วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 555 บทละครใหม่

บทที่ 555 บทละครใหม่

เมื่อว่าข้อตกลงที่พวกเขานั้นพูดกันแล้วในวันนั้นไม่ได้เกิดขึ้นแบบนั้น

ถ้าเกิดตอนนี้แม่ไม่ได้พักรักษาที่โรงพยาบาลซึ่งปี่เฉียวอยู่ เธอได้เริ่มสับสนเล็กน้อย เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันได้เกิดขึ้นจริงไหม

แต่ว่าไหนๆ เฟิงยี่ไม่ได้มาหา งั้นแน่นอนว่าเธอนั้นจะไม่โง่ที่ตนจะไปหาเขาก่อน

เพราะงั้นก็ไม่ได้สนใจมันไปเลย

วันเวลาก็ได้ผ่านไปอย่างสงบสุข ในที่สุดวันนี้ก็ได้ถ่ายละครฉากสุดท้ายเสร็จ ในกองถ่ายก็ได้เริ่มเก็บงาน ตอนกลางคืนผู้กำกับก็ได้จัดสถานที่ จะเชิญทุกคนทานข้าว

ถังลั่วเหยาที่เป็นตัวละครหลักแน่นอนว่าตอนอยู่ด้วย

หลังจากที่เธอกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องเสร็จ ก็ได้พาผู้ช่วยแล้วก็นักแสดงหญิงในกลุ่มเดียวกันไปตั้งแต่เช้า

แต่ว่า ไปถึงที่ที่ทานอาหารนั้นเธอก็พบว่า ที่แท้ที่ผู้กำกับจองห้องเหมาทานข้าวในวันนี้ไม่ได้มีแค่ห้องเดียว ห้องอีกสองห้องก็มีคนอยู่

หนึ่งในสองห้องนั้นก็เป็นพนักงานที่กองถ่าย และห้องเหมาที่หรูหราที่อยู่ข้างในสุดนั้น ก็เป็นแขกที่ผู้กำกับเชิญมา

เธอประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เดินเข้าไปในห้องทานข้าวของตัวเอง

ผ่านไปไม่นาน คนคนอื่นก็ได้มาถึง

ผู้กำกับก็ได้เข้ามาด้วย แต่เขาก็ไม่ได้มาอยู่ในห้องเหมานี้ ก็แค่ดื่มเหล้ากับพวกเขาไปไม่กี่แก้ว ก็ได้เรียกถังลั่วเหยาออกไปคนเดียว

ถังลั่วเหยาเดินมาถึงทางเดิน ถามว่า “ผู้กำกับ คุณเรียกฉันเป็นการส่วนตัวมีอะไรคะ?”

ผู้กำกับมองเธอ ยิ้มแล้วพูดว่า “คือแบบนี้ จากการร่วมมือคราวนี้ ฉันชื่นชอบความสามารถของเธอเอามากๆ ตอนนี้ก็ได้ถ่ายละครเสร็จพอดี ต่อจากนี้ฉันยังมีถ่ายหนังอีกเรื่อง ไม่รู้ว่าเธอสนใจไหม ถ้าเกิดสนใจล่ะก็ ฉันยังอยากที่จะให้เธอแสดงเป็นตัวเอก”

ถังลั่วเหยาประหลาดใจเล็กน้อย และก็ดีใจเล็กน้อย

ผู้กำกับคนนี้หลังจากที่ได้ร่วมงานกัน เธอก็ชอบมาก แล้วก็มั่นใจในพฤติกรรมของอีกฝ่าย

ไหนๆ อีกฝ่ายบอกว่าอยากจะจ้างงานเธอ งั้นก็ต้องผ่านการคิดวิเคราะห์มาแล้วอย่างดี ไม่มีทางที่จะเล่นตลก

แล้วก็ตัวเองได้เป็นนักแสดงคนหนึ่ง ขอแค่บทดี จะมีเหตุผลที่จะปฏิเสธเหรอ?

เพราะงั้น เธอก็ได้รีบพยักหน้า “ต้องสนใจอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณผู้กำกับที่ชื่นชมฉันนะคะ”

ผู้กำกับเหมือนว่าจะเดาคำตอบของเธอได้ ยิ้มแล้วพูดว่า “พอดีว่าละครอีกเรื่องของวันนี้คนที่ร่วมลงทุนก็ได้อยู่ทางนั้น เพราะว่าพวกเขารีบเขียนบทออกมา เพราะงั้นอยากจะเจอเธอพูดคุยหน่อย ถ้าเกิดเธอไม่ถือสาอะไร ก็ไปนั่งทางนั้นกับฉันสักพักก็ได้”

ถังลั่วเหยาไม่คิดอะไรก็ได้พยักหน้าตกลง

เพราะงั้น ผู้กำกับก็ให้เธอกลับไปที่ห้องเหมาไปบอกกล่าวพวกเขา จากนั้นก็รอเธอออกมา แล้วก็พาเธอไปห้องเหมาอีกห้อง

พอไปถึง ถังลั่วเหยาก็พบว่าข้างในได้มีผู้ชายนั่งอยู่สามคน แล้วก็มีนักเขียนบทหญิงคนหนึ่ง

แต่ที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ พระเอกละครที่เธอได้ถ่ายไปก่อนหน้าเซ่เซียวก็อยู่

เซ่เซียวเห็นเธอ ก็ได้กวักมือไปทางเธอ ยิ้มพูด “นั่น ฉันยังคิดว่าเธอจะไม่มาซะอีก เห็นทีก็ใจกล้าพอควรนะ รีบมานั่งมา”

เห็นได้ชัดว่าเขาหยอกเล่น

พอผ่านจากการทำความรู้จักกันมาหลายเดือน ถังลั่วเหยาก็พอเข้าใจนิสัยของเขาที่มีท่าทางขี้เล่นแบบนี้ ชอบพูดล้อเล่นเอามากๆ กับใครก็ดีด้วย นิสัยก็ไม่เลว

ที่สำคัญเธอรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขาและลู่จิ่งเซิน คิดๆ ดูแล้วเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของลู่จิ่งเซิน งั้นก็คือลูกพี่ลูกน้องของจิ่งหนิง และตัวเองก็เป็นนักแสดงในสังกัดของจิ่งหนิง เพราะงั้นเขาก็ได้ดูแลตัวเองเอามากๆ

ถังลั่วเหยาก็ได้คิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่ง ฉะนั้นก็ไม่ได้คิดมาก เห็นว่าเขาอยู่ ก็ได้วางใจกว่าเดิม

เจอกับเซ่เซียวที่ได้หยอกล้อ เธอก็ได้หึออกมาเบาๆ

“ฉันทำไมจะไม่กล้ามา? ผู้กำกับหลินดีขนาดนี้ หรือว่าจะกินฉันไปอย่างงั้นเหรอ?”

เซ่เซียวหัวเราะ “ไม่แน่นะ เธอต้องมั่นใจในหน้าตาของเธอ”

พอคำพูดขี้เล่นได้พูดออกมา คนอื่นก็ได้ขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

มีแค่ผู้กำกับหลินที่มองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ พูดออกไปอย่างจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรบ้าๆ เดี๋ยวทำเขาตกใจแล้วหนีไป นายจะตามคืนมาให้ฉัน?”

เซ่เซียวก็ได้รีบพูด “ครับๆๆ ผมก็แค่พูดเล่น คุณถังก็อย่าใส่ใจไป ยิ่งไม่ต้องโมโหแล้วหนีไป วันนี้พวกเขามาหาคุณเพราะว่ามีธุระสำคัญจะพูด นี่ก็ได้คุยกับผมไปแล้ว ผมสาบานได้ถ้าคุณได้เห็นบทละครนี้แล้วต้องสนใจมากแน่ๆ”

พูดออกมาถึงขนาดนี้แล้ว ถังลั่วเหยาก็ได้เริ่มมีความสนใจขึ้นมา

เพราะงั้นก็ได้นั่งลงตามผู้กำกับ

นักเขียนบทหญิงที่ได้นั่งอยู่ในนั้นตั้งนานก็ได้ยิ้มแล้วพูด “บทละครยังไม่ออกมา แต่ก็ได้มีบทคร่าวๆ แล้ว ฉันให้คุณดูก่อน มีความคิดเห็นอะไรก็สามารถที่จะพูดออกมาได้ บทละครของพวกเรานั้นยังเขียนไม่เสร็จ ถึงตอนนั้นสามารถที่จะแก้ไขตามที่พวกคุณนั้นร้องขอ ทุกคนช่วยกันคิด ออกความคิดกันแยะๆ เลยค่ะ”

พูดจบ ก็ได้ส่งบทคร่าวๆ สองอันให้พวกเขา คนละอัน

เพราะว่าเป็นแค่บทคร่าวๆ เนื้อหาไม่มาก เพราะงั้นถังลั่วเหยาดูอย่างรวดเร็ว

หลังจากอ่านแล้ว ตาก็ได้เป็นประกายทันที เป็นไปอย่างที่คิดมีความสนใจแล้วจริง

บทเรื่องนี้พูดแล้วไม่ถือว่าเป็นบทที่ไม่ได้ออกแนวจริงจัง ถือว่าเป็นแนวออกตลก ละครตลกที่พูดถึงผู้ชายหนึ่งผู้หญิงหนึ่งวิญญาณได้สลับร่างกัน

แต่ว่าอาชีพของทั้งสองคนคือหมอนิติเวช เพราะงั้นในความตลกนั้นก็ได้มีความจริงจังอยู่ในนั้นด้วย

เธอพึ่งได้ถ่ายละครแนวสืบสวนสอบสวนมา เพราะงั้นเวลานี้กับบทแนวที่มีการสืบสวนสอบสวนนั้น ตนก็ได้เข้าถึงง่ายมาก

ถังลั่วเหยาดูจบก็ได้พูดกับผู้เขียนบนคนนั้นอย่างดีใจว่า “บทละครนี้ถ้าออกมาต้องสนุกมาแน่ๆ ฉันชื่นชอบมันมากค่ะ”

ผู้กำกับก็ได้หัวเราะออกมา “ฉันรู้ว่าเธอต้องสนใจมันแน่ๆ ฉันคิดไว้แบบนี้ ละครก่อนหน้าเธอกับเซ่เซียวก็ได้ร่วมงานได้อย่างดี ถึงแม้ว่าละครยังไม่ได้ออกทีวี แต่ถ้าตอนนั้นคะแนนเสียงไม่เลว ต้องมีแฟนคลับcpมากไม่น้อยแน่”

“พวกเราอยากจะอาศัยความดังนี้ให้พวกเธอถ่ายละครเรื่องนี้ เล่นกระแส cp แบบนี้ก็สามารถที่จะดึงความดังของพวกเธอสองคนแล้วก็หนังสองเรื่องนี้ เธอคิดว่ายังไง?”

แน่นอนเซ่เซียวไม่มีปัญหา เขาหวังแบบนั้นด้วยซ้ำ ยังไงซะไม่กี่เดือนมานี้เขาก็ได้เอาใจใส่ถังลั่วเหยา แบบบางครั้งบางคราวอยู่ตลอด

แต่เสียดายอีกฝ่ายนั้นความรู้สึกช้าไป เขาก็ไม่กล้าที่จะจีบตรงๆ ก็เพราะได้คำนึกถึงฐานะของทั้งสอง ก่อนหน้าเพราะเรื่องนั้นก็ได้ทำให้เขาได้ลำบากพอตัวแล้ว ตอนนี้ละครยังถ่ายกันอยู่ ถ้าเกิดเขาได้แสดงออกไปตรงๆ ถึงตอนนั้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะตกลงหรือไม่ก็จะทำให้ทั้งสองทำตัวไม่ถูกแล้วก็กระทบกับละคร

แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน ละครได้ถ่ายเสร็จแล้ว เก็บกองแล้ว เขานั้นสามารถที่จะพูดความในใจออกไปแบบไม่ต้องคิดอะไรแล้ว

ถังลั่วเหยาได้ยินว่าจะเล่นกระแสCP ก็ได้ขมวดคิ้วอัตโนมัติ

แต่ว่าเธอไม่ได้รีบปฏิเสธออกไป ก็แค่พูดว่า “เรื่องนี้ฉันจะตัดสินใจเองไม่ได้ค่ะ ก็ไปถามผู้จัดการของฉันก่อนค่อยตัดสินใจ”

ผู้กำกับหลินได้พยักหน้า เป็นการเห็นด้วย

“เรื่องนี้สามารถไว้พูดกันทีหลัง ส่วนเรื่องบท พวกเธอมีคำขออะไรไหม?”

ถังลั่วเหยาคิดไปคิดมา ที่จริงคำข้อจริงๆ จังๆ เธอนั้นไม่มี

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset