วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 553 มาเยี่ยมเธอ

บทที่ 553 มาเยี่ยมเธอ

ที่จริง ก็ยังมีประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่ง

ก็คือเธอรู้ว่าที่นี่เป็นธุรกิจของเฟิงซื่อกรุ๊ป อีกนัยหนึ่งก็คือ เฟิงยี่เป็นเจ้านายของที่นี่

ไหนๆ เธอไม่อยากให้เฟิงยี่รู้ถึงเรื่องราวของเธอมากเกินไป แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะพาคุณแม่มาที่นี่แน่

แต่ว่าตอนนี้พวกนี้ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เรื่องของเธอทั้งหมดเฟิงยี่ได้รู้หมดแล้ว และคุณแม่ก็ได้มาที่นี่ ไหนๆ มีโอกาสที่ดีกว่า แน่นอนว่าเธอไม่ยอมที่จะปล่อยไป

เพราะงั้น ครั้งนี้ก็ได้ไปหาหมอที่รับผิดชอบอาการของคุณแม่ถามเกี่ยวกับอาการตอนนี้

ส่วนเรื่องการป่วยของแม่ถัง เฟิงยี่ก็ได้รับรู้แล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยไปเฉยๆ

เพราะงั้นพอคนพึ่งย้ายเข้ามาเขาก็ได้จัดเตรียมแพทย์ที่เก่งที่สุดทั้งในและต่างประเทศตั้งทีมแพทย์ที่ดีที่สุดขึ้น

แพทย์ที่เฟิงยี่หามาให้รับผิดชอบอาการป่วยของท่านนั้นเป็นคนต่างประเทศ ชื่อว่าAndy ทางด้านผ่าตัดหัวใจนั้นก็มีชื่อเสียงในสากลมาก

ก่อนหน้าเขานั้นไม่ยอมที่จะรับรักษาคนไข้คนนี้ เพราะว่านิสัยที่แปลกประหลาดของเขา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ก็ได้มีอคติกับพวกผู้หญิงในวงการบันเทิง

อคติพวกนั้นถ้ากับคนธรรมดานั้นไม่เป็นไร แต่สำหรับถังลั่วเหยาที่มาปรึกษาแพทย์นั้นในสาหัสมาก

เฟิงยี่รู้ถึงจุดนี้ดี เพราะงั้นระหว่างนี้ถึงได้ทำอะไรล่าช้าไป ถึงไปรับคนมาได้

สุดท้ายเขาก็ได้ถูกการกดดันจากอำนาจของเฟิงยี่ถึงได้ฝืนยอมรับ แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น ตอนที่ถังลั่วเหยาเข้าไปหาเขาถามถึงอาการ สีหน้าของเขาก็ไม่ค่อยที่จะดีนัก

แต่ว่าจากจรรยาบรรณของการเป็นหมอก็ได้บอกเธอไปคร่าวๆ

เป็นเพราะว่าถังลั่วเหยาได้เป็นห่วงอาการคุณแม่มาก แล้วบวกกับไม่สนิทกับAndy เพราะงั้นก็ไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางแปลกๆ ของอีกฝ่าย

แม่ถังพักอยู่ที่นี่ ปัญหาอื่นก็ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงซะเฟิงยี่ได้เตรียมทีมแพทย์มืออาชีพมาให้แล้ว มารักษาแม่ถังโดยเฉพาะ

มีคนที่เป็นมืออาชีพเยอะขนาดนั้นดูแล แม้ว่าเธออยากสร้างปัญหาอะไรก็ยาก

ตอนนี้ขอแค่ได้รับบริจาคหัวใจที่ปลอดภัยมา ปัญหาทั้งหมดก็สามารถที่จะคลี่คลายได้

แต่ว่าหัวใจที่มีเลือดประเภทrhลบนั้นหายากเอามากๆ ต่อให้เป็นเฟิงยี่ก็ไม่สามารถที่จะให้ได้จากระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่วันมาได้

แต่ว่าเขาก็ได้ตามหาด้วยวิธีของตัวเอง ติดต่อช่องทางหลายๆ ช่องทางในระหว่างประเทศ เชื่อว่าหลังจากนั้นไม่นานก็จะมีผลตอบลัพธ์

ถังลั่วเหยาได้ยินแบบนั้น ก็ได้วางใจลงเล็กน้อย พูดขอบคุณเสร็จก็ได้จากไป

กลับไปที่ห้องพักคนไข้แล้วก็พูดคุณกับคุณแม่สักพัก แม่ถังได้สนใจเรื่องระหว่างเฟิงยี่กับเธอมากๆ

แต่ว่าถังลั่วเหยากลับไม่อยากที่จะบอกกับท่านมากเกินไป เพราะงั้นทุกครั้งที่แม่ถังได้พูดถึงเรื่องนี้ ก็ได้ถูกเธอเปลี่ยนเรื่องไป

ผ่านไปนาน แน่นอนว่าแม่ถังก็รู้ว่าเธอไม่อยากที่จะพูดเรื่องนี้

ถึงแม้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เท่าที่เธอดู เรื่องของพวกหนุ่มสาวก็ให้พวกเขาไปจัดการเอง คนนอกเข้าไปยุ่งมากไปมันก็ไม่ดีเปล่าๆ

เพราะงั้น แม่ถังก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

เพราะว่าทางกองถ่ายได้ตามตลอด คราวนี้ถังลั่วเหยาได้ลางานถึงมา เพราะงั้นได้ทานมื้อเย็นเป็นเพื่อนแม่เสร็จ ก็ได้เตรียมกลับไป

ตอนที่ออกไป เธอได้กุมมือของแม่ถังเตือนท่านเรื่องที่ควรระวังในชีวิตประจำวัน มองสีหน้าของแม่ที่ได้ดีกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด ในใจคิด บางที่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

อยู่ด้วยกันก็อยู่ด้วยกัน อย่างน้อยก็ได้แลกกับการที่แม่แข็งแรง เพราะงั้นมันคุ้ม

พอสั่งเสียเสร็จ เธอก็ได้บอกลาแม่

ออกไปจากโรงพยาบาล รีบกลับไปที่กองถ่าย

พอกลับมาถึงกองถ่าย ยังไม่ทันที่จะนั่งพักดื่มน้ำ ก็ได้ยินว่ามีคนมาเยี่ยมดูการทำงานของเธอ

ถังลั่วเหยาอึ้งไปเล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าใครจะมาในเวลาแบบนี้

เธอเดินออกไป ก็ได้พบว่าคนที่มาคือฉู่ยี่

พอเห็นฉู่ยี่ ในใจของเธอก็ได้กระตุกทันที คิดถึงเรื่องที่ได้ตกลงกับเฟิงยี่ สีหน้าก็ได้เปลี่ยนเล็กน้อย

เดินเข้าไป พูดว่า “นายมาทำไม?”

ฉู่ยี่ยังไม่รู้เรื่องข้อตกลงระหว่างเธอกับเฟิงยี่ ยิ้มแล้วพูด “วันนี้ผ่านมาพอดี ก็เลยแวะมาหาเธอหน่อย”

นิ่งไปสักพัก ก็ได้ถาม “จริงด้วย คุณน้าเป็นยังไง? หาตัวเจอหรือยัง?”

สายตาถังลั่วเหยาก็ได้หวาดหวั่นเล็กน้อย เธอพยักหน้า “อืม หาเจอแล้ว”

ฉู่ยี่ได้ยินแบบนั้นก็ได้โล่งอกเลยทันที ยิ้มแล้วพูด “ตกใจหมดเลย ฉันยังคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณน้าซะอีก รู้ว่าเธอได้กลับมาที่กองถ่ายแล้วก็รู้ว่าน่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ว่าถ้าไม่มาดูด้วยตัวเอง ก็ไม่วางใจสักที ถ้าคุณน้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

ถังลั่วเหยาเงียบไป ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดีชั่วขณะ

เผชิญกับการเป็นห่วงของฉู่ยี่ ใจเธอก็ได้สับสนเอามากๆ แต่ก็ไม่อธิบายไม่ถูก

ฉู่ยี่ก็ได้ถามต่อ “จริงด้วย ตอนนี้ท่านย้ายไปอยู่ที่ไหนล่ะ? ว่างๆ ฉันจะได้ไปเยี่ยมหาท่าน”

ถังลั่วเหยาหันหน้าไปทางอื่น ไม่อยากที่จะมองสายตาเขา ก็พูดออกไปอย่างรู้สึกผิดว่า “ท่านไม่เป็นไร สบายดี”

ท่าทางที่เห็นได้ชัดว่าเธอได้ทำการเปลี่ยนประเด็น ก็ทำให้ฉู่ยี่ขมวดคิ้ว

“เหยาเหยา เธอเป็นอะไร? ฉันทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า ทำไมถึงรู้สึกว่าเธออารมณ์ไม่ดี?”

ใจของถังลั่วเหยาก็ได้บีบไปตาม เธอนั้นไม่อยากที่จะทนดูท่าทางที่เป็นห่วงตนแบบนี้ของฉู่ยี่อีกแล้ว

แบบนี้มีแต่ให้เธอนั้นรู้สึกผิด

เพราะงั้น เธอได้สูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้ามองไปยังฉู่ยี่ แล้วพูด” ไม่มีอะไร วันนี้นายมาก็ดี ฉันมีเรื่องที่จะพูดกับนายพอดี เราย้ายที่คุยกันเถอะ”

พูดจบ ก็ได้หันหลังเดินไปอีกด้าน

ฉู่ยี่ได้อึ้งเล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเขาได้คิดไปเองหรือเปล่า เขามักรู้สึกว่าวันนี้ถังลั่วเหยาผิดปกติไปเล็กน้อย สายตาได้หวาดหวั่นอยู่ตลอด เห็นได้ชัดว่าเหมือนกลัวจับผิด เหมือนว่ามีเรื่องที่สำคัญอะไรได้ปิดบังเขาไว้

แต่ว่าสุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เดินตามถังลั่วเหยาไปที่ห้องพักผ่อนอีกด้าน

ในห้องพักผ่อน เวลานี้ได้มีนักแสดงหลายคนได้นั่งพูดคุยกัน

พอถังลั่วเหยาเดินเข้าไป ก็ได้ยิ้มกับพวกเขาเป็นการขอโทษ “โทษทีนะ ฉันกับเพื่อนจะคุยธุระสำคัญกัน ขอพื้นที่ตรงนี้ให้พวกเราสักไม่กี่นาทีได้ไหม?”

นักแสดงพวกนั้นต่างก็ไม่มีชื่อเสียง ปกติความสัมพันธ์กับถังลั่วเหยาก็ไม่เลว เห็นว่าเธอได้พาผู้ชายหนุ่มมาด้วย ใจแห่งการหยอกล้อก็ได้เดือดขึ้นทันที

แต่ก็เพราะจากฐานะที่มี บวมกับในวงการนี้ที่ได้มีกฎว่าไม่พูดก็เข้าใจ เพราะงั้นถ้าอีกฝ่ายไม่ได้แนะนำตัวเอง ก็ไม่เหมาะที่จะถามออกไปมากเท่านั้น

แต่ละคนก็ได้รีบตอบตกลง ตอนที่ออกไปนั้นก็ได้จ้องมองไปทางเธอ ต่างก็ได้มีความหมายหยอกล้อ

ถึงขั้นได้มีเสียงพูดมาเบาๆ ว่า ถังลั่วเหยาไม่เลวนะเรา เป็นหนุ่มหล่อ สานสัมพันธ์ดีๆล่ะ กลับไปต้องเชิญพวกเราไปงานแต่งนะ

ความหมายแบบนั้นชัดเจนมากๆ

ถังลั่วเหยาถูกพวกเธอจ้องจนทำตัวไม่ถูก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

รอให้ทุกคนได้ออกไปนั้น ก็ได้ชี้ไปที่โซฟาข้างๆ พูดกับฉู่ยี่ “นั่งก่อนเถอะ จะดื่มน้ำไหม? ฉันไปเทให้นาย”

ฉู่ยี่รีบโบกมือ “ไม่ต้องไม่ต้อง ฉันแค่มาเยี่ยมเธอเฉยๆ จริงด้วย เธอบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับฉันคือเรื่องอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”