ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 131 ร่วมมือ

อวิ๋นเจี่ยวนอนจนถึงตอนบ่ายของวันที่สองถึงจะตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเข้าสู่ยมโลกหรือไม่ ร่างกายของนางรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ โชคดีที่บาดแผลของเหวินชิงและหยวนเจียงใช้เข็มในการควบคุมไว้แต่แรก ไม่ได้ลุกลามหนักมากขึ้น

“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าหนู” อวิ๋นเจี่ยวฝังเข็มให้ทั้งสองคนอีกครั้ง ไป๋อวี้ที่อยู่ด้านข้างถามขึ้นอย่างร้อนรน “อาจารย์อาทั้งสองไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”

อวิ๋นเจี่ยวผงะไปเล็กน้อย มองอีกฝ่ายด้วยความฉงน ความสัมพันธ์ระหว่างชายแก่กับพวกเขาดีขนาดนี้เลยเหรอ แต่นางก็ไม่ได้คิดมาก ตอบกลับไปโดยตรง “ฝังเข็มทำได้เพียงรักษาเส้นชีพจรที่ถูกทำลาย ส่วนพลังบนตัวและร่างทองที่เสียหายของอาจารย์อาหยวนเจียง อาศัยการฝังเข็มอย่างเดียวคงไม่ได้”

ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเหวินชิง ร่างกายของเขาฟื้นพลังกลับมาเล็กน้อย ทันใดนั้นกลับมืดหม่นลงไป มองไปยังหยวนเจียงด้วยความรู้สึกผิด “ศิษย์พี่สอง เป็นเพราะ…”

“ช่างเถอะ” หยวนเจียงกลับไม่สนใจ ยังไม่รอเขาพูดจบก็ส่ายหัว “ระหว่างศิษย์พี่น้องไม่ต้องพูดเรื่องนี้ ร่างทองเท่านั้นเอง ฝึกใหม่ก็พอ”

เหวินชิงยิ่งรู้สึกผิด คนทั้งคนแทบจะหดเข้าพื้นดินไป ร่างทองฝึกฝนกันง่ายขนาดนั้นที่ไหน บรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้อง ฝึกฝนมาหลายหมื่นปี มีเพียงศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่สองที่มีร่างทอง

“ที่จริงไม่ต้องเป็นห่วง” อวิ๋นเจี่ยวพูดต่อ “อาจารย์อาหยวนตอนนี้ไม่สามารถใช้ร่างทองได้ เป็นเพราะร่างทองได้รับบาดเจ็บสลบไป ไม่ใช่สลายหายไป ไม่ต้องฝึกฝนใหม่ ยังมีโอกาสที่จะฟื้นกลับมาได้”

“จริงหรือ!” เหวินชิงดีใจขึ้นมาทันที ดวงตาลุกวาวมองมายังนาง แม้แต่หยวนเจียงก็มีความดีใจขึ้นมาเล็กน้อย

“อืม” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า “เพียงแต่บาดแผลของพวกท่านต้องพักฟื้น อาจารย์อาทั้งสองยังเป็นเทพ หากอยากฟื้นให้เร็ว คงต้อง…”

“แค่ก…แค่ก!” นางกำลังจะบอกให้พวกเขากลับไปพักฟื้นที่สวรรค์ ไป๋อวี้ที่อยู่ด้านข้างกลับไอขึ้นมา ก่อนจะส่งสัญญาณให้นาง ดังนั้นคำพูดที่ออกมาจึงกลายเป็น “คงต้อง…ใช้สมุนไพรวิเศษในการช่วย”

“สมุนไพรวิเศษอะไร” หยวนเจียงถามอย่างจริงจัง

“ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้พวกท่าน” อวิ๋นเจี่ยวมองไป๋อวี้ทีหนึ่ง ฝ่ายหลังรีบเดินไปหยิบพู่กันและหมึกมา

อวิ๋นเจี่ยวเขียนสมุนไพรวิเศษจำนวนมาก ถึงได้ยื่นออกไป “หากรวบรวมยาเหล่านี้ได้ ข้าสามารถหลอมยาให้อาจารย์อาหยวนได้ อาจมีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูร่างทอง”

ทั้งสองคนหยิบใบสั่งยามาดู ด้านบนเป็นสมุนไพรวิเศษประเภทต่างๆ มากมาย บางประเภทแม้แต่บนสวรรค์ยังพบเจอได้ยาก เพียงแต่สำหรับพวกเขาที่มีลูกศิษย์มากมายบนสวรรค์แล้ว หากจะรวบรวมให้ครบไม่ใช่เรื่องยาก

“ขอบใจศิษย์หลานอวิ๋น” หยวนเจียงเก็บใบสั่งยา ก่อนจะพูดขึ้น “ข้าจะส่งข่าวกลับสวรรค์ รวบรวมยาเหล่านี้ให้เร็วที่สุด”

อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า ไม่ได้อยู่ต่อ นางลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดขึ้น “เช่นนั้นข้าไปทำอาหารแล้ว ไม่รบกวนการพักผ่อนของอาจารย์อาทั้งสอง”

พูดจบ ก็ลากไป๋อวี้ออกจากห้องแขก เดินไปยังทิศทางของห้องครัว

จนกระทั่งเดินออกจากสวนด้านหลัง ถึงได้เอ่ยถามไป๋อวี้ “พูดมา หมายความอย่างไร ท่านก็รู้นิสัยของอาจารย์ปู่ ไม่แน่ว่าตอนกินข้าวอาจจะตบพวกเขาเข้าไปในกำแพงอีก” แงะคนออกมาก็ลำบากเหมือนกันนะ? อีกทั้งยังต้องซ่อมอีก “หัวหน้าห้องเจียวยังส่งกลับไปแล้ว จะรั้งพวกเขาไว้ทำไม”

“มา เจ้าหนู พวกเราเข้าไปคุยกันด้านใน!” ไป๋อวี้มองดูรอบด้านอย่างระมัดระวัง ก่อนจะลากนางเข้าไปในห้องครัวด้วยสีหน้าร้ายกาจ อีกทั้งยังปิดประตูด้วยความระมัดระวัง และติดยันต์ปิดกั้นไว้บนประตูหนึ่งใบ จากนั้นยื่นย่ามเก็บของให้นาง ตาของเขาหรี่เป็นเส้น “ให้”

“นี่อะไร” อวิ๋นเจี่ยวเปิดดู ทันใดนั้นแสงสีขาวแสบตาพร้อมพลังเทพโผล่ออกมาจากด้านใน นางหรี่ตาลง มองพินิจอย่างละเอียด “นี่คือ…อาวุธเทพ?”

ในถุงมีอาวุธเทพประเภทต่างๆ หลายสิบชิ้น อีกทั้งยังมีผลไม้วิเศษและยาวิเศษต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งของหายากในโลกมนุษย์

“อืมๆๆ” ไป๋อวี้พยักหน้าอย่างแรง พลางหยิบพลางอธิบาย “เจ้าหนู เจ้ากำลังจะเริ่มฝึกฝนแล้วใช่หรือไม่ชิ้นนี้เจ้าสามารถใช้ตอนฝึกฝนข่ายพลัง ชิ้นนี้สามารถใช้ตอนหลอมยา อีกทั้งชิ้นนี้สามารถใช้เป็นอาวุธประจำกาย ชิ้นนี้…สามารถเอาไว้ถือเล่นได้ ยังมียาพวกนี้ ล้วนเป็นยาวิเศษ ได้ยินว่าหนึ่งเม็ดสามารถทดแทนการฝึกฝนเป็นสิบปี!”

เขายิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ก่อนจะยัดให้นางทั้งหมด

“เอามาจากไหน” อวิ๋นเจี่ยวตะลึง ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องยา เหล่าอาวุธไม่ใช่สิ่งที่นางถนัด ดังนั้นทั้งสำนักชิงหยาง นอกจากเครื่องมือการรักษาที่อาจารย์ปู่ให้เอาไว้แล้ว ก็ไม่มีอาวุธสักชิ้น

“คนโง่…เอ่อ อาจารย์อาทั้งสองให้ข้ามา” เขาเล่าความเป็นมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ให้อีกฝ่ายฟัง บางคนเนื่องจากไม่ได้กินข้าวเย็น จึงส่งลูกศิษย์ใช้เหตุผลต่างๆ มาเอาขนม ผักดอง ผลไม้แห้งจากตนเอง พร้อมกับเน้นย้ำความฉลาดของตนเอง ใช้แผนซ้อนแผนขออาวุธมากมายมาจากอาจารย์อาทั้งสอง เป็นความร่วมมืออันสมบูรณ์แบบระหว่างเขากับอาจารย์ปู่

“ถึงแม้ขวดในห้องของข้าถูกขนไปจนหมด แต่ว่าก็แลกของเหล่านี้กลับมาได้ ถือว่าคุ้มทุนแล้ว” เขาพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“…” ดังนั้นท่านพยายามรั้งคนให้อยู่ในอาราม เพื่อความสะดวกต่อการรีดไถอาวุธของคนอื่น?

เรื่องรีดไถ ไป๋อวี้ชำนาญ

“จริงสิ!” เขานึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะหยิบกระดาษสองใบออกมา “พวกเขายังติดข้าอยู่เลย!”

อวิ๋นเจี่ยว “…”

ถึงแม้จะรู้สึกว่าคนป่วยสองคนน่าสงสารเล็กน้อย แต่ว่า…

“ทำได้ดี!”

╭(・ㅂ・)و̑̑

หยวนเจียงและเหวินชิงบาดเจ็บสาหัส แม้แต่เคลื่อนไหวยังยากลำบาก ดังนั้นจึงต้องพักฟื้นอยู่ในห้องแขก โชคดีที่ร่างของพวกเขาเป็นร่างเทพ เวลาผ่านไปสองวัน บาดแผลบนร่างกายก็ดีขึ้นไม่น้อยแล้ว นอกจากเคลื่อนไหวได้แล้ว พลังก็กลับมาใช้ได้เช่นกัน

หยวนเจียงเองก็รู้สึกประหลาดใจ ศิษย์หลานของเขาดูเหมือนจะเก่งกาจไม่เบา ไม่มีผลข้างเคียงไม่พอ ยังรู้สึกว่าร่างทั้งร่างผ่อนคลายลง บรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องของพวกเขา ถึงแม้จะรู้เรื่องการรักษาบ้าง แต่ไม่มีคนฝึกฝนด้านหมอรักษาพลังลมปราณโดยเฉพาะ ถึงแม้จะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านยา แต่รู้สึกว่าวิธีการรักษาของทั้งสองไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย แยกไม่ออกว่าคนไหนเก่งกว่ากัน แต่เมื่อคิดดูแล้ว ศิษย์หลานมีอาจารย์คอยถ่ายทอดเอง เขาก็เลือกศิษย์หลานอย่างไม่ลังเล

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผ่านไปหมื่นปี เขาได้พบกับอาจารย์อีกครั้ง อืม…ถึงแม้จะเจ็บใจเล็กน้อย แต่ได้พบถือว่าโชคดีมากแล้ว หยวนเจียงรู้สึกว่าหลายวันนี้เป็นวันที่สบายใจที่สุดในหลายหมื่นปีมานี้

จนกระทั้ง…ศิษย์หลานที่ดีเด่นนั้น นำเอาใบแจ้งหนี้วางต่อหน้าทั้งสองคน พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อาจารย์อาทั้งสองหายดีแล้ว เช่นนั้นก็จ่ายค่ารักษาหน่อย ขอบคุณ”

เหวินชิง “…”

หยวนเจียง “…”

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset