วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 66 ขอโทษเธอ

บทที่ 66 ขอโทษเธอ

“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้? ยังไม่รีบขอโทษคุณลู่และคุณมู่อีก?”

หนิวลี่ลี่ถึงจะได้สติกลับมา

ถึงแม้จะรู้สึกไม่พอใจ ถึงแม้จะยังคงเกลียดจิ่งหนิงเข้ากระดูกดำ ทว่าเธอเข้าใจดี ลู่จิ่งเซินไม่ใช่คนที่ควรไปผิดใจด้วย

ดังนั้น เธอจึงขอโทษอย่างไม่พอใจ “ขอโทษค่ะคุณลู่”

ลู่จิ่งเซินเลิกคิ้วขึ้น

“ผมไม่ได้รู้สึกว่าการขอโทษของคุณหนิวนั้นมาจากใจจริง”

หนิวลี่ลี่จึงกำนิ้วมือให้แน่น

ครั้งแรกที่เธอเห็นผู้ชายที่เป็นบุคคลไม่ธรรมในตำนานก็ขายขี้หน้าขนาดนี้ก็คงไม่เป็นไร แต่ทำไมต้องขายหน้าต่อหน้าจิ่งหนิง

ความรู้สึกไม่พอใจและความเคียดแค้นใจอย่างมากเข้าไปภายใต้จิตใจ และหลังจากที่ได้สัมผัสถึงสายตาที่เยือกเย็นของลู่จิ่งเซิน จึงต้องอดกลั้นอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไว้

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดขึ้นอีกรอบ “ขอโทษค่ะคุณลู่ ดิฉันผิดไปแล้ว”

“ขอโทษใคร?”

“ลู่……” หนิวลี่ลี่ได้สติกลับมา แล้วมองจิ่งหนิงอย่างไม่พอใจ “ขอโทษคุณจิ่งคะ”

จิ่งหนิงกระตุกมุมปากขึ้น

“เมื่อกี้เธอพูดว่ายังไงนะ? ฉันไม่ได้ยิน รบกวนพูดดังอีกหน่อย”

หนิวลี่ลี่ “…….”

ลู่จิ่งเซินจึงกระตุกมุมปากขึ้นอย่างมีความสุข

แล้วจับมือจิ่งหนิงไว้ ใบหน้าเคล้าด้วยความนับถือ “อืม ผมก็รู้สึกเหมือนกัน”

หนิวลี่ลี่รู้สึกประหม่า กล้าโมโหแต่ไม่กล้าพูด สุดท้ายก็ทำได้เพียงขึ้นเสียงสูง

“ขอโทษคุณจิ่งหนิง ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอประทานโทษ”

จิ่งหนิงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

“แบบนี้ถึงจะถูก!”

เธอจับหน้าของตัวเอง เมื่อเทียบกับหนิวลี่ลี่ในตอนนี้ที่แก้มบวมทั้งสองข้าง ถึงแม้ว่าหน้าของเธอจะรู้สึกเจ็บปวดจนรู้สึกร้อนเล็กน้อย ทว่าภายในใจก็ไม่ได้โกรธแล้ว

“พอเถอะ เราไปกันเถอะ!”

จิ่งหนิงจับมือของลู่จิ่งเซินแล้วพูดขึ้น

ลู่จิ่งเซินมองเธอด้วยสายตาอันลุ่มลึก “แบบนี้ก็พอแล้วหรอ?”

“อืม ถูกหมาบ้ากัดหนึ่งคำ แค่สั่งสอนหน่อยก็พอแล้ว หรือว่าคุณยังจะเรียกร้องอะไรจากหมาตัวหนึ่ง?”

ลู่จิ่งเซินถูกคำพูดของเธอทำให้รู้สึกขบขัน

” ได้ งั้นฟังคุณ”

ทั้งสองจูงมือกันแล้วเดินออกมาข้างนอก

ข้างหลัง เห้อหย่วนหางเห็นฉากๆ นี้ จึงรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย

ใครก็ไม่รู้ว่า ข้างกายลู่จิ่งเซินที่ไม่เคยมีผู้หญิง หลายปีมานี้ก็ไม่เคยได้ยินข่าวซุบซิบอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

กลับนึกไม่ถึงว่าเขากับจิ่งหนิงจะอยู่ด้วยกัน!

หนิวลี่ลี่เห็นเขาจับจ้องเรือนร่างสองร่างไว้ตลอดเวลา จึงผลักแขนของเขาด้วยความไม่พอใจ

“คุณกำลังมองอะไรอยู่?”

เห้อหย่วนหางถึงจะได้สติกลับมา

“อ่อ ไม่มีอะไร”

หนิวลี่ลี่พูดด้วยความไม่พอใจ “ฉันว่าแล้วจิ่งหนิงต้องเป็นสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์แน่นอน! ตอนนั้นเธอทำให้มู่ยั่นเจ๋อหลังจนหัวปักหัวปำ ตอนนี้กลับมาปีนป่ายคุณชายลู่ คนชั้นต่ำที่หน้าด้านจริงๆ!”

ได้ยินเธอก่นด่าไม่หยุดแบบนี้ สีหน้าของเห้อหย่วนหางก็เปลี่ยนไป

แล้วมองนัยน์ตาของเธออีกครั้ง ก็กลายเป็นสายตาที่เกิดความเกลียดชังและอดทนไม่ไหว

หนิวลี่ลี่เหมือนจะรู้ตัวว่าวันนี้ตัวเองยั้งสติไม่อยู่เกินไปจริงๆ

ต้องโทษจิ่งหนิง นางผู้หญิงชั้นต่ำ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอตั้งใจทำให้ตัวเองโมโห เธอจะแสงกิริยาแบบนี้ต่อหน้าเห้อหย่วนหางได้ยังไง?

เธอรีบทำสีหน้าที่ดูน่าสงสาร แล้วดึงแขนเสื้อของเขาด้วยความประจบ

“หย่วนหาง ฉันรู้สึกเจ็บตรงหน้ามาก คุณรีบพาฉันไปทำแผลที่โรงพยาบาลหน่อยสิ! ฉันกลัวถ้าสายกว่านี้ หน้าของฉันจะพัง”

เห้อหย่วนหางพูดด้วยเสียงเรียบ “ตอนกลางคืนผมยังมีธุระ ไม่มีเวลาไปโรงพยาบาลกับคุณ เอาบัตรใบนี้ไว้ คุณไปเองเถอะ!”

เขาพูดขึ้น แล้วเอาบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋าให้เธอ จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

หนิวลี่ลี่นิ่งงันไป จากนั้นก็รู้สึกเครียดจนควันออกหู

เห้อหย่วนหาง นี่เขาหมายความว่าอะไร?

ถ้าเธอไม่เห็นว่าเขาคือลูกชายคนเดียวของตระกูลเห้อ คนในครอบครัวก็พยายามเชียร์พวกเขาอย่างสุดกำลัง เธอจะคบกับเขาหรอ?

ตอนนี้เธอเกิดเรื่อง เขากลับยัดเยียดบัตรธนาคารหนึ่งใบให้เธอแล้วหนีงั้นหรอ?

ความโมโหของเขาถูกปลดปล่อยออกมา สุดท้ายก็เห็นเห้อหย่วนหางขึ้นรถแล้ว จากนั้นก็ขับรถออกไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย

เธอรู้สึกเครียดจนโยนบัตรธนาคารในมือทิ้ง

“ไสหัวไป! คนขี้ขลาดตาขาว แฟนของตัวเองถูกคนอื่นแล้วยังไม่กล้าพูดอะไร! ถ้าแกแน่จริงก็ไสหัวไปให้ไกลๆ แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!”

……

อีกฝั่ง จิ่งหนิงและลู่จิ่งเซินก็ขึ้นรถด้วยกัน

“ท่านประธานครับ เราจะไปไหนกันครับ? “

ลู่จิ่งเซินมองหน้าจิ่งหนิง แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไปโรงพยาบาลก่อน”

“ครับ”

จิ่งหนิงนิ่งงัน แล้วรีบพูดขึ้น “ไม่ต้องแล้วค่ะ ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องไปโรงพยาบาลค่ะ”

“ห้ามพูด”

ลู่จิ่งเซินอดไม่ได้ที่จะพูด จิ่งหนิงถูกเขาดุใส่ ทำได้เพียงปิดปากเงียบ

ผู้ชายจับหน้าของเธอไว้ แล้วมองอย่างละเอียด

แค่เห็นใบหน้าที่ขาวผ่องและเรียบเนียนในตอนแรกนั้น ตอนนี้กลับบวมขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้เห็นถึงรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้วอย่างชัดเจน

นัยน์ตาของเขาเย็นชาขึ้นมาเยอะมาก

“วันนี้คุณทำดีมาก แต่ว่าถ้าครั้งหน้ายังเจอหมาบ้าแบบนี้ ก็อย่าลงไม้ลงมือด้วยตัวเอง โทรหาผม หืม? “

จิ่งหนิงมองเขา แล้วกระตุกมุมปากขึ้น “คนอย่างหนิวลี่ลี่ ตอนมอปลายก็ชอบวางอำนาจกับนักเรียนผู้หญิงคนอื่น ผมก็นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะมาเจอเธอที่นี่ ซึ่ก……! “

ส่วนที่รู้สึกเจ็บของใบหน้าถูกนิ้วมือของลู่จิ่งเซินแตะโดน เธอจึงร้องซึ่กเบาๆ

ลู่จิ่งเซินแค่ปล่อยเธอ แล้วได้ยินเธอพูดขึ้นต่อ “เมื่อกี้คุณช่วยฉันแก้แค้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอตบฉันหนึ่งที ฉันก็ยังตบเธอคืนสองที ไม่ได้เสียเปรียบอะไร ดังนั้นคุณไม่ต้องโกรธแล้ว”

ลู่จิ่งเซินแสยะยิ้มอย่างเย็นชา

“เธอถือว่าเป็นตัวอะไรถึงมีค่าพอให้ผมโกรธ? ผมโกรธคุณ มีเรื่องอะไรไม่โทรหาผมก่อน วันนี้ยังดีที่ผมมาทัน ถ้าเกิดผมมาสายกว่านี้ ถ้าแจกันใบนั้นเขวี้ยงลงบนเรือนร่างของคุณแล้วจะทำยังไง? “

จิ่งหนิงทำนัยน์ตาเปล่งประกาย

“ไม่หรอกค่ะ ฉันต้องระวังอยู่แล้ว”

“เหอะ! “

ลู่จิ่งเซินก็ไม่ได้พูดมากอะไรอีก

สายตาจับจ้องไปยังถุงที่อยู่ข้างๆ แล้วเห็นว่าข้างในเป็นผ้าพันคอสีดำ นัยน์ตาจึงลุ่มลึกขึ้นมา

“นี่คืออะไร? “

“อ่อ นี่หรอก ซื้อให้คุณค่ะ”

จิ่งหนิงพูดไปด้วย และก็เอาผ้าพันคอออกมาด้วย “ทีแรกก็อยากจะแอบซื้อ พอถึงคริสต์มาสแล้วค่อยให้คุณ ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ ถูกคนอื่นทำลายแล้ว คุณก็รีบเอาไว้เถอะ! “

ลู่จิ่งเซินมองผ้าพันคอที่มีเนื้อผ้าอย่างดีตรงหน้า

เขามองจิ่งหนิง “คุณเกิดให้ผมโดยเฉพาะเลยหรอ? “

จิ่งหนิงพยักหน้า แล้วมองเขาอย่างคาดหวัง “เป็นยังไงบ้าง คุณชอบไหม? “

ผู้ชายกระตุกริมฝีปาก “ชอบ”

“งั้นฉันใส่ให้คุณ! “

“ได้”

ผู้ชายจึงโค้งลำตัวลงเล็กน้อย จิ่งหนิงเอาผ้าพันคอพันคอของเขา แล้วพันแบบเป็นทรงกลมที่กำลังฮอตในตอนนี้

หลังจากที่ใส่เสร็จ เธอจึงสังเกตมองอย่างละเอียดเพียงพริบตาเดียว

พอดีที่วันนี้ลู่จิ่งเซินสวมใส่เสื้อกันหนาวแบบถัก ข้างนอกปกคลุมด้วยเสื้อกันหนาวขนแกะสีดำ พอเอามาใส่ด้วยกันแบบนี้ กลับทำให้ดูพอดี

“ดูดีไหม? ” ลู่จิ่งเซินถาม

จิ่งหนิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “อืม หล่อมาก”

“ขอบคุณคุณภรรยา”

“ไม่ต้องขอบคุณ”

ข้างหน้า ซูมู่ที่กำลังขับรถอยู่ก็แอบก็ได้แอบวิพากษ์วิจารณ์ภายในใจ

อวดผัวอวดเมียออกสื่อก็ช่างเถอะ

อวดผัวอวดเมียออกสื่ออย่าแยกแยะถูกผิดอย่างชัดเจนงั้นหรอ ท่านประธาน ท่านไม่รู้สึกทรมานหรอ?

เขาติดตามข้างกายท่านประธานมานาน ทำไมถึงไม่รู้ ท่านประธานของตนเองไม่เคยใส่ผ้าพันคอชั้นดี และก็ไม่เคยผูกผ้าพันคอ?

จุ๊ ดั่งที่คาด พลังของความรัก…..

รถจึงขับไปที่โรงพยาบาลอย่างว่องไว

ลู่จิ่งเซินจึงถูกหมอทายาให้ จากนั้นก็ออกจากออฟฟิศของหมอ

เขายืนอยู่ตรงระเบียง แล้วกดเบอร์โทรออก

“ภายในหนึ่งอาทิตย์ ตระกูลหนิวต้องหายไปจากเมืองจิ้น! “

เวลาพูดคำๆ นี้ออกมา ใบหน้าที่หล่อเหลาไม่ได้อ่อนโยนเหมือนตอนอยู่กับจิ่งหนิง มีเพียงความโหดเหี้ยมและความเลือดเย็น

หลังจากที่สั่งการเสร็จ เขาก็วางสาย

แล้วก้มหน้าลง มองผ้าพันคอที่ใส่ไว้ ทันใดนั้น ก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset