วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 639 เขาหึงหวง

เฟิงยี่ได้หันไปมองเธอ และทำฮึดฮัดจมูกพร้อมกับอารมณ์ไม่พอใจ

“คุณยังเห็นผมอยู่เหรอ ผมก็คิดว่าในสายตาของคุณมีแต่คนอื่นไม่มีผมเลย!”

มือของถังลั่วเหยาที่กำลังแก้ผ้าพันคออยู่ก็ชะงัก แล้วมองเขาด้วยความมึนงง

สมองเธอว่างเปล่าเป็นเวลาหลายวินาที พึ่งจะรู้ตัวว่าเขานั้นหึงอยู่

เธอไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง

“แล้วนี่คุณหึงเรื่องอะไรเนี่ย?”

เฟิงยี่ย่นจมูกและไม่พูดอะไร

หลังจากที่ถังลั่วเหยาแก้ผ้าพันคอเรียบร้อย ก็เดินไป นั่งยองๆ และเอามือวางบนเข่าแล้วมองหน้าเขาใกล้ๆ

พอเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของเขา ยิ้มเยาะและกล่าว : “ฉันก็แค่ร่วมกินอาหารเย็นกับพนักงานเอง แล้วก็ดื่มเยอะไปหน่อย ทำไมคุณถึงพูดอย่างนี้ละ อะไรฉันไม่เห็นคุณ?”

เฟิงยี่ชะงัก

จริง ๆ แล้วก็เข้าใจ ว่าตัวเองกำลังทำตัวงี่เง่าอยู่

แต่ความครอบครองอันดุเดือดนั้นไม่ได้ต้องการให้เขาปล่อยเธอออกไป

ไม่ชอบที่เห็นเธอก็ยิ้มสดใสใส่คนอื่นด้วย

ยิ่งไม่ชอบ ที่เธอดื่มต่อหน้าผู้ชายคนอื่น

คิดอยู่สักพักและพูดว่า “ได้ ถึงวันนี้ผมจะหึงอย่างไม่มีเหตุผล แต่ผมไม่ชอบให้ใครมามองคุณแบบนั้น เหยาเหยา คุณคงเข้าใจที่ผมพูดไปนะ ตอนนี้เพราะผมคำนึงถึงชื่อเสียงของคุณ และสัญญากับแม่ไว้จึงไม่ออกมาพูด แต่มันจะไม่เกิดขึ้นในครั้งต่อไป “

ถังลั่วเหยาฟังแล้ว ขมวดคิ้วเล็กน้อย

อันที่จริง คืนนี้ เธอก็ไม่เข้าใจคำพูดที่อ้อมค้อมไม่ชัดเจนของช่างภาพว่าหมายถึงอะไร

แต่ในแวดวงนี้ก็อย่างงี้แหละ

บางครั้ง อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะใช้วิธีที่ง่ายที่สุดของความผิดถูกชั่วดี ในการตัดสินว่าถูกหรือผิด

มีพื้นที่สีเทาอยู่มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณปฏิเสธไม่ได้และไม่สามารถปฏิเสธได้

ถังลั่วเหยาไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้กับเฟิงยี่อย่างไร

เพราะในมุมมองของเขา

ด้วยสถานะและสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตขึ้นมา เกรงว่าทั้งชีวิตของเขาคงไม่เคยประสบกับสิ่งนี้

ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยลิ้มรสชาติของการที่ต้องใช้ชีวิตอยู่โดยต้องมาดูสีหน้าคนอื่นหรอก

ท้ายที่สุด ถังลั่วเหยาก็ถอนหายใจ เดินไปข้างเขาและนั่งลง

“ขอโทษนะ ที่วันนี้ฉันไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคุณเลย คราวหน้าฉันจะใส่ใจให้มากกว่านี้”

หลังจากพูดจบ เธอก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย

แม้ว่าจะสำนึกผิดแล้ว แต่อันที่จริง สามารถฟังออกจากคำพูดได้ว่าเธอทั้งหมดหนทางและหมดแรง

เฟิงยี่รู้สึกเอ็นดูพอได้ยินมัน

ความตั้งใจเดิมของเขาไม่ใช่การมาตำหนิเธอ แต่ในฐานะที่เป็นผู้ชาย ก็ต่างมีความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวกัน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะดูผู้หญิงของตัวเองถูกรังแกแบบนี้

แต่ในทางตรงกันข้าม พวกเขาไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่มันเกินเลย

ต่อให้คุณอยากจะไปหาเรื่องเขา ก็หาเหตุผลไม่ได้อยู่ดี

เขามองไปทางถังลั่วเหยาที่เสียความรู้สึกอยู่ ยื่นมือออกมา และกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา

“เหยาเหยา คุณชอบการแสดง ถ้าอยากจะไล่ตามความฝันก็จงไปทำอย่างแน่วแน่ แต่คุณต้องจำไว้ ว่าคุณคือผู้หญิงของเฟิงยี่ เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเฟิงยี่ ในโลกนี้ไม่มีใคร สามารถรังแกคุณได้ยกเว้นฉัน และการมีชีวิตอยู่ของคุณไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับลมหายใจของใครทั้งนั้น

สิ่งที่คุณต้องการ ผมก็ให้คุณหมด ทางที่คุณจะเดิน ผมก็จะเป็นคนที่ปูทางให้เอง ผมจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด! ผมหวังว่าคุณจะอยู่เคียงข้างผม และหยุดทำให้ผมรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียคุณไปอีกเลย “

ถังลั่วเหยาถูกเขากอดในอ้อมแขนของเขาอย่างหนักแน่น

เธอสัมผัสได้ถึงความแรงและอุณหภูมิหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ของผู้ชาย

ในใจ จู่ๆก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ทำให้อ่อนตัวโดยไม่รู้สึกตัว

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เธอถึงจะค่อย ๆ เอื้อมมือออกมาและกอดเขา

เธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบา : “ฉันรู้แล้ว ฉันรับปาก”

หลังจากที่ทั้งสองคนกอดกันอย่างเงียบ ๆ อยู่พักหนึ่ง ถังลั่วเหยาก็นึกบางอย่างได้และพูดว่า: “ใช่แล้ว ฉันมีเรื่องหนึ่งจะบอกคุณ”

เฟิงยี่ปล่อยเธอ มองดูเธอแล้วถามว่า “เรื่องอะไรเหรอ?”

ถังลั่วเหยาคลี่ยิ้ม “คุณรอฉันแป๊บนะ”

พูดจบก็ลุกจากอ้อมแขนของเขา เดินไปที่ประตู

ตอนที่เธอกลับมา กระเป๋าก็ห้อยอยู่บนหิ้งที่ประตูแล้ว

เธอเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วหันหลังกลับมา

เดินไปอยู่ข้างเขา พร้อมกับนั่งลงบนโซฟา แล้วหยิบพวงกุญแจคู่หนึ่งออกจากกระเป๋า

“เมื่อตอนฉันมาที่นี่ ฉันเห็นพวงกุญแจนี้สวยดี ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าคุณมาที่นี่ด้วย ฉันเลยแอบซื้อมันมา คิดไว้ว่าจะส่งให้คุณเมื่อฉันกลับไป แต่ช่วงสองวันนี้ฉันยุ่งเกินไปจนลืมเอาให้เลย งั้นให้ตอนนี้ละกัน ”

พวงกุญแจเป็นตัวละครสองคน เด็กผู้ชายคนหนึ่ง และเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

ดูไปก็รู้ว่าเป็นคู่รักกัน

ถึงแม้ว่าไม่ใช่สิ่งของแพงๆ แต่ยังดีที่เป็นฝีมือประณีต และยังมีความรู้สึกอีกด้วย

เฟิงยี่ก็ใจอ่อนทันที

ถังลั่วเหยานำพวงกุญแจเด็กผู้ชายนั้นให้เขา ยิ้มและพูดว่า: “คุณคงไม่คิดว่ามันหน่อมแน้มเกินไปที่จะใช้สิ่งนี้หรอกนะ”

นึกถึงคุณชายรองที่สง่าผ่าเผย และบนร่างกายของเขาที่ต้องห้อยพวงกุญแจอยู่ มันดูค่อนข้างไร้สาระจริงๆ

แต่คาดไม่ถึง เฟิงยี่รับของมาโดยตรง “ไม่ไร้สาระนะ ดีออก”

เขาถือพวงกุญแจไว้ในมือของเขา มองเข้าไปใกล้ๆ แล้วมองดูพวงกุญแจของเธออีกครั้ง

แล้วจู่ๆ เขาก็เอาของตัวเองมาใส่ในมือเธอ แล้วเอาพวงกุญแจเด็กผู้หญิงในมือเธอไป

ถังลั่วเหยาอึ้งอยู่สักพัก แล้วถามว่า : “คุณทำอะไรน่ะ? นั่นของฉันนะ”

ไม่คาดคิด ว่าเฟิงยี่จะนำพวงกุญแจเด็กผู้หญิงนั่น เอามาห้อยใส่กับกุญแจรถ

เขาเอาพวงกุญแจเด็กผู้ชายใส่ในมือของเธอ แล้วพูดว่า: “ในเมื่อมันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก แน่นอนผมก็ต้องห้อยของคุณ และคุณก็ต้องห้อยของผม ไม่อย่างนั้นต่างคนต่างห้อยมันจะไปมีความหมายอะไร?”

ถังลั่วเหยาสตั้นไปสักพัก พอคิดดูแล้ว มันก็เป็นเรื่องจริง

แต่……

เธอเหลือบมองกุญแจรถสปอร์ตมูลค่าหลายสิบล้านในมือเขา แล้วหุบยิ้มทันที

“คุณไม่คิดว่ามันลดเกรดของคุณจริงๆเหรอ? “

เฟิงยี่ยิ้ม พร้อมดึงเธอมา จับหลังศีรษะของเธอแล้วจูบปากเธอ

“ตราบใดเป็นสิ่งของที่คุณเป็นคนส่ง ผมก็ไม่รังเกียจทั้งนั้น”

คำพูดของผู้ชาย ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาทันที

ถังลั่วเหยายิ้มตาหยี แน่นอนว่าก็ไม่ยืนหยัดอีก แล้วนำพวงกุญแจเด็กผู้ชายนั้นมาห้อยใส่กุญแจของตัวเอง

ทั้งสองคนก็หวานกันอยู่ที่โซฟาสักพัก จากนั้นค่อยไปอาบน้ำแล้วนอน

พอถึงวันที่สอง ถังลั่วเหยาก็เสร็จงานตามเวลาที่กำหนด

ช่วงเย็นของวันนั้น ผู้คนก็ได้นั่งเครื่องกลับประเทศกัน

ออกมาทริปนี้ จะบอกว่านานก็ไม่นาน จะบอกว่าแป๊บเดียวมันก็ไม่

อีกเจ็ดวันก็จะเป็นการเดินทางครั้งต่อไป

ถังลั่วเหยาขอให้ซูหงช่วยเธอหาเวลาว่างออกมาสักสองสามวันเป็นพิเศษ เพื่อไปรับแม่ถังออกจากโรงพยาบาล

และยังมีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง

ก็คือเรื่องที่เคยคุยกันแล้วว่า จะไปหย่ากับเหอศื่อ แต่ก็ยังไม่ได้หย่าเลย

พอนึกถึงตรงนี้ สายตาของถังลั่วเหยาก็เย็นชาขึ้นมาทันที

ผลการสอบสวนของเหอศื่อออกมาแล้ว คดีฆาตกรรมหลายคดี และตัดสินว่ามีโทษ จะถูกพิพากษาประหารชีวิต เหลือแค่ยังไม่ได้ดำเนินการ

ถ้าเขาตายแล้ว แม่ถังที่ยังไม่ได้หย่า ก็นับแค่ว่าหย่าร้างโดยอัตโนมัติของสัมพันธภาพคู่สมรสเท่านั้น

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset