วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 701 ตอบรับข้อเสนอ

กู้ซือเฉียน “…”

ราวกับว่านั่นคือคำสั่งจากเธอ เขาเงียบลง

ผ่านไปนาน เขาก็หัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา

น้ำเสียงที่เย็นชาแต่แฝงไปด้วยการหยอกล้อ “น้องเซเว่นโตขึ้นแล้ว และก็ได้เรียนรู้สิ่งเลวร้ายจากคนอื่นมาด้วย”

จิ่งหนิงชะงักไป

ไม่รู้ว่าทำไม คน ๆ นี้เมื่อยิ่งรู้ว่าเธอเกลียดที่เขาพูดแบบนี้มากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งทำ

เสมือนว่าโดยธรรมชาติเขาชอบขัดเธอเป็นปกติอยู่แล้ว

เธอขมวดคิ้วย่น เริ่มปวดหัว

“กู้ซือเฉียน คุณเชื่อหรือไม่ว่าฉันจะกลับประเทศทันที ไม่ทำข้อตกลงแล้ว! พวกเรามาสู้กันให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย แล้วเราจะเลิกรากันในนัดเดียว!”

กู้ซือเฉียนที่หัวเราะเสียงต่ำอยู่อีกฝั่ง “ตัวเองได้เรียนรู้สิ่งไม่ดีจากคนอื่นมากมาย ยังพูดด้วยไม่ถูกคนอีกเหรอ?”

หลังจากหยุดชั่วครู่ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะโกรธแล้วจริงๆ อีกฝ่ายจึงหยุดทันที และเปลี่ยนเรื่องคุย

“โอเค ผมรับปาก ตราบใดที่คุณช่วยให้ผมชนะการแข่งขัน Flying ในครั้งนี้ ผมจะบอกคุณทุกอย่างที่ผมรู้เมื่อเก้าปีที่แล้ว””

จิ่งหนิงถอนหายใจอย่างโล่งอก

“โอเค ตกลง”

“ตกลงตามนี้”

หลังจากตกลงกับกู้ซือเฉียนเรียบร้อยแล้ว จิ่งหนิงก็วางสาย

เธอยันตัวลุกขึ้นและเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว ก่อนที่จะเดินไปที่ระเบียงด้านนอก ทอดสายตาดูบรรยากาศยามค่ำคืนที่สว่างสดใสของเมืองหลิน หรี่ตาลงเล็กน้อย

เก้าปีแล้วสินะ!

นับจากครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ อีกเพียงหกเดือนกว่า ก็จะครบสิบปีพอดี

และเธอ จากเด็กผู้หญิงวัยสิบแปดปีในวันนั้น ได้กลายมาเป็นคุณแม่ลูกสองในวันนี้

เรื่องนั้นยังคงเป็นความสงสัยที่ติดอยู่ในใจเธอ ซึ่งตลอดมานั้นไม่เคยพบคำตอบ

จิ่งหนิงไม่เคยลืม วันนั้นเมื่อเก้าปีที่แล้ว เธอตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงผ่าตัดสีขาวดูแปลกตา

ข้าง ๆ คือกู้ซือเฉียนและตาK

พวกเขามองเธอ และบอกเธอว่า เธอถูกพวกเขาช่วยขึ้นมาจากทะเล

ร่างกายของเธอบาดเจ็บสาหัส แพทย์ใช้เวลาหลายชั่วโมง ในการผ่าตัดให้เธอ เธออยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมา

จิ่งหนิงพยายามอย่างมากที่จะนึกเหตุการณ์ทุกอย่างก่อนหน้านี้

แต่เธอนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก

ความทรงจำเหมือนมีใครมาขุดหลุมใหญ่ ๆ ไว้ตรงกลาง สิ่งเดียวที่เธอจำได้ คือเหตุการณ์ตอนที่เธออยู่ในประเทศ

เกิดอะไรขึ้นหลังจากมาถึงประเทศFเธอจำไม่ได้เลย

ระยะเวลาการเดินทางมาประเทศFใช้เวลาไปทั้งสิ้นสามเดือน

สามเดือน เพียงพอแล้วสำหรับที่จะมีหลากหลายสิ่งเกิดขึ้น แต่ความทรงจำนี้ดูเหมือนจะหายไปจากจิตใจของเธอราวกับอากาศที่บางเบา

เธอไม่รู้ว่าตัวเองไปที่ไหน ทำอะไร ประสบพบเจออะไรมาบ้าง

เช่นเดียวกับตึกสูง ที่ชั้นตรงกลางของตึกอยู่ ๆ ก็หายไป

แม้ว่าตอนนี้จะดูปลอดภัยดี แต่ลึก ๆ ในใจเธอ เหตุการณ์นี้ก็เหมือนกับระเบิดเวลา ซึ่งอาจระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

ดังนั้น เธอจึงอยากทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน

จิ่งหนิงหลับตาลง ปล่อยให้ลมกลางคืนพัดมากระทบหน้าใบหน้า สัมผัสได้ถึงความเย็นสบาย

ผ่านไปนาน จึงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความชัดเจน

จากนั้น ก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน

วันรุ่งขึ้น

แม้ว่าเมื่อคืนจิ่งหนิงจะนอนดึก ทว่ากลับตื่นเช้า

โม่หนานเคาะประตูแล้วเข้ามา เธอลุกจากเตียงแล้ว และกำลังอาบน้ำอยู่

เมื่อเห็นว่าหล่อนเข้ามา จิ่งหนิงจึงบอกให้หล่อนนั่งรอก่อน หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา ถามหล่อนว่า “เมื่อคืนนอนหลับสบายไหม?”

โม่หนานยิ้ม “สบายมากค่ะ ที่นี่เงียบสงัดไม่มีเสียงรบกวน ใช้ได้เลย”

จิ่งหนิงหัวเราะชอบใจ ล้วงมือหยิบของใช้จำเป็นสำหรับวันนี้ออกมาจากกระเป๋า พูดว่า “พวกเราไปกินอาหารเช้า กินเสร็จแล้วค่อยไปที่สนามฝึก ”

“อื้ม”

โม่หนานพยักหน้าอย่างหนักแน่น

หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็เดินออกไป

ตามปกติก็จะกินอาหารในห้องอาหารของโรงแรมบนชั้นสอง

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว ทั้งสองก็ตรงไปที่สนามฝึก

แผนกต้อนรับยังคงเป็นคนเดิมที่กับที่มาต้อนรับพวกเธอเมื่อวานนี้ และเมื่อเห็นจิ่งหนิง ดวงตาของเขาก็สว่างสดใสขึ้น

“สวัสดีครับจิ่งหนิง คุณมาแล้ว ”

จิ่งหนิงยิ้มรับพร้อมพยักหน้า พูดว่า “ฉันต้องการรถคันเมื่อวานนี้”

“ได้เลยครับ”

คู่สนทนาพบกุญแจแล้วยื่นให้เธอ ทันใดนั้นก็ยิ้มบางอย่างเขิน ๆ “เอ่อ… ขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม?”

จิ่งหนิงเลิกคิ้ว “ว่ามาเลย”

“คือว่า…คุณจะเซ็นลายเซ็นให้ผมได้ไหมครับ?”

จากนั้น เขาก็หยิบปากกาและสมุดบันทึกออกมา

จิ่งหนิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่ได้คาดคิดว่า สิ่งที่เขาต้องการจะถามคือคำถามนี้

เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ฉันก็ไม่ใช่ดาราดัง คุณมาขอลายเซ็นฉันไปทำไมคะ?”

ถึงจะพูดอย่างนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ กลับหยิบสมุดและปากกาขึ้นมา ขยับมือเซ็นอย่างไม่รีบร้อน

อีกฝ่ายเกาหัวด้วยความเขินอาย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงตอนนี้จะไม่ใช่ แต่ผมก็รู้สึกว่าในอนาคต คุณต้องได้เป็นแน่ อย่างน้อยก็เป็นดาราแห่งวงการรถแข่ง อย่าทำเหมือนผมไม่รู้เลย ผมดูออก พวกคุณมาที่นี่เพราะการแข่งขัน Flying ครั้งนี้ใช่ไหมล่ะ?

ดูจากความสามารถของคุณ อย่างไรก็สามารถคว้าที่หนึ่งได้อย่างแน่ ๆ ได้รางวัลชนะเลิศเมื่อไหร่ ก็ถือว่าเป็นดาราแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าอยากขอเซ็น ก็กลัวจะไม่ง่ายเหมือนตอนนี้ ดังนั้นผมก็เลยชิงขอลายเซ็นไว้ก่อน “

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นปรมาจารย์ภาษาจีน สามารถใช้สำนวนได้อย่างคล่องแคล่ว

จิ่งหนิงพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปครู่หนึ่ง แต่ว่าที่เธอมาในครั้งนี้ ก็ไม่ได้คิดที่จะหลบ ๆ ซ่อน ๆ

ดังนั้น เธอก็พยักหน้ายอมรับอย่างไม่ปิดบัง “คุณทายถูก เรามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน”

ด้วยเหตุนี้ เธอตวัดปากกาสองสามทีเซ็นชื่อ แล้วจึงส่งสมุดและปากกาคืนให้เขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อวยพรให้ฉันด้วยนะ รอฉันได้ชัยชนะจริง ๆ จะมาขอบคุณคุณอีกครั้ง”

อีกฝ่ายยิ้มอย่างเขินอายและพยักหน้าหนักแน่น

จากนั้น ก็มองดูพวกเธอเดินไปที่สนามซ้อม

ภารกิจที่จิ่งหนิงมอบหมายให้ตัวเองในวันนี้ คือฝึกฝนเป็นเวลาแปดชั่วโมง พยายามฝึกการเลี้ยวเข้าโค้งให้ออกมาดีที่สุด

โม่หนานยังคงเฝ้าสังเกตการณ์จากข้างสนาม คอยยื่นน้ำและผ้าเช็ดหน้าให้ตลอดทาง

หลังจากซ้อมจนถึงเวลาเที่ยงตรง ทั้งสองก็พักกินข้าวกลางวันที่นี่ พักสองชั่วโมง และฝึกต่อในตอนบ่าย

ยอมรับว่าเป็นเพราะช่วงบ่ายค่อนข้างว่าง เจ้าหน้าที่ที่มาต้อนรับพวกเธอก่อนหน้านี้ ก็รีบวิ่งมา

นั่งดูข้าง ๆ โม่หนาน

“พวกคุณมาจากประเทศจีนใช่ไหม” เขาถาม

โม่หนานหันหน้าไปชำเลืองมองเขาแล้วพยักหน้า “ใช่”

ชายคนนั้นยิ้ม “แม่ของฉันก็เป็นคนประเทศจีนเหมือนกัน เราเลยเป็นลูกครึ่ง”

โม่หนานตกตะลึง เธอประหลาดใจเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ฉันได้มองดูเขาอย่างละเอียด พบว่ามีสายเลือดของบรรพบุรุษชาวประเทศจีนอยู่ในคิ้วและตาของเขา เธอก็พยักหน้ากับตัวเองในสิ่งที่เธอเพิ่งตระหนักได้

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”

เธอเป็นคนคุยไม่เก่ง และกับคนที่ไม่คุ้นเคยก็ยิ่งคุยไม่เก่ง ดังนั้นคำตอบจึงค่อนข้างสั้นและห้วน ๆ

ถ้าตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าบทสนทนานี้จะดำเนินต่อไปไม่ได้

แต่เห็นได้ชัดว่าพนักงานคนนี้ ไม่ใช่คนแบบนั้น

แม้ว่าเธอและ Sam จะมีความคล่องแคล่วและความไหลลื่นของการพูดที่แตกต่างกัน แต่ถ้ามาอยู่ด้วยกันพวกเขาก็ช่างพูดทั้งคู่

แม้ว่าโม่หนานจะเย็นชานัก เขาก็ไม่สนใจและพูดว่า “จริง ๆ แล้ว ผมรู้จักเพื่อนของคุณ ที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ มันไม่ถูก หล่อนไม่ต้องรอหรอก หล่อนคือดาราดังใช่ไหม?”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset