วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 654 ไร้ความสามารถ

“จนกระทั่งวันนี้ที่ได้มาที่บ้านของตระกูลเฟิงฉันถึงได้รู้ บางอย่าง ก็เป็นผลมาจากอคติภายในใจ ที่หยั่งรากลึกจนไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้”

เธอหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบแก้วไวน์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา หันหน้าไปพูดกับเฟิงสิงลังอย่างเอาจริงเอาจังว่า “ถ้าเป็นกรณีนี้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพยายามอีกต่อไป ขอบคุณสำหรับที่ลุงเฟิงพูดก่อนหน้านี้นะคะ ฉันเชื่อว่าพ่อของฉันที่ฟังอยู่บนสวรรค์จะต้องรู้สึกได้ถึงคำปลอบโยนนั้นแน่นอน ส่วนเรื่องอื่น ๆ คุณลุงไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ “

หลังจากพูดจบ เธอก็กระดกไวน์ทั้งหมดในแก้ว

เฟิงซิงหลังขมวดคิ้วแน่น

แต่ท้ายที่สุด เขาก็ถอนหายใจออกมา

เขาหยิบแก้วไวน์ตรงหน้าเขา และดื่มรวดเดียวหมด

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ “ฉันรู้ คุณเป็นเด็กดี ยิงยิงเธอ…”

เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เกิดภาพสีสลับซับซ้อนปรากฏขึ้นในตา จากนั้นเขาก็ส่ายหัวให้ภาพเหล่านั้นหายไป

“ลืมมันไปเถอะ อย่าพูดถึงมันเลย พวกเธอกินกันต่อเลย เดี๋ยวฉันจะไปดูให้”

พูดจบเขาก็ลุกจากที่นั่งไป

งานเลี้ยงอาหารค่ำดี ๆ ถูกทำให้วุ่นวาย คนที่เหลือก็ไม่มีกะจิตกะใจจะกินต่อไป

เฟิงยี่เสียใจที่เขาเชื่อคำพูดของเฟิงสิงลัง พาถังลั่วเหยากลับบ้าน ทำให้เธอต้องเผชิญกับความคับข้องใจโดยใช่เหตุ

ที่สำคัญก็คือ เขารู้ดีว่า เหตุผลที่ถังลั่วเหยาพูดในตอนสุดท้าย ไม่ใช่เพียงเพราะตู๋กูยิงทำให้เธออับอาย

แต่เป็นเพราะว่า หล่อนพูดถึงแม่ของเธอ

สำหรับผู้เป็นลูกนั้น สิ่งที่แย่ที่สุดคือ การที่เห็นพ่อแม่ถูกดูถูกเหยียดหยามโดยที่ต้นเหตุเป็นเพราะตัวเอง

แม้ว่าสิ่งที่ตู๋กูยิงโดนไปวันนี้ เทียบไม่ได้เลยกับการที่คุณถังโดนดูถูก

แต่การดูถูกเหยียดหยามจากคำพูดแย่ ๆ เหล่านั้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกได้

เชื่อว่าถ้าเป็นหนุ่มสาวเลือดร้อน จะอดทนต่อคำพูดและกิริยาเช่นนั้นไม่ได้แน่นอน

ทุกคนกินข้าวต่ออย่างเงียบ ๆ หลังจากกินเสร็จก็ลุกไปจากโต๊ะ

เฟิงยี่ไม่ค้างที่บ้านของตระกูลเฟิง หลังจากกินเสร็จ เขาก็พาถังลั่วเหยาออกไป

ระหว่างทางกลับบ้าน เขาใช้มือหนึ่งขับรถ อีกมือหนึ่งกุมมือถังลั่วเหยาไว้

ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไร

ในรถมีบรรยากาศที่เงียบและสงบ

มืออีกข้างหนึ่งของถังลั่วเหยาวางบนหน้าต่างรถ เธอเท้าคางพลางมองไปนอกกระจกรถ

ลมเย็นพัดมาในค่ำคืนฤดูหนาว ผมที่ถูกลมพัดปลิวมาปรกบนหน้าผากของเธอ มีความงามที่สิ้นหวังและยุ่งเหยิง

ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยมานานเท่าไหร่แล้ว ในที่สุดเฟิงยี่ก็หมดความอดทน

เขาพูดเบา ๆ ว่า “ลมกลางคืนมันเย็นนะ ระวังจะไม่สบาย”

พูดจบ ก็ปิดกระจก

ใบหน้าและมือที่โดนลมของถังลั่วเหยาเย็นจนชา แต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้ไม่ชอบความรู้สึกนี้ บางครั้งเธอกลับชอบมันด้วยซ้ำ

บางทีอากาศเย็น ๆ แบบนี้ ก็ทำให้สมองของเธอรู้สึกตื่นตัว ไม่จมดิ่งไปกับอารมณ์

เธอหันมองเฟิงยี่

“คุณว่า เพราะอะไรแม่ของคุณถึงได้จงเกลียดจงชังฉันขนาดนั้น?”

ความจริงนี่คือสิ่งที่เธอไม่เข้าใจมาโดยตลอด

ตอนที่ยังเป็นเด็กรู้ว่าหล่อนไม่ชอบเธอ คงเป็นเพราะครอบครัวถังมีฐานะต่ำกว่า ไม่คู่ควรกับตระกูลเฟิง

แต่ว่าตอนนี้ เธอใช้ความมุมานะพยายาม จนกลายมาเป็นนักแสดงนำในวงการบันเทิง

ในแง่ของฐานะทางสังคม รายได้ และอิทธิพล สิ่งเหล่านี้ไม่มีที่ติเลย

แม้ว่าเธอจะไม่ได้เลิศเลอเท่าลูกสาวของผู้มีชื่อเสียงของตระกูลใหญ่เหล่านั้น แต่เธอจะไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่คู่ควรกับตระกูลแน่นอน

มิหนำซ้ำ ในตอนนี้เธอก็เพิ่งจะอายุเพียง 23 ปี

หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ตราบใดที่เธอตั้งใจทำงานต่อไป อนาคตของเธอจะสดใสแน่นอน

ทำไมตู๋กูยิงต้องเกลียดเธอมากขนาดนั้น เกลียดขนาดที่แม้แต่โอกาสเพียงครั้งเดียวก็ไม่ให้?

เฟิงยี่ได้ยินคำถามนั้น ก็ได้แต่เงียบ

ความจริงคำตอบของคำถามนี้ แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้

ที่ตู๋กูยิงแสดงออกถึงเจตนาร้าย ดูเหมือนจะไม่มีที่มา เกิดขึ้นจากเพียงอากาศบาง ๆ

เมื่อคิดแบบนั้น เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ คิ้วของเขาเริ่มขมวดเล็กน้อย

เขาพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “ทุกคนต่างมีความชอบของตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนอื่นหรอก”

เขาพูดต่อว่า “ไม่ว่าหล่อนจะคิดอย่างไร พวกเราสองคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขก็เพียงพอแล้ว”

ถังลั่วเหยาชำเลืองมองเขาด้วยความเงียบสงัด และสังเกตว่าเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และยิ้มให้เธอ

“เป็นเพราะว่าฉันเอง เป็นคนทำให้ที่ผ่านมาคุณต้องลำบากใจไม่ใช่เหรอ?”

เฟิงยี่ยักคิ้วไปมา

ถังลั่วเหยาหัวเราะชอบใจ แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้น นำมาซึ่งความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

เธอหันกลับไป สายตามองทอดไปข้างหน้า เธอไม่ได้มองไปที่ใดที่หนึ่ง แต่สายตาคู่นั้นกลับจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเลื่อนลอย

“ก่อนนั้นฉันคิดมาตลอดว่า เพียงแค่ฉันมุ่งมั่นพากเพียรทำงานหนัก ก็จะทำให้ผู้คนชอบฉันได้ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ถึงฉันจะขยันเพียงใด ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบฉัน เฟิงยี่ สมมติว่ามีวันหนึ่ง แม่ของคุณบังคับให้คุณจำเป็นต้องเลือกระหว่างหล่อนกับฉัน ถ้าเกิดว่าคุณเลือกหล่อน เลือกตระกูลนั้น ฉันก็จะไม่ว่าคุณสักคำเลย จริง ๆ นะ”

ทันทีที่เสียงลดลง ใบหน้าของชายคนนั้นก็สลดลง

เขากุมมือเธอไว้ เสียงทุ้มต่ำเอ่ย “จะไม่มีวันนั้นหรอก”

เพียงชั่วครู่ น้ำเสียงเขาหนักแน่นขึ้น “ฉันสัญญา จะไม่มีวันนั้นแน่นอน ”

ถังลั่วเหยารู้สึกได้ถึงสีหน้าที่จริงจังของผู้ชายคนนั้น และหลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที เธอก็ยิ้ม “ตกลงค่ะ ฉันเชื่อคุณ”

รถเคลื่อนไปไม่นาน ก็ถึงบ้านแล้ว

ทั้งสองลงจากรถ ก่อนที่พวกเขาเดินจูงมือกันเข้าไปในบ้าน

เหล่าคนใช้ตระเตรียมซุป ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาดื่มซุปร้อน ๆ เพื่ออบอุ่นร่างกาย ก่อนจะขึ้นไปพักผ่อนชั้นบน

ตารางเวลางานและการพักผ่อนของถังค่อนข้างจะเข้มงวดมีกฎระเบียบ แต่นี่ก็สี่ทุ่มแล้ว ถ้าเป็นปกติเธอคงผล็อยหลับไปแล้ว

ถังลั่วเหยานวดคลึงไหล่ที่ปวดเมื่อยของเธอ และถามว่า “อีกครึ่งเดือนจะฉลองตรุษจีนไหม”

เฟิงยี่ตกตะลึง เมื่อชำเลืองมองดูเวลาบนโทรศัพท์ และดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น

เขายิ้มร่า และเดินไปกอดถังลั่วเหยา ดึงเธอให้นั่งลงบนตักของเขา

แล้วถามว่า “ตรุษจีนปีนี้ คุณอยากจะฉลองอย่างไร?”

ถังลั่วเหยาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวเป็นนัยว่าเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน

เฟิงยี่ยิ้ม และเอื้อมมือออกไปขยี้จมูกเล็ก ๆ ของเธออย่างเบามือ

“อย่างไรแล้วแม่ก็อยู่นี่ เมื่อถึงเวลานั้นเราหาที่เที่ยวกันสักที่ไหม?”

สายตาของถังลั่วเหยาเป็นประกายอย่างมีความหวัง

“จริงเหรอคะ?”

แต่ไม่นานเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็เจื่อนลง

“แต่ว่าคุณไม่ต้องกลับบ้านไปหาพ่อแม่…”

เฟิงยี่ส่ายหน้า

เขากุมมือเธอ แล้วพูดว่า “พวกเขายังมีพี่คนโตอยู่”

ใช่แล้ว พวกเขายังมีเฟิงเหยี่ยน แม้ว่าเฟิงยี่จะไม่อยู่บ้าน แต่ครอบครัวของเฟิงจะไม่เงียบเหงา

แต่ถังลั่วเหยามีเพียงแต่เขาเท่านั้นจริง ๆ

ถ้าเขาไม่อยู่ ฝั่งนี้คงเงียบเหงาเป็นแน่

ถังลั่วเหยารู้ว่าเขากำลังคิดอะไร และเธอก็รู้สึกซาบซึ้งในหัวใจของเธอ เธอเหยียดแขนโอบรอบคอของเขา และจูบเบา ๆ ที่ แก้มหนึ่งที

“ขอบคุณนะคะ”

เฟิงอี้ยิ้มด้วยความเอ็นดู

“ในเมื่อคุณต้องการขอบคุณฉัน คุณไม่ควรแสดงความจริงใจด้วยหรือ?”

ถังลั่วเหยาตะลึงงัน ถามด้วยความไม่รู้ว่า “ความจริงใจอะไรคะ?”

เฟิงยี่พูดอย่างเคร่งขรึม: “เหยาเหยาเราแต่งงานกันมาก็ตั้งนานแล้ว ฉันยังไม่เคยได้ยินคุณเรียกผมว่าสามีเลย

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset