ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 72 ของขวัญตอบแทน

ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมามันไม่ยุติธรรม หน้าของจิ้งจอกน้อยแดงขึ้นและพูดต่อทันทีว่า “หรือ… ข้าจะตอบแทนท่านในชาติหน้า!” หลังจากนั้นยังพูดเสริมอีกว่า “ตอบแทนด้วยไก่อีกหลายๆ ตัวเลย!”

 

 

“…” ไปให้พ้น!

 

 

“หมออวิ๋น…”

 

 

“พอๆๆ!” หากยังพูดต่อไป นางคงจะเปลี่ยนจากสัตวแพทย์เป็นแม่ค้าไก่แล้ว อวิ๋นเจี่ยวพูดขัด

 

 

“ปล่อยเรื่องของไก่ไปก่อน พวกเจ้าทั้งสองก็ไม่ต้องแสดงละครต่อหน้าข้า ที่ข้าพูดเมื่อกี้คือให้หาสิ่งที่สามารถทดแทนลูกแก้วพลัง ไม่ได้บอกว่าให้เจ้าเสียสละชีวิตของตัวเอง” ทบทวนหัวข้อให้ดีก่อนได้ไหม

 

 

“ใช้อย่างอื่นได้?” จี้เฉินแววตาเป็นประกาย

 

 

“อืม” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า

 

 

“แค่หาอาวุธวิเศษที่คล้ายกับพลังของน้องสาวเจ้าก็พอ แต่ต้องมีคุณสมบัติของพลังเหมือนกับนางถึงจะเข้ากันได้” จี้เฉินไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับนึกอะไรขึ้นได้ เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

 

 

“ท่านพ่อ…ท่านพ่อต้องมีวิธีแน่นอน หมออวิ๋นรอตรงนี้ก่อน ข้าจะเชิญท่านพ่อมา”

 

 

พูดแล้วก็วิ่งหายไปเร็วดังลมพัด ไม่ถึงชั่วครู่ ร่างสองร่างก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ราชามารที่เพิ่งพบหน้าเมื่อครู่ ตอนนี้เขาอยู่ในชุดสีเขียวดูสบาย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลของคนเป็นพ่อ

 

 

“เจ้ามีวิธีรักษาลี้เอ๋อจริงๆ!” ทันทีที่ราชามารเข้ามา เขามองมาที่อวิ๋นเจี่ยวด้วยท่าทางที่เหลือเชื่อ เขาเชิญหมอทั่วทั้งโลกปีศาจได้มาดูแล้ว แม้แต่ศัตรูเก่าเขาก็ยังแบกหน้าไปเชิญมา แต่ก็ไม่มีใครรักษาได้ บางคนถึงกับบอกตรงๆ ว่าเหลือเวลาไม่มาก ให้เขาเตรียมงานศพ

 

 

ก่อนหน้านี้ที่เฉินเอ๋อนำเสนอว่าให้มนุษย์คนนี้ เขาก็เพียงแค่ต้องการลองดูเท่านั้น จึงให้หูจี๋ไปเชิญคนมา แต่เมื่อกี้เฉินเอ๋อบอกกับเขาว่านางมีวิธีฟื้นร่างคนให้กับลี้เอ๋อ

 

 

“เจ้าพูดจริง?” ราชามารถามซ้ำ

 

 

อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า “ค่อนข้างมั่นใจ” ในเมื่อนางเองไม่เคยได้ทำการผ่าตัดแบบนี้มาก่อน

 

 

ราชามารเหลือบมองนาง จากนั้นก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว มองดูลูกสาวบนเตียงอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะพบเรื่องที่น่าอัศจรรย์ ในเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม ลมหายใจของลูกสาวก็เสถียรขึ้นมาก ถึงวิญญาณที่เคยปั่นป่วนก็สงบลง แม้แต่บาดแผลที่น่าสะพรึงกลัวก็มีแนวโน้มการหายดีอย่างช้าๆ

 

 

“นี่… เป็นไปได้ยังไง?” ราชามารตกตะลึงเล็กน้อย สายตาที่หันกลับไปมองอวิ๋นเจี่ยวก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ความดูถูกน้อยลง และความเคารพมากขึ้น

 

 

“ข้าเพิ่งเชื่อมเส้นชีพจรให้ใหม่” อวิ๋นเจี่ยวอธิบาย “สามารถฟื้นกลับมาได้ แต่หากไม่มีลูกแก้วพลัง วิชาของนางจะค่อยๆ สลายไป สติปัญญาของนางจะกลับสู่ความโกลาหล ต้องเริ่มต้นการฝึกฝนใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง ดังนั้นหากต้องการที่จะฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม ก็ต้องหาอาวุธวิเศษที่มีคุณสมบัติคล้ายกับพลังลูกแก้วของนาง”

 

 

“ได้ๆๆ!” ราชามารดีใจมาก ตอนแรกเขาคิดเพียงแค่สามารถช่วยชีวิตลี้เอ๋อได้ ก็เก่งกาจมากแล้ว การฝึกฝนสามารถฝึกได้ในสักวันเป็นแน่ แต่ไม่คาดคิดว่านางไม่เพียงช่วยชีวิตไว้เท่านั้น แต่ยังรักษาการฝึกฝนของ ลี้เอ๋อไว้ได้ด้วย

 

 

แม้แต่จิ้งจอกน้อยที่อยู่ข้างๆ ก็ยังตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขายังไม่ทันเข้าใจ

 

 

“หมออวิ๋น ท่านหมายถึง… องค์หญิงตอนนี้ไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้วเหรอ?”

 

 

“ใช่!” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้ารับ “เชื่อมเส้นชีพจรใหม่แล้วก็จะไม่ตาย ข้าไม่ได้บอกเจ้าเหรอ”

 

 

“แล้วที่ท่านพูดว่าต้องแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์หมายความว่า…”

 

 

“ก็คือการทำให้กลับคืนมาเหมือนเมื่อก่อน” การรักษาความเจ็บป่วยนั้นต้องรักษาให้หาย ขาดไปนิดนึงก็ไม่ได้

 

 

จี้เฉิน “…”

 

 

หูจี๋ “…”

 

 

ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกถึงความโง่เขลาของตัวเองที่ถกเถียงเรื่องการควักลูกแก้วพลัง

 

 

“หมออวิ๋น เป็นผู้เก่งกาจจริงๆ” ราชามารไม่สนใจลูกชายโง่ที่อยู่ข้างเขา เขาพูดต่อด้วยความตื่นเต้น

 

 

“ข้าไม่รู้ว่าต้องใช้อาวุธวิเศษชนิดใดเพื่อทดแทนลูกแก้วพลังของลูกข้า “

 

 

“เพียงแค่มีคุณสมบัติคล้ายกับพลังของนางก็พอ และพลังที่อยู่ในนั้นไม่สามารถเกินขีดจำกัดที่ร่างกายของนางสามารถรับได้ มิฉะนั้นนางจะตายได้ในทันที”

 

 

ราชามารครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หยิบลูกปัดใสออกมาแล้วพูดว่า “นี่คือลูกแก้วสะกดวิญญาณ เป็นของวิเศษที่สามารถทำให้วิญญาณสงบและทำให้จิตใจปลอดโปร่ง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นหยินตรงกับลูกข้า หมออวิ๋นลองดูว่านี่ใช้ได้หรือไม่”

 

 

อวิ๋นเจี่ยวมองพินิจ จากนั้นสร้างข่ายพลังอย่างง่ายด้วยเข็มเงิน ลองทดสอบคุณสมบัติของมัน ก่อนจะพยักหน้า “น่าจะใช้ได้”

 

 

พูดจบก็เดินไปที่เตียงโดยตรง นางจ้องมองไปที่ราชามารแล้วพูดว่า “ไม่ควรจะสายเกินไป ข้าจะเริ่มเดี๋ยวนี้ ท่านมาช่วยข้า”

 

 

ราชามารรีบตามไปทันที แต่เห็นเพียงอวิ๋นเจี่ยวขยับเข็มด้วยความรวดเร็ว ในเวลาชั่วครู่ ข่ายพลังหลายอันก็ปรากฏขึ้นบนร่างของลี้เอ๋อ อย่าว่าแต่จี้เฉินและจิ้งจอกน้อย แม้แต่ราชามารก็ดูไม่ออกว่ามันคืออะไร อีกทั้งหากจ้องเป็นเวลานานจะเกิดความรู้สึกเวียนหัว พวกเขาได้ยินเพียงเสียงอวิ๋นเจี่ยวที่พูดกำชับให้พวกเขาถ่ายพลัง หรือท่องคาถาในบางครั้งเท่านั้น

 

 

หลังจากยุ่งอยู่ประมาณหนึ่งชั่วยาม ลูกแก้วสะกดวิญญาณนั้นก็ค่อยๆ วิ่งเข้าสู่ร่างของลี้เอ๋อ และหยุดที่ตำแหน่งของตันเถียน มันเริ่มทำงานเหมือนลูกแก้วพลังปกติ

 

 

“ใช้คาถาฟื้นฟู” อวิ๋นเจี่ยวเตือน

 

 

ราชามารท่องคาถาทันที รูที่เต็มไปด้วยเลือดบริเวณหน้าท้องของปีศาจแมวเริ่มหายดีอย่างเห็นได้ชัด ความมหัศจรรย์คือ คราวนี้พลังในร่างกายไม่มั่วไปทั่วร่างเหมือนก่อน

 

 

เข็มเงินที่อวิ๋นเจี่ยววางครั้งแรกก็ค่อยๆ ลอยขึ้นจากเส้นชีพจร นางหยิบมันกลับมาทีละอัน จนกระทั่งอันสุดท้ายถูกหยิบออก ร่างแมวดำที่เดิมนอนอยู่บนเตียงค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป ร่างกายของมันก็ค่อยๆ ยาวขึ้น ก่อตัวเป็นแขนขา ในเวลาไม่ถึงสองนาที ก็มีเด็กหญิงตัวเล็กๆ อายุราวสิบห้าสิบหกนอนอยู่บนเตียง ใบหน้ากลมๆ ดูแล้วน่ารักมาก

 

 

“อีกไม่กี่ชั่วโมง นางจะฟื้นขึ้นมา” อวิ๋นเจี่ยวสั่งกำชับ “จำไว้ว่าอย่าให้นางใช้คาถา”

 

 

พวกเขาทั้งสามสีหน้าดีใจ ราชามารลุกยืนขึ้น กำหมัดของเขาอย่างเคร่งขรึม

 

 

“ขอบคุณหมออวิ๋นที่ช่วย ลี้เอ๋อของข้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านคือผู้มีบุญคุณต่อเผ่าหมาป่า หากมีความต้องการใดในอนาคต ครอบครัวของข้าพร้อมที่จะช่วยเหลือ”

 

 

“ไม่มีความต้องการ” อวิ๋นเจี่ยวโบกมือแล้วพูดว่า

 

 

“แต่ช่วยจ่ายค่ารักษาก่อนได้ไหม” ไม่ต้องพูดถึงความซาบซึ้งอะไรเลย เปลืองเงิน!

 

 

ราชามารชะงักครู่หนึ่งแล้วหัวเราะออกมา หมออวิ๋นคงกลัวว่าเขาจะลำบากใจ จึงพูดถึงค่ารักษา ช่างเป็นหมอที่ดีเสียนี่กระไร แต่ก่อนเขาคงใจแคบไป คิดว่ามนุษย์ล้วนไม่ดี

 

 

“ฮ่าๆๆๆ…หมออวิ๋นช่างมีอารมณ์ขัน”

 

 

“…” ไม่ นางพูดจริง เขาคงจะไม่ให้นางรักษาฟรีใช่ไหม

 

 

“หมออวิ๋นไม่ต้องกังวล! คราวนี้ท่านช่วยลูกข้า โลกมารจะมอบของขวัญที่ยิ่งใหญ่เพื่อตอบแทนอย่างแน่นอน” ราชามารกล่าวด้วยท่าทางแน่วแน่

 

 

อวิ๋นเจี่ยวได้ยินดังนั้นจึงโล่งใจ จ่ายค่ารักษาก็พอ

 

 

“แต่…” เสียงของราชามารเปลี่ยนไป เขาพูดด้วยความลังเล

 

 

“ของธรรมดาท่านคงไม่ชอบ หรือว่าท่านบอกพวกเราว่าต้องการอะไร?” อวิ๋นเจี่ยวตกตะลึง สามารถยื่นข้อเสนอได้ด้วยเหรอ

 

 

ทันใดนั้น นางนึกถึงความอ้อมค้อมของตนเอง จนต้องมองดูกระเป๋าเงินอย่างเซ่าเซี่ยนหนีไป นางจึงตัดสินใจพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า

 

 

“ข้าไม่เคยออกมารักษาให้ใคร ครั้งนี้เห็นแก่จิ้งจอกน้อย ค่ารักษาก็ต้องต่างจากปกติเล็กน้อย “ค่ารักษายิ่งมากยิ่งดี

 

 

“แน่นอนๆ” ราชามารพยักหน้าอย่างจริงจัง

 

 

นางเหลือบมองไปยังพื้นหยกเบื้องล่าง ครุ่นคิดว่า…จะเรียกเก็บเท่าไหร่ดี หลังจากนั้นครู่หนึ่งถึงได้พูดขึ้น “ค่ารักษาจะเป็นทอง เงิน เครื่องประดับ หรือหยกก็ได้ ยิ่งล้ำค่ายิ่งดี”

 

 

ถ้าจะให้ดีก็ต้องเป็นแบบที่ทำให้ชิงหยางร่ำรวยในหนึ่งวัน

 

 

“ล้ำค่า?” ราชามารตะลึงไปครู่หนึ่ง เหลือบมองอวิ๋นเจี่ยวขึ้นลง

 

 

“หมออวิ๋นต้องการสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในวังข้า?”

 

 

“ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุดก็ได้ ถ้าท่านเห็นว่าเหมาะสม ข้าก็ไม่ว่าอะไร” ราคาต่อรองกันได้ ราชามารครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นมีบางอย่างแวบเข้ามาในหัว เขาเหลือบมองอวิ๋นเจี่ยว

 

 

“คำพูดของหมออวิ๋นมีเหตุผล ด้วยความสามารถของท่านย่อมคู่ควรกับสิ่งล้ำค่าที่สุดในโลกมารของข้า”

 

 

ใบหน้าของเขาแน่วแน่ ราวกับตัดสินใจอะไรได้ จี้เฉินที่อยู่ด้านข้างดูเหมือนจะคาดเดาอะไรบางอย่าง เขาพูดด้วยความเหลือเชื่อ

 

 

“ท่านพ่อ ท่านไม่ได้คิดจะ…” ราชามารไม่สนใจเขา แต่กลับถามย้ำอีกครั้งว่า “สิ่งล้ำค่าที่สุดในวังของข้ายังอยู่ หมออวิ๋นเต็มใจไหม?” ไม่ได้เหรอ? นางต้องเลี้ยงดูครอบครัวเหมือนกันนะ ไม่สามารถรับเป็นไก่ทุกครั้งที่รักษาได้

 

 

“ถ้าท่านลำบากใจ ค่าใช้จ่ายสามารถลดได้ยี่สิบ…” เปอร์เซ็นต์

 

 

“ตกลง!” ก่อนที่นางจะพูดจบ ราชามารก็พยักหน้า มองอวิ๋นเจี่ยวอีกครั้ง เขาพูดด้วยใบหน้าที่พอใจ

 

 

“นี่เป็นโชคดีของข้า”

 

 

“……” ฮะ?

 

 

เขาไม่รอให้อวิ๋นเจี่ยวถาม ราชามารยิ้มอย่างกระตือรือร้นมากขึ้น

 

 

“หมออวิ๋นโปรดรอที่นี่ ข้าจะไปรับมา” หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังเดินไปลากจิ้งจอกน้อยและจี้เฉินที่กำลังตกตะลึง เมื่อเดินไปถึงประตู เขายังไม่ลืมที่จะมองย้อนกลับไปที่อวิ๋นเจี่ยวอีกครั้ง และยิ้มให้นาง รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความพินิจ ความพอใจ และความ…เขินอาย?

 

 

อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกขนลุกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

 

 

ระหว่างรอคนส่งเงินมา ก็คอยสังเกตอาการของหญิงสาวบนเตียง

 

 

นางรอเกือบยี่สิบนาที

 

 

ถึงได้เห็นจี้เฉินและจิ้งจอกน้อยเดินเข้ามาพร้อมกับปีศาจตัวน้อยที่ดูเหมือนผู้หญิง แต่กลับไม่เห็นร่างของราชามาร สีหน้าของทั้งสองคนดูแปลกไปเล็กน้อย โดยเฉพาะจี้เฉิน สายตาที่มองนางนั้นเปลี่ยนจากความกระตือรือร้นก่อนหน้านี้ เป็น…ความขุ่นเคือง

 

 

อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกประหลาดใจ ทันใดนั้นหญิงสาวก็คุกเข่าลง และยกสิ่งที่อยู่ในมือของนางขึ้น

 

 

“หมออวิ๋น นี่คือสิ่งของที่ท่านอ๋องสั่งให้ข้านำมาให้”

 

 

อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้อะไร นางเปิดผ้าสีแดงออก แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่เงินทองที่นางคาดหวัง แต่เป็นกระดาษแดง อาจเป็นรายการของขวัญ?

 

 

ราชามารนี้ช่างน่ารัก

 

 

อวิ๋นเจี่ยวพึงพอใจอย่างมาก แต่สีหน้ากลับสงบ นางหยิบกระดาษสีแดงนั้นขึ้นมาแล้วเปิดออก ทันใดนั้นอักขระปิดทองสองตัวก็ปรากฏตัวต่อหน้าอวิ๋นเจี่ยว จนเกือบจะแผดเผาดวงตาของนาง

 

 

เห็นเพียงแต่เขียน : —— หนังสือแต่งงาน!

 

 

อวิ๋นเจี่ยว “…”

 

 

อะไรเนี่ย?

Related

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset