วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 556 ปล่อยข่าวซุบซิบ

บทที่ 556 ปล่อยข่าวซุบซิบ

เธอนั้นเป็นนักแสดงที่ไม่ค่อยที่จะสร้างเรื่องมาตลอด และก็เข้าใจว่างานของนักเขียนบทมันไม่ง่าย ปกติถ้าไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาศีลธรรมก็ไม่ค่อยแก้ไขบท

แต่ก็แค่มีจุดหนึ่ง เธอได้กังวลเล็กน้อย

คิดถึงตรงนี้ เธอก็ได้ถาม “ครั้งก่อนฉันก็ได้รับแสดงแนวสืบสวนสอบสวน ตอนนี้ฉันก็ได้รับแสดงหนังแนวสืบสวนสอบสวน แนวนี้แสดงซ้ำๆ แบบนี้ จะดีหรือเปล่าคะ?”

สำหรับจุดนี้ ผู้กำกับหลินเห็นได้ชัดก็ได้คิดมาแล้ว

เขาได้อธิบายอย่างใจเย็นว่า “นั่นก็ไม่ค่อยเหมือนกัน ข้อหนึ่ง ก่อนหน้านั้นเป็นละครทีวี เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ จากลักษณะแล้วก็ต่างกันมากๆ”

“ข้อสอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเป็นแนวสืบสวนสอบสวน แต่ความจริงแล้วได้ดำเนินแนวตลก พูดอย่างจริงจัง น่าจะถือว่าเป็น หนังแนวตลก เทียบกับละครที่เธอได้ถ่ายก่อนหน้า ลักษณะได้ต่างกันมาก ไม่มีทางที่จะมีแนวที่เหมือน”

ถังลั่วเหยาได้ยินตรงนี้ ก็ได้วางใจ พยักหน้า

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ งั้นฉันกลับไปค่อยพูดกับผู้จัดการฉันอีกที”

ผู้กำกับหลินพยักหน้าตกลง จากนั้น ทุกคนก็ได้พูดคุยเรื่องบทละครไปอีกสักพัก

เซ่เซียวกับถังลั่วเหยาสามารถที่จะถ่ายหนังด้วยกันได้ติดต่อกัน แน่นอนว่าความสัมพันธ์นั้นต้องจัดการให้ดีๆ

เพราะงั้น พอทานมื้อเย็นเสร็จ สายตาก็เห็นเซ่เซียวได้ดูแลถังลั่วเหยาเป็นพิเศษ ถึงขั้นที่ว่ามีการเอาใส่ใจเกินไปเลย

ถังลั่วเหยาก็คิดว่าเพราะทั้งสองเป็นคู่หู เขาถึงได้เป็นแบบนี้ เพราะงั้นก็ไม่คิดอะไรมาก

ในงานไม่กี่คนต่างก็นิสัยดีใจกว้าง ตอนนี้ได้เลือกพระนางได้แล้ว ในใจมีความสุข แน่นอนว่าต้องดื่มไปไม่น้อย

ถังลั่วเหยาถูกบรรยากาศล้อมตัวพวกเขานำพาไปด้วย อารมณ์ก็ได้ดีไปไม่น้อย พอทานข้าวมื้อนี้ไป ก็ได้ดื่มไปไม่น้อย

เธอดื่มเหล้าไปได้ไม่มาก พอเสร็จสิ้นมื้ออาหาร ก็ได้เริ่มเมาเล็กน้อย

ผู้กำกับหลินเห็นแบบนั้น ก็ไม่วางใจให้เธอกลับคนเดียว ก็ได้ส่งคนไปบอกให้ผู้ช่วยเธอมา

ผู้ช่วยเสี่ยวฉิงยังอยู่ในห้องเหมาเดิม ได้ยินว่าถังลั่วเหยาดื่มเมา ก็ได้รีบไปรับเธอ

ตอนที่มาถึงตรงนี้ ถึงได้รู้ว่าเซ่เซียวก็อยู่

เธอตกใจเล็กน้อย ถึงว่าวันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองการถ่ายทำเสร็จแท้ๆ แต่สุดท้ายผู้กำกับไม่อยู่ นางเอกไม่อยู่ ขนาดพระเอกก็ได้หายตัวไป

เห็นทีก็ได้อยู่ที่นี่ทั้งหมด

เวลานี้ ผู้กำกับหลินก็ได้ส่งพวกผู้ร่วมลงทุนแล้วก็นักเขียนบทกลับไป ในห้องเหมาก็เลือกแต่เซ่เซียวกับถังลั่วเหยาสองคน

หลังจากที่ถังลั่วเหยาดื่มเมา ท่าทางหลังดื่มเมาก็ไม่เลว

ไม่โวยวาย และไม่มีท่าทางที่เสียมารยาท ก็แค่พิงอยู่ตรงนั้น นอนอยู่เงียบๆ

เพราะงั้น ตอนที่เสี่ยวฉิงเข้ามา ก็เห็นถังลั่วเหยาพิงอยู่บนโซฟา ลับตาทั้งสอง ใบหน้าได้แดง

และเซ่เซียวก็ได้นั่งข้างๆ เธอ

“พี่ลั่วเหยา เธอนั้น……”

ได้อยู่ในกองถ่ายด้วยกันสามเดือน เสี่ยวฉิงเหมือนว่าได้อยู่ข้างๆ ถังลั่วเหยาตลอด เพราะงั้นเซ่เซียวรู้จักเธอแน่นอน

เขาเงยหน้า มองว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นเธอ ก็ได้รีบอธิบายไปว่า “ลั่วเหยาเธอดื่มเมาน่ะ เหมือนว่าตอนนี้ได้หลับไปแล้ว เธอขับรถเป็นไหม? ถ้าเป็นฉันส่งพวกเธอลงไป”

เสี่ยวฉิงได้ยินแบบนั้นก็ได้รีบส่ายหน้า

“ไม่ ไม่ค่ะไม่ลำบากคุณแล้ว! ฉันส่งพี่ลั่วเหยาลงไปคนเดียวเองค่ะ”

เซ่เซียวยิ้มแล้วพูดว่า “เธอนั้นดูถูกน้ำหนักของคนดื่มเหล้าเมาไปแล้ว ถึงแม้ว่าเธอนั้นไม่หนักแต่ถ้าจะประคองลงไปก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ฉันมองเธอแล้วผอมขนาดนี้ ถึงตอนนั้นคนยังไม่ได้ประคองลงไปทั้งสองก็ล้มกับพื้น นั่นถึงไม่น่าดู”

พูดจบ ก็ได้ประคองถังลั่วเหยาที่พักที่โซฟาตอนนั้นขึ้น

เสี่ยวฉิงคิด ก็รู้สึกว่าที่เขาพูดก็ถูก

บวกกับการที่ได้รู้จักกันมาไม่กี่เดือน เธอรู้ว่าเซ่เซียวไม่ใช่คนไม่ดี กับถังลั่วเหยาก็ได้ดูแลมาโดยตลอด เพราะงั้น ถึงแม้ก็ได้เป็นห่วงฐานะของทั้งสอง กังวลว่าจะถูกคนเห็นเขาแล้วไปออกข่าวซุบซิบ แต่ว่าตอนนี้เขาช่วยส่งลงไปดีกว่าไปหาคนอื่นมาช่วย เพราะงั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

เสี่ยวฉิงก็ได้พูดขอบคุณเขาอย่างมีมารยาท “งั้นก็รบกวนคุณด้วยนะคะ”

เซ่เซียวไม่พูดอะไร อุ้มถังลั่วเหยา ทำท่าบอกให้เธอนำทาง

เสี่ยวฉิงก็ได้นำทางพวกเขา ได้เดินไปทางลานจอดรถ

เซ่เซียวประคองถังลั่วเหยาส่งเธอไปที่ลานจอดรถ แล้วประคองคนขึ้นรถ สั่งให้คนขับนั้นค่อยๆ ขับรถเสร็จ ถึงได้พูดกับเสี่ยวฉิงว่า “คืนนี้เธออารมณ์ดี ดื่มไปไม่น้อย ก็โทษฉันที่ไม่ดูเธอให้ดีๆ ต่อไปเธอก็อย่าลืมที่จะเตรียมอะไรที่แก้เมาได้ให้เธอดื่ม ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้จะไม่สบายตัว”

ถึงแม้เสี่ยวฉิงรู้สึกว่าการที่เขาได้ตักเตือนกับเป็นห่วงถังลั่วเหยาแบบนี้แปลกๆ ไปหน่อย แต่ว่าคิดว่าทุกคนได้เป็นเพื่อนร่วมงานกันมาสามเดือน เพราะงั้นก็ไม่ได้เก็บไปคิดอะไรมาก

ก็แค่พยักหน้าอย่างว่าง่าย “ฉันรู้แล้วค่ะ ขอบคุณพี่เซ่เซียวนะคะ”

เซ่เซียวยิ้ม เป็นการสื่อว่าพวกเขาสามารถที่จะขับรถได้แล้ว ถึงได้หันหลังเดินไปทางรถของตัวเอง

และเวลานี้ ในที่ที่พวกเขาไม่รู้นั้น ก็ได้มีเสียงของชัตเตอร์ถ่ายรูปดังขึ้น

จนกระทั่งรอให้รถของถังลั่วเหยาออกไป เซ่เซียวก็ได้ไปขึ้นรถอีกคันจากไป นี่ถึงได้ออกไปอย่างเงียบๆ

วันที่สอง

ถังลั่วเหยายังนอนอยู่ไม่ตื่น อยู่ๆ ก็ได้มีเสียงโทรศัพท์ที่ดังปลุกจนตื่น

เธอได้ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ก็ได้เอาโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาอย่างมึนๆ กดรับ

อีกด้านก็ได้ส่งเสียงที่โมโหของซูหงส่งมา

“ถังลั่วเหยา นี่มันอะไร? เมื่อวานเธอกับเซ่เซียวได้ไปร่วมงานเลี้ยงฉลองการถ่ายละครเสร็จของกองถ่ายไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้ถูกคนถ่ายรูปแบบนี้มาได้?”

สติของถังลั่วเหยายังไม่ได้ตื่น ก็ได้พูดอืมไปอย่างมึนๆ งงๆ สับสนเล็กน้อย

ก็ได้ถามออกไปว่า “รูปอะไรคะ?”

อีกฝ่าย ซูหงพบว่าสายขนาดนี้แล้วเธอยังหลับอยู่ บนโซเชียลได้วุ่นวายขนาดนั้น ตัวหลักอย่างเธอยังไม่ร้อนไม่หนาว มีความรู้สึกที่ว่าฮ่องเต้ไม่เดือดร้อนขันทีเดือดร้อนก่อนยังไงไม่รู้

เธอก็ได้โมโหเอามากๆ เลยทันที ก็ได้พูดอย่างหงุดหงิดว่า “เธอยังพูดอีก! รูปอะไร รีบลุกขึ้นแล้วก็ไปดูบนเน็ตเองก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ? รอเธอดูแล้วค่อยโทรมาหาฉัน เล่าเรื่องราวเมื่อวานให้ฉันอย่างละเอียด!”

พูดจบ ก็ได้วางสายไปเลย

พอแบบนี้ ถังลั่วเหยาก็ถือว่าตื่นเลยทันที

เธอได้ขมวดคิ้ว ก็ได้ลงมาจากเตียง เอาโทรศัพท์ออกมาดูเวยป๋อ

ตอนพึ่งเปิดดูในข่าวดังอันดับหนึ่งนั้น ก็ได้มีชื่อของตัวเองอยู่

เธอได้อึ้งเล็กน้อย กดเข้าไป ก็เห็นว่าเป็นข่าวซุบซิบระหว่างเธอกับเซ่เซียว

หัวข่าวนั้นเขียนได้สะดุดตามาก : สาวน้อยที่ดังถังลั่วเหยานัดเจอกลางคืนกับเซ่เซียวเจ้าชายน้อยแห่งร็อก สงสัยว่ามีความสัมพันธ์กัน

เธอได้อึ้งไป ดูลงไปต่อ

ก็เห็นว่าข้างบนได้มีภาพที่เซ่เซียวส่งเธอไปที่ลานจอดรถเมื่อคืน ตอนนั้นเธอเมาแล้ว แต่ก็จำได้รางๆ

ถึงแม้จำไม่ได้มาก แต่ก็รู้ว่าตัวเองกับเซ่เซียวไม่เป็นอะไรกัน เขาก็แค่เห็นว่าตัวเองดื่มมากแล้วไม่วางใจ ถึงได้มาส่งตัวเองลงไปเท่านั้น

คิดไม่ถึงว่าเรื่องที่ง่ายขนาดนี้ ก็ได้ถูกคนอื่นถ่ายเข้า แล้วยังมีข่าวแบบนี้ออกมาอีก

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset