วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 559 ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง

บทที่ 559 ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง

ถังลั่วเหยาพยักหน้า

เพื่อหลีกเลี่ยงบรรยากาศที่อึดอัด เธอก็ได้ชี้ไปที่โซฟาแล้วก็พูดว่า “คุณเชิญนั่งก่อน จะดื่มน้ำไหม? ฉันเทน้ำให้”

เฟิงยี่พยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ

ถังลั่วเหยาเทน้ำให้เขาเสร็จ ในห้องก็ได้ตกอยู่ในความเงียบ บรรยากาศอึดอัดเล็กน้อย

เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้หายตัวไปตั้งนาน อยู่ๆ วันนี้ก็ได้มา ในใจกระวนกระวาย แต่ความสงสัยได้มีมากกว่า

เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

พอเฟิงยี่ก็ได้ดื่มน้ำไปสักพัก ก็ได้วางแก้วลง

เขาได้พิงที่โซฟา ร่างกายก็ได้พิงไปอย่างสบาย ยิ้มเหมือนไม้ยิ้มให้เธอ

“ตื่นเต้นขนาดนั้นทำไม? มานั่ง”

พูดไป ก็ได้ตบไปที่นั่งข้างๆ ตัวเอง

ถังลั่วเหยาลังเลไปสักพัก ถึงแม้ทั้งสองคนนั้นได้ร่วมตกลงกันแล้ว เธอรู้ว่าเรื่องบางเรื่องไม่ช้าก็เร็วก็มาถึง หนีก็หนีไม่พ้น แต่ว่าเธอไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างว่ากับเขาเร็วขนาดนี้

อีกอย่างร่างกายก็ได้ต่อต้านการใกล้ชิดแบบนี้ไปเอง

เพราะงั้นเธอก็ได้ยืนอยู่ตรงนั้นตลอดไม่ขยับ

เฟิงยี่เห็นสถานการณ์แบบนั้น ก็พอเดาความคิดในใจของเธอออก

ขำออกมา แต่ก็ไม่ได้โมโห

เขาก็ได้เก็บมือตัวเอง ก็ได้เอามือไปเล่นที่แหวนบนมืออย่างไม่รู้ตัว น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย

“มีอะไรอย่างจะอธิบายกับฉันไหม?”

ถังลั่วเหยาก็ได้อึ้งไปเล็กน้อย ไม่เข้าใจความหมายของเขา

อธิบาย?

เขาอยากให้เธออธิบายอะไร?

เห็นท่าทางงงๆ ของเธอ เฟิงยี่ก็ได้หรี่ตา

เวลานั้น ก็ได้ขำออกมา

“อย่าบอกว่าเธอยังไม่เห็นข่าวบนเน็ต”

ถังลั่วเหยาอึ้งไปเล็กน้อย เวลานี้ถึงได้รู้สึกตัว ว่าเขาพูดอะไร

สีหน้าก็ได้ไม่ดีเอามากๆ

ซวยล่ะ! เธอลืมไปเลย!

ตอนนั้นตอนที่ข่าวพึ่งออกมานั้น เธอคิดได้แต่ทางผู้กำกับหลิน กลับลืมเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฟิงยี่ไปเลย

อย่างเฟิงยี่ที่ใจแคบแบบนี้ ไม่ว่ากับเธอหมายความว่ายังไง ในสายตาของเขาของของตัวเองไม่มีทางและไม่ชอบให้คนอื่นมาเกี่ยวข้อง

ไม่ว่าการเกี่ยวข้องนั้นจริงหรือไม่ เขาก็ไม่มีทางอนุญาต

คิดถึงตรงนี้ เธอก็ได้รีบส่ายหน้าเอาตัวรอด พูดอธิบายอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “ฉัน ฉันเห็นแล้ว กำลังจะโทรไปอธิบายกับคุณพอดี แต่คุณก็มาแล้ว”

คำพูดนี้เห็นได้ชัดว่าพึ่งแต่งคำโกหกออกมา เฟิงยี่แป๊บเดียวก็มองออก

เขาได้ขำอย่างเย็นชา “กำลังจะโทรไปอธิบายกับฉันพอดี? เหอะ เห็นว่าฉันหลอกง่ายเหรอ?”

พูดไป เขาก็ได้ยกมองไปเคาะที่นาฬิกาข้อมือ พูดอย่างเย็น “รูปภาพหลุดออกมาตั้งสองวันก่อน ตอนนี้ได้ผ่านไปสี่สิบแปดชั่วโมงแล้ว เธอกลับบอกว่ากำลังเตรียมที่จะโทรไปอธิบายกับฉัน?”

“สรุปว่ากำลังโทรไปอธิบายกับฉัน หรือว่าลืมว่าฉันยังมีตัวตนอยู่กันแน่ จนกระทั่งเห็นว่าหลบไม่พ้นแล้วก็ได้พูดบังหน้าแบบนี้กับฉันก็พอ หือ?”

เสียงตอนท้ายที่ได้สูงขึ้นนั้นได้มีความอันตรายอยู่

ถังลั่วเหยาใจแทบหยุดเต้น

ถูกเขาพูดความคิดของตัวเองออกมา ก็ได้ทำตัวเหมือนโดนจำผิด

ตาของเขาเธอก็ไม่กล้ามอง มองไปรอบๆ อย่างร้อนรน ก็ได้อธิบายอย่างติดๆ ขัดๆ “ฉัน ฉันเปล่านะ ก็แค่สองวันมานี้ยุ่งเกินไป เพราะงั้นก็ได้ลืม”

แต่เฟิงยี่จะเป็นคนที่ถูกโกหกไปง่ายๆ ได้ยังไง สายตาที่เย็นชาก็ได้มองไปที่เครื่องเล่นเกมในห้อง ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด “ยุ่งมาก? ยุ่งเรื่องอะไร? ยุ่งที่จะเล่นเกมหรือดูละคร? ในสายตาของเธอฉันดีกับเธอเกินไป ทำให้เธอนั้นลืมฐานะของตัวเอง ลืมว่าตัวเองนั้นตกลงอะไรกับฉัน อืม?”

น้ำเสียงแบบนี้ของเขา เห็นได้ชัดว่าโมโห

ถังลั่วเหยาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ยังไงซะตัวเองนั้นผิด เวลาแบบนี้เหมือนว่าจะแก้ตัวไปยังไงก็ไม่มีทางกู้สถานการณ์ได้

สุดท้ายเธอก็ทำได้แค่ยอมรับ ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“ก็ได้ ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันลืมที่จะบอกคุณ งั้นตอนนี้ฉันพูดขอโทษกับคุณได้ไหม?”

คำพูดเหมือนว่าได้มีการตั้งใจโยนโถให้แตกแบบนั้น

เฟิงยี่ถูกเธอทำให้โมโหจนขำ “ขอโทษ? เธอขอโทษด้วยท่าทางแบบนี้”

ถังลั่วเหยาเม้มปาก เวลานี้ในใจนั้นก็ได้เกลียดผู้ชายคนนี้เอามากๆ รู้สึกว่าบนโลกนี้ทำถึงได้มีคนที่จัดการยากแบบนี้

พูดไปพูดมา ข้อตกลงระหว่างพวกเขานั้นก็ไม่ได้เป็นเธอที่จะเซ็นให้ได้สักหน่อย เป็นเฟิงยี่บังคับให้เธอเซ็นแท้ๆ

เดิมที่เธอก็ไม่เต็มใจ ทำไมเวลานี้ยังต้องถูกบังคับที่คิดถึงความรู้สึกของเขา งั้นเขาได้คิดถึงความรู้สึกของตนไหม?

ยิ่งคิดแบบนั้น ในใจก็ได้เริ่มน้อยใจขึ้นมา

แต่เธอรู้ว่าแขนนั้นสู้ขาไม่ได้ ต่อให้ตัวเองน้อยใจขนาดไหน ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ยอมไปตั้งแต่แรกยังดีซะกว่า จะได้ไม่ต้องเถียงไปมากับเขา สุดท้ายคนที่เสียเปรียบก็ยังเป็นตัวเอง

คิดแบบนั้น เธอก็ได้กดความน้อยใจและปวดใจลงไป พูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “งั้นคุณให้ฉันทำไง?”

เฟิงยี่หัวเราะอย่างเย็นชา เขาได้ลุกขึ้น ค่อยๆ เดินใกล้เธอ

บรรยากาศรอบตัวชายหนุ่มน่ากลัวเกินไป ได้มีความกดดันที่น่ากลัวทับเข้ามา

ถังลั่วเหยาถูกเขาบังคับให้ถอยไปทีละก้าว จนกระทั่งถอยไปถึงกำแพง ถอยจนไม่มีที่ให้ถอย

ทำได้แค่ร่างกายนั้นได้พิงไปที่กำแพงแน่น

เฟิงยี่ยื่นมือออกไป ได้จับที่ติ่งหูของเธอ ก้มตัวลง

สายตาที่คนเข้มนั้นก็ได้จ้องมองเธอตลอด พูดอย่างเย็นๆ “ฉันไม่เคยที่จะบอกเธอเหรอว่าของของเฟิงยี่คนนี้ไม่มีทางให้คนอื่นมาแตะต้อง? ไหนๆ เธอเป็นผู้หญิงของฉัน งั้นก็น่าจะรู้จักรักษาระยะห่างกับผู้ชายคนอื่น จริงไหม?”

ถังลั่วเหยาทำได้แค่พยักหน้า

“งั้นทำไมเธอถึงได้มีรูปแบบนั้นกับเขาหลุดออกมา?”

ถังลั่วเหยาถอนหายใจอย่างไร้ทางเลือก ทำได้แค่พูดความจริงออกไป

เธอได้เงยหน้ามองตาของเฟิงยี่ พูดด้วยสีหน้าเรียบ “ฉันดื่มเมา เขาก็แค่มาส่งฉันขึ้นรถเท่านั้น นี่น่าจะไม่เป็นไรใช่ไหม ให้พูดตอนนั้นคุณก็ไม่อยู่ ฉันเดินลงคนเดียวก็ไม่ได้ หรือว่ายังจะให้เสี่ยวฉิงส่งฉันลงไปเหรอ?”

เฟิงยี่ขำออกมาอย่างเย็นชา อยู่ๆ เขาก็ได้ยื่นมือไปจับที่คางของเธอ กัดฟันพูดว่า “ใครอนุญาตให้เธอดื่มเมาในตอนที่ฉันไม่อยู่?”

ถังลั่วเหยาขมวดคิ้ว คางก็ได้มีความเจ็บปวดส่งมา ทำให้ในใจของเธอนั้นได้หงุดหงิดเล็กน้อย

เธอมองไปทางอื่น พูดเรียบๆ ว่า “งั้นฉันอารมณ์ดีได้ไหม? หรือว่าตอนนี้ขนาดฉันอารมณ์ดีก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะดื่มเหล้าแล้ว”

เดิมทีก็แค่คำพูดที่พูดอย่างโมโห แค่คิดไม่ถึงว่าอยู่ๆ ชายหนุ่มก็ได้พูดว่า “ใช่ ในที่ที่ไม่มีฉันอยู่ เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะดื่มเหล้าแม้แต่แก้วเดียว เพราะว่าฉันไม่มีทางให้ผู้ชายคนอื่นมองเห็นท่าทางตอนเมาของผู้หญิงของเฟิงยี่คนนี้”

ถังลั่วเหยาทำตาโต มองเขาอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ

รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจจนยากที่จะเข้าใจถึงขีดสุด

เธอก็ได้พูดอย่างโมโห “เฟิงยี่! นายอย่าทำเกินไปนะ ถึงแม้ฉันตกลงที่จะเป็นผู้หญิงของนาย แต่ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของนาย ไม่สามารถที่จะทำตามความชอบของนายได้ทั้งหมด!”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset