วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 855 เข้าร่วมงานประมูล

อาหารมื้อนี้ทุกคนพากันทานเงียบ ๆ จนเสร็จ

หลังจากที่ทานเรียบร้อยแล้วกู้ซือเฉียนก็กลับไปที่ห้องหนังสือเพื่อสะสางงานของเขาต่อ ส่วนเฉียวฉีก็ให้ เสี่ยวเยว่ดูหนังที่ห้องรับแขกเป็นเพื่อนเธอ

เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่ชอบดูซีรีส์อะไรไร้สาระแบบนี้ เพราะเธอรู้สึกว่ามันค่อนข้างเสียเวลาแถมยังน่าเบื่อด้วย แต่หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บมา เธอก็ต้องอยู่แต่บ้านทุกวัน ทำให้นิสัยหลาย ๆ อย่างของเธอนิ่งลงไปพอสมควร แล้วก็ยังมีเวลามาพอที่จะมาดูอะไรพวกนี้อีกด้วย

หญิงสาวสองคนนั่งอยู่บนโซฟา แต่ละคนกอดถุงมันฝรั่งตัวเองไว้ ทั้งคู่พลางกินไปด้วยดูไปด้วย

ดูไปจนถึงฉากหนึ่ง ที่ตัวประกอบหญิงในเรื่องทำให้พระเอกสับสน เข้าใจผิดคิดว่านางเอกเป็นคนขโมยข้อมูลของบริษัทไป

อยู่ ๆ เสี่ยวเยว่ก็พูดขึ้นมาว่า “บ้าไปแล้วรึไง เหมือนกับหลินเยว่เอ๋อร์ไม่มีผิด”

เฉียวฉีชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองเสี่ยวเยว่

จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างขบขัน “ตัวคนก็ไปแล้ว ความแค้นที่มีกับหล่อนยังไม่หายอีกเหรอ”

เสี่ยวเยว่เพิ่งจะรู้ตัวว่าเผลอพลั้งปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป เธอเลยรีบแลบลิ้นพร้อมกับตอบกลับอย่างร้อนรนว่า

“ฉันก็แค่อยากทวงความยุติธรรมให้พี่ไง นิสัยของพี่น่ะนิ่งเกินไป ทำให้คนอื่น ๆ ชอบมารุมรังแกพี่”

เฉียวฉีหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร

แต่ในใจเธอรู้ดี ที่เธอไม่เคยโวยวายหรือเรียกร้อง นั่นไม่ใช่เพราะว่าเธอใจกว้าง

แต่เป็นเพราะว่าเธอขี้เกียจต่างหาก

สำหรับเธอแล้ว ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ล้ำเส้นเข้ามา อย่างเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรค่าพอจะพูดถึงพวกนั้น เธอก็ขี้เกียจเกินกว่าจะเข้าไปจัดการ

แทนที่จะไปจัดการกับพวกไม่สำคัญเหล่านั้น ไม่สู้เอาเวลาไปฝึกปาลูกดอกสักสองสามดอกดีกว่า

พอดูได้ประมาณสองตอนเฉียวฉีก็เริ่มง่วง

เพราะงั้นเธอเลยจะกลับห้องไปเข้านอน

เสี่ยวเยว่พาเธอกลับไปจนถึงห้อง จากนั้นก็เฝ้าจนเธอหลับ แล้วก็ค่อยออกมา

วันต่อมา

ทันทีที่เฉียวฉีตื่นนอน อยู่ ๆ เธอก็ได้รับข้อความใหม่หนึ่งฉบับ

คืนนี้มีการจัดงานประมูลครั้งใหญ่ที่ฟากตะวันออกของเมือง

ถ้าพูดกันตามหลักการแล้ว นิสัยจริง ๆ ของเธอคือ เธอไม่ใช่คนที่ชอบอะไรครึกครื้นแบบนั้น อย่างงานประมูลนี่ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ

แต่ครั้งนี้ เธอกลับให้ความสนใจกับมันเป็นพิเศษ เพียงเพราะมีข่าวลือทางอินเทอร์เน็ตออกมาว่า งานประมูลครั้งนี้จะมีสมบัติล้ำค่าเข้ามาจัดการประมูลด้วย ซึ่งสิ่งนั้นก็คือแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์

ในตอนที่เห็นข่าวนี้ออกมา เธอนั่งอยู่กับกู้ซือเฉียนที่ห้องรับแขก

ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งคู่จะเห็นอะไรบางอย่างลึกลงไปในแววตาของอีกฝ่าย

แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ของที่สูญหายไปเป็นระยะเวลาสี่ปี ตอนนี้มันกลับมาอีกครั้ง

สรุปแล้วมันเป็นเรื่องบังเอิญหรือมีคนตั้งใจกันแน่นะ?

จากการสืบค้นและวิเคราะห์จากกู้ซือฉียนก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนเลยรู้แล้วว่า ข่าวลือทั้งหมดที่ว่าแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ สามารถทำให้ผู้คนฟื้นคืนชีพได้นั้น จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องโกหก

แต่แค่พวกเขารู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่น ๆ ที่เหลือจะรู้ด้วย

ดังนั้น พอข่าวนี้ถูกปล่อยออกมา เลยส่งผลให้เกิดเสียงฮือฮากันทั่วทั้งวงการ

คนจำนวนไม่น้อย อยากได้ตั๋วเข้าไปร่วมงานประมูลครั้งนี้ ไม่ว่าจะแย่งชิงมันมาได้รึเปล่า แต่แค่ได้เข้าไปเห็นสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นด้วยตาตนเองได้ แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

ในเมื่อเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ เฉียวฉีและกู้ซือเฉียนก็ต้องเข้าร่วมด้วยเป็นธรรมดา

ดังนั้น ทั้งคู่เลยตัดสินใจขอให้ ฉินเยว่ซื้อตั๋วให้สองใบ แล้วทั้งคู่ก็จะไปร่วมงานพร้อมกันในคืนนี้

และเพราะว่าเมื่อวานไปงานเลี้ยงฉลองวันเกิดมา เท้าของเฉียวฉีที่ตอนแรกดีขึ้นแล้วนิดหน่อยก็กลับมาบวมอีก

เพราะงั้นคืนนี้กู้ซือเฉียนเลยบอกเธอว่าไม่ว่ายังไงก็ห้ามใส่รองเท้าส้นสูงเด็ดขาด

โชคดีหน่อยที่เป็นเพียงแค่สถานที่จัดงานประมูลเท่านั้น แต่งตัวสบายหน่อย ก็ไม่ได้เสียหายอะไร

เธอก็เลยขอให้ เสี่ยวเยว่จัดเตรียมรองเท้าส้นแบนที่เข้ากับชุดราตรีของเธอให้คู่หนึ่ง

ตั๋วของงานประมูลแบบนี้ ก็ไม่ได้ถือว่าหายากสักเท่าไร

เพียงไม่นานฉินเยว่ ก็จัดการให้เรียบร้อย

และเพราะว่างานประมูลครั้งนี้เริ่มตอนสองทุ่ม ทั้งคู่ก็เลยไม่ได้รีบร้อนที่จะไปก่อน พวกเขากินข้าวเย็นกันจนเสร็จ จากนั้นก็รอเวลาพอประมาณ แล้วก็ค่อยออกเดินทาง

งานประมูลจัดขึ้นที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งทางตะวันออกของเมือง

ตอนที่ทั้งคู่ไปถึง ผู้คนส่วนใหญ่ก็มาถึงแล้วเช่นกัน

ในตอนนี้งานประมูลยังไม่ทันเริ่ม ทุกคนยังอยู่กันที่ด้านนอก ถือแก้วไวน์พบปะกัน ภายในห้องรับรองขนาดใหญ่ผู้คนชนแก้วกันไปมา แลดูครึกครื้นไม่น้อย

พอกู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีเข้ามาในงาน ก็มีคนสังเกตเห็นการมาถึงของทั้งคู่ทันที

ก่อนจะมีคนเข้ามาทักทายพวกเขาอย่างรีบร้อน

“คุณชายกู้ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ ทำไมวันนี้ถึงมาเข้าร่วมงานประมูลได้?”

ทุกคนรู้ดี ว่ากู้ซือเฉียนไม่ได้ให้ความสนใจกับงานประมูลนี้สักเท่าไร

กู้ซือเฉียนยิ้มออกมาเบา ๆ พร้อมกับยื่นมือออกไปจับมืออีกฝ่าย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ประธานหลี่มาได้ แน่นอนว่าผมก็มาได้สิครับ”

นัยน์ตาของชายที่ถูกเรียกว่า ประธานหลี่มีประกายเกิดขึ้นมาชั่วขณะ

อย่างที่ทุกคนรู้ ในงานประมูลครั้งนี้ถ้าพูดถึงเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ต่างจากงานประมูลทั่วไป

แต่เป็นเพราะคืนนี้มีสมบัติในตำนาน ที่สามารถทำให้ผู้คนฟื้นกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งอย่างแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ งานนี้ก็เลยสามารถดึงดูดนักการเมือง คนดัง และนักธุรกิจที่ร่ำรวยมากมายให้มาเข้าร่วมได้

จึงสามารถพูดได้เลยว่า คนที่มาเข้าร่วมงานประมูลในคืนนี้ เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ ล้วนเป็นคนที่สนใจในแผ่นหยกนี้ทั้งนั้น

คาดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่คนอย่างกู้ซือเฉียนก็มาเข้าร่วมด้วย

นัยน์ตาของ ประธานหลี่มีประกายขึ้นมาเพียงชั่วครู่ แผนการแย่งชิงแผ่นหยกนี้ของเขาในคืนนี้ ต้องลดลงไปอีกสองสามเปอร์เซ็นต์สินะ

แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิดที่เกิดขึ้นในใจ เขาต้องไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกไปเด็ดขาด

เขายิ้มพร้อมกับตอบกลับอย่างกระตือรือร้นว่า “คุณชายกู้จะเกรงใจกันเกินไปแล้ว ผมได้ยินมาว่าคุณไม่ค่อยสนใจกับอะไรแบบนี้สักเท่าไร ก็เลยคาดไม่ถึงว่าจะเจอคุณที่นี่ ในเมื่อวันนี้คุณมาแล้ว มันก็ต้องน่ายินดีเป็นธรรมดา ทำให้ทุกคนในที่นี้ก็พลอยยินดีไปด้วย”

กู้ซือเฉียนยิ้มออกมาเบา ๆ พร้อมกับตอบกลับอย่างเกรงใจว่า “ประธานหลี่ก็เกรงใจกันเกินไปแล้ว”

ทั้งสองคนทักทายกันสักพัก ก็อ้างว่ามีเรื่องที่ต้องไปทำ ก่อนจะพากันแยกย้าย

ก่อนจากกันประธานหลี่ ยังมองลึกเข้าไปในดวงตาของเฉียวฉีอยู่ครู่หนึ่ง

เพราะเมื่อครู่กู้ซือเฉียนไม่ได้ออกตัวแนะนำเธอต่อเขา ส่วนเขาเองก็เกรงใจที่จะเอ่ยปากถามเช่นกัน

คุณชายสามกู้ที่ไม่เคยใกล้ชิดกับผู้หญิงมาก่อน ที่ไหนได้มีสาวข้างกายแล้ว?

เธอคือใครกันนะ?

ชายหนุ่มสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

อย่างไรเสียสถานที่แบบนี้ จะควงผู้หญิงมาด้วยก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่ใช่สาวข้างกายของกู้ซือเฉียนจริง ๆ ก็ได้ อาจจะเป็นแค่พนักงานหญิงในบริษัท หรืออาจแค่เพื่อนสาวอะไรทำนองนั้น

พอคิดแบบนี้ประธานหลี่ ก็ไม่ได้คิดอะไรต่ออีก

ส่วนอีกด้านกู้ซือเฉียนกำลังกระซิบแนะนำผู้คนที่อยู่ในห้องโถงให้เฉียวฉีฟังด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ พลางตอบรับการทักทายจากคนอื่น ๆ อย่างเป็นมิตร

เมื่อทุกคนเห็นเขา สายตาเหล่านั้นบ้างก็ดูชื่นชม บ้างก็ดูอิจฉา แต่ที่มากกว่านั้นก็คือสายตาที่ดูระแวดระวัง

เพราะทุกคนต่างรู้ดี ว่าของสิ่งไหนที่ผู้ชายคนนี้ถูกใจแล้ว เขาจะไม่ปล่อยให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของผู้อื่นเด็ดขาด

ดูท่าแล้ว งานประมูลคืนนี้ อาจจะมีการนองเลือดเกิดขึ้นก็ได้

เมื่อถึงเวลาประมาณ 19:50 น. งานประมูลก็เตรียมจะเริ่มขึ้น แขกเหลือต่าง ๆ ก็สามารถเข้าไปด้านในได้แล้ว

ทุกคนสามารถใช้ตั๋วที่มีเข้ามาภายในงานได้ หลังจากเข้ามาแล้ว ก็จะมีที่เป็นของตัวเอง

ที่นั่งของกู้ซือเฉียนและเฉียวฉีอยู่บริเวณแถวแรก ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับเวทีมากที่สุด

ซึ่งคนที่นั่งอยู่แถวนี้ ล้วนเป็นคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจทั้งนั้น

และที่บังเอิญก็คือหลินซงกับ จิงจิงก็มาเข้าร่วมเช่นกัน

ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ถือว่ามากันค่อนข้างเร็ว แต่ตอนที่อยู่ในห้องโถงกลับไม่เจอคนทั้งคู่เลย

แต่ตอนนี้พอมาถึงที่นั่ง อยู่ ๆ ก็เจอเข้ากับอีกฝ่าย ชั่วขณะหนึ่งจึงรู้สึกทั้งตกใจและประหลาดใจไปพร้อมกัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset