วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 646 เอาความชั่วร้ายระงับความชั่วร้าย

และก็ร้องไห้จนเหนื่อยแล้วด้วย ไม่มีอารมณ์จะร้องต่อไปอีกแล้ว

ถังลั่วเหยากลัวว่าจะกระทบต่ออารมณ์และร่างกายของเธอ จึงรีบไปรินน้ำอุ่นมาให้เธอดื่ม

ผ่านไปสักพัก ถึงถามด้วยความห่วงใย “แม่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ยังโอเคไหม ”

แม่ถังพยักหน้า “ฉันยังโอเค”

หยุดไปสักพัก ถึงมองไปที่เธอ และยิ้มอย่างดีใจว่า “วันนี้ฉันได้สมหวังความปรารถนาหลายปีมานี้ของฉันแล้ว ฉันดีจนไม่รู้จะดีอย่างไรแล้ว เมื่อกี้นี้ก็เป็นเพราะว่าดีใจเกินไปถึงเป็นเช่นนี้ ดังนั้นหนูไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”

ถังลั่วเหยาพยักหน้า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะปลอบประโลมว่า“แม่ ท่านมีความสุขก็ดีแล้ว ขอเพียงท่านมีความสุข ทุกอย่างล้วนคุ้มค่าแล้ว”

แม่ถังนิ่งไปชั่วครู่แล้วถาม “หนูไปทำอย่างไรถึงทำให้เหอศื่อยอมเซ็นข้อตกลงฉบับนี้”

หากจะบอกว่าถังลั่วเหยารู้จักเหอศื่อเป็นอย่างดี เธอยังจะรู้จักดีกว่าถังลั่วเหยาอีก

เธอรู้ดีว่า ชายคนนั้นพาลแค่ไหน

ตอนนี้เขาถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว ซ้ายหรือขวาก็แค่เรื่องความตาย หากก่อนจะตายก็ยังมิวายสามารถทำให้เธอสองคนแม่ลูกทุกข์ใจได้บ้าง เขาจะต้องทำแน่นอนอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น ในความคิดของเธอ เหอศื่อจะต้องไม่ตอบตกลงหย่อย่างง่ายๆหรอก

ความจริงก็เป็นไปอย่างที่เธอคาดไว้

แต่ว่า บนโลกใบนี้ เขาลูกหนึ่งย่อมสูงกว่าเขาอีกลูกอยู่เสมอ

ถังลั่วเหยาเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ทัณฑสถานในวันนี้ให้แม่ถังฟัง

หลังจากที่แม่ถังฟังจบ ก็ชะงักงันอยู่ตรงนั้น ครู่หนึ่ง เธอก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้

“โชคดีที่หนูสามารถคิดได้ว่าใช้เรื่องนี้มาข่มขู่เขาได้”

ถังลั่วเหยายิ้มอย่างได้ใจ

“แน่นอนอยู่แล้ว คนเช่นเขา รักตัวกลัวตาย ยิ่งทำดีกับเขา เขายิ่งจะเหยียบจมูกขึ้นไปอยู่บนหัว การจะจัดการกับคนประเภทนี้ ต้องใช้ฝีมือที่โหดเหี้ยม เขากลัวเจ็บที่สุดไม่ใช่หรือ ถ้าเขาไม่เซ็น หนูก็จะไม่ให้เขาตาย จัดคนไปเฝ้าเขาทุกวัน หากลงแดง ก็ให้อด ตอนว่างๆก็หาคนไปทุบตีสักสองที ไม่ต้องตีให้ตาย ตีปานตายก็พอ ให้เขาได้ลิ้มรสของความเจ็บปวดของการตายทั้งเป็นบ้าง”

แม่ถังยิ้มกล่าว “ลำบากหนูแล้ว”

เธอรู้ว่ถังลั่วเหยาเป็นคนอย่างไร หากไม่ใช่เพื่อตัวเอง ที่จริงเธอก็ทำเรื่องเช่นนี้ออกมาไม่ได้

ถังลั่วเหยาถอนหายใจเฮือก

ยื่นมือออกมา จับมือแม่ไว้

“แม่ ท่านจะพูดกับหนูอะไรพวกลำบากแล้ว ขอบคุณ ขอโทษอะไรพวกนี้ตลอด หนูเป็นลูกสาวของท่านนะ ท่านเลี้ยงหนูมาตั้งแต่เล็กจนโต ในช่วงที่ชีวิตลำบากเช่นนั้น และยังปกป้องหนูอย่างดี ไม่ให้หนูถูกตีแม้แต่น้อย และก็ไม่ให้หนูได้รับอันตรายแม้แต่น้อย ที่จริงหนูควรจะขอบคุณท่านถึงจะถูก”

เธอรู้สึกว่า สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดบนโลกคือการที่เธอต้องเผชิญกับพ่อเลี้ยงชั่วเช่นนี้ แต่นอกเหนือจากความลำบากในชีวิตแล้ว ร่างกายกลับไม่เคยได้รับอันตรายใดๆเลย

เหอศื่อเคยทุบตีแม่ถัง แต่กลับไม่กล้าตีเธอ

เพราะว่าแม่ถังเคยถือมีดยืนอยู่หน้าเหอศื่อแล้วพูดว่า เขาจะทำอย่างไรกับตัวเองนั้นไม่เป็นไร

แต่หากกล้าเตะต้องแม้เพียงเส้นผมของลูกสาว เธอก็จะคิดหาวิธี ตายไปพร้อมกับเขา

แค่คิดก็รู้ได้ว่า ช่วงหลายปีมานี้ แม่ถังรักลูกสาวคนเดียวของตัวเองแค่ไหน

และเหอศื่อ ก็เพราะท่าทางกล้าได้กล้าเสียเช่นนี้ของแม่ถัง ในที่สุดถึงไม่กล้าก้าวๆสุดท้ายออกมา

ส่วนที่ทำร้ายถังลั่วเหยาในเวลาต่อมานั้น ก็จะเป็นช่วงหลังจากที่แม่ถังป่วยไม่สบาย แล้วเป็นช่วงหลังจากที่ถังลั่วเหยาออกมาหางานทำเอง

แต่เมื่อใดก็ตามที่คิดถึงเรื่องพวกนี้ ถังลั่วเหยาก็รู้สึกตื้นตันไปหมด

ทั้งสองนั่งคุยกันต่อสักพักหนึ่ง จนกระทั่งเวลาใกล้พลบค่ำ ถึงลงมาชั้นล่างทานข้าวกัน

วันรุ่งขึ้น ถังลั่วเหยากังวลว่าแม่อยู่บ้านจะเบื่อได้ ดังนั้นจึงพาเธอออกไปเดินช็อปปิ้ง

แม้ว่าร่างกายของแม่ถังยังไม่ฟื้นดี แต่ก็ไม่กระทบกับการออกจากบ้านแล้ว

ขอเพียงระวังไม่ต้องเหนื่อยเกิน ออกจากบ้านไปทำกิจกรรมตามเหมาะสม จะเป็นผลดีต่อการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและจิตใจของเธอ

บวกกับ ตอนนี้หย่าแล้ว ได้หลุดพ้นความสัมพันธ์กับเหอศื่อคนชั่วคนนั้นอย่างสิ้นเชิงแล้ว

แม่ถังอารมณ์ดีมาก และก็ต้องการออกจากบ้านไปเดินเล่นด้วย

ดังนั้นเมื่อทั้งสองรวมกัน ก็เตรียมพร้อมที่จะไปเดินช้อปปิ้งย่านธุรกิจบริเวณใกล้เคียง

พวกผู้หญิงเดินช้อปปิ้ง แน่นอนว่าเฟิงยี่ไม่ค่อยเหมาะสมกับกิจกรรมดังกล่าว

ดังนั้น ตั้งแต่เช้า ก็ออกจากบ้านไปทำงานอย่างรู้ตัวดี

แค่บอกกับพวกเธอว่า คืนนี้ให้พวกเธอรอตัวเองมารับพวกเธอ ไปทานข้าวด้วยกันแล้วค่อยกลับบ้าน

แม่ถังกับถังลั่วเหยาก็ยินดีที่ให้เขาพาตัวเองไปกินของอร่อยในคืนนี้ ดังนั้นจึงรับปากเต็มคำ

หลังจากที่ทั้งสองออกจากบ้านแล้วก็ไปไทม์สแควร์ที่ใกล้ที่สุด

ทั้งไทม์สแควร์ล้วนเป็นห้างสรรพสินค้าในเครือลู่ซื่อกรุ๊ป

ตอนนี้ความเป็นพลเมืองแห่งชาติของถังลั่วเหยาสูงเช่นนี้ ที่จริงการเดินช้อปปิ้งไม่ค่อยสะดวกนัก

แต่ยังดีที่มีห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ในไทม์สแควร์ ขายแบรนด์ใหญ่สั่งทำทั้งหมด คนปกติน้อยคนนักที่จะไปเดินช้อปปิ้งทางนั้น คนที่ไปทางนั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกดาราดังหรือเซเลบระดับไฮเอนด์คนมีเงินรุ่นที่สองหรือพวกผู้หญิงไฮโซประมาณนั้น

ดังนั้น ไปช้อปปิ้งทางนั้นจะสะดวกกว่า

บวกกับการรักษาความปลอดภัยทางนั้นค่อนข้างเข้มงวด แม้จะพบเจอแฟนคลับจำนวนน้อย แต่ทุกคนก็จะมีสติกันมาก อย่างมากก็แค่ทักทาย ถ่ายรูปโพสต์บนweiboอย่างเงียบๆ

หรือไม่ก็อาจจะมาขอลายเซ็นก็พอแล้ว พวกที่บ้าคลั่งเกินไปนั้นไม่มี

และยังมีอีกอย่างก็คือ แฟนคลับของดาราหญิง ปกติแล้วมักจะมีเหตุผล

ต่างจากแฟนคลับไอดอลชาย เวลาไล่ตามดาราขึ้นมา บ้าคลั่งจนทำให้คนกลัว

ถังลั่วเหยาเคยเห็นกับตาว่าแฟนคลับผู้หญิงคนหนึ่งของเซ่เซียว คอยติดตามความเป็นไปของเขาทุกวัน ตั้งแต่ที่ถ่ายทำจนถึงโรงแรม ตั้งแต่โรงแรมจนถึงบ้าน แทบจะไม่คลาดจากสายตาเธอเลย

พบเจอแบบนี้ ก็ค่อนข้างปวดหัวเหมือนกัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ตีไม่ได้ด่าไม่ได้ เป็นบุคคลสาธารณะ หากจัดการไม่ดีจะทำให้เกิดความคิดเห็นที่ไม่ดีได้ง่าย

ดังนั้น ดาราชายจะลำบากกว่าดาราหญิง ก็ตรงจุดนี้แหละ

ถังลั่วเหยาพาคุณแม่เดินช้อปปิ้งไปทีละร้าน

สภาพแวดล้อมที่นี่เงียบสงบ ไม่พลุ่งพล่านเหมือนห้างสรรพสินค้าบางแห่ง แต่ข้อเสียอย่างเดียวคือ ของแพงเกินไป

แม้ว่าถังลั่วเหยาในตอนนี้ จะรับได้กับราคาพวกนี้

ตามสถานะทางสังคมของเธอในตอนนี้ สามารถมีปัญญาซื้อสิ่งของทั้งหมดพวกนี้ได้อยู่แล้ว

แต่แม่ถังไม่เหมือนกัน

เธอชินกับการประหยัดมาตั้งแต่เล็กจนโต ยังไม่พูดถึงช่วงสิบกว่าปีหลังจากที่แต่งงานกับเหอศื่อก่อน ก็คือตอนที่พ่อถังยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่พวกเขาทั้งครอบครัวทำงานภายใต้การดูแลของคุณท่านเฟิง แม่ถังก็ไม่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเลยสักครั้ง

เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างจะหัวโบราณ สนับสนุนสามี สั่งสอนลูก ขยันและประหยัดอดออม นี่เป็นสิ่งที่ฝังเข้าไปในไขกระดูกของเธอแล้ว

เพราะฉะนั้น แม้ว่าตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ได้ดีขึ้นมากแล้วก็ตาม ถังลั่วเหยาก็สามารถหาเงินได้แล้ว เธอก็ยังยากต่อการเปลี่ยนความเคยชินของการประหยัดนี้

เมื่อมองดูป้ายราคาเสื้อผ้าพวกนั้น ที่ตัวเลขห้าหลักขึ้นไปหรือเกินหกหลักขึ้นไปแล้ว แม่ถังก็ส่ายหัวตลอด

“เหยาเหยา เราไม่ต้องเดินแล้ว ฉันรู้สึกว่าในบ้านเราก็มีเสื้อผ้ามากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อพวกนี้อีก”

เธอฝืนยิ้ม กล่าวอย่างลำบากใจเล็กน้อย

ถังลั่วเหยาก็ทำอะไรไม่ถูก

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset