วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 846 ร่วมงานเลี้ยงวันเกิด

เพียงแต่ว่า ความจริงแล้วเขาเป็นคนมากประสบการณ์คนหนึ่ง

เขาเปลี่ยนสีหน้าโดยพลัน และเดินจากไป

“ทำไมคุณยังไม่นอนอีก?”

เขาถาม ด้วยเสียงทุ้มต่ำน่าหลงใหล

เฉียวฉีมองไปที่เขา เธอไม่ได้ตอบคำถาม แต่ถามกลับว่า “เรื่องนั้นจัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?”

กู้ซือเฉียนรู้ว่าเธอกำลังถามถึงเรื่องอะไร

เขามองผู้หญิงตรงหน้า ไม่ได้รีบร้อนตอบคำถามของเธอ แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า ที่เธอถามแบบนี้ ความจริงแล้วเธอโกรธหรือไม่ได้โกรธกันแน่?

เขารู้นิสัยของเฉียวฉีดี ถ้าเกิดเธอโกรธจริงๆ เธอจะไม่เอ่ยปากถามเขาอย่างแน่นอน

แม้แต่คำเดียวเธอก็จะไม่พูดกับเขา

การใช้วาจาทำร้ายจิตใจผู้อื่นหรืออะไรเทือกนั้น สำหรับเธอแล้ว มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา

แต่ว่าเธอพูดออกมาแบบนี้แล้ว คงไม่ได้โกรธหรอกมั้ง?

แม้ว่าจะไม่รู้เหตุผล แต่ในใจของกู้ซือเฉียน ก็ยังมีความหวังเล็กๆ

เขาพยักหน้าตอบรับ “อืม เรียบร้อยแล้ว”

ทั้งสองคนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

ที่เฉียวฉีเงียบไปเป็นเพราะเธออยู่ในอารมณ์สับสน และไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

แต่สำหรับกู้ซือเฉียนนั้นเขากำลังสองจิตสองใจ ไม่รู้ว่าในตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่ หากเขาผลีผลามพูดออกไป และถ้าพูดอะไรผิดขึ้นมา เกรงว่าจะเป็นการเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟให้เธอโกรธมากขึ้นก็เป็นได้

ดังนั้น เขาจึงไม่กล้าพูด

หลังจากที่ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง เฉียวฉีก็ถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ถ้างั้นคุณก็รีบไปพักผ่อนเถอะ ฉัน…”

เธอชะงัก ไม่รู้ว่าจะพูดสิ่งที่เธอต้องการอย่างแท้จริงจากก้นบึ้งของหัวใจออกมาได้อย่างไร ราวกับคำพูดเหล่านั้นมาจุกอยู่ที่คอของเธอ ที่ไม่ว่าจะทำเช่นไรก็ไม่สามารถพูดออกมาได้

ในที่สุดเธอก็พูดว่า “ฉันก็จะกลับห้องแล้วเหมือนกัน”

พูดเสร็จ ก็รีบหันหลัง เตรียมจะจากไป

จากนั้น ทันทีที่เธอหันกลับมา ก็ถูกชายคนนั้นเรียกไว้

“รอเดี๋ยวสิ”

กู้ซือเฉียนก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว เดินไปถึงข้างหน้าเธอ ตรงที่เธอหยุดยืนอยู่

เฉียวฉีเงยหน้ามองเขา

ชายที่อยู่ตรงหน้า มีใบหน้าที่หล่อเหลา และใบหน้าสุขุมของเขาเมื่อมองผ่านแสงสลัวก็ปรากฏความเคร่งขรึมและความงดงาม บางทีอาจเป็นเพราะการดื่มเหล้า ผิวของเขาจึงเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ซึ่งเมื่อเทียบกับลักษณะที่เย็นชาเป็นปกติของเขานั้นราวกับว่าเป็นคนละคน…

เขามองดูเธอ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดว่า “คุณ…เมื่อกี้คุณตั้งใจรอฉันกลับมาใช่ไหม?”

เฉียวฉีตกใจ

เมื่อเห็นการจ้องมองอย่างระมัดระวังของเขา จู่ๆ หัวใจของเธอก็รู้สึกเหมือนถูกบางอย่างทิ่มแทงเข้าอย่างจัง

เธอเม้มปาก ไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้ายอมรับเงียบๆ

และในทันที แววตาของชายหนุ่มก็ฉายความปีติยินดีออกมาราวกับระลอกคลื่นที่ซัดกระหน่ำ

มุมปากของเขายกขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และถามเธอว่า “คุณมีอะไรอยากจะพูดกับฉันใช่ไหม?”

เฉียวฉีคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัว

เดิมทีเธออยากจะพูด

แต่ตอนนี้ ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อคำเหล่านั้นกำลังจะออกจากปาก ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้

เธอไม่อยากบังคับตัวเอง พลางคิดในใจว่า เอาเป็นว่า เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง บางทีวันหนึ่งเธอจะได้เห็นหัวใจของผู้ชายคนนี้ และหัวใจของเธอเองจริงๆ

ดังนั้นก่อนที่วันนั้นจะมาถึง ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาก่อน

เมื่อคิดได้ดังนี้ เธอก็เงยหน้าไปมองเขา พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน

“รีบไปนอนเถอะ”

เมื่อพูดเสร็จ เธอก็ไม่ได้ให้โอกาสเขาพูดอีก รีบหันหลังกลับและกลับห้องทันที

กู้ซือเฉียนรู้สึกสับสนเล็กน้อยกับการกระทำเช่นนี้ของเธอ เขาไม่รู้ว่าเธอหมายความว่าอะไร เขายืนอยู่ที่เดิมและครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็ยังไม่เข้าใจ

อย่างไรซะ เขาไม่ได้เป็นคนหมกมุ่นเท่าไหร่นัก ในเมื่อเขาไม่เข้าใจ ก็เลยช่างมันไม่คิดต่อแล้ว

จะอย่างไรก็ช่าง ตราบใดที่เธอไม่โกรธตัวเองก็ดีแล้ว

กู้ซือเฉียนจึงกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนเช่นกัน

วันรุ่งขึ้น เป็นวันเกิดของหลินซง

ก่อนหน้านี้เขาได้ส่งคำเชิญมา คำอยากให้ทั้งสองคนมาร่วมงาน

และทั้งสองก็ตอบรับไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น วันนี้จะต้องไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน

ในตอนเช้า หมอมาเปลี่ยนยาให้เฉียวฉี และรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า อาการบาดเจ็บที่ขาของเธอเกือบจะหายดีแล้ว

แม้ว่าจะยังเดินไม่ได้อีกเป็นเวลานาน รวมถึงไม่สามารถวิ่งหรือกระโดดได้ แต่ถ้าอยากจะยืนสักพักหรือเดินช้าๆ สักครู่ก็ไม่มีปัญหาอะไร

อาการบาดเจ็บซี่โครงของฉีเฉียวนั้นดีขึ้นเยอะแล้ว เมื่อเห็นอย่างนี้ วันนี้เธอจึงขอไม่นั่งรถเข็น แต่จะนั่งไปบนรถกับพวกเขาเลย

ซึ่งกู้ซือเฉียนก็เห็นด้วย

วันนี้ เนื่องจากเป็นโอกาสทางการ ทั้งคู่จึงสวมชุดที่เป็นทางการ

กูซือเฉียนอยู่ในชุดสูทสีดำ และเฉียวฉีสวมกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน

ตอนนี้ผมของเธอยาวขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจะยาวไม่พอที่จะเกล้าผม แต่ก็ยังสามารถดัดผมได้

ดังนั้น ลุงโอจึงถูกเธอเรียกมาเป็นสไตลิสต์แต่เช้าตรู่ แต่เธอมีรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและไม่เหมือนใคร

ผมที่ยาวประบ่าถูกดัดเป็นลอนอ่อนๆ ติดด้วยเครื่องประดับผมที่ทำจากไข่มุก ประกอบกับรูปโฉมที่สวยสดงดงามของเธอ สัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาและความสง่างาม

เมื่อกู้ซือเฉียนเห็นมัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะ

จากนั้นทั้งหมดก็นั่งรถไปยังสถานที่จัดงานของหลินซง

ที่นี่เป็นโรงแรมห้าดาว และที่มาร่วมงานนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนของหลินซง

ด้วยความกังวลว่าเหล่าคนหนุ่มสาวจะรู้สึกอึดอัด ดังนั้นผู้อาวุโสในครอบครัวของหลินซง หลังจากที่ออกมาทักทายในช่วงแรกแล้ว ก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาอีกเลย

ทุกคนล้วนพาหญิงสาวคู่ควงของตนมา และผู้หญิงก็พาชายหนุ่มคู่ควงมาด้วยเช่นกัน เฉียวฉีมากับกู้ซือเฉียน และแน่นอนว่าเธอเป็นคู่ควงของเขา

ในบรรดาเพื่อนของหลิงซง คนที่รู้จักกูซือเฉียนมีจำนวนไม่น้อยเลย เพราะงั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีหลายคนแวะเวียนมาดื่มฉลองกับเขา

เฉียวฉีได้รับบาดเจ็บจึงดื่มไม่ได้ กู้ซือเฉียนทั้งกังวลว่าเธอจะเหนื่อยหากยืนนานเกินไป ทั้งกลัวว่าบาดแผลจะเปิด ดังนั้นเมื่อเขามาถึง เขาจึงพาเธอไปที่ห้องรับรองก่อน

ขณะนี้ ก็ยังไม่ดึก

เฉียวฉีจึงบอกให้เขาไปทำธุระของตัวเองเลย เธออยู่ห้องนั่งรับรองนี้คนเดียวได้ไม่ต้องเป็นห่วง

กู้ซือเฉียนและเธอไม่ใช่คนที่ชอบแสดงความรักมากนัก ดังนั้น พวกเขาจึงไม่พูดอะไรมาก เมื่อจัดแจงให้ที่นั่งให้เธอเรียบร้อยแล้วเขาก็ออกไป

หลังจากที่เขาออกไป เฉียวฉีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และพิงหลังบนโซฟาเล่นโทรศัพท์

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีเสียงเอะอะดังมาจากข้างนอก

ที่ที่เธออยู่ เป็นห้องนั่งเล่นที่ถูกแยกออกมา ซึ่งกู้ซือเฉียนจัดเตรียมให้เธอโดยเฉพาะ เพราะเขารู้ว่าเธอไม่ชอบอยู่ลำพังกับคนแปลกหน้า

ดังนั้น ปกติแล้วจะไม่มีใครมาบริเวณนี้

แต่ตอนนี้ข้างนอกอึกทึกครึกโครมมาก เห็นได้ชัดว่ามีคนกำลังมา

เธอเงยหน้าขึ้นมอง และเป็นไปตามคาด เธอเห็นหลินซงเดินนำกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเข้ามาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

“เฉียวฉีอยู่นี่เอง ฉันตามหาเธอตั้งนาน ว่าแล้วว่าทำไมฉันถึงหาเธอไม่เจอ ที่แท้เธอก็มาแอบเล่นมือถืออยู่ที่นี่เอง วันนี้เป็นวันเกิดของฉันนะ กว่าเธอจะมาที่นี่ได้สักครั้งจะมาแอบอยู่ตรงนี้คนเดียวได้อย่างไร ไปเถอะ ออกไปสนุกกับฉันดีกว่า”

เฉียวฉีอดยิ้มไม่ได้ “ฉันก็ดื่มไม่ได้อยู่ดี จะไปสนุกได้ยังไง อย่าให้พวกคุณหมดสนุกไปเปล่าๆ เลย”

ถึงจะพูดไปอย่างนั้น แต่ร่างกายของเธอก็ขยับลุกขึ้นแล้ว

อย่างไรซะ เขาก็เป็นเจ้าของวันเกิด ดังนั้นจึงยากที่จะปฏิเสธ

หลินทรงโบกไม้โบกมืออย่างไม่สนใจ “ดื่มไม่ได้ก็ไม่มีใครบังคับให้เธอดื่มหรอก เธอก็ดื่มน้ำไป พวกเขาก็ดื่มเหล้าไป มาเถอะมาเล่นเกมกับเราดีกว่า”

เมื่อพูดจบ ก็ไม่ได้สนใจคำอธิบายของอีกฝ่าย รีบลากเธอออกไปด้วยกัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset