วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 586 ความทรงจำเหลือทน

บทที่586 ความทรงจำเหลือทน

เดิมทีเป็นเพียงสิ่งที่ผู้ใหญ่พูดเล่นกันไม่ได้คิดมากอะไร

ทันใดนั้นตู๋กูยิงก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีเมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้

เธอหันหน้าไปมองคนรับใช้ด้วยใบหน้าที่จริงจังและพูดว่า: “อย่าพูดมั่วๆ! หึ ตระกูลเฟิงของเราเป็นครอบครัวแบบไหน? คู่ของยี่เอ๋อในอนาคตต่อให้ไม่ใช่เจ้าหญิงจากวังหลัง ก็ควรต้องเป็นลูกหลานคนรวย ยายเด็กนี่เป็นแค่อะไรกัน?”

“ก็แค่ลูกสาวของนายทหาร คุณท่านให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมาก จึงได้อนุญาตให้เธอเข้ามาเล่นเป็นประจำ แต่เธอต้องรู้ ครอบครัวเราตอนนี้ไม่ต้องการกองทัพแล้ว นายทหารคนนั้นไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ในโลกธุรกิจ ครอบครัวพวกเธอจะช่วยอะไรยี่เอ๋อได้?”

“ดังนั้น ในอนาคตคำพูดพวกนี้ อย่าพูดให้ฉันได้ยินอีก ตระกูลเฟิงของเราจะไม่มีวันยอมให้ลูกชายของเราแต่งงานกับผู้หญิงไม่มีชาติตระกูล เข้าใจไหม?”

คนรับใช้คิดไม่ถึงว่าเธอจะเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมแบบนี้ เธอตกใจจนใบหน้าซีดขาว

และรีบรับปาก: “ค่ะ คุณนาย ฉันเข้าใจแล้ว”

ตู๋กูยิงจึงได้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและเดินต่อไปยังห้องนั่งเล่น

อย่างไรก็ตามทันทีที่ทั้งสองคนก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นพวกเธอก็เห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ยืนอยู่ที่นั่นและมองไปที่พวกเขาอย่างไม่สนใจ

เด็กสาวไม่ถือว่าเด็กมากแล้ว เธออายุเก้าขวบและเข้าใจในสิ่งที่คนอื่นพูดเยอะแล้ว

ถึงแม้จะได้เข้าใจแจ่มแจ้ง แต่เด็กผู้หญิงมักจะโตไวกว่าเด็กผู้ชายเล็กน้อยอยู่แล้ว ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจที่พวกเธอพูดเรื่องร่วมเรียงเคียงหมอนอย่างถ่องแท้ แต่ก็สามารถฟังจากน้ำเสียงของตู๋กูยิงออกว่าเธอกำลังไม่พอใจและรังเกียจตนเอง

นาทีนั้นคนรับใช้เห็นเธอเข้าและมีสีหน้าเปลี่ยนทันที

เธอวิ่งเข้ามาด้วยความกระอักกระอ่วนแล้วยิ้มพร้อมกับถาม: “คุณหนูถังทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้คะ? ทำไมอยู่ตรงนี้แล้วถึงไม่ให้สุ้มให้เสียง ทำเหมือนไม่เห็นเรา”

เธอทำตาเลิ่กลั่ก มือของเธอก็ร้อนรนเช่นกัน เธอจับแขนเล็กๆ จนเธอรู้สึกเจ็บ

แต่ถังลั่วเหยาตัวน้อยกลับไม่แสดงท่าทีเจ็บปวดออกมาเลยสักนิด เธอเอาแต่จ้องมองไปที่ตู๋กูยิง

ตู๋กูยิงมองเธอไม่แยแสและไม่มีความลำบากใจหรือรู้สึกผิดใด ๆ บนใบหน้าของเธอหลังจากที่ถูกจับได้ว่าพูดจาไม่ดี

เธอเพียงแค่มองเธออย่างเย็นชาและจากนั้นก็ยิ้มอย่างเหยียดหยาม

“ในเมื่อมาแล้ว ก็ไปกินขนมที่สวนหลังบ้านสิ จะได้ไม่เสียเที่ยวที่มา”

พูดจบก็หันหลังเพื่อพาเธอไปที่สวนหลังบ้าน

โดยไม่คาดคิดถังลั่วเหยาก็เปิดปากของเธอทันที

“ไม่ต้องหรอกค่ะน้าตู๋กู”

เธอวางของเล่นในมือลงทีละชิ้นไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ

จากนั้นก็ลุกขึ้นและมองไปที่ตู๋กูยิงอย่างไม่มีความเกรงกลัวและพูดชัดถ้อยชัดคำ: “วันนี้หนูเล่นพอแล้วค่ะ ขอบคุณพวกคุณที่ต้อนรับ หนูจะกลับบ้านแล้วค่ะ”

พูดจบก็หันหลังและวิ่งออกไป

ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่ไปที่บ้านตระกูลเฟิงอีกเลย

เธอไม่มีวันลืมสายตาที่ตู๋กูยิงมองเธอในตอนนั้น หน้าตารังเกียจและดูถูกแบบนั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความอาฆาตพยาบาทตั้งแต่เธอลืมตาดูโลกนี้มา

เธอเองก็เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยของพ่อและแม่ของเธอนะ ถึงแม้เสนาธิการถังจะไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ แต่เขาก็อยู่ข้างกายนายท่านมานานหลายปี ในช่วงปีแรก ๆ ก็ผ่านศึกรอบด้านมามาก เขาได้สร้างผลงานมากมายและมีความดีความชอบไม่น้อย

มิฉะนั้นคงจะไม่สามารถซื้อบ้านและเริ่มธุรกิจได้เมื่อพาภรรยาย้ายไปทางใต้ได้

แต่ในสถานะทางครอบครัวในเวลานั้น เธอก็ยังโดนตู๋กูยิงรังเกียจอย่างไม่แยแส

หน้าตาแบบนั้นเหมือนกำลังมองหมากฝรั่งติดบ้านตัวเองไม่ยอมปล่อย เธอไม่มีทางลืมมันได้ตลอดชีวิต ยิ่งกว่านั้นเธอไม่อยากจะพบเห็นมันอีกเลย

นี่คือสาเหตุว่าจนถึงวันนี้ เธอก็ยังคงไม่ยอมจะกลับไปพร้อมกับเฟิงยี่

เธอไม่อยากจะเห็นสายตาแบบนั้นของตู๋กูยิงอีก ยิ่งไม่อยากให้แม่ของเธอที่อายุปูนนี้แล้วต้องมาทนรับความร้ายกาจแบบนั้นจากอีกฝ่ายอีก

ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าเธอกับเฟิงยี่จะคบกันด้วยเหตุผลใด เมื่อไปถึงตู๋กูยิง สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นว่าเธอแต่งงานเพื่อเงินและใช้มารยาเล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อลูกชายของเธอ

เธอไม่อยากถูกเข้าใจผิดแบบนั้นและเบื่อที่จะต้องต่อสู้กับมัน

ตอนเก้าขวบเธอไม่ได้อธิบายอะไร ตอนนี้เธออายุยี่สิบสามแล้วยิ่งไม่มีทางพูดอะไรเข้าไปอีก

ถังลั่วเหยาคิดแบบนี้และก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง

แต่แม้ในใจจะตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ทำไมน้ำตายังคงไหลอย่างไม่สามารถจะควบคุมได้แบบนี้ล่ะ?

เธอทำได้เพียงแค่ยกแขนเสื้อขึ้นอีกครั้งเพื่อเช็ดน้ำตา

ถังลั่วเหยาเอ้ย เข้มแข็งหน่อยสิเธอ!

ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ?

บนโลกนี้มีผู้ชายตั้งมากมาย ไม่ได้มีคนเดียวเสียหน่อย ไม่มีก็ไม่มี มันจะสักเท่าไหร่กันเชียว?

เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง เพื่อความภูมิใจในตัวเอง เธอจะต้องเข้มแข็งขึ้นอีกนิด อย่าให้ใครใช้สายตาแบบนั้นกับเธออีก อย่าปล่อยให้แม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากและจะต้องกังวลในวัยชราอีกต่อไป

เมื่อคิดแบบนี้เธอก้าวเท้าเร็วขึ้นและรีบเดินไป

อย่างไรก็ตามในขณะนี้มีฝีเท้าที่เร่งรีบตามหลังเธอ

เหมือนถังลั่วเหยาจะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง ใบหน้าของเธอซีดจางและก้าวเท้าเร็วขึ้นอีก

อย่างไรก็ตามไม่ว่าเธอจะก้าวเร็วแค่ไหนเธอจะเอาชนะผู้ชายได้อย่างไร?

เฟิงยี่กอดเธอไว้อย่างรวดเร็วจากด้านหลัง

ถังลั่วเหยาดิ้นโดยสัญชาตญาณและร้อง “เฟิงยี่ คุณปล่อยฉันนะ!”

“ผมไม่ปล่อย!”

เฟิงยี่กอดเธอแน่นเสียจนเธอรู้สึกเจ็บ ราวกับว่าจะกลืนกินเลือดเนื้อเธอและหลอมเป็นร่างเดียวกัน

เขาวางหัวไว้บนบ่าเธอและรับรู้ได้ถึงตัวเธอที่สั่นเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงอดกลั้น: “เหยาเหยา ผมไม่เลิก”

ถังลั่วเหยาตกใจอย่างรุนแรง!

เธอเลิกดิ้นในทันใด

เธอถามเขาอย่างแทบไม่น่าเชื่อ “คุณพูดอะไรนะ?”

เฟิงยี่พูดอีกครั้ง: “ผมจะไม่เลิกกับคุณ!”

เขาพูดพร้อมกับกอดเธอแน่นขึ้นอีกราวกับว่ากำลังกลัวว่าเธอจะหายไปต่อหน้าต่อตา

ในน้ำเสียงของเขาเขาสามารถได้ยินอารมณ์และความหมดหนทางที่ถูกระงับไว้จนถึงขีดสุด

“ผมไม่สนว่าทำไมคุณถึงอยากจะไปจากผม และไม่สนใจว่าคุณจะชอบผมไหม ผมแค่อยากจะบอกคุณ ผมรักคุณแล้ว รักคุณอย่างถอนตัวไม่ขึ้น คบกับผม ถ้าไม่อย่างนั้นก็ฆ่าผมเสีย ผมทนกับวันที่ไม่มีคุณไม่ได้และไม่อยากเห็นคุณอยู่ชายอื่น”

“เพียงแค่ผมคิดว่าคุณจะไปคบผู้ชายคนอื่น ผมก็รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า เหยาเหยา อย่างบีบผมเลยและอย่าทดสอบความรู้สึกที่ผมมีให้คุณเลย เพราะผมไม่รู้จริงๆ ว่าเวลานั้นผมจะทำอะไรออกไปได้บ้าง”

“ต่อให้ต้องขอให้คุณสงสารผม ลองคบกับผม ด้วยความจริงใจและทิ้งอคติทั้งหมดไป ลองคบกับผมเถอะนะ? คุณไม่อยากไปเจอครอบครัวผมก็ไม่ต้องไป ขอเพียงคุณมีความสุข ขอเพียงคุณรับปากจะอยู่กับผมตลอดไป ทุกอย่างแล้วแต่คุณเลย ถ้าหากหลังจากคุณลองแล้วยังไม่รักผม ได้ ผมจะยอมแพ้”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset