วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 692 วาสนาจบสิ้นลง

“เธอไม่ยอมเชื่อในคำพูดของพ่อ พ่อเลยไม่ได้ไปสนอะไรมากมาย เพราะช่วงเวลานั้น ต้องจัดเตรียมงานแต่ง แล้วบริษัทก็พึ่งเริ่มต้น พ่อยุ่งมากจริงๆ ”

“พอมานึกดูตอนนี้แล้ว ก็เพราะตอนนั้นพ่อไม่ได้ไปสนเธอ คิดว่าเธอจะคิดได้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความหายนะต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลัง ”

เขาก็ไม่ได้พูดต่อกับหายนะที่เกินขึ้นนั้น คิดว่าคงไม่อยากพูดต่อหน้าเวินเหวินจวิน เรื่องนั้นอีกครั้ง

แต่ต่อให้ไม่พูด สองคนตรงหน้านี้คงก็เข้าใจแล้ว

ใบหน้าของเวินเหวินจวินดูน่าเกลียดชั่วขณะหนึ่ง และเฟิงเหยี่ยนก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิด

“ถ้าอย่างนี้แล้ว เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันน่ะสิ?”

เฟิงสิงลังพยักหน้า “ใช่ แต่ความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้น เพราะความไม่แน่นอนของพ่อเองแหละ อย่างไรก็ตาม มันเป็นความผิดของพ่อ พ่อไม่ดีเอง ”

เขาที่กำลังพูด ก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเหวินจวิน แล้วพูดว่า : “ผมรู้ว่าคุณอยู่เคียงข้างเธอมากว่ายี่สิบหกปี นี้ก็เป็นเหตุผลที่วันนี้ผมยอมปล่อยคุณไป ตอนนั้นผมไม่ได้พูดชัดเจนให้ทันเวลา ผมเป็นหนี้เธอ แต่ตอนนี้ได้ทดแทนในตัวของคุณ ก็ถือได้ว่าเป็นการตอบแทนความโปรดปรานนี้แล้ว ”

ใบหน้าของเวินเหวินจวินซีดเล็กน้อย และชั่วขณะหนึ่ง เขาก็กัดฟันและเยาะเย้ย

“คุณช่างพูดให้ตัวเองดูสะอาดซะจริงๆ!”

เฟิงสิงลังไม่ปริปากพูดว่าถูกหรือผิด

เขาหนื่อยแล้ว ดูเหมือนไม่อยากพัวพันกับเวินเหวินจวิน อีกต่อไป

พูดด้วยเสียงเบาๆ กับเฟิงเหยี่ยนไม่กี่คำ จากนั้นเขาก็เข็นรถเข็นด้วยตัวเอง แล้วหันกลับ

“คุณเวิน ไม่ว่าทุกอย่างจะดีหรือไม่ ปล่อยให้เรื่องในอดีตผ่านไป เธอเหลือเวลาอีกไม่กี่วันและต้องการคุณอยู่เคียงข้าง ดังนั้น…นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ผมสามารถทำเพื่อเธอได้ พวกคุณก็ดูแลตัวเองดีๆ ละกัน”

พอพูดจบ ร่างเงาก็หายไปตรงประตู

และมีบอดี้การ์ดของตัวเองส่งเขาไปที่รถ

แต่ที่ห้องนั่งเล่นนั้น พอ เวินเหวินจวิน ฟังคำพูดของเขาแล้ว แต่กลับหมดเรี่ยวแรงที่จะต้านทานอีก

เฟิงเหยี่ยนเดินไปข้างหน้าเขา นั่งลงและพูดว่า “คุณเวิน จะเอายังไงล่ะ? ตอนนี้เราไปทำเรื่องการโอนทรัพย์สิน? ” เวินเหวินจวินลืมตาขึ้นและเหลือบมองเขา แต่เขาไม่ปฏิเสธอีกต่อไป จากนั้นเขาก็ดึงตัวเองขึ้น ปล่อยให้ผู้คุ้มกันสองคนที่เข้ามาจับเขาไว้ แล้วเดินออกไปด้วยกัน

ขั้นตอนการทำเรื่องนั้นไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย แป๊บเดียวก็ทำเสร็จแล้ว

เฟิงเหยี่ยนก็ได้ปล่อยเขาไปตามสัญญา หลังจาก เวินเหวินจวิน ได้ฟังคำพูดของเฟิงสิงลังแล้ว อารมณ์ค่อนข้างซับซ้อน

เมื่อเขากลับไปที่บ้านของเขาและซูหว่าน เขาไม่ได้รีบเข้าไป แต่กลับยืนอยู่ที่สวนหลังบ้าน

มองดูประตูที่ปิดแน่นสนิทนั้น ดูเหมือนไม่กล้าจะเคาะเลย

จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังคงจำได้กับคำที่ซูหว่านเคยบอกกับเขาไว้

สิ่งที่เธอเคยน้อยใจ สิ่งที่เธอได้ทำผิดพลาด และความไม่เต็มใจกับความอดทนของเธอ

เขาพึ่งรู้จักเธอตอนช่วงอายุยี่สิบกว่าปี ตอนนั้น เธอยังไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นที่งานแต่งของตู๋กูยิงกับเฟิงสิงลัง

เขารู้สึกว่าเธอสวยสง่ามาก บริสุทธิ์มาก ไร้เดียงสาราวกับนกในหุบเขาที่ไร้ซึ่งการผูกมัด งดงามเหลือเกิน

หลงรักตั้งแต่แรกพบ แต่ตอนนั้นไม่ได้เจอกันบ่อยเท่าไหร่

เขาไม่กล้าที่จะสารภาพกับเธอ

เพราะว่า ตอนนั้นซูหว่าน ก็ยังเป็นคุณหนูรองของตระกูลตู๋กู ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกบุญธรรม แต่ใครจะไม่รับรู้ ว่าตระกูลตู๋กูเลี้ยงดูเธอเหมือนกับลูกสาวแท้ๆ คนหนึ่ง อยู่ภายนอกก็ไม่เคยให้ใครมารังแกเธอ

แล้วเขาละ?

เขาในตอนนั้นเหรอ ยังเด็กและไม่ได้ร่ำรวยเลย ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ดูธรรมดาที่สุดในโลกนี้

เขาไม่มีภูมิหลังทางครอบครัวที่ภาคภูมิใจ ไม่มีทรัพย์สินของครอบครัวที่ร่ำรวย และไม่มีความมั่นใจที่จะให้คำมั่นสัญญากับเธอตลอดชีวิต

ฉะนั้น จึงทำได้เพียงเก็บความชอบที่มีต่อเธอนั้นไว้ในใจ ไม่ยอมให้ใครรู้

จนกระทั่งถึงงานแต่ง ได้ทำเรื่องงี่เง่าวุ่นวายออกมา เขารู้เรื่องนี้โดยบังเอิญ และได้รู้ว่าคนในบ้านของตระกูลตู๋กูโกรธเคืองเธอจึงได้จมเธอพร้อมกับเรือนั้น

ยังโชคดี ที่ในตอนนั้นเธอไม่ได้จมไปกับเรือลำนั้นจริงๆ

ก็ไม่รู้ว่าเพราะด้วยอะไร เธอมีชีวิตรอดมาได้

ถึงแม้มีชีวิตอยู่รอดมาแล้ว แต่เธอในตอนนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการตายทั้งเป็น

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาได้ช่วยชีวิตเธอทันแล้วนำส่งโรงพยาบาล เกรงว่าเธอจะไม่จมทะเล เธอก็จะถูกแช่แข็งจนตายด้วยอุณหภูมิเยือกแข็งของคืนฤดูหนาว

หลังจากนั้น เขาก็ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากปากของเธอเอง

เขาปวดใจมาก โกรธเคืองมาก แต่ก็แอบมีความรู้สึกโชคดีอยู่เล็กน้อย

ปวดใจที่เธอพบเจอกับสิ่งเหล่านี้ โกรธเคืองกับการกระทำของตระกูลตู๋กูกับเฟิงสิงลังสวะนั่น โชคดีที่…..

เธอในตอนนี้ไม่ใช่ลูกสาวคนร่ำรวยของตระกูลตู๋กูอีกต่อไป เธอตัวคนเดียว ไม่มีที่พึ่งพาอาศัย สิ่งหนึ่งที่สามารถพึ่งพาได้ก็มีแต่เขาเท่านั้นแหละ

เพราะฉะนั้น เขาถือโอกาสนี้กลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดของเธอไป พาเธอออกต่างประเทศ ดูแลและช่วยชีวิตของเธอ

เขากลายเป็นคนที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของเธอไปแล้ว และเธอก็ดูเหมือนจะรู้ซึ้งถึงความในใจของเขา

แต่ผ่านมาแล้วหลายปี ก็ไม่เคยจะตอบตกเลยสักครั้ง

เวินเหวินจวินยืนอยู่ตรงนั้น คิดในใจกับเรื่องราวของตลอดหลายปี ไม่รู้ว่าควรรู้สึกเศร้าหรือเสียใจชั่วขณะหนึ่ง เธอโกหกตัวเอง!

ท้ายที่สุด เรื่องราวในตอนนั้น ถึงแม้ว่าเฟิงสิงลังก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบด้วย แต่มันก็ไม่ได้เป็นในแบบที่เธอพูดซะหมด

จากคำพูดของเธอนั้น เฟิงสิงลังเป็นคนเข้าหาเธอก่อน หลอกลวงความรู้สึกของเธอ และเหยียบเรือสองแคม

พี่สาวเธอที่บ้านของพ่อแม่บุญธรรมนั้น เพราะอิจฉาเธอ กังวลว่าสักวันเธอจะแย่งสามีของตนเองไป จึงได้จมเรือพร้อมเธอไป แต่ในความเป็นจริงละ?

ความจริงคือตัวเธอเองไม่ยอมเชื่อ พวกเขานั้นเป็นคู่ครองอยู่แล้ว เธอเองต่างหากที่เป็นคนที่สาม

เธอไม่ยอมเชื่อ ไม่ใช่พี่สาวของตัวเองที่ต้องการให้เธอจมเรือ แต่เป็นความโกรธเคืองของพ่อแม่บุญธรรมที่รักเธอมานานหลายปีนั้นหลังจากได้รู้เรื่องราวทั้งหมดนี้

คนในตระกูลตู๋กู เป็นผู้ศรัทธาแบบไหน?

ตอนที่รักคุณ สามารถยกคุณให้ขึ้นฟ้าได้เลย แต่ถ้าไม่รักแล้ว คุณก็เหมือนโคลนที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของตัวเอง

พวกเขาไม่มีความเมตตาใดๆ ทั้งนั้น แต่เป็นพี่สาวที่ชั่วร้ายและชั่วร้ายจากปากของเธอเอง ที่ได้ปิดบังพ่อแม่เธอและช่วยชีวิตเธอไว้

และหลายปีที่ผ่านมา เธอก็ไม่เคยกลับประเทศเลย ก็คงไม่ใช่เพราะคำสัญญาที่มีไว้กับพี่สาวหรอก

แต่เป็นเพราะผู้อาวุโสสองคนของตระกูลตู๋กูเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว

เธอกลับมาตอนนี้ เลยไม่มีใครมาตามติดเรื่องราวในตอนนั้นแล้ว

เป็นการวางแผนที่ดีจริงๆ……เป็นการวางแผน……ที่เยือกเย็นเหลือเกิน!

เวินเหวินจวินได้ยืนอยู่ข้างนอกนานพอควร แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะเคาะประตูที่คุ้นเคยนั้นเลย

ในที่สุด เขาก็หันหลังก้าวเดินอย่างมั่นคงออกไปช้าๆ

สรรพสิ่ง​ในโลกล้วนไม่เที่ยง พบหรือพรากนั้นสุดแต่วาสนา ทุกสิ่งเป็นเพียงฝันร้ายในใจของตัวเองทั้งนั้น

ตอนนี้ ความฝันตื่นขึ้น ทุกอย่างจบลงแล้ว

……

ซูหว่านได้ฝันถึงเรื่องหนึ่ง

ในฝัน เธอเหมือนได้กลับไปตอนเด็กอีกครั้ง

ตัวน้อยๆ ของเธอนั้น ได้นอนอยู่บนเตียงเล็ก ๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คุณป้าที่เป็นหัวหน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่อ่อนโยนนั้นเข้ามาตรวจวัดอุณหภูมิของเธอและพูดว่า “ไข้เพิ่งลดลง พักผ่อนให้ดีๆ ละ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset