วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 835 ไม่ใช่ความเข้าใจผิด

ตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวเองเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในมือของพวกเขา

ที่เอามาต่อกรกับกู้ซือเฉียน ต่อกรกับกลุ่มหงส์แดง ซึ่งเป็นหมากตัวหนึ่งขององค์กรใต้ดินเท่านั้น

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สายตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย

สวี่ฉางเปยราวกับไม่รับรู้ถึงอารมณ์ของเธอเช่นนั้น ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า“รู้สึกว่าศิษย์น้องจะไม่ค่อยต้อนรับฉันเท่าไหร่?เข้าใจอะไรศิษย์พี่ผิดหรือเปล่า?”

เฉียวฉียิ้มเย็นชา

“เข้าใจผิดหรือไม่ ในใจของคุณย่อมรู้ดี!”

สวี่ฉางเปยเลิกคิ้ว

ต้องบอกว่า หากมองข้ามความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาจากตัวเขาแล้ว ใบหน้าอ่อนโยนราวหยกนั้น สามารถทำให้ผู้หญิงกลุ่มใหญ่หลงเสน่ห์ได้เหมือนกัน

แน่นอนว่า เฉียวฉีไม่อยู่ในกลุ่มนี้

เห็นเพียงเขายิ้มน้อยๆ แล้วกล่าวว่า “ฟังจากน้ำเสียงของคุณแล้ว เหมือนกับจะโทษฉันที่เกิดหลายเรื่องขึ้นกับคุณก่อนหน้าหน้า ศิษย์น้อง นี่คุณเข้าใจผมผิดแล้ว ฉันรู้ว่าคุณออกจากคุกมาแล้ว จึงรีบวิ่งแจ้นมาหาคุณ ไม่คิดว่าจะถูกคุณใส่ร้ายเช่นนี้ ทำให้ศิษย์พี่เสียใจมาก”

เฉียวฉีมองดูเขาท่าทางสงบนิ่ง เธอโกรธขึ้นมาทันที

เธอก้มหน้าเล็กน้อย หางตาเหลือบมาไปทางข้างหลังแล้วถามว่า“พูดมา คุณมาหาฉันเพื่อจุดประสงค์อะไร?”

สวี่ฉางเปยหัวเราะเบาๆ “ดูไปแล้วคุณไม่ยอมเชื่อจริงๆ ว่าฉันมาเพื่อจะระลึกถึงความหลังหรือ?”

สีหน้าเฉียวฉีไร้อารมณ์ใด กล่าวขึ้นว่า“ฉันไม่รู้สึกว่าเรามีอะไรจะต้องระลึกความหลังกัน”

สวี่ฉางเปยชะงัก

นิ่งไปครู่หนึ่ง หัวเราะเบาๆแล้วกล่าวว่า“ ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณในตอนนี้ บางทีคุณอาจจะคิดว่า พวกเราหลอกคุณ แต่ว่าเฉียวฉี คุณเคยคิดอย่างรอบคอบไหมว่า ยกเว้นเราไม่ได้บอกตัวตนที่แท้จริงของเราให้คุณรู้ เรายังมีอย่างอื่นที่เคยทำร้ายคุณไหม?”

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง แววตาล้ำลึกขึ้น “แม้แต่การต่อสู้ในครั้งสุดท้ายนั้น แม้เราจะหลอกใช้คุณ แต่ก็ไม่ได้จะต้องการชีวิตของคุณจริงๆ คุณต้องรู้ว่า หมากจริงๆ หลังจากทำการสำเร็จแล้วไม่จำเป็นจะต้องมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป”

น้ำเสียงชายหนุ่มราบเรียบ แต่เฉียวฉีฟังออกถึงความเย็นชาในน้ำเสียงราบเรียบนั้น

ดวงตาของเธอก็เย็นชาลง ถามเสียงเคร่งขรึมว่า “คุณจะเอาอย่างไร?”

สวี่ฉางเปยยิ้มจางๆมองดูเธอ

“ไปกับผม”

ไม่รอให้เธอพูด “ผมรู้ว่ากู้ซือเฉียนจัดคนติดตามคุณ บางทีเวลานี้ผมมาถึงที่นี่ ข้างนอกได้มีคนจำนวนมากซุ่มอยู่ รอจะมาจับผม แต่ว่าเฉียวฉี คุณรู้ว่า ในเมื่อผมรู้ว่ามันอันตรายแต่ยังกล้าเดินเข้ามาเพียงลำพัง ต้องมีที่พึ่งบางอย่างแน่นอน ดังนั้น ไปกับผมอย่างว่าง่าย ผมสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายคุณ เป็นไง? ”

เฉียวฉีมองดูเขาด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าของเธอสงบนิ่ง แต่ในใจของเธอได้ร้อนรุ่มมาก

เธอรู้จักสวี่ฉางเปยคนนี้ดี เมื่อก่อน ตอนที่อยู่กลุ่มหงส์แดง คนนี้เป็นหัวใจหลักของทุกคน

ไม่เพียงแต่วิชาแกร่งกล้า ยังถนัดในเรื่องการกลยุทธ์มาก เป็นบุคคลที่เจ้าเล่ห์มาก

หากจะต้องเผชิญกับเขาจริงๆ ในใจของเธอรู้ดีว่า ไม่ว่าด้านแผนการหรือการต่อสู้ ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

สิ่งที่สำคัญที่สุด ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง

นั่นก็คือคนที่กู้ซือเฉียนจัดมาคุ้มครองเธอ เห็นได้ชัดว่าอยู่บริเวณนี้ตลอดเวลา เมื่อคืนตอนก่อนนอนเธอยังรับรู้ได้

แต่ว่าตอนนี้ เธอรับรู้อะไรไม่ได้เลย

คนพวกนั้น ราวกับหายไปในอากาศเช่นนั้น

หัวใจเธอเต้นระรัวขึ้นมา แต่ก็ไม่กล้าสรุปว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว ทำได้เพียงอดทนยื้อเวลาของเขาไว้

“ศพที่กู้ขึ้นมาจากแม่น้ำเมื่อวานนี้ ฝีมือคุณทำใช่ไหม?”

ก็ไม่รู้ว่าเขารับรู้จุดประสงค์ของเธอหรือไม่ สวี่ฉางเปยไม่รีบร้อน กล่าวอย่างช้าๆว่า“ไม่ใช่”

เฉียนฉีขมวดคิ้ว

สวี่ฉางเปยยิ้มเล็กน้อย

“แม้ว่าเธอสมควรตาย แต่ว่ายังไม่ทันรอผมลงมือ ก็มีคนได้ช่วยผมจัดการเธอแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ประหยัดเวลาให้ผมต้องวิ่งอีกครั้ง ”

เฉียวฉีกล่าวเสียงเย็นชา“เธอเป็นคนของคุณหรือ?”

สวี่ฉางเปยยิ้ม

“ถือว่าใช่มั้ง เด็กผู้หญิงที่ฐานะทางบ้านยากจน ขอเพียงแค่พูดจาน่าฟังสองสามคำก็ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อคนอื่น แต่ไม่คิดว่ายังทำการไม่สำเร็จสักเรื่อง ก็ถูกคนไล่ออกจากบ้านแล้ว เศษสวะแบบนี้ หากจะเลือกจริงๆ ผมยอมที่จะไม่เลือกเธอตั้งแต่แรก”

คำพูดพลิ้วเบาของชายหนุ่ม กระตุ้นความโกรธในใจของเฉียวฉีได้สำเร็จ

เธอกัดฟันกล่าวว่า“เธอตายเพื่อคุณ หรือว่าคุณไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอบ้างเลยหรือ ?”

“เห็นใจหรือ ?”

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว เหมือนกับได้ยินคำพูดที่ประหลาดใจเป็นพิเศษ จากนั้นก็ค่อยๆหัวเราะออกมา

“เฉียวฉี ไม่เจอกันสี่ปี คุณเปลี่ยนไปมากจริงๆ เฉียวฉีคนก่อนที่กล้ารักกล้าเกลียด กล้าหาญและเย็นชา ปรากฏว่าตอนนี้กลับรู้จักพูดเรื่องเห็นใจกับเขาแล้ว ”

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง กัดริมฝีปากบางเป็นเส้นตรง แววตาคมกริบขึ้นมาทันที

“หรือคุณไม่รู้หรือ?อาชีพสายนี้ของเรา สิ่งที่ไม่ต้องการที่สุดก็คือความเห็นใจ!”

เฉียวฉีอึ้งไป

เมื่อประสานเข้ากับสายตาเย็นชาของอีกฝ่าย เธอจึงตระหนักได้ว่า สวี่ฉางเปยตรงหน้า ไม่ใช่สวี่ฉางเปยที่เธอเคยรู้จักก่อนหน้านั้นแล้วจริงๆ

เธอบังคับรถวีลแชร์ถอยหลัง ส่ายหัว แล้วกล่าวว่า“ฉันจะไม่ไปกับคุณ คุณตายใจเถอะ!ตามที่คุณพูด ครั้งนี้ฉันไม่ได้ออกมาตัวคนเดียว หากคุณรู้ตัวเองดี ก็วางมืออย่างว่าง่าย มิเช่นนั้นอย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน”

แต่ว่า บนใบหน้าของสวี่ฉางเปยไม่มีความตื่นตระหนกจากการถูกข่มขู่แม้แต่น้อย

เพียงแต่มองดูเธออย่างสนใจ

ในใจเฉียวฉีเต้นรัว

นิ้วมือกดไปที่ปุ่มกดบนที่วางแขนของรถวีลแชร์ ปรากฏว่าข้างนอกเงียบเชียบ ไม่มีเสียงอะไรเลย

แย่แล้ว!

ปุ่มกดบนที่วางแขน เป็นอุปกรณ์ติดต่อฉุกเฉินที่กู้ซือเฉียนติดตั้งให้เธอก่อนออกเดินทาง

เพื่อความสะดวกในตอนที่เธอพบเจออันตรายอะไร จะสามารถกดส่งสัญญาณได้ทันที ทางเขาก็จะได้รับสัญญาณนี้ จากนั้นจะรีบนำคนตรงเข้ามา

แต่ว่าตอนนี้ เธอได้กดไปหลายครั้งแล้ว

ข้างนอกไม่มีเสียงอะไรเลย

นี่…….มันเกิดอะไรขึ้น?

น่าจะมองเห็นสีหน้าเธอเปลี่ยนไป สวี่ฉางเปยเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดังฮ่าฮ่าขึ้นมา

“ศิษย์น้องเล็กนะ ศิษย์น้องเล็ก ไม่คิดว่าผ่านไปสี่ปี คุณยังไร้เดียงสาขนาดนี้ คุณคิดจริงๆหรือว่าผู้ชายคนนั้นจะปล่อยวางงานทั้งหมดเพื่อคุณ แม้ว่ากลุ่มมังกรจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง เขาก็จะมาช่วยคุณหรือ?”

รูม่านตาเฉียวฉีสั่น

มองดูเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“คุณทำอะไรเขา?”

สวี่ฉางเปยส่ายหัว

“ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่ให้คนไปหาเรื่องในอาณาเขตของเขา เชื่อผม นั่นมันเป็นเรื่องเล็กน้อยจริงๆ สำหรับเขาแล้วสูญเสียอาณาเขตไปไม่กี่ผืนและลูกน้องที่ไม่เกี่ยวข้องบ้างเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน”

“แต่ว่าคุณดู ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยอมที่จะปล่อยทิ้งคุณเพื่อไปช่วยคนไม่สำคัญพวกนั้น เฉียวฉี หรือมาว่าถึงเวลานี้แล้ว คุณยังดูไม่ออกหรือว่าผู้ชายคนนนี้ไม่สมควรที่คุณจะให้สนใจ?”

ขณะที่เขาพูด ก็ได้ลุกขึ้น แล้วก้าวเดินไปทางเธอ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset