วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 550 รู้ความจริง

บทที่ 550 รู้ความจริง

ถังลั่วเหยาเห็นสภาพ สีหน้าเปลี่ยนทันที รีบยื่นมือลูบหลังช่วยเธอให้หายใจสะดวก

“แม่ ท่านอย่าโมโห เขาไม่ได้มาหาฉันจริงๆ จริงๆนะ”

พูดจบ ยังจริงจังนอบน้อมจริงใจเหลือเกินจ้องมองเธอ แม่ถังเห็นสภาพ ในที่สุดนี่จึงเชื่อว่าเธอไม่ได้พูดโกหก

ถังลั่วเหยาเห็นสภาพ ก็เลยพูดคุยเป็นเพื่อนกับมารดาสักพัก ตลอดจนถึงเธอรู้สึกเหนื่อยแล้ว นี่จึงปรนนิบัติเธอลงไปนอนพักผ่อน

หลังจากรอให้แม่ถังนอนหลับโดยสิ้นเชิงแล้ว เธอจึงออกจากห้องผู้ป่วย

หลังจากออกมาแล้ว เธอไปออฟฟิศของแพทย์เจ้าของไข้ของแม่ถังโดยตรง

แพทย์เจ้าของไข้นามสกุลหวาง เป็นศัลยแพทย์หัวใจที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาล

เพราะว่ารู้สถานะของถังลั่วเหยา ด้วยเหตุนี้ต่ออาการของแม่ถังจะเอาใจใส่มากกว่ามาโดยตลอด

เห็นเธอเข้ามา หมอหวางยิ้มอ่อนโยนพูดว่า “คุณมาแล้วหรือ รีบเข้ามานั่งเถอะ”

ถังลั่วเหยาพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ขมวดคิ้วอย่างแน่น

“หมอหวาง ก่อนหน้านั้นคุณโทรหาฉัน บอกว่าอาการของแม่ฉันไม่ค่อยดีเล็กน้อย ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

หมอหวางโบกมือแล้วโบกมืออีก ให้สัญญาณเธอย่าเพิ่งร้อนใจไปก่อน จากนั้นหยิบภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจใบหนึ่งออกมาจากแฟ้มเอกสารที่อยู่ข้างๆวางอยู่ต่อหน้าเธอ

นี่จึงพูดคำพูดที่อัดแน่นเต็มไปด้วยน้ำใสใจจริงกับแฝงไว้ด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง “โรคของมารดาคุณก็ไม่ได้ถือว่าเป็นโรคใหม่อะไร หลายปีที่ผ่านมานี้เชื่อว่าอาการทั้งหมดคุณก็เข้าใจอย่างมากเช่นกัน หัวใจของเธอใกล้จะล้มเหลวแล้ว ตอนนี้ผลลัพธ์ที่ออกมาจากฝั่งนี้ของเราก็คือถ้าหากภายในครึ่งปีหาแหล่งที่มาของหัวใจที่เหมาะสมไม่ได้อีก มารดาของคุณเป็นไปได้มากที่อาจจะไม่รอด”

คำพูดคำนี้ ทำให้ในใจถังลั่วเหยาตื่นตะลึงอย่างรุนแรง

เธอเสียงร้อนใจรีบพูดว่า “หมอหวาง แหล่งที่มาของหัวใจฉันล้วนไปหามาโดยตลอด แต่ให้เวลาฉันมากกว่านี้หน่อยได้หรือไม่?”

เพราะว่ากรุ๊ปเลือดของแม่ถังคือเลือดแพนด้าHR- กรุ๊ปเลือดแบบนี้เห็นได้ยากมาก ยากจะหาเจอแหล่งที่มาของหัวใจที่เข้ากันได้ ยิ่งยากกว่ายากอีก

ก็เพราะว่าด้วยเหตุนี้ ถังลั่วเหยาตอนนี้แม้เป็นดาราหญิงแนวหน้าสูงส่งแล้ว ด้านเศรษฐกิจไม่มีความกดดันใดๆแม้แต่น้อย ก็มีความสามารถที่เพียงพอจะแบกภาระการรักษาโรคของมารดาทั้งหมดได้เช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีวิธีที่จะทำให้มารดาหายเป็นปกติ

ที่จริงแล้วแหล่งที่มาของหัวใจแบบนี้ คุณไม่รู้หรอกว่ามีคนมากเท่าไหร่กำลังรอคิวอยู่ เดิมทีก็เห็นได้ยากมากแล้ว อยากจะหาเจอภายในครึ่งปี ที่ไหนล่ะจะง่ายดายขนาดนั้น

หมอหวางก็รู้หลักธรรมนี้เช่นกัน เขาทอดถอนใจหนึ่งทีส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก

“ผมพูดได้เพียงว่าพวกเราฝั่งนี้จะสู้สุดพลัง แต่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมผมก็ไม่กล้ารับรองเช่นกัน สำคัญที่สุดก็คือคุณฝั่งโน้นต้องสู้สุดขีดจึงจะได้”

ถังลั่วเหยาฟังถึงตรงนี้ รู้ว่าหมอก็สู้สุดกำลังแล้วเช่นกัน ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว นี่จึงนั่งลงอย่างผิดหวัง พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก

“ฉันรู้แล้ว คุณวางใจเถอะ ฉันจะคิดทุกวิธีไปตามหา หวังว่าช่วงเวลานี้พวกคุณจะต้องช่วยฉันดูแลแม่ของฉันให้ดีๆอย่างแน่นอน”

หยุดชะงักหนึ่งที พูดอีกว่า “ยังมีอีกเรื่องนี้อย่าบอกกับเธอได้ไหม?”

หมอหวางพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “คุณวางใจเถอะ ผมรู้จักความเหมาะสม”

พูดคุยถึงตรงนี้ สิ่งที่อยากรู้โดยพื้นฐานก็รู้หมดแล้ว

ถังลั่วเหยานี่จึงลุกขึ้นมา ลาหมอแล้วก็เดินไปยังข้างนอก

หลังจากออกมาจากโรงพยาบาล ถังลั่วเหยาก็เลยกลับบ้านโดยตรง

เธอนั่งอยู่ในบ้าน เพียงแค่รู้สึกว่าทั้งบ้านล้วนโหรงเหรงวังเวงอยู่ แม้แต่หัวใจของตนเองก็วังเวงขึ้นมาด้วยเช่นกัน

หลายปีที่ผ่านมานี้เธอพามารดาที่ป่วยอยู่ขอการรักษาถามยาหมุนไปทุกที่ แต่ถึงสุดท้ายคิดไม่ถึงก็ยังเก็บไว้ไม่ได้จริงๆหรือ?

คิดถึงตรงนี้เธอคว้ามือถือขึ้นมาโทรหาแหล่งที่มาของหัวใจฝั่งโน้น แต่ว่าผลลัพธ์เหมือนอย่างที่คิดไว้จริงๆ คนที่เข้าแถวอยู่มากเกินไปแล้วจริงๆถึงแม้ว่าเธออยู่ในหลายปีก่อนก็ให้มารดาเข้าแถวไว้รอแล้ว แต่แหล่งที่มาของหัวใจกรุ๊ปเลือดแบบนี้ที่ไหนล่ะจะหาได้ง่ายขนาดนั้น?

ถังลั่วเหยาได้เพียงแค่วางสายอย่างจนใจ

ก็อยู่ในเวลานี้ มือถือดังขึ้นแล้ว

เธอจ้องมองการโชว์สายเข้า ในใจตื่นเต้น

ผ่านไปสักพัก ยังรับสายขึ้นมา

ปรับเสียงของตนเองให้ดีๆ ทำให้เสียงฟังไม่ออกว่ามีปัญหาสักนิด อมยิ้มพูดว่า “แม่ ท่านตื่นแล้วหรือ”

แม่ถังเลอะๆเลือนๆนอนไปสักพัก นอนหลับไม่สนิทเลย

หลังจากตื่นขึ้นมาพบเห็นเธอไม่อยู่ข้างกาย ก็เลยโทรมาถาม

ถังลั่วเหยากำมืออย่างแน่น ยิ้มอ่อนโยนพูดว่า “ฉันเห็นท่านนอนหลับแล้ว เพราะว่าเรื่องจวนตัวยังมีงานเป็นแขกรับเชิญในรายการต้องรีบไป ดังนั้นก็ออกไปเลย”

ฝั่งตรงข้าม แม่ถังก็เดาได้อย่างคร่าวๆว่าเธอมีงานต้องไปทำ โทรหาเพียงแค่อยากแน่ใจสักหน่อย ทำให้ตัวเองวางใจเท่านั้น

ได้ยินคำพูดรีบพูดว่า “โอ๊ะ งั้นไม่เป็นไร ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรแกไปทำงานก่อน”

ถังลั่วเหยา “อืม” เสียงหนึ่ง พูดว่า “แม่ ท่านต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ คราวหน้าฉันค่อยไปเยี่ยมท่านอีก”

แม่ถังยิ้มแล้วยิ้มอีก “ฉันดีมากอยู่แล้ว แกต้องดูแลตัวแกเองให้ดีๆจึงจะได้ ว่างแล้วมาเมื่อไหร่ก็ได้”

ถังลั่วเหยาพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก ก็ทักทายตามธรรมเนียมหลายคำอีก นี่จึงวางสายลง

ในคืนนั้น

เฟิงยี่ยังทำโอทีอยู่ในบริษัท ผู้ช่วยเหลิ่งเม่ยถือเอกสารชุดหนึ่งเดินเข้ามา ใบหน้าไร้สีหน้าวางไว้อยู่บนโต๊ะทำงานของเขา

“คุณชายรอง เรื่องที่ท่านกำชับผมไปสืบ ไปสืบได้ชัดเจนแล้ว นี่เป็นข้อมูลที่ท่านอยากจะได้”

เฟิงยี่จ้องมองเอกสารที่หนาปึกชุดนั้นหนึ่งที สะบัดมือแล้วสะบัดมืออีกกับเขา “ผมรู้แล้ว ลงไปเถอะ”

เหลิ่งเม่ยหมุนตัวออกไป

ในออฟฟิศเงียบสงัดไปหมด เฟิงยี่รอจนจัดการงานเสร็จโดยตลอด จึงนั่งตัวตรงขึ้นมา พิงหลังเก้าอี้บีบระหว่างคิ้วที่เหนื่อยล้าบีบแล้วบีบอีก จากนั้นสายตาตกอยู่บนเอกสารปึกนั้น

เขายื่นมือ หยิบเอกสารขึ้นมา

ข้างในล้วนเป็นเรื่องทั้งหมดที่ถังลั่วเหยาประสบพบเจอหลังจากแยกกันสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้

รวมกับที่มารดาเป็นโรคไม่สบาย พ่อเลี้ยงทำร้ายพวกเธอแม่ลูกได้ยังไง

ยิ่งอ่าน สีหน้ายิ่งขึงลับ

ถ้าหากว่าไม่ใช่เป็นข้อมูลชุดนี้ เขาล้วนแทบไม่กล้าเชื่อ ที่แท้วันเวลาหลายปีที่ถังลั่วเหยาผ่านคือเป็นแบบนี้

เพียงแค่อ่านตัวหนังสือเหล่านั้นที่อยู่ข้างบน เขาก็ทนรับไม่ได้แล้ว เพียงรู้สึกว่าไฟโมโหในอกก็เหมือนดั่งใกล้จะระเบิดแล้ว พรึบพรับๆล้วนสามารถทะลุพ่นออกมาจากร่างกายได้ทุกเวลา ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการประสบพบเจอด้วยตนเองแล้ว

เขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ถังลั่วเหยาในหลายปีนี้ตกลงว่ายืนหยัดผ่านมาได้ยังไงหรือ

และพ่อเลี้ยงที่ใช้วิธีการทุกอย่างเพื่อเงินไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลคนนั้น มีสิทธิอะไรที่จะรังแกเธอ ปฏิบัติอย่างโหดร้ายทารุณกับเธอขนาดนี้อีกหรือ?

ใบหน้าเฟิงยี่ขึงลับอยู่ เงียบไปนานมาก จากนั้นใช้โทรศัพท์บ้านโทรหาผู้ช่วยเหลิ่งเม่ย สั่งไว้ว่า “พรุ่งนี้คุณไปช่วยผมจัดการเรื่องหนึ่ง…….”

วันรุ่งขึ้น

อยู่ดีๆผู้จัดการซูหงติดต่อถังลั่วเหยา บอกว่ารับละครใหม่เรื่องหนึ่งให้กับเธอ

ละครเรื่องนี้เป็นละครใจจดใจจ่อย้อนยุคยอดนิยมของIpเรื่องหนึ่ง

พระเอกเป็นท่านอ๋องของราชวงศ์ปัจจุบัน ให้เซ่เซียวดาราชายที่ได้รับความนิยมมีแฟนคลับมากมายของคนรุ่นใหม่ในวงการบันเทิงทำการแสดง ส่วนนางเอกจะเป็นเด็กกำพร้าที่โชคดีได้รอดชีวิตจากคดีการสังหารทั้งตระกูลอย่างโหดร้ายทารุณก่อนหน้านั้นคนหนึ่ง

เพราะว่าต่อความทรงจำของวัยเด็กลุ่มลึกเกินไป ด้วยเหตุนี้ไม่สามารถลืมความแค้นของการฆ่าทั้งตระกูล ด้วยเหตุนี้อยากจะสืบหาความจริงในปีนั้นให้ชัดเจนมาโดยตลอด

เธอซ่อนเร้นเติบโตอยู่ในชนบท จากนั้นปลอมตัวเป็นผู้ชายปะปนเข้าไปเป็นขุนนางในต้าหลี่ซื่อ

ตรงกลางผ่านอุปสรรคมาโดยตลอด พบเจอรักกันกับพระเอก จากนั้นปิดคดีได้มากมาย ถูกทุกคนเรียกว่าเป็นผู้ทำท่านให้ฟ้ากระจ่าง

สุดท้ายอยู่ภายใต้การช่วยเหลือของพระเอกหาพบความจริง ล้างความผิดที่ถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมให้กับคนในตระกูลที่ตายอย่างน่าอนาทของตนเอง เป็นเรื่องเล่าดั่งการล้างแค้นแบบนี้เรื่องหนึ่ง

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset