วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 758 อยู่เป็นเพื่อนกัน

แต่หัวใจของเด็กนั้น มันช่างอ่อนไหวเหลือเกิน

เฉียวฉีรู้ว่า บนโลกใบนี้ ตัวเองนั้นเป็นคนที่กังวลจนเกินจำเป็น

เธอไม่มีพ่อผู้ให้กำเนิด และถึงแม้ว่าเธอจะมีแม่ผู้ให้กำเนิด แต่หล่อนก็ดูแลเธอไม่ได้ ราวกับว่าเธอเป็นจอกแหนล่องลอยไปรอบๆ ไม่มีที่ให้หลบภัย และไม่รู้ว่าจะไปทิศทางไหน

และตอนนี้ ในที่สุดก็มีคนเต็มใจที่จะรับเลี้ยงเธอแล้ว เต็มใจซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่สวยๆ ให้เธอ และเต็มใจที่จะสอนให้เธอหัดอ่านและเขียนหนังสือ แน่นอนว่าเธอต้องการที่จะคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้แน่น และจะไม่มีวันปล่อยมันไป

ถ้าจะพูดตามตรง แม้ว่า เฉียวฉีตัวน้อย จะเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดมากแค่ไหน แต่เธอก็เป็นเด็กที่มีความรู้สึกไม่ปลอดภัย

และวิธีการเดียวที่จะทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย นั่นคือการทำให้เธอรู้สึกว่า เธอไม่ใช่คนไร้ประโยชน์

ไม่ใช่คนที่เอาแต่รับ และไม่ยอมให้อะไรกลับคืน และเป็นคนที่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น

แต่ ท่านผู้อำนวยการจะมองไม่เห็นถึงความคิดลึกๆ ของเธออย่างนั้นหรือ?

เขาทั้งรู้สึกทุกข์ใจและหมดหนทาง แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการแบบนี้ของเฉียวฉีแต่เขาก็รู้ว่า นี่เป็นวิธีการเดียวที่จะสามารถบรรเทาจิตใจของเธอได้ เพราะอย่างนั้นเขาก็เลยปล่อยให้เธอทำ

เพราะอย่างนี้ เธอก็เลยอาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจนเธออายุได้สิบแปดปี

กู้ซือเฉียนและเธอ ต่างก็อาศัยอยู่ด้วยกันมาเกือบจะสิบปีแล้ว

ในระยะเวลาสิบปีนี้ มันเป็นสิบปีที่น่าจดจำมากสำหรับ เฉียวฉี

แต่สำหรับกู้ซือเฉียน มันก็คงจะไม่ใช่ ใช่ไหม?

ถ้าให้พูดตามตรง พวกเขาทั้งสองคนเป็นคนที่ไม่มีบ้าน หรือจะพูดอีกแง่หนึ่งก็คือ พวกเขาเป็นเหมือนรากไม้สองต้นที่เกี่ยวพันกัน ดึงธาตุอาหารของกันและกัน และเติบโตไปด้วยกัน

ในช่วงเวลานั้น คนในตระกูลถังนอกจาก ถังชีชีที่เกิดออกมาลืมตาดูโลกและคุณแม่เฉียวที่มาหาเธอหลายครั้งแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครมาหาเธอเลย

เฉียวฉีไม่ได้เกลียด ถังชีชีเพราะเธอรู้ว่า ไม่ว่าเรื่องนี้มันจะถูกหรือผิดถังชีชีก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

หล่อนก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง และในตอนที่เธอถูกไล่ออกมาจากบ้าน หล่อนก็ยังไม่เกิด

ดังนั้นทุกครั้งที่ ถังชีชีมาหาเธอพร้อมกับอาหารอร่อยๆ เธอก็ยอมรับมันไว้ด้วยความเต็มใจ

เธอยินดีที่จะยอมรับน้ำใจจากน้องสาวคนนี้เอาไว้ และเธอก็เต็มใจที่จะรับของจากญาติของตัวเอง

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในร่างกายของพวกเธอทั้งสองคน ก็มีสายเลือดเดียวกันไหลวนอยู่ครึ่งหนึ่ง

และในเวลานั้นถังชีชีก็ยังเด็กมาก และหล่อนก็ไม่ค่อยเข้าใจความบาดหมางกันระหว่างผู้ใหญ่

และยิ่งไปกว่านั้นหล่อนก็ยิ่งไม่เข้าใจ เห็นอยู่ชัดๆ ว่า เฉียวฉีเป็นพี่สาวของหล่อน แต่ทำไมเธอถึงไม่อาศัยอยู่บ้านเดียวกับหล่อน แต่เธอกลับมาอาศัยอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า

หล่อนเคยถามใครหลายๆ คน แต่ด้วยความที่หล่อนเป็นเด็ก จึงไม่มีใครกล้าบอกความจริงกับหล่อน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ วันเวลาก็ได้ผ่านไปราวกับการไหลของสายน้ำ

ในตอนที่เธออายุได้สิบแปดปีท่านผู้อำนวยการก็ได้จากโลกนี้ไป

แต่กู้ซือเฉียนได้ออกไปจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ ไปก่อนหน้านี้สองปีแล้ว

เขาแตกต่างจาก เฉียวฉี เขาแค่มาอยู่ที่นี่เพื่อเรียน อยู่ในฐานะแขก และไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะไปจากที่นี่

สำหรับแต่ เฉียวฉีแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นบ้านที่แท้จริงของเธอ

ดังนั้น แม้ว่ากู้ซือเฉียนจะออกไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ออกไป

แต่ในกรณีนี้ ทั้งสองรู้จักกันมานานหลายปี แม้ว่าทั้งสองคนจะแยกจากกันไปแล้ว แต่มันก็ยังคงทิ้งอะไรบางอย่างที่ลบไม่ออกในใจของพวกเขา

เธอจำสิ่งที่เขาพูดกับเธอ ในตอนที่พวกเขายืนอยู่ใต้ต้นไม้ในสวน ในคืนก่อนที่พวกเขาจะจากกันได้เสมอ

เขาพูดกับเธอว่า “เฉียวฉีเธอไปกับฉันไหม?”

เธอมองไปที่เขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ส่ายหัวและพูดออกไปเบาๆ ว่า “ฉันขอโทษ ฉันไปกับคุณไม่ได้”

ใช่ เธอไม่สามารถไปกับเขาได้

แม้ว่าท่านผู้อำนวยการจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ก็ยังคงอยู่

หลังจากที่เขารับเธอมาเลี้ยง เธอก็เติบโตขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยภายใต้การดูแลคุ้มครองของเขา เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่สามารถที่จะทิ้งเด็กๆ ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ไปได้

ไม่ใช่ว่ากู้ซือเฉียนไม่เข้าใจเหตุผลของเธอ

เพียงแต่ว่า เขาก็มีสิ่งที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จ เพราะอย่างนั้นเขาจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ โลกเล็กๆ ใบนี้กับเธอได้ตลอดไป

ดังนั้น สุดท้ายแล้วเขาก็จากไป

แต่ก่อนที่เขาจะไป เขาก็พูดกับเธอเอาไว้ประโยคหนึ่งว่า “หลังจากนี้ในวันข้างหน้าถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอก็มาหาฉันได้ที่ปราสาท”

เธอพยักหน้าเป็นการตอบรับ

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ออกวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้าม และไม่หันกลับมามองกันอีกเลย

ความคิดเหล่านั้นที่ซ่อนอยู่ในใจของเด็กหนุ่มและเด็กสาว พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้พูดมันออกไปเลย

หลังจากนั้นสองปีต่อมา พวกเขาก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง

หมู่บ้านถูกรื้อถอน สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าถูกย้ายออกไป และมีผู้ดูแลใหม่เข้ามา

เฉียวฉีไม่จำเป็นต้องอยู่ดูแลพวกเด็กๆ ต่อจากท่านผู้อำนวยการอีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงออกจากไปที่นั่น

เธอเข้าร่วมกลุ่มมังกรโดยบังเอิญ เธอเข้าร่วมกับพวกเขา และหลังจากที่เธอได้ฝึกฝนแล้ว เธอก็ได้กลายเป็นนักฆ่าที่เก่งมากคนหนึ่งในนั้น

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูอ่อนโยนเช่นนี้ ภายในจะมีคนที่สามารถส่งกระสุนทะลุเข้าไปในทรวงอกของผู้อื่นได้อย่างเยือกเย็น

ในเวลานั้น เธอไม่รู้เลยว่ากู้ซือเฉียนคือผู้ดูแลระดับสูงสุดของกลุ่มมังกร

เธอเดินเข้าไปหาเขา พร้อมกับความรู้สึกเบิกบานใจเฉพาะตัวของหญิงสาว

ทั้งสองมีช่วงเวลาพิเศษที่โรแมนติกและแสนหวาน

แต่ต่อมา เมื่อเขารู้ว่าเธอกำลังทำงานอะไรอยู่

เขาก็ต่อต้านมันเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังบังคับให้เธอออกจากกลุ่มมังกร และไม่ยอมให้เธอทำงานนั้นอีก

ในเวลานั้นเธอรู้สึกสับสน และไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต่อต้านมัน แต่นี่มันเป็นชีวิตของเธอเอง เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถและคุณสมบัติที่จะตัดสินใจ และรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง

แต่เขากลับไม่ยอม ดังนั้นทั้งสองจึงเริ่มทะเลาะกัน และช่องว่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคนก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งเมื่อเธอได้รับภารกิจหนึ่ง นั่นจึงทำให้เธอรู้ว่า ความจริงแล้ว เขาคือผู้ดูแลกลุ่มมังกร

และเหตุผลที่เขาคัดค้านเธอ ก็เป็นเพราะเขารู้ว่าสายงานนี้มันมืดมนมากเพียงใด และก็รู้ว่าทุกอย่างมันไม่ได้ง่าย เหมือนอย่างที่เห็นภายนอก

เขาหวังว่าผู้หญิงของเขา จะใสสะอาดบริสุทธิ์ สดใส และไม่มีร่องรอยของความสกปรกและมืดมิด เหมือนกับครั้งแรกที่เขาได้เจอเธอ

แต่บนโลกใบนี้ จะมีสักกี่อย่างที่สามารถเป็นไปได้อย่างที่ผู้คนต้องการ?

เธอไม่ต้องการเป็นข้าราชบริพารของใคร เธอปรารถนาที่จะแข็งแกร่ง แม้ว่าเธอจะต้องเผชิญกับลมและฝนที่ไม่มีวันสิ้นสุด หรือแม้จะต้องเผชิญกับดาบและง้าวก็ตาม

เธอหวังว่า เมื่อได้อยู่ต่อหน้าคนที่เธอชอบ เมื่อเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น เธอจะไม่ใช่คนทำให้เขาต้องเดือดร้อน แต่เธอจะเป็นคนที่แข็งแกร่งและน่าไว้วางใจข้างกายเขามากที่สุด

แต่สำหรับกู้ซือเฉียน เรื่องทั้งหมดนี้ ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย

เขาไม่ชอบให้เธอออกไปทำงานพวกนั้น และเขาไม่ชอบที่เธอเข้าร่วมกับกลุ่มมังกร

และเพื่อที่จะทำให้เธอยอมแพ้ เขาจึงใช้อำนาจของตัวเองในฐานะผู้ดูแลกลุ่มมังกร บังคับให้เธอออกจากกลุ่ม

ในเวลานั้น เฉียวฉีรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก

เธอไม่เคยเห็นใครที่ไร้เหตุผลขนาดนี้มาก่อน

และด้วยความโกรธ เธอจึงถอนตัวออกจากกลุ่มจริงๆ และไปเข้าร่วมกับกลุ่มหงส์แดงที่เป็นศัตรูกับกลุ่มมังกรในเวลานั้น

เพราะอย่างนั้นทั้งสองจึงตกอยู่ในสถานะสงครามเย็นอย่างสมบูรณ์ ความจริงแล้วเรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลย แค่วิธีการของพวกเขาแตกต่างกัน และไม่จำเป็นที่จะต้องบังคับอะไร

แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากนั้น จะมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มหงส์แดงและกลุ่มมังกร

ข้อมูลภายในของ กลุ่มมังกรถูกขโมยไป เพราะอย่างนั้นทุกคนจึงพุ่งเป้าไปที่ เฉียวฉี…

เมื่อคิดไปถึงช่วงเวลานั้น เฉียวฉีก็ค่อยๆ หลับตาลง

มีกลิ่นหอมของดอกกุ้ยฮวาลอยวนอยู่ในอากาศ พร้อมกับกลิ่นชื้นที่หอมหวาน แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกเพียงแค่ความเย็นชา

การเยาะเย้ยถากถางที่ไร้คำพูดแทรกซึมเข้ามาภายในใจของเธอ ด้วยรู้สึกความเจ็บปวดที่รัดแน่น จึงทำให้ปลายนิ้วของเธอแข็งทื่อจนเกือบจะชา

ดูเหมือนว่าถังชีชีจะไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเธอเลย และเมื่อหล่อนได้ยินเธอพูดจบ หล่อนก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset