วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 548 ซาบซึ้งในบุญคุณเหลือเกิน

บทที่ 548 ซาบซึ้งในบุญคุณเหลือเกิน

ระยะห่างของคนทั้งสองใกล้เกินไป แรงพลังที่อยู่บนกายของผู้ชายทั้งแข็งกร้าว แรงพลังแบบที่กดขี่โจมตีจากข้างหน้ามา ทำให้เธอมีการปรับตัวไม่ทันเล็กน้อย

เธอถอยไปข้างหลังเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว สายตาหลบไปหลบมา ก็คือไม่กล้าจ้องมองเขา

น้ำเสียงยิ่งไม่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมเล็กน้อย “เมื่อกี้นั่นคือเหตุการณ์พิเศษ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคนที่ออกมาคือคุณล่ะ?”

เฟิงยี่ตายี๋ขึ้นมาเล็กน้อย พินิจพิเคราะห์เธอจากข้างบนถึงข้างล่างอยู่มุมสูง

ผ่านไปสักพัก เขาหัวเราะเย็นชาพูดว่า “ไม่เป็นไร ก่อนหน้านั้นไม่รู้ ตอนนี้รู้แล้ว ในเมื่อคุณมีจิตวิญญาณที่กล้าหาญซื่อสัตย์ขนาดนี้ ก็ไม่ควรยื่นมือขอความช่วยเหลือจากผม ในเมื่อผมช่วยคุณแล้ว งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะเอาคนที่ตนเองช่วยไว้ได้ อุ้มส่งไปบนเตียงของผู้อื่นอีก คุณว่าใช่หรือไม่?”

ทั้งตัวถังลั่วเหยาแข็งทื่อทันที เงยหน้าจ้องมองเขาอย่างไม่กล้าเชื่อ

“คำพูดของคุณนี้หมายความว่าอะไรหรือ?”

เฟิงยี่หัวเราะเย็นชาขึ้นมา “ก็คือความหมายที่คุณได้ยิน”

เขาก้มตัว ริมฝีปากติดอยู่ข้างหูของเธอ น้ำเสียงเบามากแต่กลับชั้นต่ำชั่วร้าย แฝงไว้ด้วยความโหดเหี้ยมที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

“ถังลั่วเหยา คุณรู้ว่าสิ่งที่ผมอยากได้คืออะไร ก็รู้ว่าขอให้เป็นสิ่งที่ผมอยากได้ ก็จะใช้ทุกวิธีการเอามาให้ได้อย่างแน่นอน เดิมทีผมก็เคยคิดมาก่อนว่าอยากบีบบังคับเช่นกัน แต่คืนนั้นคุณกับอยู่ต่อ คุณคิดว่าเตียงของผมเฟิงยี่คือใครอยากจะขึ้นก็ขึ้นได้หรือ พูดว่าจะมาก็มา พูดว่าจะไปก็ไป คุณเห็นผมเป็นอะไรหรือ?”

ทั้งตัวของถังลั่วเหยาล้วนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ฟันเนื่องเพราะคำพูดของผู้ชายล้วนแทบจะสั่นระริก

ครึ่งหนึ่งคือหวาดกลัว อีกครึ่งหนึ่งคือโมโห

เธอกัดฟันแล้วกัดฟันอีก “งั้นตกลงว่าคุณจะทำอะไรกันแน่?”

เฟิงยี่ยิ่งประชิดใกล้กับเธอ เสียงต่ำพูดว่า “วันหลังคุณก็จะค่อยๆรู้เอง”

เขาพูดจบ ตัวตรงขึ้นมา อยู่ดีๆเงามืดที่อยู่ต่อหน้าหายไป ความกดขี่ที่ตามมาติดๆกันแบบนั้นก็หายไปเช่นกัน

ในที่สุดถังลั่วเหยาก็โล่งใจหนึ่งที

แต่ที่ติดตามมายิ่งเป็นความหนักอึ้งที่หนักกว่าทับอยู่บนหัวใจ

เธอจ้องมองเฟิงยี่ ขมวดคิ้วไว้พูดว่า “เฟิงยี่ คำพูดของฉันพูดกับคุณอย่างชัดเจนมากแล้ว ฉันต่อคุณไม่มีความหมายแบบนั้น ถ้าหากว่าคุณยังเห็นแก่มิตรภาพในวัยเด็กอยู่ ก็ขอให้คุณอย่ามารบกวนชีวิตของฉัน ถ้าหากว่าคุณสามารถทำได้ฉันก็จะซาบซึ้งในบุญคุณอย่างยิ่ง”

เฟิงยี่หัวเราะเย็นชาหนึ่งเสียง ไม่รับคำพูดของเธอแม้แต่น้อย กลับพูดว่า “ผมจะให้คุณซาบซึ้งในบุญคุณทำไมหรือ? เหอะ อยู่ในบนโลกนี้คนที่ซาบซึ้งในบุญคุณของผมเฟิงยี่มีมากมาย ขาดคุณคนเดียวหรือ?”

ถังลั่วเหยาอึ้งชะงัก ผู้ชายคนนี้ยังปากร้ายขนาดนั้น ทั้งๆที่เป็นความหวังดีทั้งหมด แต่คำพูดที่พูดออกจากปาก ก็คือจะทำให้คนแทบอยากจะกดเขาอยู่บนพื้นทุบตีหนึ่งยกใจจะขาด

เธอสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที พยายามกดทับความกลัดกลุ้มใจกับความไม่สงบสุขแบบนั้นที่อยู่ในใจลง

รู้ว่าวันนี้ไม่ว่าเป็นยังไงก็ไม่มีวิธีที่จะเกลี้ยกล่อมเขาได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ได้เพียงแต่เก็บประเด็นที่คุยกัน

“พอแล้ว คุณจะทำยังไงไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันก็ไม่สนใจที่อยากจะรู้เช่นกัน เวลาดึกแล้ว ฉันจะพักผ่อนแล้ว คุณไปเถอะ!”

ครั้งนี้ เฟิงยี่จ้องมองเธอหนึ่งทีอย่างลึกๆกลับไม่ได้พูดอะไรอีก หมุนตัวออกไปเลย

ประตูใหญ่ที่อยู่ข้างนอกบ้านส่งเสียงไม่แรงไม่เบา “ปั้ง” เสียงหนึ่ง จนถึงแน่ใจว่าผู้ชายคนนั้นออกไปแล้วจริงๆ ถังลั่วเหยาจึงรู้สึกว่าอยู่ดีๆเหมือนดั่งโดนคนสูบแรงจนหมดเลย ทั้งตัวหมดเรี่ยวแรงไปทันที ค่อยๆนั่งลงไปตามกำแพง

วันรุ่งขึ้น ถังลั่วเหยาไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาล

นึกไม่ถึงยังไม่ได้ไปถึงห้องผู้ป่วย อยู่บนระเบียงทางเดินก็ได้ยินพยาบาลสองคนแอบกระซิบกระซาบอยู่ บนใบหน้าที่แดงระเรื่อล้วนแฝงไว้ด้วยสีสันแวววาวที่ตื่นเต้นดีอกดีใจเขินอาย

พวกเธอทั้งเดินมายังฝั่งนี้ ทั้งตื่นเต้นดีอกดีใจกระซิบเบาๆพูดว่า “ว้าว ผู้ชายเมื่อกี้คนนั้นหล่อมากเลยอ่ะ สามารถพูดได้ว่าเป็นผู้ชายทั้งหมดที่ฉันเห็นตั้งแต่เด็กจนโตหล่อที่สุดคนหนึ่งในนั้น”

“ใช่สิ ใช่สิ อีกทั้งเขายิ้มออกมาอบอุ่นมากจริงๆ น่าดูมากเลยนะ นิสัยก็ยังอ่อนโยนขนาดนั้น ก็ไม่รู้ว่าเป็นคุณชายของตระกูลไหนกันแน่”

“ลูกตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลในเมืองหลวงมากมายขนาดนี้ ใครจะรู้ว่าเป็นของตระกูลไหนล่ะ? ฉันกลับอิจฉาคุณถังมาก นึกไม่ถึงเธอยังมีเพื่อนแบบนี้ หน้าตาหล่อก็แล้วๆไป ยังหน้าตางดงามใจดีอีก อ่อนโยนกับคนแก่ และอ่อนโยนกับพยาบาลเหล่านี้อย่างเราจนไม่มีคำพูดที่จะกล่าวได้เช่นกัน ถ้าหากไม่ใช่รู้ว่าเขาคือแฟนของคุณถังฉันล้วนแทบอยากจะพุ่งขึ้นไปใจจะขาดแล้ว”

พยาบาลอีกคนหนึ่งได้ยินคำพูดมีความประหลาดใจเล็กน้อย “รอสักครู่ แฟนหรือ? แฟนของคุณถังไม่ใช่คุณฉู่หรือ?”

พยาบาลที่พูดอยู่ก่อนหน้านั้นคนนั้นขมวดคิ้ว “คุณฉู่หรือ? ไม่ใช่มั้ง เธอกับคุณฉู่ดูเหมือนเพียงแค่เพื่อนกัน ฉันเห็นลักษณะที่พวกเขาอยู่ด้วยกันไม่เหมือนคู่รักแม้แต่น้อยล่ะ กลับคนนี้ในวันนี้ คุณไม่เห็นหรือลักษณะที่เขาอยู่เป็นเพื่อนกับคุณป้าถัง ก็เหมือนดั่งลูกเขยชัวส์ๆจริงๆ

คนที่อ่อนโยนละเอียดรอบคอบขนาดนี้ คุณถังไม่ไปเลือกเขาไปเลือกคุณฉู่ที่ทั้งปีก็ไม่เห็นมาสักครั้งคนนั้น คุณถังก็ไม่ใช่เป็นคนตาบอด”

พยาบาลคนนั้นได้ยินคำพูดพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “สิ่งที่คุณพูดก็ถูกนะ”

เนื่องเพราะจำนวนชั้นที่ถังลั่วเหยาจะไปไม่สูง ลิฟต์เบียดเสียดยังสู้ใช้บันไดเร็วและสะดวกกว่าอีกไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ถังลั่วเหยาคือใช้บันไดเดินขึ้นไป

ตอนที่พยาบาลทั้งสองคนพูดอยู่ เธอกำลังยืนอยู่ปากทางบันได ฝั่งนี้ลำแสงมืดสลัว ดังนั้นพวกเธอไม่ได้สังเกตเห็นการมาถึงของถังลั่วเหยาเลย

เห็นพยาบาลทั้งสองคนออกไปแล้วกับตา สีหน้าของถังลั่วเหยาขึงลับลงเล็กน้อย ในใจมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างหนึ่ง รีบย่างก้าวอย่างรวดเร็วเดินไปยังห้องผู้ป่วย

ห้องผู้ป่วยที่แม่ถังพักอยู่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของระเบียงทางเดิน ไม่ได้นับว่าเป็นห้องผู้ป่วยระดับสูงอะไร แต่หนึ่งเนื่องเพราะสถานะของถังลั่วเหยาพิเศษกว่า สองเธอก็อยากมีสิ่งแวดล้อมพักฟื้นที่ยิ่งดีกว่าสักแห่งให้กับแม่ถัง ด้วยเหตุนี้ห้องผู้ป่วยเป็นห้องเดียวโดดเดี่ยว

ยังเดินไม่ถึงหน้าประตู ก็ได้ยินข้างในส่งเสียงหัวเราะที่สดใสออกมา เธอตื่นตะลึงเล็กน้อยหนึ่งที นี่เป็นเสียงของมารดา

ตั้งแต่ป่วยไม่สบายมา เธอนานมากแล้วที่ไม่เคยได้ยินมารดาหัวเราะดีใจมากขนาดนี้เลย

ในใจถังลั่วเหยาตื่นเต้น รีบเพิ่มความเร็วการย่างก้าวเดินไปยังห้องผู้ป่วย

ประตูของห้องผู้ป่วยโดนคนผลักออกไป “ปั้ง” เสียงหนึ่ง เสียงหัวเราะข้างในหยุดทันที

เพียงเห็นในห้องผู้ป่วย แม่ถังพิงอยู่บนเตียงผู้ป่วย ที่นั่นเฟิงยี่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังช่วยแม่ถังปอกแอปเปิ้ลลูกหนึ่งอยู่

ข้างหลังของเขายังมีผู้ช่วยเหลิ่งเม่ยของตัวเขาเองยืนอยู่ มองเห็นถังลั่วเหยาเข้ามา เหลิ่งเม่ยก้มตัวโค้งคำนับกับเธอหนึ่งที

“คุณถังสวัสดีครับ”

ถังลั่วเหยาไม่ได้สนใจเขา สีหน้าดูไม่ค่อยดี

เธอเย็นชาจ้องมองเฟิงยี่อยู่ พูดเสียงเย็นชาว่า “คุณมาทำอะไรหรือ?”

เฟิงยี่ยี๋ตาแล้วยี๋ตาอีกเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไรเลย

กลับเป็นแม่ถัง อาจจะดีใจเกินไป ด้วยเหตุนี้ไม่ทันได้สังเกตเห็นบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนมีความผิดปกติอะไรเลย

เธอยิ้มโบกมือแล้วโบกมืออีกกับเธอ “เหยาเหยา แกมาแล้วหรือ รีบเข้ามานั่ง”

หลังจากรอถังลั่วเหยาเดินเข้าไป เธอจึงพูดต่อว่า “แกเด็กคนนี้ช่างจริงๆนะ คบกับเพื่อนที่ดีขนาดนี้ ทำไมไม่ได้บอกกับแม่ล่ะ? แม่ก็ไม่คัดค้านแกคบแฟนอีก ถึงยังไงแกก็โตขนาดนี้แล้ว ฉันสนับสนุนแกอย่างมากมาโดยตลอดนะ ถ้าไม่ใช่วันนี้เสี่ยวยี่เข้ามา ฉันล้วนไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้”

เธอทั้งพูดอยู่ ยังทั้งโกรธจ้องเขม็งถังลั่วเหยาหนึ่งที

ทั้งตัวถังลั่วเหยาแข็งทื่อทันที จ้องมองไปยังเฟิงยี่อย่างไม่กล้าเชื่อ

ยังไงเธอก็นึกไม่ถึงว่าเฟิงยี่ยังกล้าวิ่งเข้ามาจริงๆ นี่ก็แล้วๆไป ยังพูดคำพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอะไรกับมารดาเธอ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset