วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 562 ใช้ทิ้งใช้ขว้าง

บทที่562 ใช้ทิ้งใช้ขว้าง

ตอนเย็นจะต้องรีบกลับบ้านไปบอกภรรยาและฉลองกันเสียหน่อย!

เฟิงยี่ไม่อยู่นานและพาถังลั่วเหยาออกไปอย่างรวดเร็ว

เขาดื่มเหล้าไปนิดหน่อย ดังนั้นจึงไม่ขับรถ ทั้งสองนั่งอยู่ที่เบาะหลัง กระจกรถลดลงครึ่งหนึ่งและสายลมยามค่ำคืนพัดมาผสมกลิ่นเหล้าของชายหนุ่มกับกลิ่นกายของหญิงสาวกระจายไปกับสายลม

“เมื่อครู่ขอบคุณนะคะ ที่ไว้หน้าฉันขนาดนั้น”

ถังลั่วเหยากล่าวคำขอบคุณด้วยความจริงใจ เธอรู้ดีจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในตอนนี้ เฟิงยี่ไว้หน้าเธอมากจริงๆ

ชายหนุ่มช้อนตามองเธอ ใบหน้าสง่าแดงเล็กน้อยด้วยฤทธิ์ของสุรา ดวงตาดำขลับดูเหมือนจะปนไปด้วยน้ำขุ่นมัวจนมองทะลุวิญญาณของคนได้

“แค่นี้เหรอ? ฉันไม่รับคำขอโทษเป็นคำพูดหรอกนะ”

ถังลั่วเหยาผงะดวงตาของเธอสบกับแสงที่เย้ยหยันของชายคนนั้นและหัวใจของเธอก็เต้นแรงทันที

เธอยิ้มเล็กน้อย ดวงตาแสนสวยของเธอหันมาเบา ๆ ร่างกายส่วนบนของเธอโน้มตัวไปข้างหน้าเขา ปลายนิ้วขาวของเธอเสียดสีกับเสื้อที่หน้าอกของชายคนนั้นและกัดริมฝีปากแดงเบา ๆ

“ไม่รู้ว่าคุณชายรองเฟิงอยากจะให้ฉันขอโทษยังไง? เมื่อครู่คุณหนูส้งผู้ยิ่งใหญ่แอบจ้องฉันตาเขม็ง สายตาที่คับแค้นใจขนาดนั้น จ้องจนฉันขนหัวลุกไปหมด

ฉันคิดว่าฉันควรจะลองคิดดูหน่อยว่าจะโทรหาเธอดีไหม อธิบายเรื่องของเราก่อนหน้านี้ให้ชัดเจน จากนั้น อู…”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ ทันใดนั้นจูบหนักๆ ก็ถูกทาบทับลงมา

ถังลั่วเหยาที่ถูกจูบตัวอ่อนไปหมด เธอคิดจะปฏิเสธแต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นคำเชิญที่เงียบงัน

จนกระทั่งมีเสียงอู้อี้อยู่ตรงหน้าเขาก็ตกใจทันทีและมีสติ

“เฟิงยี่!”

เธอดันเขาออกด้วยความโกรธ ตอนนี้กลับพบในตอนหลังว่าไม่รู้ว่าตัวเธอถูกชายหนุ่มทาบทับอยู่บนเบาะตอนไหน

รอยยิ้มของคนขับสะท้อนอยู่ในกระจกมองหลัง ถังลั่วเหยารู้สึกอับอายและพูดอย่างโกรธ ๆ “คุณนี่มันกุ๊ยจริงๆ!”

เฟิงยี่เหลือบหางตาไป คนขับรถรีบทำตัวเคร่งขรึมทันที เขายื่นมือไปกดแผ่นกั้นก็ลดลงทันทีแผงที่นั่งคั่นทั้งสองฝั่งเพื่อบังสายตา

“ไหนบอกจะขอบคุณฉัน? นี่ต่างหากถึงจะเป็นวิธีที่ฉันชอบ”

เขามองเธอหัวจรดเท้า หายใจถี่เล็กน้อย น้ำเสียงต่ำแหบพร่า มันฟังดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์เป็นพิเศษในพื้นที่ปิดแบบนี้

แก้มถังลั่วเหยาร้อนฉ่า หัวใจเต้นรัวราวกับจะกระโจนออกมา เธอหันหน้าหนีและใช้แรงผลักเขา “คุณลุกสิ! หนักจะตายอยู่แล้ว”

เฟิงยี่ยิ้มและปล่อยเธอ ยืดตัวจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย “วันหลังอย่าพูดขอบคุณฉันตามใจปากอีก จะขอบคุณก็ต้องใช้วิธีพวกนี้เท่านั้น”

ถังลั่วเหยากัดฟัน “ขอบคุณกับผีสิ!”

พูดจบก็ใช้เท้าถีบประตูรถ “จอดรถ!”

คนขับหยุดรถข้างทางอย่างเชื่อฟังถังลั่วเหยาออกจากรถด้วยความโกรธและกระแทกประตูอย่างแรง

เฟิงยี่ลดกระจกลงและเตือนสติด้วยความหวังดี “นี่ยังห่างจากที่อยู่คุณหลายกิโลเมตรนะ”

“นั่งแท็กซี่ก็ยังดีกว่า ฉันจะไม่นั่งรถกุ๊ยอย่างนายอีก!”

หญิงสาวใช้คำพูดที่โหดร้ายและรีบออกไปพร้อมรองเท้าส้นสูงของเธอ

เฟิงยี่วางแขนไว้ที่ประตูรถ มองไปที่ด้านหลังของคนเองแต่ใจที่เดินไปไกลในกลางดึกแล้วริมฝีปากของเขายกยิ้มโดยไม่รู้ตัว

ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขากวาดตามองและรับสาย

“น้องรอง เมื่อไหร่เธอจะพาแฟนมาที่บ้าน? ไหนบอกว่าจะพาสะใภ้กลับมาให้ฉันเร็วๆ ไม่ใช่รึไง? ทำไมป่านนี้แล้วยังไม่มีอะไรเลย?”

“ใกล้แล้วครับ”

“จริงเหรอ?”

“อือ พวกคุณเตรียมตัวสำหรับงานแต่งได้เลย”

พูดจบก็วางสายไป

——

วันต่อมาถังลั่วเหยาเห็นข่าวของตัวเองในส่วนของข่าวบันเทิงตามที่คาดไว้

หัวข่าวเด่นสะดุดตา——คุณชายรองเฟิงกับความรักครั้งใหม่ เต้นรำร้อนแรงตัวติดกับถังลั่วเหยาดาราในสังกัดซิงฮุย

กดเข้าไป ด้านในเป็นรูปถ่ายของเธอและเฟิงยี่ที่มาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับเมื่อคืนนี้

ในข่าวเต็มไปด้วยข่าวเสกสรรปั้นแต่ง รวมทั้งทักษะการแสดงและพื้นฐานทางบ้าน ความคิดเห็นมีเสียงก่นด่า มีคนพูดว่าเธอใช้เต้าไต่ มีคนด่าว่าเธอหน้าไม่อาย มีบ้างที่เข้ามาล้อเลียน ฉากหน้าที่สวยงาม

ถังลั่วเหยาคาดได้แต่แรกว่าเป็นแบบนี้ จึงโทรหาซูหงให้เธอออกหนังสือชี้แจง

โชคดีที่เฟิงยี่มีข่าวกับดอกไม้ริมทางอยู่ตลอด ดังนั้นเมื่อจดหมายที่เผยแพร่ทุกคนจึงได้รู้ว่าพวกเขาไปงานด้วยกันในฐานะเพื่อนเท่านั้นและไม่มีลับลมคมในอะไร ความคิดสาธารณะต่างๆ จึงค่อยๆ จางลงไปเป็นปกติ

รายการวาไรตี้ในสตูครั้งก่อนที่รับจะเริ่มถ่ายทำ รอบการถ่ายภาพสั้นมาก มีเวลาเพียงสัปดาห์เดียว พันธมิตรคือช่องภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่ไม่ดังมาก และทั้งสองเคยร่วมงานกันดังนั้นจึงนับได้ว่าใจตรงกัน

หลังจากถ่ายทำเสร็จ ถั่งลั่วเหยาเก็บของและเตรียมตัวกลับบ้านแต่กลับต้องต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

เสว่เอ๋อถือเป็นผู้จัดการที่อยู่ในวงการมานาน ชักนำดารารุ่นใหญ่หลายคนเข้าสู่วงการจึงมีแบคอัพที่แข็ง ดังนั้นกลุ่มศิลปินในวงการจึงค่อนข้างหวาดกลัวเธอ

ถังลั่วเหยาวางกระเป๋าลงแล้วกล่าวทักทายเธออย่างไม่ถ่อมตัวจนเกินไป “พี่เสว่”

“ออกมาสิ มีเรื่องจะคุยกับเธอ”

ถังลั่วเหยาเดินออกไปพร้อมเสว่เอ๋อ บนถนนร้างรถปอร์เช่สีขาวจอดอยู่ที่นั่นเธอดึงประตูรถและเห็นส้งเจียเจียที่เบาะหลังแวบเดียว

ควรมาก็มาแล้ว!

ส้งเจียเจียสวมแว่นกันแดดแต่งหน้าอ่อน ๆ เธอสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดังตรงกันข้ามเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนธรรมดาของเธอนั้นที่ราคาแสนถูก

ส้งเจียเจียอายุมากกว่าเธอสองปีและเข้าวงการก่อนเธอ แต่เพราะที่ผ่านมา ถังลั่วเหยากับเธอจึงไม่ค่อยจะกินเส้นกันมาตลอด

เมื่อเห็นว่าเป็นเธอ ถังลั่วเหยาก็มีสีหน้าเย็นชา

“เป็นคุณ? มาหาฉันมีเรื่องอะไรคะ?”

“ถังลั่วเหยา ฉันไปทำอะไรให้เธอกันแน่?”

ส่งเจียเจียถอดแว่นกันแดดและถามออกมาอย่างตรงไปตรงมา

ถึงตอนนี้ถังลั่วเหยาจึงได้พบว่าตาของเธอนั้นแดง ๆ เหมือนร้องไห้มา

เธอได้แต่ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “คุณไปเอาคำพูดแบบนั้นมาจากไหนคะ?”

“เฟิงยี่แม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่รับสายของฉันแล้ว!”

ถังลั่วเหยาเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจจากนั้นดวงตาของเธอก็กะพริบเล็กน้อยและลดสายตาลง

เธอพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย: “เขาจะรับหรือไม่รับสายคุณ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”

ส้งเจียเจียเห็นเธอไม่ทุกข์ร้อนจึงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ถังลั่วเหยา เธอจะไม่มีวันได้อยู่อย่างเป็นสุขแน่!”

ถังลั่วเหยาเม้มริมฝีปาก “จะมีอยู่อย่างเป็นสุขหรือเปล่าไม่ใช่แค่คุณพูดแล้วก็จบ”

“หึ” ส้งเจียเจียแค่นหัวเราะ “เธอคิดว่าเฟิงยี่ชอบเธอจริงๆ งั้นเหรอ? หลายปีมานี้มีผู้หญิงอยู่รายล้อมตัวเขากี่คน แล้วเหลืออยู่กี่คน?

เรารู้จักกันมานาน ในบรรดาผู้หญิงพวกนั้น ฉันคือคนที่อยู่กับเขามานานที่สุด ถึงจะมีเรื่องไม่เข้าใจและทะเลาะกันและต่อให้เขางอนไม่สนใจฉัน

ขอเพียงฉันยอมให้เขาก่อน เขาก็ต้องกลับมา ถึงตอนนั้นเธอก็เป็นได้แค่รองเท้าพังๆ ที่เขาโยนทิ้ง ยุ่งกับฉัน เธอคิดว่ายังจะมีใครอยากได้เธอเหรอ?”

ถังลั่วเหยาไม่แน่ใจว่าคำพูดของเธอจริงเท็จแค่ไหน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันก็เป็นเพียงนักแสดงที่ไม่มีคนดันอยู่เบื้องหลัง จะไปมีเรื่องอะไรกับคุณได้ และไม่มีทางมีเรื่องกับคุณชายเฟิงได้หรอกค่ะ”

“มีเงิน เธอจะกลัวอะไร?”

ส่งเจียเจียยื่นมือออกมา พี่เสว่หยิบเช็คใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้ในมือเธอ เธอตวัดมือส่งให้ถังลั่วเหยา

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset