วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 814 ยื่นมือช่วยเหลือ

เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และสีหน้ารำคาญไม่พอใจที่ถูกรบกวน แล้วถามว่า “ใครอยู่ข้างนอก”

เสี่ยวเยว่เดินเข้ามาจากนอกประตู กล่าวด้วยเสียงต่ำ“คือคุณหลินค่ะ”

คิ้วของเฉียวฉียิ่งขมวดเข้มขึ้น

เป็นดอกบัวขาวดอกนั้นอีกแล้ว

เธอมาทำอะไร

แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาทำอะไร คนอื่นเสียงดังอยู่ข้างนอกเช่นนี้ เฉียวฉีก็จะนอนแต่วันไม่ได้แล้ว

ในเมื่อนอนแต่วันไม่ได้ ก็ลุกขึ้นดีกว่า

ดังนั้น เฉียวฉีก็นั่งอยู่บนเตียงด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองในใจลึกๆ หลังจากลุกขึ้นมาแล้ว ให้เสี่ยวเยว่เข็นตัวเองออกไป

หลังจากออกไปแล้ว จึงเห็นว่าที่แท้หลินเยว่เอ๋อร์กำลังตำหนิคนรับใช้คนหนึ่งอยู่ตรงนั้น

เธอกับหลินเยว่เอ๋อร์พักอยู่ตึกเดียวกัน ห้องนอนของทั้งสองถึงแม้จะเดินไปคนละฝั่ง แต่ล้วนอยู่ชั้นเดียวกัน

ในเวลาปกติ เพราะว่าเฉียวฉีไม่ค่อยออกจากห้อง ดังนั้นทั้งสองเจอกันน้อยมาก นอกจากว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจรออยู่ตรงนั้น

และก็เพราะเป็นเช่นนี้ พวกเธอทั้งสองที่อยู่ด้วยกันนานขนาดนี้แล้ว ถึงยังไม่เกิดเรื่องขัดแย้งกันอย่างจริงจัง

แต่ในเวลานี้ สามารถเห็นได้ว่า หลินเยว่เอ๋อร์ยืนอยู่ตรงนั้นกำลังมือเท้าเอว ท่าทางหยิ่งผยอง ตำหนิหญิงรับใช้คนหนึ่งของตึกรองทางนี้อยู่

เฉียวฉีรู้จักหญิงรับใช้คนนั้น จำได้ว่าเธอเป็นแม่ครัวที่รับผิดชอบอาหารทั้งสามมื้อของฝั่งนี้

อาหารของเธอกับหลินเยว่เอ๋อร์ที่ทานอยู่ทุกวันนี้ ล้วนเป็นแม่ครัวคนนี้รับผิดชอบ

พูดจากใจ ถึงแม้อีกฝ่ายฝีมือจะไม่ดีเลิศสุดยอด แต่ก็ถือว่าไม่เลว แม้แต่เฉียวฉีที่เป็นคนรสนิยมค่อนข้างเลือกมาก เวลาทานอาหารที่เธอทำ บางครั้งยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมสักสองคำ

หลินเยว่เอ๋อร์กำลังแผลงฤทธิ์อะไร

เพราะเป็นแม่ครัวที่ทั้งสองใช้ร่วมกัน ดังนั้นเฉียวฉีก็ไม่นิ่งดูดาย จึงให้เสี่ยวเยว่เข็นเธอเข้าไปดู

เมื่อเข้าใกล้แล้ว ฟังจากน้ำเสียงดุด่าของหลินเยว่เอ๋อร์ ถึงรู้ว่า สาเหตุที่แท้จริงคือเมื่อเช้าหลินเยว่เอ๋อร์บอกว่าต้องการรังนกหนึ่งถ้วย แม่ครัวก็ทำให้เธอแล้ว

แต่หลังจากที่ส่งรังนกมาให้แล้ว หลินเยว่เอ๋อร์ถึงพูดว่า นั่นเป็นรังนกเก่า ทั้งๆที่เธอจำได้ว่าหลายวันก่อนลุงโอได้ให้คนไปซื้อรังนกส่งมาใหม่แล้ว

ดังนั้น จึงสงสัยว่าแม่ครัวได้ทำการสับเปลี่ยนรังนก นำรังนกใหม่ที่ลุงโอส่งมาให้เธอ เปลี่ยนเป็นรังนกเก่าที่ไม่มีราคา ส่วนรังนกใหม่นั้นเธอนำกลับไปที่บ้านแล้ว

ซึ่งต่างจากหญิงรับใช้คนอื่น เพราะว่าแม่ครัวได้แต่งงานมีลูกแล้ว สามีทำงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในเมือง ส่วนลูกๆก็กำลังเรียนอนุบาล ดังนั้น กลางคืนเธอจึงไม่ได้พักอยู่ที่นี่

ทุกวันหลังจากทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว ก็จะกลับบ้านไปอยู่กับสามีและลูก

เมื่อหลินเยว่เอ๋อร์พูดเช่นนี้ ก็เห็นได้ชัดว่ามั่นใจว่าเธอไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวเองไม่ได้ขโมยรังนกไป

อย่างไรก็ตาม ระยะห่างตอนที่ลุงโอนำรังนกใหม่มาให้ ก็ได้ผ่านไปหลายวันแล้ว

ถึงแม้จะค้นบนตัวเธอไม่เจอ ขอเพียงหลินเยว่เอ๋อร์พูดคำเดียวว่าเธอเป็นคนเอาไปซ่อนไว้แน่นอน เธอก็ไม่สามารถจะแย้งได้แล้ว

ดังนั้น ตอนนี้แม่ครัวคนนั้นยืนเผชิญกับหลินเยว่เอ๋อร์ที่ท่าทางอหังการอยู่ตรงนั้น กลัวจนเกือบจะร้องไห้ออกมา ไม่รู้จะอธิบายจากตรงไหน

แววตาเฉียวฉีเย็นชา

ขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกว่า นิ้วมือที่กำที่จับรถเข็นอยู่แน่นขึ้น เกือบจะสั่นเล็กน้อย

เธอเงยหน้าขึ้น เห็นสีหน้าเสี่ยวเยว่ร้อนรนและขุ่นเคืองอยู่ลึกๆในใจ

ความสงสัยผุดขึ้นในใจ เธอจึงถามเสียงกระซิบว่า“รู้จักกันหรือ ”

เมื่อเสี่ยวเยว่ได้ยินเช่นนั้น ก็ก้มหัวต่ำลง ประสานสายตาที่อ่อนโยนของเธอ กัดริมฝีปาก ในที่สุดก็พยักหน้า

“เธอเป็นเพื่อนของฉัน บ้านเกิดของเราอยู่ที่เดียวกัน ปกติจะซี้กันมาก เธอ…….”

เธอหยุดไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยืนกรานพูดออกมาว่า “ เธอเป็นคนที่มือไม้สะอาด เป็นไปไม่ได้ที่จะโลภในสิ่งเล็กสิ่งน้อยอย่างแน่นอน ”

เฉียวฉีผงกหัวเล็กน้อย

แล้วเธอก็หันหน้า มองไปที่หลินเยว่เอ๋อร์อีกครั้ง ดวงตาเฉยเมยคู่นั้นปนด้วยความเย็นชาเล็กน้อย

และบังเอิญที่เวลานี้ การเผชิญกับแม่ครัวที่ปฏิเสธไม่ยอมรับตลอด ทำให้หลินเยว่เอ๋อร์โกรธจัด กำลังเอื้อมมือขึ้นมาจะตบไปที่เธอ

แต่ว่ามือยังไม่ทันได้ถึงหน้าของอีกฝ่าย ก็ถูกคนขวางไว้

พอเธอก้มหน้า ก็เห็นสายตาเยือกเย็นของเฉียวฉี

ถูกสายตาที่เย็นชาของเธอสะกด หลินเยว่เอ๋อร์ก็ชะงักไป

ทันใดนั้นความเคลื่อนไหวก็หยุดลง

เมื่อคนอื่นเห็นเฉียวฉีมา ต่างรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และในเวลาเดียวกัน ก็มีความหวังเสี้ยวหนึ่งผุดขึ้นในใจ

เมื่อหลินเยว่เอ๋อร์ดึงสติคืนมาได้

กวาดสายตาไปรอบทิศ เก็บรวบรวมปฏิกิริยาของทุกคนไว้ในดวงตา ทันใดนั้นในใจรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย

“คุณจะทำอะไร”

เธอจ้องมองเฉียวฉี แล้วกล่าวด้วยเสียงโกรธเคือง

เฉียวฉีมองดูเธอด้วยแววตาเย็นชา แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า“ใครอนุญาตให้คุณเตะต้องเธอ”

น้ำเสียงของเธอไม่ได้อ่อนหวานนุ่มนวลเหมือนผู้หญิงทั่วไป ถึงแม้จะเฉียบขาด แต่ปนด้วยเสียงแหบแห้งเยือกเย็นเล็กน้อย ค่อนข้างมีเสน่ห์และเต็มไปด้วยอำนาจครอบอำ

หลินเยว่เอ๋อร์ ตกตะลึง

ตามด้วยเสียงเหมือนจะได้ยินเรื่องตลก กล่าวด้วยเสียงเยาะเย้ยว่า “เฉียวฉีฉันสั่งสอนคนรับใช้คนหนึ่งเท่านั้น คุณคงไม่คิดจะเข้ามายุ่งใช่ไหม”

ปกติเฉียวฉีไม่ใช่คนที่ชอบทะเลาะวิวาทกับคนอยู่แล้ว การเผชิญกับคนไร้เหตุผลเช่นหลินเยว่เอ๋อร์ ก็ยิ่งแม้แต่ชายตามองยังขี้เกียจ

แต่เวลานี้ เธอกลับไม่ยุ่งไม่ได้แล้วจริงๆ

อย่างแรก เพราะปกติแม่ครัวจะทำอาหารให้พวกเธอทาน ถึงแม้จะเป็นงานของเธอ แต่เฉียวฉีก็ขอบคุณอยู่ในใจ ที่ปกติเธอดูแลตัวเองในเรื่องอาหารการกิน รู้สึกขอบคุณมาก

อย่างที่สอง ปกติเสี่ยวเยว่จะรับใช้ตัวเอง ถึงแม้จะทำเพราะเป็นหน้าที่ก็ตาม

แต่นิสัยเธอดี แล้วกับเข้ากับตัวเองได้ด้วย ถูกใจเธอมาก

ในเมื่อแม่ครัวคนนี้เป็นเพื่อนของเสี่ยวเยว่ ถ้าอย่างนั้นเธอก็ยิ่งไม่ยุ่งไม่ได้แล้ว

ดังนั้น เฉียวฉีที่เป็นคนไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว วันนี้ขอทำลายสถิติ ท่าทางนั้นเหมือนกับจะยุ่งให้ได้

เธอกล่าวเสียงหนักแน่นว่า“หากคุณจะสั่งสอนคนอื่นฉันไม่ยุ่ง ฉันก็ยุ่งไม่ได้ แต่เธอไม่ใช่คนรับใช้ของคุณคนเดียว อาหารการกินของเราสองคนทั้งตึกรองนี้ล้วนเป็นเธอดูแล หากคุณตีเธอจนได้รับบาดเจ็บ แล้วฉันจะไปกินข้าวที่ไหน ”

หลินเยว่เอ๋อร์ หยุดไปครู่หนึ่ง

ไม่คิดว่า เฉียวฉีที่ดูราวกับไม่สนใจเรื่องทั้งปวงมาตลอด กลับเอาเรื่องกินข้าวมาพูด

แต่ ที่เธอพูดมานี้ก็ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย

หลินเยว่เอ๋อร์กัดฟันอย่างทนไม่ได้ ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงยิ้มเย็นชา

“ได้ คุณพูดถูก หากตีจนได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจริง จะไม่มีคนมาปรนนิบัติรับใช้คุณหนูเฉียวของเราจริงๆ ด้วย”

ขณะที่เธอพูด แววตายิ้มเยาะเย้ย ทันใดนั้นก็นั่งลง กดน้ำเสียงให้ต่ำลงให้ได้ยินกันแค่สองคนแล้วกระซิบกับเฉียวฉีว่า“เฉียวฉี คุณรู้ไหมมีประโยคหนึ่งที่บอกว่าชักศึกเข้าบ้าน เวลายุ่งเรื่องชาวบ้านจะทำให้ตัวเองซวยไปด้วย”

เฉียวฉีขมวดคิ้ว มองดูเธอด้วยสายตาเย็นชา

เธอไม่พูดอะไรสักคำ แต่เสี่ยวเยว่ที่อยู่ข้างๆ เพราะอยู่ใกล้มาก จึงได้ยินด้วย จึงสีหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที

“หลินเยว่เอ๋อร์ คุณพูดไร้สาระอะไร คุณกล้าข่มขู่คุณเฉียว ฉัน………”

“เพี้ยะ”

ยังไม่ทันพูดจบ ฝ่ามือเสียงดังฟังชัดก็ตบไปที่ใบหน้าของเธอ

เสี่ยวเยว่ตะลึงงัน

ไม่เพียงแต่เสี่ยวเยว่เท่านั้น แม้แต่คนรับใช้คนอื่นๆก็ล้วนตกตะลึงไปด้วย

ตอนนี้ไม่ใช่สมัยโบราณอีกแล้ว ถึงแม้จะเป็นเพียงคนรับใช้ที่ฐานะต่ำต้อย ก็มีสิทธิมนุษยชนเหมือนกันใช่ไหม

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset