สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! – ตอนที่ 80.1 ปรนนิบัติอ๋องเจ็ดอาบน้ำ (1)

“อะไรนะ!? ยี่สิบสี่!? นั่นแสดงว่าลัทธินอกรีตต้องออกมาสังหารหญิงสาวบริสุทธิ์อีกเจ็ดสิบหกคนใช่หรือไม่!?”
เมื่อได้ยินหนานกงจวิ้นซีพลันตกใจ กระทั่งเล่อเหยาเหยาที่อยู่ด้านข้างได้ยินเข้าก็สีหน้าซีดขาว ในใจสั่นเทิ้มไม่หยุด
สวรรค์ นี่มันน่าสยดสยองจริงๆ!
ตายไปแล้วยี่สิบสี่คนน่าหวาดกลัวแล้ว ยังต้องตายอีกเจ็ดสิบหกคน! ลัทธินอกรีตนี้น่ากลัวและชั่วร้ายเกินไปแล้ว
เล่อเหยาเหยาลังเลในใจ ส่วนหนานกงจวิ้นซีด้านข้างหลังจากตกตะลึง เอ่ยถามปัญหาสำคัญนึ่งออกมาว่า
“เช่นนั้นศิษย์พี่ใหญ่รู้ว่าครั้งนี้เหล่าลัทธินอกรีตสังหารหญิงสาวบริสุทธิ์ควักหัวใจสูบเลือดไปมากมาย เพื่ออันใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ? หรือพวกเขาจะผลิตยาอายุวัฒนะ!?”
“เวลานี้ข้ายังข้าตรวจสอบไม่พบ ทว่าซิงได้ตรวจสอบแล้ว เชื่อว่าไม่นานน่าจะได้คำตอบ”
หลังเหลิ่งจวิ้นอวี๋เอ่ยจบ หนานกงจวิ้นซีเพียงร้อง ‘โอ้’เบาๆ ออกมา และไม่พูดสิ่งใดอีก ก่อนภายในห้องพลันเงียบสนิท เงียบคล้ายเสียงเข็มตกบนพื้นสามารถได้ยินได้
หลังหนานกงจวิ้นซีค่อยๆ ไตร่ตรองข้อมูลน่าตกตะลึงเสร็จ รู้สึกกระหายน้ำ ดังนั้นจึงหยิบถ้วยชาด้านข้างขึ้นมาเปิดฝาออกไล่ใบชาที่อยู่ด้านบน ก่อนจะจิบเบาๆ
ทว่าทันใดนั้นคล้ายรู้สึกถึงสายตาที่มองมายังตน ใบหน้าหล่อเหลาตะลึงเล็กน้อย ก่อนพลันเงยหน้ามองไป
เห็นเพียงเล่อเหยาเหยาที่อยู่ด้านข้าง ใช้ดวงตางดงามแวววาวมองมายังถ้วยชาในมือเขาอย่างไม่กระพริบตา
หนานกงจวิ้นซีเห็นเช่นนั้น แม้ในใจจะไม่เข้าใจ ทว่ากลับนึกได้ว่าเมื่อครู่ตนเหยียบแผลเป็นของ ‘เขา’ในใจพลันเสียใจเล็กน้อย
แม้เขาจะไม่ชอบขันทีน้อยตรงหน้านี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นพวกชอบล้อแผลเป็นของผู้อื่น
ดังนั้นอาจเพราะรู้สึกผิดกับเล่อเหยาเหยา หนานกงจวิ้นเอ่ยประโยคหนึ่งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนว่า
“หืม ชานี้ชงได้ไม่เลวเลย!”
หนานกงพูดความจริง เพราะชานี้คือชาขาวจวินซานเข็มเงินชั้นดี ดื่มแล้วเบาสบายใจ และเป็นชาประเภทที่เขาชอบดื่ม
เพียงแต่ครั้งนี้ ไม่รู้ขันทีผู้นี้ใช้น้ำใดในการชง ถึงหอมหวานกว่าที่เคยดื่มมาหลายส่วน
พอคิดถึงตรงนี้ หนานกงจวิ้นซีก้มหน้าลงจิบชาอีกครั้ง
คิดไม่ถึงเล่อเหยาเหยาที่ยื่นอยู่ตรงหน้าเขา หลังได้ยินคำพูดของหนากงจวิ้นซี ใบหน้างามจะตะลึงเล็กน้อย ก่อนรีบก้มหน้าเอ่ยเบาๆ ออกมาว่า
 “ขอบพระทัยขอรับ องค์ชายเจ็ดชมเกิดไปแล้ว”
แม้น้ำเสียงเล่อเหยาเหยาจะยังราบเรียบ แต่ไหล่เธอขยับขึ้นเล็กน้อย เห็นชัดว่าเวลานี้เธอได้แอบหัวเราะอยู่
ทว่าสำหรับการแอบหัวเราะของเธอ หนานกงจวิ้นซีและเหลิ่งจวิ้นอวี๋คิดเพียงว่าได้รับคำชม จึงดีอกดีใจ
ถูกต้อง ตอนนี้เธอกำลังดีใจ อีกทั้งยังดีใจอย่างยิ่ง!
ทว่าเธอดีใจกลับไม่ใช่เพราะได้รับคำชมจากองค์ชายเจ็ด แต่เป็น…
เฮอเฮอ ดังนั้นลูกผู้ชายแก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย เล่อเหยาเหยาไม่เคยผูกพยาบาท เพราะเธอวันแก้แค้นโดยทันที!
เฮอเฮอ เมื่อเขาชอบดื่มชาที่เธอชงขนาดนั้น เช่นนั้นต่อไปเธอต้องถุยน้ำลายลงไปในถ้วยชาเขาให้มากกว่านี้เสียแล้ว
ฮึๆ ใครให้เมื่อครู่เขาเรียกเธอว่าบ่าวรับใช้!
เจ้าสิบ่าวรับใช้! บ้านเจ้าทุกคนล้วนเป็นบ่าวรับใช้!
เล่อเหยาเหยาก่นด่าในใจ เพียงแต่เวลานี้อารมณ์ดูผ่อนคลายลงไปไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ท้องฟ้าด้านนอกมืดมิดแล้ว โคมไฟถูกแขวนไว้เต็มใต้ชายคาของวังอ๋อง
แม้คืนนี้จะไร้ดาวไร้เดือน แต่โคมไฟที่ที่แขวนอยู่สูงใต้ชายคานั้นเปล่งแสงสีเหลืองทองออกมาท่ามกลางความมืดมิด สาดส่องไปรอบด้านอย่างอ่อนโยน ต้นไม้ทอดเงาอันน่ากลัวออกมา
เมื่อเห็นว่าดึกแล้ว เหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่เหนื่อยมาทั้งวัน กำลังคิดหลังจากกลับห้องอาบน้ำ จะพักผ่อนสักครู่
คิดไม่ถึง ทันใดนั้นหนานกงจวิ้นซีคล้ายรับรู้ถึงความหมายของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ พลันยืนขึ้นพร้อมเอ่ยว่า
 “ศิษย์พี่ใหญ่ ดึกมากแล้ว ท่านกลับไปพักผ่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”
 “อืม ก็ดี เช่นนั้นเจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะ!”
เหลิ่งจวิ้นอวี๋ได้ยิน ก็พยักหน้าเบาๆ  ก่อนเอ่ยพูดออกมา คิดว่าหลังเอ่ยจบหนานกงจวิ้นซีจะจากไป ใครจะรู้ว่าหลังเอ่ยจบ กลับยังคงยืนตรงนั้นเช่นเดิม เหลิ่งจวิ้นอวี๋เห็นเช่นนั้น ดวงตาอดเปล่งประกายไม่ได้
 “ยังมีเรื่องใดอีก?”
 “ฮิฮิ ศิษย์พี่ใหญ่ คือเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ เมื่อครู่หัวหน้าขันทีลี่มอบขันทีสองคนมารับใช้ข้า ข้าเองก็รู้สึกว่าไม่เลว ทำงานสะอาดเรียบร้อย แต่ข้ากลับรู้สึกว่าพวกเขาแรงเยอะเกินไป และตอนนี้ข้ายังยังไม่ได้อาบน้ำ ดังนั้น ฮิฮิ อยากยืมตัวกระต่ายน้อยของท่านไปใช้งานพ่ะย่ะค่ะ ให้เขาช่วยขัดหลังขัดเท้าได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
เห็นเพียงหนานกงจวิ้นซีเงยใบหน้าสดใสดุจพระอาทิตย์ เอ่ยกับเหลิ่งจวิ้นอวี๋ด้วยรอยยิ้ม
เหลิ่งจวิ้นอวี๋ได้ยิน ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เล่อเหยาเหยาที่อยู่ด้านข้างกลับอดยิ้มมุมปากไม่ได้
ผู้ชายใจแคบเหมือนไส้ไก่น่าตายนี้ เอาแต่คิดหาวิธีกลั่นแกล้งเธอ เธอเสียใจจริงๆ เหตุใดเมื่อครู่ไม่ถุยน้ำลายลงถ้วยน้ำชาของเขาให้มากกว่านี้!
เล่อเหยาเหยาทั้งเสียใจและสับสนในใจ
ทว่าครั้งนี้ เธอไม่ได้ส่งสายตาอ้อนวอนไปยังพญายม เพราะผ่านเรื่องเมื่อครู่มา ในใจเธอจึงรู้สึกอึดอัด!
สำหรับความอึดอัดในใจของเล่อเหยาเหยา เหลิ่งจวิ้นอวี๋ไม่รับรู้เช่นไร!
แม้เขาจะคล้ายไม่ยินยอมให้หนานกงจวิ้นซียืมตัวเล่อเหยาเหยา แต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ อดใมริมฝีปากเป็นกระจับงดงามนั้นเบาๆ ไม่ได้ ก่อนเอ่ยปากว่า
 “เช่นนั้นย่อมได้แน่นอน”
เหลิ่งจวิ้นอวี๋เอ่ยจบ พลันมีคนพอใจและไม่พอใจ
 “ฮิฮิ ข้ารู้ว่าศิษย์พี่ใหญ่ดีกับข้าที่สุด เช่นนั้นข้าขอตัวกลับไปอาบน้ำก่อนพ่ะย่ะค่ะ เฮ้อ หลายวันมานี้หลบซ่อนตัวไปทุกที่จึงไม่ได้อาบน้ำ วันนี้ข้าอาบให้สบายใจเลย!”
หนานกงจวิ้นอวี๋เอ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม ดวงตาดอกท้อที่งดงามพลันชายตามองยังใบหน้าที่ไม่พอใจของเล่อเหยาเหยา ก่อนเอ่ยว่า
 “ไปเถอะ กระต่ายน้อย!”
 “”เอ้อ
แม้ในใจจะไม่พอใจที่ตรงปรนนิบัติชายผู้นี้ อีกทั้งรู้ดีว่าชายผู้นี้ต้องมีความคิดไม่ดีเป็นแน่ แต่ใครใช้ให้เธอตอนนี้เป็นบ่าวรับใช้ เขาเป็นเจ้านายรับสั่งลงมา เธอจะไม่ยินยอมได้เช่นไร!?
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาหหันศีรษะ ก้มศีรษะเล็กลง เดินตามหลังหนานกงจวิ้นซีไปด้วยใบหน้าราวไล่เป็ดกาะคอน
ตรงข้ามกับเล่อเหยาเหยาที่ทุกข์ใจ หนานกงจวิ้นซีที่เดินอยู่ด้านหน้าใช้มือคลี่พัดพับออกมาอย่างสง่างามเช่นคุณชายสูงศักดิ์  เดินวางท่าตรงไปที่ตำหนักชิงเซี่ยวอย่างเบิกบานใจยิ่งนัก!
ตำหนักชิงเซียวแม้จะเทียบกับตำหนักหย่าเฟิงไม่ได้ แต่สถาปัตยกรรมพิถีพิถันอย่างยิ่งเช่นกัน
แม้ตอนนี้จะดึกแล้ว แต่ภายใต้แสงโคมไฟที่แขวนอยู่สูงนั้น ทำให้บรรยากาศของตำหนักชิงเซียวสว่างไสวขึ้นเจ็ดแปดส่วน
ทอดสายตามองไป สิ่งประดับประดา ศาลาอาคาร  เรียงรายประปนกันอย่างวิจิตร พอเข้าสู่หน้าตำหนัก ซ้ายมือเป็นสวนดอกไม้ที่ดอกไม้นานาพันธ์กำลังเบ่งบาน เห็นเพียงแม้ตอนนี้จะเป็นหน้าร้อน แต่ภายในสวนดอกไม้กลับเรียงรายไปด้วยกุหลาบจีนจำนวนไม่น้อย ทำให้เมื่อเดินเข้าไป จะได้กลิ่นหอมน่าหลงใหลของดอกไม้โชยมาแตะจมูก
ส่วนขวามือด้านหน้ามีบ่อน้ำผืนน้ำแวววาว เห็นเพียงด้านข้างบ่อน้ำ เต็มไปด้วยใบบัวเขียวขจีจำนวนมาก
ตรงกลางประดับด้วยดอกบัวที่ชูช่อด้วยท่าทางแตกต่างกัน มีทั้งดอกตูมรอเบ่งบาน ราวหญิงสาวเหนียมอาย บางดอกกลับเบ่งบานเพียงครึ่ง กลีบดอกร่วงลงมาบางส่วน บางดอกกลับเบ่งบานออกมาทั้งหมด มองดูแล้วงดงามแตกต่างกันไป!
หลังเดินตามกลังหนานกงจวิ้นซี เล่อเหยาเหยาทั้งสำรวจสภาพแวดล้อมของตำหนักชิงเซียวอย่างละเอียด ทั้งเดินตามเขาเข้าไปในห้องตำหนักชิงเซียว
เห็นเพียงนี้ถือเป็นห้องงดงามแบบโบราณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวห้องหนึ่ง ดูแล้วหนานกงจวิ้นซีในใจของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ถือว่าสำคัญมากทีเดียว
เพราะตำหนักชิงเซียวนี้อยู่ติดกับตำหนักหย่าเฟิง สิ่งของภายในทุกอย่างจึงแตกต่างไม่ซ้ำผู้ใด สง่างามแฝงสูงส่ง ทุกที่กระจายความสูงศักดิ์ของราชวงศ์อันหรูหราออกมา
เมื่อเห็นหนานกงจวิ้นซีกลับมา ขันทีน้อยสองคนที่เฝ้าอยู่นอกห้องอย่างเสี่ยวกุ้ยจื่อและเสี่ยวหรงจื่อพลันเข้ามาต้อนรับ ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาคุกเข่าเอ่ยทำความเคารพหนานกงจวิ้นซี
“บ่าวคารวะคุณชาย”
เพราะไม่อยากให้ผู้อื่นรู้ว่าเขาองค์ชายเจ็ดแห่งต้าเซี่ยอยู่ในวังรุ่ยอ๋อง ดังนั้นหัวหน้าขันทีลี่จึงพูดกับบ่าวไพร่ว่า ชายผู้นี้สถานะสูงส่ง เป็นสหายสนิทของท่านอ๋อง ดังนั้นทุกคนต้องปรนนิบัติรับใช้ให้ดี
ดังนั้นเสี่ยวกุ้ยจื่อและเสี่ยวหรงจื่อจึงเคารพนอบน้อมต่อหนานกงจวิ้นซียิ่งนัก
หนานกงจวิ้นซีเห็นทั้งสองคุกเข่าเคารพตน เพียงส่งเสียงตอบรับเบาๆ ก่อนเอ่ยปากว่า
 “ไป เตรียมน้ำร้อนมา ข้าจะอาบน้ำเปลี่ยนชุด!”
 “ขอรับ”
เมื่อได้ยินเสี่ยวกุ้ยจื่อและเสี่ยวหรงจื่อรีบถอยออกไป ไม่นาน  จัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะมาเอ่ยถามอย่างนอบน้อบกับหนานกงจวิ้นซีว่า
 “คุณชาย ต้องการให้เสี่ยวกุ้ยจื่อและเสี่ยวหรงจื่อปรนนิบัติหรือไม่ขอรับ?”
“เรื่องนี้พวกเจ้าไม่จำเป็น กระต่ายน้อยคนเดียวก็พอ พวกเจ้าออกไปเถอะ!”
สำหรับคำพูดของพวกเสี่ยวกุ้ยจื่อ หนานกงจวิ้นซีเพียงยื่นมือโบกสะบัดไปมา เพื่อให้พวกเขาออกไป
เสี่ยวกุ้ยจื่อและเสี่ยวหรงจื่อเห็นเช่นนั้น ก็ไม่พูดอันใดอีก โค้งตัวถอยออกจากห้องไป พร้อมกับปิดประตูลง
ทันใดนั้น ภายในห้องเหลือเพียงเล่อเหยาเหยาและหนานกงจวิ้นซีสองคน
………………………………………………………………….

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!
Status: Ongoing

Comment

Options

not work with dark mode
Reset