อะไรที่ควรสืบก็ต้องสืบ

เฟิงยี่เผยสายตายืนหยัดขึ้น แล้วโทรหาใครคนหนึ่ง : “ไปสืบมาหน่อยว่าคนที่ติดตามฉันเมื่อคนนั้นคือใคร ให้เวลาอย่างมากแค่สามวัน ถึงตอนนั้นบนโต๊ะของฉันต้องมีข้อมูลของคนๆนั้นทั้งหมดวางอยู่”

พูดจบก็วางสายลงทันที

หลังจากวางสายเสร็จ ตอนแรกเขาอารมณ์เสีย แต่สีหน้าท่าทางในตอนนี้กลับไม่มาความรู้สึกไม่ดีเลย อีกทั้งในดวงตายังแฝงด้วยสายตาเบิกบานใจด้วย แม้แต่ในหัวใจของเขาก็ยังแฝงเต็มไปด้วยความหวัง

เฟิงยี่ไม่รู้ว่า ถ้าหากตัวเองพบถังลั่วเหยาในตอนนี้ แล้วอยากให้เธอถอนการแต่งงานกับฉู่ยี่ เธอจะตอบรับหรือเปล่า

คงตอบรับแหละ? เฟิงยี่แอบพูดให้กำลังใจตัวเอง

เธอยินยอมสละตัวเองเพื่อให้เขาสามารถข้ามผ่านเรื่องนั้นไปได้ ดังนั้นจะสามารถปฏิเสธเขาได้ยังไง?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฟิงยี่ก็มีความตื่นเต้นที่พุ่งทะลักออกมา จนอดใจไม่ไหวอยากไปอยู่เคียงข้างถังลั่วเหยา แล้วโอบกอดเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างแน่น

สิ่งที่เขาไม่รู้นั่นคือ ถังลั่วเหยากลับคอนโดของตัวเองด้วยสภาพน่าเวทนา

ตลอดทาง เธอมีสีหน้าขาวซีด และมีท่าทางเหมือนกับคนไร้วิญญาณ

เมื่อคนขับรถแท็กซี่เห็นเธอก็ซักถามด้วยความเป็นห่วงว่า : “คุณครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”

ถังลั่วเหยาฝืนยิ้มและส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วดึงเสื้อมาคลุมอย่างแน่น

ก่อนจากไปเธอได้อาบน้ำแล้ว

เมื่อคืนเฟิงยี่บ้าคลั่งเป็นอย่างมาก

เธอต้องยอมรับว่า เฟิงยี่เป็นคนป่าเถื่อน

แต่สำหรับเธอแล้ว นี่ไม่ใช่การเสพสุข แต่เป็นเคราะห์กรรม

เธอจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองผ่านพ้นเมื่อคืนไปได้ยังไง และไม่กล้านึกถึงรายละเอียดด้วย

เธอเหมือนกับตุ๊กตาที่ทรุดโทรม ถูกดึงและฉีกขาดไปมา

สุดท้ายเธอไม่เหลืออะไรเลย นอกจากความสิ้นหวัง

ส่วนเธอที่อยู่บนรถแท็กซี่ในตอนนี้รู้สึกโชคดีมากที่คนขับรถคนนี้ไม่ได้ติดตามวงการบันเทิง

เพราะถ้าหากเธอถูกจำได้ คงหลีกเลี่ยงไม่พ้นมีข่าวอื้อฉาวแน่

หลังจากกลับถึงบ้านอย่างโซซัดโซเซ ถังลั่วเหยาก็ปิดประตูลง

เธอหันหลังพิงประตู แล้วไถลลงมานั่งบนพื้น

จากนั้นก็กอดหัวเข่าของตัวเอง แล้วร้องไห้อย่างน่าเวทนา

เธอควรทำยังไง ต่อไปเธอจะเผชิญหน้ากับเฟิงยี่ยังไง แล้วจะแต่งงานกับฉู่ยี่ได้ยังไงด้วย?

เมื่อนึกถึงฉู่ยี่ ถังลั่วเหยาก็รู้สึกละอายใจ

เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรอธิบายเรื่องนี้กับฉู่ยี่อย่างไร

ไม่ ไม่สิ

ถังลั่วเหยาปฏิเสธความคิดนี้

เธอต้องการปกปิดฉู่ยี่ แล้วปิดตายเรื่องนี้ไม่ให้ใครรู้

ไม่เช่นนั้นฉู่ยี่ต้องโกรธเคืองมาก และไม่ต้องการเธอแน่

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ถังลั่วเหยาก็ยิ่งร้องไห้อย่างน่าเวทนา

อันที่จริงสำหรับถังลั่วเหยาแล้ว ฉู่ยี่ต้องการเธอหรือเปล่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ในตอนนี้สภาพจิตใจของเธอกำลังย่ำแย่ เธอต้องการระบายความรู้ไม่ดีออกไป

ไม่เช่นนั้นเขาคงบีบเคล้นตัวเองจนเป็นบ้าแน่

สุดท้าย ถังลั่วเหยาก็รู้สึกร่างกายหมดเรี่ยวแรง

ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองสกปรกมากด้วย

เธอเดินอย่างโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำ แล้วเปิดฝักบัว และปล่อยให้สายน้ำสาดกระทบบนร่างกายของตัวเอง

แม้แต่เสื้อเธอก็ไม่ทันถอดออก

เธอดึงเสื้อถูตามร่างกาย เมื่อรู้สึกว่าเสื้อเป็นปัญหาก็พยายามถอดเสื้อออกจากร่างกาย

ถ้าหากถอดไม่ออกก็ดึงออกมาจนขาด

สุดท้ายถังลั่วเหยาก็ยืนอยู่ภายใต้สายน้ำอันหนาวเย็น ทั้งที่ร่างกายสั่นเทา แต่เธอกลับเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย

เธอขัดถูร่างกายจนรู้สึกชา เพียงเพราะต้องการล้างตัวเองให้สะอาด……

ในวันนี้ถังลั่วเหยาไม่รู้ว่าตัวเองจะผ่านไปได้ยังไง

เธอรู้เพียงว่า โทรศัพท์ของตัวเองดังหลายรอบมาก แต่เธอไม่รับสายเลย

เธอนอนพิงบนโซฟา พร้อมจ้องมองบนเพดานอันว่างเปล่า โดยไม่เช็ดผมให้แห้ง และไม่ได้สวมเสื้อผ้าด้วย

ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีผ้าห่มอยู่ด้านข้าง เธอคงไม่มีเรี่ยวแรงเดินไปหยิบด้วยตัวเองแน่

ในวันนี้ถังลั่วเหยานอนนิ่งเงียบ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอื่น

และในวันเดียวกัน ซูหงก็โทรหาเธออย่างเป็นห่วงหลายสายมาก

การที่ถังลั่วเหยาไม่รับสายโทรศัพท์ถือเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติมาก

หากเป็นเมื่อก่อน หากถังลั่วเหยาไม่ยุ่งมาก และมีสายโทรมา หรือมีข้อความส่งมา เธอจะตอบกลับในวินาทีแรกเลย

แต่เธอกลับหายตัวไปทั้งวัน ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ ถังลั่วเหยาไม่เคยทำแบบนี้

หรือว่าเธอไม่เคยทำแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ถังลั่วเหยาที่เพิ่งเข้าวงการ แทบไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน

ส่วนถังลั่วเหยาที่มีชื่อเสียงแล้ว เริ่มปฏิบัติต่อผู้คนอย่างใจกว้างมากขึ้น แถมไม่เคยดูถูกคนอื่นด้วยการทำแบบนี้ด้วย

ตอนที่เพิ่งเริ่มต้น ซูหงยังพอนึกว่าถังลั่วเหยากำลังนอนอยู่

แต่ตอนที่ถังลั่วเหยาหายไปทั้งวัน เธอก็เริ่มกระวนกระวายใจแล้ว

เรื่องงานยังพอโอเค เพราะวงการบันเทิงวิพากษ์วิจารณ์ถังลั่วเหยาด้านดี และบางครั้งช่วยแอบอ้างว่าเป็นเพราะร่างกายไม่สบาย แต่ถึงแม้ทำให้บางคนรู้สึกตกใจ แต่สุดท้ายก็เห็นอกเห็นใจเธอ

เพราะคนที่ขยันขันแข็งมากขนาดนี้อย่างถังลั่วเหยา ในวงการบันเทิงยังพบเห็นน้อยคนอยู่

ดังนั้นซูหงจึงอ้างว่าถังลั่วเหยาร่างกายไม่สบาย เพื่อต้องการหยุดงานไม่กี่วัน ซึ่งทางนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก

หลังจากมั่นใจว่างานของถังลั่วเหยาไม่เกิดปัญหา ซูหงก็เริ่มตามหาเบาะแสของถังลั่วเหยา

วันต่อมา เธอรีบไปบ้านของถังลั่วเหยาทันที

ซูหงรู้สึกมีลางสังหรณ์บางอย่างว่า ถังลั่วเหยาน่าจะอยู่ในบ้าน

และความจริงก็เป็นเช่นนั้น

ตอนที่เธอใช้กุญแจที่เตรียมไว้เปิดประตูบ้านของถังลั่วเหยานั้น เธอก็พบรองเท้า และกระเป๋าของถังลั่วเหยา

ตอนที่ซูหงจะถอนหายใจอย่างโล่งใจนั้น จู่ๆก็สังเกตเห็นปัญหาหนึ่งขึ้น

ถังลั่วเหยาเป็นคนรักความสะอาด สิ่งของภายในบ้านเลยจัดตกแต่งอย่างเรียบร้อย

แต่ทำไมวันนี้รองเท้าและกระเป๋าของถังลั่วเหยาวางกระจัดกระจายบนพื้น?

ซูหงพบว่าต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่

เธอรีบถอดรองเท้า แล้วเดินเข้าห้อง ขณะเดียวกันก็ตะโกนร้องพูดว่า : “เหยาเหยา เธออยู่ไหม?”

เมื่อคืนถังลั่งเหยามีสภาพย่ำแย่ทั้งวันจนไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่

เธอนอนเปลือยกายและหดตัวในผ้าห่ม ขณะเดียวกันก็ร้องไห้เสร็จก็นอน ตื่นมาก็ร้องไห้

จนกระทั่งซูหงมาถึงบ้านของเธอ เธอยังนอนหลับอยู่ในผ้าห่มอีก

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset