วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 607 ทั้งหมดเป็นของเขา

ลมหายใจของเหอศื่อถี่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

เขาหันศีรษะกลับไป พร้อมกับเหลือบมองไปที่กลุ่มคนซึ่งกำลังยืนอยู่นอกประตูนั้น แล้วกระซิบกับถังลั่วเหยาว่า “แค่เธอรับประกันคำพูดตัวเองก็ได้แล้ว และอย่าโกหกฉันแล้วกัน!”

ถังลั่วเหยาส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ฉันจะโกหกอะไรแกได้?ก็ไม่ใช่ว่าแกไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนนิ ฉันสามารถเอาตัวรอดในวันแรกได้แล้วยังสามารถเอาตัวรอดในวันที่ 15 ได้ด้วยเหรอ?

เมื่อหล่อนพูดออกไปเหอศื่อก็โดนหล่อนพูดเกลี้ยกล่อมซะแล้ว

คิดๆ ดูแล้วก็ใช่นะ หากพูดตามกฎหมายแล้ว เขาเป็นพ่อบุญธรรมของหล่อน การที่ไปเขอเงินใช้จากหล่อนบ้างมันก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว

แม้ว่าหล่อนจะไม่ให้เขาก็ยังสามารถฟ้องว่าหล่อนทอดทิ้งผู้สูงอายุ

ยิ่งไปกว่านั้นหลายปีมานี้ เหอศื่อก็เอาแต่ควบคุมแม่ลูกคู่นี้ และเขาก็เคยชินกับมันทางจิตใจแล้ว

สำหรับการป้องกันของพวกหล่อนนั้นมันต่ำมาก

อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของเหตุผลบางอย่าง เขาจึงยังเหลือเฉลียวฉลาดอยู่บ้าง

“งั้นเอาอย่างนี้สิเธอบอกฉันมาสิว่า แม่เธออยู่ที่ไหนหลังจากที่ฉันยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ฉันจะปล่อยเธอไป”

สีหน้าถังลั่วเหยาเย็นชาลงในทันที

“เหอศื่อเรื่องของเราคือเรื่องของเรา มันไม่เกี่ยวอะไรกับแม่ของฉันแกคิดกับหล่อนน้อยๆ หน่อย!”

เหอศื่อหัวเราะอย่างเย็นชา

“ไม่เกี่ยวอะไรกับหล่อนเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง? หล่อนเป็นแม่ของเธอนะ และเป็นเมียของฉันด้วยแล้วเรื่องของเราจะไม่ใช่เรื่องของหล่อนได้ยังไง? นอกจากนี้เธอไม่ได้เหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องโกหกฉันหรอก”

ฉันรู้ว่า เธอคบผู้ชายรวยคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอฉลาดขึ้นแล้วนิ ถ้าฉันปล่อยแกไปแต่แกไม่ยอมมอบเงินให้ฉันล่ะ ฉันยังสามารถทำให้เธอใช้การไม่ได้นะ? หรือว่าฉันอาจจะไม่กลัวว่าผู้ชายของเธอจะมาแก้แค้นก็เป็นได้?”

“แต่ฉันกับแม่เธอมันต่างกัน เราเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย แม้ว่าฉันจะไม่ตบตีและด่าว่าหล่อน มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะทำในสิ่งที่สามีกับภรรยาชอบทำกัน” เมื่อทำแบบนี้ ถ้าหัวใจหล่อนยังไม่หายดี และมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น นี่คงเป็นเรื่องที่ฉันควบคุมไม่ได้ว่าไหม?”

“สถานการณ์แบบนี้ในกฎหมาย มันไม่ควรมาซักถามถึงรับผิดชอบของฉันใช่ไหม? ดังนั้น ทางที่ดีเธอควรบอกที่อยู่ของหล่อนให้ฉัน แบบนี้ ฉันถึงจะสบายใจเมื่อถึงตอนนั้นพวกเราจะได้ร่วมมืออย่างมีความสุขและการยื่นหมูยื่นแมว มันจะไม่เป็นผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่ายได้อย่างไรล่ะ?”

ถังลั่วเหยาโกรธจนสั่นไปทั้งตัว

หล่อนรู้มาโดนตลอดว่าเหอศื่อเป็นคนไร้ยางอาย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะไร้ยางอายจนถึงขั้นนี้!

หล่อนกัดฟันและมองไปที่เขาอย่างเย็นชาหล่อนพูดอย่างชัดเจนว่า “แกอย่าได้คิดเพ้อเจ้อเลย!”

ท่าทีของหล่อน ทำให้สีหน้าเหอศื่อเย็นชาลงในทันที

“เฮ้ย ! ถ้าอย่างนั้น เมื่อกี้แกแค่โกหกฉันงั้นเหรอ? เพราะอยากโกหกฉัน ดังนั้นตอนนี้แกเลยไม่กล้าบอกที่อยู่ของแม่แกกับฉัน ถังลั่วเหยา แกล้อฉันเล่นใช่ไหม?”

เขาพูดอยู่อย่างนั้น อยู่ๆ ก็เอื้อมมือออกไปบีบคางหล่อนเอาไว้

ถังลั่วเหยารู้สึกเพียงว่าคางของหล่อนกำลังโดนเขาบดขยี้ และทั้งหัวของหล่อนก็กำลังโดนบังคับให้เงยขึ้น

ในขณะนั้นก็มีเสียงมาจากข้างนอก

“เฮ้ย แกขอถามหล่อนหรือยัง?”

เหอศื่อหันหลังกลับมามองพวกเขาแวบหนึ่ง เขายังไม่ทันได้พูด ก็ได้ยินถังลั่วเหยากัดฟันตัวเองและลดเสียงลง “เงินอยู่ในบ้านของฉัน”

เหอศื่อตะลึง และหันกลับมองหล่อน ซึ่งในตอนแรกนั้นหล่อนไม่ตอบสนองใดใดเลย

“แกกำลังพูดเรื่องอะไร?”

“ฉันพูดว่า เงินอยู่ที่บ้านของฉัน เช็คเงินเยอะขนาดนั้น ฉันจะไม่ถือติดตัวแน่นอน ถ้าแกต้องการ ก็แค่กลับบ้านกับฉันและเอามันมา”

เหอศื่อตื่นเต้นอย่างแรง!

เขาปล่อยมือหล่อน พร้อมกับหันศีรษะและตะโกนบอกกับพวกคนด้านนอกห้องว่า “ใกล้แล้ว”

จากนั้นเขาก็หันศีรษะกลับมา และมองไปที่ถังลั่วเหยา

“แกแน่ใจนะว่าแกไม่ได้โกหกฉัน”

ในที่สุดคางของถังลั่วเหยาก็โดนปล่อยลงความเจ็บปวดหล่อนจึงได้คลายลง

หล่อนหายใจเข้าลึกๆและพูดว่า “แน่นอน แต่แกต้องพาฉันกลับไปด้วย เพราะถ้าไม่ฉัน แกก็ไม่สามารถเข้าบ้านฉันได้”

เหอศื่อได้ยินดังนั้นก็แสยะยิ้มขึ้นมา

“แกพูดผิดแล้วหรือว่าแกลืมไปแล้วว่าครั้งที่แล้วฉันเข้าไปในบ้านแกได้ยังไง?”

เขาหัวเราะ และถังลั่วเหยาก็หัวเราะตามเช่นกัน

“งั้นเหรอ? ดังนั้นแกเลยคิดว่า ฉันโง่มากโดยทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แกเคยเข้าไปในบ้านฉันและฉันก็ยังโง่ที่ยังอาศัยอยู่ที่นั่นต่อไป?”

เหอศื่อตะลึง

ถังลั่วเหยาพูดต่อว่า “แกก็ยังบอกด้วยว่า ตอนนี้ฉันเป็นซูเปอร์สตาร์ ฉันรวยแล้ว และฉันยังตะกายขึ้นไปคบกับผู้ชายรวยๆ อีกด้วย แน่นอนว่าฉันคงไม่อยู่ต่อที่คอนโดเล็กๆ แห่งนั้นแล้ว”

“เอาจริงๆ นะที่จริงแล้วคอนโดเล็กๆ นั้น ฉันตั้งใจปล่อยไว้ที่นั่น เพื่อปิดบังแกโดยเฉพาะ”

“ฉันมักจะออกไปถ่ายทำละคร ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ฉันมักจะอยู่ที่โรงแรม ปีหนึ่งฉันอยู่บ้านกี่วันแกมันไม่รู้ ดังนั้น ฉันจึงกลับไปที่นั่นเป็นครั้งคราวเท่านั้น แกเลยคิดว่า ฉันอยู่ที่นั่นมาโดยตลอด

“เพราะแบบนี้ แกจึงไม่ไปตรวจสอบที่อยู่ที่จริงๆ ของฉัน แต่ที่จริงแล้วฉันย้ายบ้านออกไปตั้งนานแล้ว และที่อยู่ของฉันในตอนนี้เป็นวิลล่าเดี่ยวแห่งหนึ่ง”

“ไม่ใช่แค่เช็คเท่านั้นนะ ข้างในยังมีอัญมณีและโบราณวัตถุมากมาย มันเป็นสิ่งที่ฉันสะสมไว้อย่างเงียบๆ มาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ แค่แกยอมปล่อยฉันไป ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่เอาของเหล่านี้สักอย่างเลย ให้แกทั้งหมด แกว่ายังไงล่ะ?”

หลังจากที่เหอศื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของเขาก็ร้อนดั่งนั่งบนกองไฟขึ้นมาทันที

“แกพูดจริงเหรอ? ยังมีอัญมณีและของโบราณวัตถุด้วยเหรอ?”

“แน่นอน ฉันอยู่ในมือแกแล้วนิ จะกล้าโกหกอีกเหรอ?”

เหอศื่อกลืนน้ำลายลง ถังลั่วเหยามองเขาเงียบๆ อย่างไม่กังวลและรอคำตอบจากเขา

หล่อนรู้ ความโลภของเหอศื่อเป็นอย่างดี ในเมื่อรู้ว่าหล่อนมีเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ต้องการมัน

โดยความเป็นจริง ไม่กี่วินาทีจากนั้น เขาก็กัดฟันและพูดว่า “ได้ ฉันจะปล่อยแกไปแต่ต้องรอจนกว่าฉันจะได้ของ!”

ถังลั่วเหยาหัวเราะอย่างช้าๆ “คำไหนคำนั้น”

“คำไหนคำนั้น”

หลังจากที่เหอศื่อปรึกษาหารือกับหล่อนแล้วเขาก็ออกไป

กลุ่มคนข้างนอกนั้นคอยถามตลอดว่าสอบถามว่าเงินอยู่ที่ไหนหรือยัง

เขาแค่ยิ้มเยาะอย่างเย็นชาไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่านางนี่ปากแข็งมาก ต้องรอจนกว่าหล่อนจะหิวอีกครั้ง แล้วค่อยพูดอีกในตอนเย็น

เมื่อผู้ชายอีกคนได้ยินดังนั้น เขาก็ชักสีหน้าลง เขาเหลือบมองถังลั่วเหยาอย่างเย็นชา ราวกับกำลังพูดว่าเขาต้องสั่งสอนหล่อนสะบ้างแล้ว

เขาพูดไปด้วยพร้อมกับถอดเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไป

เมื่อเหอศื่อเห็นดังนั้น ก็ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ยิ้มพร้อมกับเอื้อมมือไปหยุดเขาไว้

“เฮ้ย อย่านะ ตอนนี้เงินก็ยังไม่ได้เลย นางนี่อารมณ์รุนแรงมาก ตอนนี้ถ้าแกทำอะไรไม่ดีออกไป เมื่อถึงตอนนั้นมันจะไม่คุ้มทั้งคนและเงินนะรอตอนเย็นก่อนค่อยแงะปากมันคิดว่าจะเล่นอะไรก็เล่นงั้นเหรอ ช่างพวกเขาเถอะ อย่าเข้าไปยุ่งเลย”

เมื่อชายคนนั้นได้ยินดังนั้น จึงหยุดฝีเท้าลงแล้วล้มเลิกความคิดจะกระทำในตอนนี้

ชายคนที่แขนมีรอยสักคนก่อนนั้นยิ้มและพูดว่า “เหอสี่ ฉันมองไม่ออกเลย มันค่อนข้างโหดร้าย และนี่ก็เป็นลูกสาวบุญธรรมของแกด้วยนะ! ถ้าโดนพวกพี่น้องย่ำยี แกไม่รู้สึกเจ็บใจเหรอ?”

เหอศื่อ หรี่ตาลง จากนั้นก็จุดบุหรี่ไปม้วนหนึ่ง เขายิ้มพร้อมพูดว่า “ลูกสาวบุญธรรมอะไร? เป็นแค่เงินค่าชดเชยสินค้าเท่านั้น ในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมานี้กินของฉันใช้ของฉัน แต่พอรุ่งก็คิดจะเตะฉันออกไป แล้วฉันจะสนใจชีวิตความเป็นความตายของหล่อนได้อย่างไร?”

เมื่อชายคนนั้นได้ยินจึงดูเหมือนค่อยโล่งใจลงหน่อยวางมือบนไหล่เขา แล้วพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset