ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 25 ปรมาจารย์พิโรธ

“อา…จารย์ปู่?” ไป๋อวี้ขยี้ตาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เขาฝันไปหรือเปล่า ออก…ออกมาจริงด้วย! อาจารย์ปู่ปรากฏตัวแล้ว…อาจารย์ปู่ปรากฏตัวแล้วจริงด้วย…อาจารย์ปู่ปรากฏตัวอีกๆ แล้ว!  

 

 

(๑ŐдŐ)b2  

 

 

อาจารย์ปู่ให้ความสำคัญกับเจ้าหนูอวิ๋นเจี่ยวเสียจริง  

 

 

แต่เดี๋ยว…เมื่อกี้เจ้าหนูตะโกนว่าอะไรนะ  

 

 

เยี่ยยวนกวาดสายตามองไปยังฝูงผีด้านหน้าด้วยความเย็นชา คิ้วเข้มขมวดมุ่น ‘วิญญาณ?’ แค่วิญญาณยังสามารถบุกรุกเข้ามาในอารามได้ ศิษย์รุ่นนี้มันใช้ไม่ได้เช่นนี้เชียว หันกลับไปจ้องเขม็งชายแก่ที่อยู่ข้างประตู ซื่อบื้อเสียจริง!  

 

 

ไป๋อวี้ถูกจ้องมองจนสั่นสะท้าน “…” หมายความว่าอย่างไร อาจารย์ปู่จ้องเขาทำไมกัน เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงเป็นเขาอีกแล้ว  

 

 

(ಥ_ಥ)  

 

 

“ลูก! ลูก…ไม่! ไม่ได้! อย่าทำร้ายลูกข้า!” แม่ซู่เหนียงร้องด้วยเสียงที่แสนเจ็บปวด สีหน้าร้อนรนก่อนที่จะกระโจนเข้าไปหาผีทารกที่หนีกันไปคนละทิศคนละทางราวกับจะรั้งไว้ แต่ไม่มีประโยชน์อันใดทั้งสิ้น ภายใต้แสงขาว ผีทารกพวกนั้นสลายไปอย่างต่อเนื่อง แม่ซู่เหนียงสีหน้าหมดหวังลง ก่อนจะเปล่งเสียงโหยหวนอย่างน่าเวทนาออกมา ภายในดวงตาสีดำนั้นมีน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายเลือด พลังวิญญาณบนตัวนางระเบิดออกมา นางพุ่งพรวดเข้ามาทางพวกเขาอย่างไม่สนใจแสงขาวรอบด้านราวกับเสียสติ  

 

 

รวมทั้งผีสาวที่อยู่รอบด้านก็เช่นกัน พวกนางกระโจนเข้ามาโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด อีกทั้งยิ่งดุร้ายมากขึ้น พวกนางล้วนเป็นแม่ที่กลายเป็นผีร้ายเนื่องจากการสูญเสียลูกของตัวเอง ถึงแม้จะถูกกลืนกินสติไป แต่ยังคงปกป้องผีทารกตามสัญชาตญาณความเป็นแม่ ตอนนี้ผีทารกถูกกำจัด พวกนางคงเข้าใจว่าลูกของตัวเองตายไปอีกรอบ ทำให้ตกอยู่ในความบ้าคลั่ง  

 

 

ฝูงผีพุ่งเข้ามาอีกรอบ  

 

 

แต่เสียดายที่พวกนางยังไม่ทันเข้าใกล้เยี่ยยวนมากกว่าสิบเมตรก็ถูกกระแทกออกไปด้วยพลังที่มองไม่เห็น ฝูงผีที่เดิมยังตั้งท่าจะโจมตีพวกเขานั้นร่วงลงไปกองกับพื้นในทันใด  

 

 

“ฮึ” เยี่ยยวนส่งเสียงเย็นในลำคอ ราวกับไม่รู้สึกว่าเมื่อกี้คือการโจมตี มือหนึ่งยกขึ้น ก่อนที่จะปรากฎยันต์คาถาสีทองกลางอากาศ ทั้งที่เป็นเพียงยันต์คาถาง่ายๆ แต่กลับเต็มไปด้วยพลังที่ไม่อาจต้านได้  

 

 

อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกว่า หากยันต์นี้โจมตีออกไป ผีสาวทั้งหลายนี้คงต้องวิญญาณสลายไปหมดสิ้นเป็นแน่ ไม่วายในใจรู้สึกหนักหน่วงขึ้น ก่อนจะขึ้นไปกอดแขนของเขาเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน อาจารย์ปู่!”  

 

 

เยี่ยยวนชะงักมือ นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ มองไปยังคนด้านข้าง ใบหน้าค่อยๆ แดงขึ้น อวิ๋นเจี่ยวยังไม่ทันเอ่ยปาก รู้สึกเพียงมีบางอย่างผ่านหน้าไป คนที่เมื่อกี้กำลังจะลงมือนั้นถอยพรวดออกไปทันที พร้อมมองหน้านางด้วยสีหน้าระแวง ถอยห่างจากนางราวสิบก้าว  

 

 

อวิ๋นเจี่ยว “…”  

 

 

ก้มหน้ามองมือของตัวเอง นางมีพิษหรือไง  

 

 

“อาจารย์ปู่” อวิ๋นเจี่ยวไม่ทันคิดให้ลึกลงไปถึงท่าทางที่แปลกประหลาดของอีกฝ่าย พร้อมเอ่ย “วิญญาณของผีสาวพวกนี้อ่อนแอมาก ไม่สามารถต้านยันต์ของท่านได้แล้ว”  

 

 

ไป๋อวี้ที่อยู่ด้านข้างเพิ่งดึงสติกลับมาได้ หันไปมองเหล่าผีสาวที่อยู่บนพื้น แสงขาวเมื่อกี้ไม่เพียงแต่ทำร้ายผีทารก แต่ยังทำร้ายพวกนางอย่างมาก อีกทั้งยังถูกพลังลมปราณที่ปกป้องร่างกายของอาจารย์ปู่โจมตีด้วย ตอนนี้แม้แต่ร่างยังคงรักษาไว้ไม่ได้ ใสราวกับจะหายไปเสียทีเดียว  

 

 

แต่พวกนางไม่สามารถรับรู้ได้ถึงสภาพของตัวเองในตอนนี้ เหล่าผีสาวหมอบอยู่บนพื้นราวกับกำลังควานหาอะไรบางอย่างอย่างบ้าคลั่ง พวกนางกำลังหาผีทารกที่สลายไปพวกนั้น แม้แต่แม่ซู่เหนียงก็เช่นกัน อีกทั้งยังบ้าคลั่งกว่าผีตัวอื่นอีกด้วย ดูท่าทางนางคงถูกพลังอาฆาตกลืนกินสติของนางเสียแล้ว  

 

 

ไป๋อวี้ราวกับนึกอะไรขึ้นได้ ผีในถ้ำผีสาวนั้นล้วนเป็นหญิงสาวที่ตายอย่างน่าอนาถ พวกนางกลายเป็นผีร้ายก็เพื่อจะแก้แค้นให้กับลูกของตัวเอง พอแก้แค้นสำเร็จก็ถูกพลังอาฆาตนั้นกลืนกินสติสัมปชัญญะ ไม่สามารถหลุดพ้นได้ แต่ถึงอย่างนี้ เมื่อเจอผีทารกที่เกิดมาจากแรงอาฆาตนั้นก็ยังคงปกป้องพวกเขาด้วยสัญชาตญาณ ไม่เกรงกลัวว่าตัวเองจะสลายไป  

 

 

ไป๋อวี้รู้สึกเศร้าใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พร้อมกับอดไม่ได้จะที่เอ่ยปากห้าม “ใช่แล้วอาจารย์ปู่ พอแล้วๆ! หากสู้กันต่อไป พวกนางคงไม่ได้ไปเกิดใหม่แน่” พวกนางก็เป็นแค่เหล่าคนที่น่าสงสาร ไม่! ผีที่น่าสงสาร  

 

 

เยี่ยยวนขมวดคิ้ว หันไปมองไป๋อวี้ด้วยสายตาเยือกเย็น “เป็นถึงศิษย์เสวียนเหมิน แต่กลับรับมือกับวิญญาณไม่ได้ สิ่งที่เจ้าฝึกฝนช่างเสียเปล่า” ไก่อ่อนมีหน้าอะไรมาออกความเห็น  

 

 

ไป่อวี้ถูกเขาจ้องจนตัวสั่น แต่ยังไม่วายที่จะเอ่ยห้ามต่อ “อาจารย์ปู่ท่านมีพลังเก่งกาจ…แต่พวกเขาถูกท่านโจมตีจนตอนนี้เหลือพลังเพียงครึ่งเดียว คงทนต่อได้อีกไม่นานอยู่แล้ว หากถูกท่านโจมตีต่อ…วิญญาณคงสลายไปเป็นแน่”  

 

 

เยี่ยยวนได้ยินดังนั้นจึงเก็บมือ อีกทั้งกำลังจะเก็บแสงขาวรอบด้าน แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นห้องที่พังลงมาด้านหน้า เมื่อกี้ฝูงผีบุกเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมทั้งตอนหลังยังมีผีทารกมากมายมาด้วย ตำหนักด้านหน้าของสำนักชิงหยางก็ถูกทำลายจนแทบไม่เหลือแล้ว มองไปล้วนแต่เป็นซากที่พังทลาย ตำหนัก ด้านหน้า สวนทางตะวันออกอีกทั้ง…ห้องครัว?!  

 

 

∑(っ°Д°;)っ  

 

 

สายตาที่เย็นยะเยือกอยู่แล้วของเยี่ยยวนกลับเย็นยะเยือกยิ่งขึ้น รอบตัวของเขาแผ่กระจายไอเย็นราวกับถูกเปิดวาล์ว  

 

 

ห้องครัวไม่มีแล้ว…ครัวไม่มีแล้ว…ไม่มีแล้ว…แล้ว!  

 

 

ไหนบอกกินข้าว?! ไหนบอกน้ำแกงไก่สามถ้วยใหญ่?! อยู่ไหนกัน?!  

 

 

ห้องครัวไม่มีแล้วเท่ากับข้าวไม่มีแล้วเท่ากับน้ำแกงไก่ไม่มีแล้ว! ศิษย์หลานตัวน้อยไม่หลอกเขาแน่ ต้องเป็นเพราะวิญญาณพวกนี้เป็นแน่  

 

 

╭(艹皿艹)╮  

 

 

เยี่ยยวนโกรธมาก ผลลัพธ์สาหัสมาก! สำหรับสาเหตุที่ทำให้เขาโกรธ โดยปกติแล้วเขามีวิธีจัดการเพียงอย่างเดียว ไม่ถูกชะตา กำจัดทิ้งก็พอ!  

 

 

“อาจารย์ปู่ ปล่อย…” ชายแก่ยังไม่รู้ตัว ยังคงพูดปรามอย่างจริงจัง  

 

 

“ไม่ได้!”  

 

 

“แต่ว่า…”  

 

 

“หลบ!”  

 

 

เยี่ยยวนจ้องมองไปยังฝูงผีที่อยู่บนพื้น สีหน้ายิ่งเย็นชามากขึ้น ราวกับกำลังมีอะไรบางอย่างจะระเบิดออกมา ทันใดนั้นลมก็ก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง แสงจากดวงจันทร์ก็มืดลง “พวกเจ้า…สมควรตาย!” เอาน้ำแกงข้าคืนมา!  

 

 

o(≧口≦)o  

 

 

อาจเป็นเพราะกำลังโกรธ คราวนี้เขาไม่แม้แต่จะวาดยันต์ โบกมือขึ้นหนึ่งที ข่ายพลังสีทองก็ปรากฎเหนือหัวของฝูงผี อีกทั้งยังเต็มไปด้วยพลังที่น่าเกรงขามกว่าเมื่อกี้เป็นอย่างมาก ฝูงผีเดิมที่ยังคงล่องลอยไปมาราวกับถูกแรงดันบางอย่างกดทับไว้บนพื้น วิญญาณก็เริ่มสลายหายไป  

 

 

“อาจารย์ปู่!” ชายแก่อดไม่ได้ที่จะออกเสียง  

 

 

เยี่ยยวนหันหน้าไปมองเขา ก่อนจะเอ่ย “เจ้าก็อยากตายหรือ”  

 

 

“เอ่อ…” ไป๋อวี้ตัวสั่นไปหนึ่งที ท่าทางของอาจารย์ปู่…น่ากลัวเสียจริง  

 

 

วิญญาณของฝูงผีนั้นเริ่มใสขึ้นเรื่อยๆ ดูท่าข่ายพลังนั้นจะเริ่มต่ำลง ฝูงวิญญาณก็ใกล้จะสลายไปเต็มที  

 

 

อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ดึงไป๋อวี้ให้ถอยห่างก่อนเอ่ย “อาจารย์ปู่ มื้อต่อไปยังมีน้ำแกง!”  

 

 

“…” ข่ายพลังเหนืออากาศชะงัก แต่ยังคงส่องแสงสว่างอยู่  

 

 

อวิ๋นเจี่ยวยกมือขึ้น “ห้าถ้วย!”  

 

 

“…” ข่ายพลังมืดลงไปเล็กน้อย ราวกับกำลังลังเล  

 

 

“ถ้วยใหญ่!” นางเสริม  

 

 

“…” พรึบ ข่ายพลังหายไปในที่สุด  

 

 

เยี่ยยวนเงียบไปพักหนึ่ง มองไปยังฝูงผีที่อยู่บนพื้นด้วยสายตาเยือกเย็น ก่อนจะส่งเสียงในลำคอทีหนึ่ง และหันหลังเดินกลับเจดีย์ไป สีหน้าราวกับกำลังจะบอกว่าข้าเห็นแก่หน้าพวกเจ้าถึงหยุดมือ ไม่ใช่หายโกรธ  

 

 

อวิ๋นเจี่ยว “…”  

 

 

กำลังจะขึ้นไปข้างบนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ หันหลังกลับไปจ้องเขม็งที่ไป๋อวี้ ก่อนจะเอ่ยด้วยความจริงจัง “เจ้า ห้ามกินข้าวเย็น!” พลังน้อยขนาดนี้ ควรจะฝึกฝนให้มาก ไม่ใช่อยากจะกินน้ำแกงเพิ่มมากขึ้นอย่างเดียว  

 

 

ฮึ!  

 

 

╭(╯^╰)╮  

 

 

ไป๋อวี้ “…”  

 

 

ทำไมเป็นข้าอีกแล้ว?!  

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset