วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 618 สนิทกันฉันพี่น้อง

เธอหันไปมองตู๋กูยิง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา“คุณป้า ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”

ก่อนที่ตู๋กูยิงจะมาท่นี่ เธอแค่ได้ยินมาว่าเฟิงยี่เลี้ยงคนรักไว้ข้างนอกบ้านหนึ่งคน เป็นดารานักแสดง

เธอดูถูกเหยียดหยามพวกผู้หญิงที่อยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มีใครไม่รู้บ้างว่า คนที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้ ไม่สะอาดบริสุทธิ์สักคน

ถ้าลูกชายของเธอแค่เล่นๆ เธอก็ไม่ว่าอะไรหรอก

แต่วันนี้พอตื่นขึ้นมากลับได้ยินว่าเฟิงยี่คิดจริงจัง

ไม่เพียงแต่จะเล่นใหญ่จัดใหญ่ให้เธอแล้ว ยังซื้อวิลล่าให้เธอหลังหนึ่งด้วย ได้ยินมาว่าจะเลี้ยงดูเธอ ดูท่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่ออีกด้วย

ตู๋กูยิงไม่ยอม

เธอตระหนักได้ถึงความอันตราย ลูกชายคนรองของเธอคนนี้ มีความคิดเป็นของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

อย่างอื่นเธอไปยุ่งไม่ได้ก็ช่างมัน แต่เรื่องแต่งงานเรื่องใหญ่ จะต้องให้เธอเป็นคนมาตัดสินใจถึงจะถูก

พอคิดแบบนี้ จู่ๆเธอก็มาที่นี่ทันที

ตอนแรกคิดๆอยู่ว่าคนที่เขาเลี้ยงดูอยู่ที่นี่ จะเป็นคนประเภทไหน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอนี่เอง?

แน่นอนว่าตู๋กูยิงรู้จักถังลั่วเหยาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

ถึงยังไง ทหารถังก็เคยอยู่ที่ตระกูลเฟิงมาสิบกว่าปี ถังลั่วเหยาก็โตจนอายุเกือบสิบขวบ ถึงย้ายออกมาจากเมืองหลวงไป

ต่อมาเธอก็มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง แม้ว่าตู๋กูยิงจะรู้จักเธอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเธอยอดเยี่ยมอะไรมากมายอะไร

ถึงยังไง ตอนนั้นตอนที่ทหารถังยังอยู่ เธอก็ดูถูกดูแคลนครอบครัวนี้อยู่ไม่น้อย ตอนนี้ทหารถังไม่อยู่แล้ว ต่อให้เธอเป็นถึงดาราหญิงของวงการบันเทิงแล้วมันยังไงล่ะ?

ดาราก็คือดาราอยู่วันยังค่ำ บนโลกใบนี้ดาราที่อยากจะแต่งงานเข้าไปในตระกูลที่ร่ำรวยมีเยอะแยะมากมาย

แต่ก็ไม่เคยเห็นคนไหนที่มีความสุขจริงๆเลยสักคน

พอคิดถึงตรงนี้ สายตาที่ตู๋กูยิงหันมองไปยังถังลั่วเหยา ก็แฝงไปด้วยความการดูถูกเหยียดหยาม

เธอพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน“ที่แท้ก็เป็นเธอนี่เอง ถ้าฉันรู้ว่าเป็นเธอ วันนี้ก็คงจะไม่รีบร้อนมาขนาดนี้หรอก”

ถังลั่วเหยายิ้มเล็กน้อย มองตู๋กูยิง สายตาไร้ซึ่งความกลัว

“คุณป้าเฟิงรีบร้อนมาขนาดนี้ ไม่ทราบว่ามาเพราะเรื่องอะไรเหรอคะ?”

รอยยิ้มของตู๋กูยิงจู่ๆก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน เดินเข้ามา ประคองมือของเธอขึ้นมา

“เห้อ จะเพราะเรื่องอะไรอีกล่ะ ก็คนนอกเขาลือกันน่ะสิ บอกว่าเสี่ยวยี่เลี้ยงผู้หญิงงามหน้าไว้ข้างนอกบ้านหนึ่งคน

เธอก็รู้ ว่าพี่ยี่ของเธอ ก็แค่ชอบออกไปเต๊าะผู้หญิงข้างนอก ฉันที่เป็นแม่ก็เป็นกังวลเขาจะแย่อยู่แล้ว พอได้ยินแบบนั้น ฉันก็เลยมาตั้งแต่เช้าตรู่ คิดดูแล้วไม่ว่าจะพูดยังไง ก็ไม่อยากให้ลูกสาวของคนอื่นต้องมาทนทุกข์ทรมาน ถึงยังไงพี่ยี่ของเธอก็ชอบเล่นจนชินเป็นนิสัยแล้ว ถ้าเกิดเจอพวกผู้หญิงโสเภณีเหล่านั้นก็พอว่าไปอย่าง แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่เป็นคนดี แบบนั้นก็เท่ากับว่าเอาเปรียบคนเขาแย่เลยน่ะสิ”

คนรอบข้างพอได้ฟังแล้ว ก็หันมองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้

สีหน้าแปลกประหลาดไม่น้อย

มีแค่ถังลั่วเหยาคนเดียว ที่ไม่ขยับเขยื้อนอะไรตั้งแต่แรก

เพราะว่าเธอรู้ ว่าตู๋กูยิงยังไม่ได้เริ่ม จะรีบร้อนไปทำไม?

เป็นอย่างที่คิดไว้ ตู๋กูยิงหัวเราะออกมา แล้วก็พูดขึ้นต่อ“แต่ผลลัพธ์กลับคิดไม่ถึงว่าพอมาแล้ว เห็นคนที่อยู่ในบ้านนี้ ดันเป็นเธอนี่เอง เธอว่ามันเหนือความคาดหมายไหม?”

ถังลั่วเหยายิ้มนิ่งๆ ดึงสองมือที่ถูกตู๋กูยิงกุมเอาไว้กลับมาอย่างสีหน้านิ่งๆ

“ที่เหนือความคาดหมายของคุณป้าคืออะไรหรอคะ? ผู้หญิงที่เฟิงยี่เลี้ยงก็คือหนูอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าฉันหนูต่ำถึงขนาดที่ว่าต้องให้ผู้ชายมาเลี้ยง?”

น้ำเสียงของเธอไหลลื่น พอคำสุดท้ายก็ขึ้นเสียงสูงนิดๆ แฝงไปด้วยความเยาะเย้ย

สีหน้าของตู๋กูยิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ว่าไม่นานก็กลับมาเหมือนเดิม

ถึงยังไง เธอก็เป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงตระกูลร่ำรวยมาตั้งครึ่งชีวิตแล้ว จะให้มาช็อกตกใจกับคำพูดแค่ไม่กี่คำนี้เหรอ?

เป็นอย่างที่คิดไว้ ได้ยินเธอหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดขึ้น“ลั่วเหยา ทำไมเธอคิดกับป้าของเธอแบบนี้ล่ะ? ฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ? เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของเธอกับตระกูลของพวกเราไม่ต้องพูดถึงก่อน แต่เธอ เธอก็เป็นเด็กที่ฉันเห็นมาตั้งแต่เด็กจนโต แม้ว่าต่อมาเธอกับแม่ของเธอจะจากเมืองหลวงไปสิบกว่าปีแล้ว ความรักใคร่ซึ่งกันและกันนี้ ฉันไม่เคยลืมเลย!”

เธอพูดพลาง ถอนหายใจออกมา

“เธอไม่รู้ ว่าหลายปีมานี้ ฉันเอาแต่เป็นกังวลพี่ยี่ของเธอขนาดไหน สมัยยังเด็กเธอกับเขาสนิทกันขนาดนั้น แทบจะเป็นพี่น้องกันเลยด้วยซ้ำ เธอน่าจะเข้าใจอารมณ์ของเขา ใช่ไหม?”

คำว่า“พี่น้อง”ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันอึ้งตะลึง

สีหน้าของถังลั่วเหยาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย มองไปยังตู๋กูยิง พร้อมกับพูดขึ้นอย่างเย็นชา“ป้าเฟิงพูดเป็นเล่นไป หนูมีดีอะไรที่จะไปเป็นถึงพี่น้องของคุณชายรองเฟิงอย่างนั้นเหรอคะ”

ความหมายของเธอก็คือ เธอไม่ยอมรับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องของเธอกับเฟิงยี่

แต่กลับไม่คาดคิด ว่าพอตู๋กูยิงได้ฟังแล้ว จะหัวเราะออกมา

“เธอนี่ ทำไมถึงถ่อมตัวขนาดนี้ล่ะ? ฉันก็แค่พูดไปแบบนั้นแหละ เธอพูดเหมือนกับว่าพวกเราเป็นพวกเลือกปฏิบัติเห็นแก่เงินอย่างไรอย่างนั้นเลย”

พูดพลาง จู่ๆก็หยิบสร้อยข้อมือออกมาจากในกระเป๋า

“แต่ไหนๆเธอก็พูดขนาดนี้แล้ว ว่าไปแล้วในตอนนั้นฉันก็ชื่นชมพ่อของเธอนะ ในเมื่อตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว ถ้าอย่างนับจากนี้ไปฉันก็จะดูแลเธอเป็นอย่างดีแทนเขาเอง เธอก็ไม่ต้องมองพวกเราเป็นคนอื่นคนไกลอีกแล้ว เธอกับเสี่ยวยี่เติบโตมาด้วยกัน ฉันก็ถือว่าเธอเป็นลูกสาวบุญธรรมก็แล้วกัน แล้วก็ไม่ได้ทำเกินไปด้วย จากนี้ไปเวลาเธอเจอฉัน ก็ไม่ต้องเรียกป้าอีกแล้วนะ เรียกว่าแม่ก็แล้วกัน”

ถังลั่วเหยาสีหน้าเปลี่ยนไป

คิดที่จะดึงมือกลับมา

แต่ มือกลับถูกตู๋กูยิงกุมเอาไว้อย่างแรง

เธอยิ้มพลาง ค่อยๆใส่สร้อยข้อมือนั่นให้กับถังลั่วเหยาทีละนิดๆ พร้อมกับพูดยิ้มๆ“ฉันน่ะนะ อยากมีลูกสาวมาโดยตลอด แต่ท้องมันดันเกเรเกิดลูกชายมาให้ เกิดออกมาสองคนก็ยังเป็นลูกชาย ตอนนี้ดีหน่อย ในที่สุดฉันก็มีลูกสาวแล้ว จากนี้เธอกับเสี่ยวยี่ก็จะเป็นพี่น้องกันจริงๆแล้ว ถ้าใครกล้ารังแกเธอ บอกแม่ได้เลย แม่จะช่วยเธอจัดการพวกมันเอง สร้อยมือเส้นนี้ ฉันสวมมันมาตลอด ก็ถือซะว่าเป็นของรับขวัญก็แล้วกันนะ”

ถังลั่วเหยาโกรธจนตัวสั่น สีหน้าซีดขาว

วิธีการนี้ของตู๋กูยิง เรียกได้ว่าดูมีคุณค่าสง่างาม

แล้วก็เรียกได้ว่าเป็นการฆ่าคนทางอ้อมเช่นเดียวกัน แล้วมันก็ไม่เกินไปกว่านี้

พี่น้องอะไร? ลูกสาวบุญธรรมอะไร?

มันก็แค่เป็นการคิดหาวิธีต่างๆนานามาเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเฟิงยี่ชัดเจนเท่านั้น

ถามดูว่า ถ้าวันนี้เธอยอมรับสถานภาพลูกสาวบุญธรรมนี้ล่ะก็ แสดงว่าในอนาคตถ้าเธอจะคบกับเฟิงยี่จริงๆ จะให้พูดยังไง?

การร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องเหรอ?

ถังลั่วเหยาคิดไม่ถึงว่า จิตใจของตู๋กูยิงจะโหดเหี้ยมได้ถึงขั้นนี้

พอเห็นว่าสวมสร้อยข้อมือเรียบร้อยแล้ว ตู๋กูยิงจึงปล่อยมือเธอ ยิ้มอย่างพออกพอใจ

“ดูสิ ฉันบอกแล้วว่าสร้อยข้อมือนี้เธอใส่แล้วดูดีมาก เป็นอย่างที่คิดไว้เลย ลั่วเหยา เรียกฉันว่าแม่หน่อยสิ!”

จริงๆแล้ว ที่ตู๋กูยิงทำแบบนี้ ก็ถือว่าไว้หน้าไว้ตาให้กับเธอแล้ว

ความหมายคร่าวๆก็คือ ถ้าเธอรู้สถานการณ์ในตอนนี้ล่ะก็ ต่อให้เธอไม่ใช่ลูกสาวบุญธรรมของเธอจริงๆ แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ฉีกกระชากหน้ามากนัก

ทุกคนล้วนรู้กัน รู้อยู่แก่ใจ เธอไม่เหมาะกับตระกูลเฟิงของพวกเรา ฉันก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เธอลำบากใจ

ถ้าเธอรู้ตัวว่ามันยากลำบากก็ถอยไปซะ จากนี้ไปอย่ามาเกาะแกะเฟิงยี่อีกก็พอแล้ว

แล้วฉันก็จะไม่หักหน้าเธอต่อหน้าคนนอก ท้ายที่สุดก็เล่นซะจนทุกคนล้วนแต่มีสีหน้าดูไม่ได้กันทั้งนั้น

แน่นอนว่าถังลั่วเหยารู้ความคิดของตู๋กูยิงเป็นอย่างดี

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset