วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 713 เด็กกลุ่มหนึ่ง

เธอดูสภาพของตนเองในตอนนี้ ก็น่าจะปลอดภัยชั่วขณะแล้ว แต่ว่าโม่หนานเป็นอย่างไรบ้างเธอไม่รู้เลย

เธอรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย กลัวว่าโม่หนานจะเกิดเรื่อง

หญิงวัยกลางคนนิ่งพลางมองไปที่เธอครู่หนึ่ง

เมื่อเห็นสีหน้าที่รีบร้อนของเธอ จึงพูดขึ้นเพียงว่า:“งั้นก็ได้ พรุ่งนี้จะให้คนไปดูที่บ้าน หากสะดวกฉันจะให้คนพาเธอมาที่นี่”

จิ่งหนิงรีบพูดขึ้นว่า:“ถ้างั้นให้ฉันไปกับพวกเขาเถอะค่ะ!”

รอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนจางลงไม่น้อย พลางถามอย่างฝืนยิ้ม​ว่า:“สาวน้อย คุณยังไม่วางใจเรื่องอะไรอยู่เหรอคะ?พวกเราช่วยคุณและก็ยังก็ช่วยเพื่อนของคุณด้วย ไม่คิดร้ายกับพวกคุณสักหน่อย พวกคุณเจอกันช้าสองวัน คุณกลัวว่าพวกเราจะกลืนกินเพื่อนของคุณงั้นเหรอ?”

จู่ๆเธอก็เปลี่ยนความคิดอย่างฉับพลัน ทำให้จิ่งหนิงตะลึงงัน

ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอล่วงเกินอะไรเขา

แต่อยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่น จำเป็นต้องก้มหัว จิ่งหนิงคงพูดอะไรมากไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมรับปาก สุดท้ายก็ทำได้เพียงละความพยายามอย่างจนใจ

เมื่อหญิงวัยกลางคนเห็นเช่นนั้น จึงปลอบใจเธอ

“คุณก็อย่าเสียใจไปเลย เพราะหมู่บ้านที่ลุงสี่อาศัยอยู่ไม่ยอมให้คนนอกเข้าง่ายๆ การที่พวกเขายอมช่วยเหลือเพื่อนของคุณ ก็ถือเป็นความโชคดีของพวกคุณแล้ว หากเป็นช่วงเวลาปกติ ไม่มีทางที่จะช่วยเหลือคนนอกอย่างแน่นอน”

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว รู้สึกว่าคำพูดนี้แปลกๆ

แต่หญิงวัยกลางคนกลับไม่ได้ให้เวลาเธอได้ครุ่นคิด เมื่อพูดจบก็ออกไป

เธอออกไปข้างนอกไม่นาน เมื่อกำชับกับพวกเขาแล้วก็เดินกลับมา

“ฉันพูดกับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว คุณวางใจเถอะ พรุ่งนี้จะมีคนไปดูว่าใช่เพื่อนของคุณไหม ใช่แล้วคุณชื่ออะไรเหรอคะ?ฉันจะได้บอกพวกเขาถูก รูปถ่ายของพวกคุณก็ไม่มี คงยากที่จะบอกได้ว่าใช่หรือไม่”

จิ่งหนิงเม้มริมฝีปาก และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ยอมพูดชื่อออกมา

พูดเพียงชื่อที่โม่หนานรู้เพียงคนเดียว

“ฉันชื่อเสี่ยวชี”

หญิงวัยกลางคนตะลึงงัน ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า:“นี่คงเป็นชื่อเล่นใช่ไหม?ได้ ไม่เป็นไร ฉันจะไปบอกกับพวกเขา เมื่อถึงเวลานั้นหากหล่อนเป็นเพื่อนของคุณจริงๆ ฉันค่อยให้คนพาหล่อนมาหาคุณ”

เมื่อพูดจบ ก็ออกไป

จิ่งหนิงนั่งอยู่ที่นั้น รอจนกว่าหล่อนจะกำชับอยู่ที่ด้านนอกเสร็จ แล้วถึงเดินกลับมาก

หญิงวัยกลางคนพูดกับเธอว่า:“ดึกแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนที่ห้องเมื่อสักครู่นี้เถอะ มีเรื่องอะไรรอไว้พรุ่งนี้ฟ้าสว่างแล้วค่อยว่ากัน”

จิ่งหนิงพยักหน้า และไม่ได้ให้หล่อนพยุง เธอใช้มือพิงที่ผนังแล้วเดินกลับห้องด้วยตนเอง

ท้องฟ้ามืดสนิท เธอเอนตัวลงนอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมา ยากที่จะหลับได้

ด้านนอกห้องมีเสียงร้องของแมลงอย่างชัดเจน ซึ่งจะต้องเป็นชนบทเท่านั้นจึงจะได้ยินเสียงนี้

จิ่งหนิงได้กลิ่นของความชื้นที่ซ่อนอยู่ในผ้าห่ม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ในใจถึงได้รู้สึกถึงความไม่สบายใจ

แต่ว่าในเวลานี้ เธอคิดมากไปก็ไม่เกิดประโยชน์

ไม่รู้ว่าตอนนี้โม่หนานเป็นยังไงบ้าง อยู่ที่นั้นได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หวังเพียงแต่ว่าอย่าได้เจอกับคนเหล่านั้นเลย

เมื่อคิดเช่นนี้ เธอหลับตาลง แต่เนื่องจากตอนกลางวันร่างกายถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง แม้ว่าจะยังไม่อยากนอน ยังพยายามที่จะเตือนตนเองให้มีสติ แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงกลางดึก เธอก็อดไม่ได้ที่จะนอนหลับไป

วันรุ่งขึ้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเช้าแล้ว

จิ่งหนิงลืมตาขึ้นมา ก็เห็นเด็กหน้าตามอมแมมกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าเตียงของเธอ

เธอรู้สึกตกใจ และลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างอัตโนมัติ

“พวกคุณ……”

“ซิซิ——”

เด็กกลุ่มนั้นน่าจะเป็นเด็กที่อยู่ในหมู่บ้าน เมื่อเห็นเธอก็ไม่รู้สึกกลัว ทำเพียงยิ้มระรื่นมองไปที่เธอ

จิ่งหนิงถูกพวกเขาจ้องมอง สายตาของพวกเขาเผยความไร้เดียงสาออกมา เมื่อสังเกตเห็นว่าพวกเขาไม่ได้มีประสงค์ร้ายอะไร อาจเป็นเพียงเพราะอยากรู้อยากเห็น ไม่นานเธอก็ค่อยๆคลายความกังวลลง

เธอเองก็เป็นแม่คน ดังนั้นจึงมีความรู้สึกใกล้ชิดกับเด็ก ๆ เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว

ดังนั้นจึงถามขึ้นมาว่า:“พวกคุณมาทำอะไรที่นี่?ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”

เด็กเหล่านั้นต่างเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ตอบคำถามของเธอ

มีเพียงหนึ่งในนั้นที่ดูเหมือนอายุเยอะพูดขึ้นว่า:“ป้าอะฮัวให้พวกเรามาดูแลคุณ ตอนนี้……”

เขาถอยหลังออกไปดู ทะลุผ่านหน้าต่างมองไปยังทิศทางของดวงอาทิตย์ จากนั้นพูดขึ้นว่า:“น่าจะประมาณเก้าโมงเช้าแล้วซินะ”

จิ่งหนิง:“……”

ที่นี่ไม่น่าจะไม่มีแม้แต่นาฬิกาหรือนาฬิกาข้อมือใช่ไหม!

เธอก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าในใจรู้สึกอย่างไร แม้ว่าจะรู้ว่าบนโลกใบนี้มีสถานที่ที่ยากจน แต่ก็ไม่คิดว่าจะยากจนถึงขั้นนี้

เธอเปิดผ้าห่มออกแล้วนั่งลง

“ป้าอะฮัวก็คือพี่สาวที่ช่วยฉันไว้เมื่อวานคนนั้นใช่ไหม?ตอนนี้หล่อนอยู่ที่ไหนล่ะ?”

“หล่อนขึ้นเขาไปแล้ว ตอนกลางวันถึงจะกลับมา!คุณจะไปไหน?”

เมื่อจิ่งหนิงสวมเสื้อคลุมเสร็จ อยากที่จะออกไปล้างหน้า เมื่อได้ยินว่าเด็กพวกนั้นพูดว่าหล่อนจะกลับมาตอนกลางวัน ก็ตะลึงงันชั่วขณะ

เธอหันกลับมามองเด็กเหล่านั้น เอ่ยถามเด็กที่ตอบคำถามเธอว่า “เมื่อวานตอนกลางคืนป้าอะฮัวรับปากฉันว่าจะส่งคนไปหมู่บ้านข้างๆเพื่อดูเพื่อนของฉัน พวกเขาออกเดินทางกันหรือยัง?”

เด็กน้อยเบิกตากว้าง ไม่นานก็พยักหน้า

“ออกเดินทางแล้ว ออกไปตั้งแต่เช้าตรู่ คุณรอก่อนเถอะ เดี๋ยวตอนบ่ายพวกเขาก็กลับมา”

ทำให้ใจของจิ่งหนิงหล่นลงไปที่ตาตุ่ม

คิดไปมา ก็รู้ว่าการที่มีเด็กกลุ่มใหญ่ห้อมล้อมตนเองอยู่นั้น มันรู้สึกแปลกๆ

แต่เธอก็ไม่อยากพูดอะไรมาก จึงพูดขึ้นเพียงว่า:“ถ้างั้นพวกคุณตามฉันออกมาเถอะ อย่ายืนอยู่ตรงนี้เลย”

เด็กกลุ่มนั้นจึงค่อยๆเดินตามเธอออกมา

หลังจากที่จิ่งหนิงเดินออกไปแล้ว และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ที่เธอได้เห็นหน้าตาของหมู่บ้านแห่งนี้อย่างเป็นทางการ

ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่เธอคิดไว้ เมื่อมีแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน ก็เห็นเพียงบ้านดินที่ตั้งตระหง่านอยู่ในหมู่บ้าน

ด้านหลังของบ้านแต่ละหลังล้วนใช้รั้วกั้นเป็นกำแพง แต่ว่ารั้วไม่สูงมากนัก มีไก่เป็ดห่านเดินเพ่นพ่านไปมา ข้างทางไม่รู้ว่าวัวบ้านไหนปล่อยไว้ตรงนั้น กลิ่นเหม็นของปัสสาวะของวัวฟุ้งกระจายไปทั่ว

เธอยืนอยู่บริเวณด้านหน้าของประตู ยืดเส้นยืดสายและถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

ดูแล้ว ก็ไม่ง่ายนัก

หลังจากที่เด็กกลุ่มนั้นออกมา ก็ไม่ได้เดินไปไหน แต่กลับยืนอยู่ข้างๆมองมาที่เธอ

จิ่งหนิงรู้สึกทำตัวไม่ถูก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเด็กกลุ่มนั้นยังคงไม่ห่างจากเธอ

เมื่อเห็นพวกเขายังคงมองมาที่ตนตาปริบๆ สายตานั้นทั้งแปลกประหลาดทั้งน่าสงสาร เธอคลำที่กระเป๋าเสื้อของตนเอง ไม่กลับไม่มีของกินหรือของเล่นเลย

ในความเป็นจริงแล้ว ตอนที่เธอกระโดดร่มลงมา ของที่ติดตัวก็ได้สูญหายไปจนหมดสิ้นแล้ว ในเวลานี้ก็คงไม่มาสามารถควักอะไรออกมาได้

เมื่อคิดเช่นนี้ ทำได้เพียงถามขึ้นว่า:“พวกคุณกินข้าวเช้าแล้วหรือยัง?”

“กินแล้ว”

เด็กน้อยกลุ่มนั้นต่างตอบกลับอย่างพร้อมเพรียงกัน

จิ่งหนิงลูบที่ท้องของตนเอง

“แต่ว่าฉันยังไม่ได้กินเลย”

“ป้าอะฮัวบอกว่า ถ้าคุณตื่นแล้ว ก็ทำกับข้าวกินเองเลย ในครัวมีข้าวสารอยู่”

จิ่งหนิงตะลึงงัน มองไปทางที่นิ้วมือของเขาชี้พลางถามขึ้นว่า:“นั้นคือห้องครัวเหรอ?”

“อืม”

เห็นเพียงห้องเล็กๆที่ต่ำลงมาหน่อย จิ่งหนิงครุ่นคิดแต่ในที่สุดก็เดินเข้าไป

ขณะที่เดินก็พูดขึ้นว่า:“พวกคุณกินข้าวเช้าแล้วอยากจะกินของกินเล่นหน่อยไหม?ให้ฉันทำข้าวตังให้พวกคุณกินดีไหมล่ะ?”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset