วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 763 เป็นห่วงเล็กน้อย

เห็นแต่กู้ซือเฉียนมองดูเธอด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอในก่อนหน้านี้ ริมฝีปากบางๆ เปิดออกเบา ๆ และพูดอย่างเย็นชาว่า: “ขึ้นรถ!”

เฉียวฉีหัวเราะ

ก็ยังคงเป็นคนที่มีแต่คำลวกๆ เหมือนเดิม เพียงแต่นัยน์ตาของเขามีความเย็นชาไปหน่อย

“จะไปที่ไหน?”

กู้ซือเฉียนไม่ได้พูดอะไรมากมาย

ทันใดนั้นบรรยากาศระหว่างทั้งสองก็เงียบและแปลกมาก

แม้แต่คนขับ ก็อดไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลแทนพวกเขา

ไม่นาน ก็ได้ยินเขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ทำไมเหรอ? กลัวผมจะฆ่าคุณเหรอ?”

“หืม!”

ทันทีที่พูดจบเฉียวฉีได้ยินก็ยิ้มเย้ยหยัน

ไม่พูดสักคำ เปิดประตูรถ แล้วก็เข้าไปนั่งลง

เสียงประตูดัง “ปัง” ประตูปิดลง และภายในรถก็เงียบลง คนขับมีสีหน้าที่ซีด และเขาไม่รู้ว่าทูนหัวทั้งสองกำลังจะทำอะไร

เขาทำได้เพียงมอง กู้ซือเฉียนอย่างสั่นเทาผ่านกระจกหลัง

แค่ฟังคำสั่งจากปากของกู้ซือเฉียน “ไปที่หุบเขามัตสึยามะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น คนขับก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และสตาร์ทรถ

ในขณะนี้ ที่ชั้นบนในหอพัก ถังชีชีมองดูรถโรลส์-รอยซ์สีดำที่กำลังจะขับไป พร้อมกับขมวดคิ้วอย่างกังวล

เธอพึ่งจะกลับมา และยังคงรู้สึกว่า เฉียวฉีออกไปข้างนอกในเวลานี้มันก็ยังแปลก ๆ เดิมทีคือแค่จะไปตากเสื้อผ้าที่ระเบียง แต่เธอไม่คิดว่า จะเห็นฉากที่เธอเดินเข้ารถคันนั้นไป

สำหรับเฉียวฉีที่ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อหลายปีที่แล้ว ถังชีชีไม่ค่อยเข้าใจ และเฉียวฉีก็ไม่เคยจะบอกเธอเลย

แต่ว่า เธอรู้สึกเลือนรางเล็กน้อยได้ว่า เฉียวฉีกำลังทำเรื่องที่ค่อนข้างอันตรายอยู่

ดังนั้น ในตอนนั้น เธอก็ได้รับข่าวการฆาตกรรมของเฉียวฉี และข่าวที่โดนจับกุม นอกจากความโศกเศร้าแล้ว เธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากไปกว่านี้

เธอก็ไม่ใช่ไม่เคยคิด ที่จะไปสืบหาเรื่องราวคดีของเฉียวฉีนั้น

แต่เจ้าหน้าที่ก็ปฏิเสธที่จะพูด และเฉียวฉีเองก็ไม่ยอมพูดเช่นกัน รู้แค่เพียงตอนที่ถูกตัดสินจำคุกของเธอ

ฉะนั้น เธอก็เลยไม่รู้จะไปสืบหาจากไหน ก็ไม่ได้ถามเพิ่มเติมอีกต่อไป

ณ ตอนนี้ เธอพึ่งจะออกมาจากคุก ทั้งๆ ที่ตัวเธอเองก็ไม่มีที่พึ่งพา แต่ตอนนี้กลับถูกรถหรูๆ คันรับตัวเธอไป

ก็ไม่รู้ว่า จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า แล้วคนในรถคันนั้นจะเป็นใครกันแน่

มองจากมุมมองที่เห็นแก่ตัวแล้ว ถังชีชีไม่ต้องการให้ เฉียวฉีกลับไปที่เดินเส้นทางเก่าๆ ของเธออีก แล้วทำเหมือนเมื่อก่อนอีก หลังจากที่เธอออกจากคุกแล้ว

เธอไม่ได้โง่เขลาเบาปัญญา โตมาถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้เฉียวฉีในตอนนั้นจะปิดบังได้ดีแค่ไหน บางครั้งก็มีบางสิ่ง ที่ไม่สามารถปิดบังดวงตาของเธอได้

เธอรู้พอสมควรว่าเธอกำลังจะทำอะไร ก็เพราะเหตุผลนี้ ถึงได้หวังหลังจากที่เธอออกมา ว่าเธอจะล้างมือในอ่างทองคำ เลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวบุญคุณความแค้นต่างๆ เรียนรู้บทเรียน และไม่ทำผิดพลาดอีก

แต่ว่าตอนนี้ เธอเหมือนจะกลับไปติดต่อกับคนเหล่านั้นอีก

ถังชีชีรู้ตัวเองดีว่าตัวเองไม่มีสถานะและไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปห้ามเฉียวฉีได้ แต่เธอก็ยังเป็นห่วงเธออยู่ดี

พอนึกถึงจุดนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

แต่ไม่ว่าจะยังไง ณ เวลานี้ ก็ไม่มีวิธีอะไรที่จะไปห้ามได้เลย

ทำได้เพียงรอเธอกลับมาแล้วค่อยว่ากันเท่านั้นเอง

ขณะที่ถังชีชีกำลังพูด ก็ได้หันหลังแล้วเดินเข้าห้องไป

และอีกด้านหนึ่ง ในรถ

บรรยากาศอึมครึมมาก ขับรถจากที่นี่ไปหุบเขามัตสึยามะใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

คนขับรถน่าจะพอเดาได้ ว่าหัวหน้าใหญ่พาผู้หญิงคนนี้ไปที่นั่นเพื่ออะไร

แต่ก็เพราะว่าเขารู้ ในใจจึงได้กลัวกว่าเดิม

ในฐานะคนเดียวที่เหลือไม่มาก ที่ได้เห็นการต่อสู้เมื่อสี่ปีก่อนด้วยสายตาของตนเอง เขารู้ ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ง่ายดายและไม่ได้ไม่เป็นอันตรายอย่างที่เห็น

เธอเหมือนกับต้นไวรัสที่เดินได้ ต้นฝิ่นที่แข็งแกร่งที่สุด สามารถฆ่าคนได้ตลอดเวลา

พอนึกถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไป

ในใจของเขาก็ยิ่งตื่นเต้นเพราะกังวลมากขึ้นไปอีก

เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นกังวลของเขาแล้ว คนสองคนที่นั่งแถวหลัง กลับดูไม่สะทกสะท้านและใจเย็นมากกว่า

หลังจากที่ขึ้นรถไป กู้ซือเฉียนและเฉียวฉีก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย

ทั้งสองนั่งอยู่ที่นั่นอย่างสงบ แม้ว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาจะห่างไกลกันประมาณที่คนนั่ง 2 คน อีกคนหนึ่งนั่งอยู่ทางซ้ายสุดและอีกคนอยู่ทางขวาสุด มีท่าทีที่น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ต่างคนต่างอยู่..ไม่ต้องมายุ่งกัน

แต่สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างศัตรูของทั้งสอง การเข้ากันได้แบบนี้ ก็เงียบสงบสุข แปลกมากเกินไป

ใบหน้าของ กู้ซือเฉียนดูสงบ ดวงตาของเขาคมดุจนกอินทรี และยังคงจ้องมองตรงไปข้างหน้า

แต่เฉียวฉีนั้น กลับหันหน้ามองออกไปทางหน้าต่างรถ

ใบหน้านั้นเฉกเช่นดอกเบญจมาศในน้ำใส ไม่เห็นความเกลียดชังและความดุร้าย

มุมริมฝีปากของเธอเอียงเล็กน้อย เผยให้เห็นส่วนโค้งของรอยยิ้ม ดูสงบและสวยงามมาก

ถ้าคนนอกที่ไม่รู้จักความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองแล้วเห็นฉากนี้ เกรงว่าจะยังมีคนนึกไม่ถึงว่าระหว่างพวกเขานั้นมีแค้นลึกฝังอยู่ แต่คงคิดว่าเป็นคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งเดินทางไปเที่ยวเท่านั้น

บรรยากาศในรถเงียบกริบมาโดยตลอด

รอบๆ ตัวคือกลิ่นอายของชายผู้นั้นเพียงคนเดียว แต่เฉียวฉีนั่งอยู่ที่นั่นนั้น กลับดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงอะไร และไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

ในที่สุด หลังจากที่ผ่านไปแล้วสองชั่วโมง รถมาถึงที่หุบเขามัตสึยามะและห่างออกไปหลายร้อยไมล์ในชานเมือง

บริเวณนี้ค่อนข้างห่างไกลและรกร้าง นอกจากมีบ้านของชาวสวนชาวไร่แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่น่าไปเยี่ยมชมเลย

แต่บนภูเขานั้น กลับมีสุสานอยู่ที่หนึ่ง

คนขับลงจากรถ และไปเปิดประตูให้พวกเขา กู้ซือเฉียนไม่ได้พูดอะไร และเดินออกไปทันที

เฉียวฉีลงจากรถหลังจากเขา ในช่วงบ่ายของฤดูใบไม้ร่วง มีความหนาวเย็นในอากาศ แม้ว่าดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าจะส่องแสงจ้า แต่ก็ไม่รู้สึกอบอุ่นเมื่อส่องแสงโดนบนตัว แต่มีลมฤดูใบไม้ร่วงส่งเสียงมาพร้อมกับความหนาวของฤดูหนาวแรก

เฉียวฉียืนอยู่ที่เชิงเขา มองดูใบไม้ทึบบนภูเขา และทางเดินที่มีต้นไม้เรียงรายเป็นขั้นบันได ใบหน้านิ่งเหมือนน้ำ

พอมาถึงเวลานี้ เธอจะไม่รู้ได้ไง ว่ากู้ซือเฉียนพาเธอมาที่นี่มีจุดประสงค์อะไร

ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ เสียงเยาะเย้ยแวบมาจากปากของเธอ และความประชดในหัวใจของเธอก็หนักกว่าเดิม

กู้ซือเฉียนก็ยังคงไม่ได้พูดอะไร สั่งให้คนขับรถจอดรถที่นี่ และตัวเขาเองเฝ้าอยู่ในรถ จากนั้นจึงเดินขึ้นภูเขาเพียงลำพัง

เมื่อคนขับรถเห็นสิ่งนี้ ก็เอ่ยปากพูด ดูเหมือนจะไม่ค่อยไว้ใจสักเท่าไหร่

แต่เนื่องจากการบีบบังคับของเขา จึงไม่กล้าพูดคำอะไรเพื่อที่จะห้ามปรามเขาออกมา

เพียงแต่ ถึงไม่ได้เกลี้ยกล่อมเขา แต่ก็ไม่อยากปล่อยโอกาสใดๆ ที่จะสามารถทำเพื่อกู้ซือเฉียนได้

เมื่อเฉียวฉีเดินผ่านไป ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เฉียวฉี ราวกับจะจ้องมองเธอจนร่างกายมีรูเช่นนั้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยคำเตือน

เฉียวฉีคือใคร?

ในตอนนั้นกลุ่มหงส์แดงเป็นนักฆ่าระดับแนวหน้า บุคคลที่ดาบเต็มไปด้วยเลือดนั้น จะมาสยบเพราะผู้ช่วยน้อยๆ ได้อย่างไร?

ดังนั้น ตอนอยู่ต่อหน้าต่อตาของผู้ช้วย เธอจึงเพิกเฉยและหันไปทางภูเขา

พอผู้ช่วยเห็นอย่างนี้แล้ว ในใจก็ยังคงกังวลเล็กน้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ทำได้เพียงเฝ้าดูพวกเขาขณะที่พวกเขาเดินไปทางภูเขา แล้วหันหลัง เดินกลับมารอที่รถ

ณ ตอนนี้ เวลาก็ไม่เช้าแล้ว

ตอนที่ออกมา ก็เป็นช่วงเวลาบ่ายสองโมง แล้วขับรถอีกสองชั่วโมง ตอนนี้ ก็เป็นเวลาสี่โมงครึ่งแล้ว

ค่ำคืนของฤดูใบไม้ร่วงจะเข้าค่ำเร็วกว่า ในเวลานี้ ดวงอาทิตย์เริ่มจางหายและมีแนวโน้มที่ดวงอาทิตย์จะตกดิน

พระอาทิตย์ตกสีทองส่องลงมาจากฟากฟ้า และป่าเขาทั้งผืนถูกห้อมล้อมด้วยรัศมีสีทองอ่อน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset