สอนสวาทคุณอาที่รัก – ตอนที่ 15

หญิงสาวหอบน้อยๆ เมื่อสามารถปีนขึ้นมาหยุดที่หน้ากระท่อมเล็กๆ ตรงหน้าได้สำเร็จ มือเล็กขาวสะอาดยกขึ้นป้ายเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผากทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ ความประหลาดใจยังคงแน่นอกกับกระท่อมตรงหน้าที่ได้เห็น ไม่อยากจะเชื่อว่าชาติพยัคฆ์จะมีความคิดอยากมีกระท่อมส่วนตัวในหัวด้วย

กลีบปากอิ่มคลี่ยิ้มหวาน ก้าวช้าๆ ตรงไปหยุดที่บันได หล่อนหยุดนิ่ง แหงนมองขึ้นไปด้านบน แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า นั้นทำให้หล่อนตัดสินใจก้าวขึ้นไป และไม่นานก็มาหยุดในกระท่อมที่มองภายนอกนั้นหลังเล็ก แต่ภายในกว้างขวางหน้าดู แล้วเขาก็นั่งหันหลังให้กับหล่อนอยู่ในขณะนี้

“อาเสือ…”

แม้เขาจะไม่หันมา แต่หล่อนสังเกตเห็นแผ่นหลังกว้างนั้นเกร็งเครียดขึ้น หล่อนระบายยิ้ม รีบปิดประตูกระท่อม และเดินอ้อมไปหยุดตรงหน้าของเขา

“อาเสือมาทำอะไรที่นี่คะ อยากปีกวิเวกคนเดียวหรือไง”

หล่อนยิ้มและพูดติดตลก แต่คนตัวโตนั้นกลับมองหล่อนตาแดงก่ำ หญิงสาวตกใจไม่น้อย

“นี่อาเสือเมาเหรอคะ”

“ไปให้พ้น!”

เขาชี้มือไล่ ไม่สนใจความบากบั่นของหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว

“อาเสือไล่วดีทำไมคะ วดีมาหาอาเสือนะ”

“ไปให้พ้นหน้าฉัน! ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”

“ว๊าย!”

แอลกอฮอล์ในแก้วถูกสาดเข้าใส่หล่อนเต็มหน้า

“อาเสือทำแบบนี้กับวดีได้ยังไงกันคะ อาเสือใจร้าย”

คนทำไม่สะทกสะท้านแถมยังหัวเราะลั่นราวกับคนบ้า เขามองหล่อนด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ ที่ผ่านมาไม่ว่าชาติพยัคฆ์จะโมโหโกรธาสักแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยแสดงท่าทางหยาบคายแบบนี้ใส่หล่อนมาก่อนเลย ตอนนี้เขาน่ากลัว เหมือนเสือที่กำลังหิวโซไม่มีผิด

“ถ้าเธอไม่ไสหัวไป ฉันจะทำมากกว่านี้อีก ไป!”

รอยยิ้มจางหายไป ความหวังก็จางหายหมดสิ้นไปด้วย ตอนนี้มีเพียงหยาดน้ำตา และความเสียใจเท่านั้นที่กำลังแผ่ซ่านอยู่ในอก

“เกลียดกันขนาดนี้เลยเหรอคะ เกลียดวดีขนาดนี้เลยเหรอคะอาเสือ”

คนตัวโตผุดลุกขึ้นยืน และเดินไปหยุดตรงหน้าของราชาวดี

“ฉันเกลียดเธอ…”

“แต่วดีรักอาเสือนะ รักมากด้วย”

หล่อนตวาดใส่เขาบ้าง น้ำตาไหลพราก แต่เขากลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับความรู้สึกของหล่อนเลย เขายังคงยิ้มเยาะหยันใส่หน้าหล่อนเช่นเดิม

“เธอมันก็แค่ผู้หญิงใจแตก ใจง่ายเท่านั้นแหละ ไสหัวไปได้แล้ว”

แล้วเขาก็จับร่างของหล่อนเหวี่ยงแรงๆ จนล้มลงไปกองกับพื้น

“อาเสือ… วดีเจ็บนะ”

หล่อนคร่ำครวญและกัดฟันลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

“วดีไม่ได้คิดจะมากวนใจอะไรอาเสือหรอกค่ะ”

“แล้วเธอเสนอหน้ามาทำไม?! ทำไมไม่อยู่กับผู้ชายของเธอล่ะ”

หญิงสาวกัดปากแน่นจนเลือดซึม เจ็บปวดเข้าไปถึงดวงใจ

“วดีก็แค่จะมาขอโทษอาเสือที่เมื่อคืน… ไม่ได้กลับบ้าน… โอ๊ย…!”

ร่างอรชรถูกเขย่าเต็มแรง ด้วยกรงเล็บของชาติพยัคฆ์ที่กำลังโกรธจัด

“ไม่ต้องมาสาธยายให้ฉันฟังว่าเมื่อคืนเธอไปทำระยำอะไรมาบ้าง เพราะฉันไม่เคยสนใจ จำใส่หัวเอาไว้ด้วย”

ความน้อยใจมากมายยิ่งกว่าคลื่นทะเลซัดเข้าใส่อย่างไม่ปรานี หญิงสาวเชิดหน้าทั้งน้ำตา มองเขาอย่างตัดพ้อเจ็บอก

“ค่ะ วดีรู้ดีว่าอาเสือไม่เคยสนใจอะไรเกี่ยวกับวดีเลย ต่อให้วดีไปนอนกับใคร อาเสือก็ไม่สนใจ”

“ใช่! ฉันไม่เคยสนใจเธอ ไสหัวไปได้แล้ว”

ร่างของหล่อนถูกผลักออกห่างอีกครั้ง และเขาก็เดินไปยกขวดเหล้าขึ้นเทใส่ลำคออย่างบ้าคลั่ง ราชาวดีมองท่าทางเดือดดาลของเขาด้วยความปวดใจ

“ถ้าวดีทำให้อาเสือต้องทุกข์ใจแบบนี้ วดีจะไปค่ะ จะไปจากที่นี่วันนี้”

หล่อนตั้งใจจะรีบวิ่งหนีลงไปจากกระท่อม แต่ข้อมือก็ถูกกระชากเอาไว้เสียก่อน

“จะไปไหน จะไปอ้าขาให้ผู้ชายคนไหนมาเอาอีกล่ะ”

หญิงสาวหน้าชาดิก มองเขาด้วยความผิดหวัง

“อาเสือ… อาเสือดูถูกวดีเกินไปแล้วนะ”

หล่อนสะบัดจนหลุด ก่อนจะตบหน้าหล่อลากดินนั้นเต็มแรง

“วดีเกลียดอาเสือ เกลียดที่สุด!”

หญิงสาวเค้นเสียงเจ็บปวดออกมา และจะวิ่งหนีอีกครั้ง แต่คนที่ถูกทั้งโมหะและแอลกอฮอล์ครอบงำกลับไม่ยอมให้หล่อนทำได้สมใจ เขากระชากร่างของหล่อนเข้ามาปะทะอกอย่างไร้ความปรานี หล่อนดิ้นรนยกสองมือขึ้นทุบตีอกกว้าง แต่ก็ถูกเขารวบไปไว้ด้านหลังทั้งสองข้าง เขากระทำทุกอย่างด้วยความรุนแรง ป่าเถื่อน

“เกลียดหรือ… งั้นก็เกลียดให้สุดหัวใจไปเลยก็แล้วกัน”

“อาเสือจะทำอะไร…”

เมื่อคนตัวโตกระชากเสื้อตัวสวยจนขาดวิ่นติดมือไป หญิงสาวก็รู้ชะตากรรมของตัวเองอย่างถ่องแท้

“ไม่นะอาเสือ… อย่าทำอะไรวดีนะ”

เขาไม่สนใจ เพราะยังคงฉีกทั้งเสื้อผ้าของหล่อนอย่างป่าเถื่อน จนสุดท้ายร่างทั้งร่างก็เหลือแต่ชั้นในสองชิ้นเพียงเท่านั้น หญิงสาวทั้งอับอายทั้งอดสู ความหวาดกลัวแน่นอก

“ปล่อยวดีนะ… อาเสือ ปล่อยนะ”

“เธออยากให้ฉันทำแบบนี้มานานแล้วไม่ใช่เหรอวดี”

เขาแสยะยิ้ม น่ากลัว

“นี่ไง… ฉันกำลังจะจัดให้ รับรองเธอสุขจนลืมเรื่องระยำเมื่อคืนนี้อย่างแน่นอน”

ร่างของหล่อนถูกผลักให้นอนลงกับพื้นไม้กระดานแข็งๆ โดยมีเขาที่ไม่รู้เอาเวลาที่ไหนไปปลดเปลื้องเสื้อผ้า เพราะตอนนี้ล้อนจ้อนยิ่งกว่าหล่อนเสียอีก ตามทาบทับลงมา

นี่หากเป็นเวลาปกติหล่อนคงเต็มตื้นเป็นความดีใจ ที่จะได้อยู่ในอ้อมแขนของชาติพยัคฆ์ผู้ชายที่หล่อนหลงรักจนหมดหัวใจ แต่ยามนี้… ยามที่เขาแปลงกายเป็นเสือร้ายขี้โมโห แสนป่าเถื่อน หล่อนหวาดกลัวเขาเหลือเกิน เขาไม่เหลือเค้าของชาติพยัคฆ์คนเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว

“วดีไม่ต้องการ… ปล่อยวดีนะ”

“มันสายไปแล้ววดี… ฉันหน้ามืดเสียแล้วล่ะ”

“ว๊าย… ไม่นะ อย่านะอาเสือ”

ร่างของเขาคลุกเคล้าลงมาหา ปากร้อนผ่าว หนวดกระด้างที่คางกำลังทำให้ผิวอ่อนของหล่อนชอกช้ำ เขาซุกไซ้ไล้วานอย่างหื่นกระหาย ปากของเขาตะโบมหล่อนอย่างดุเดือด ทั้งจูบทั้งดูดจนปากอิ่มเลือดซึม แต่เขาก็ยังไม่หยุด มือใหญ่ข้างหนึ่งบีบคลึงเต้างาม อีกข้างหนึ่งล้วงลึกลงไปที่หน้าขา

“อาเสือ… อย่า… อย่าทำร้ายวดี”

เขาไม่ตอบ และโจมตีหล่อนหนักยิ่งขึ้น ปากของเขาบดบี้ขยี้กลีบปากของหล่อน ลิ้นเล็กถูกเขาดูดและตอดรัดตลอดเวลา พอสาแก่ใจกับจูบเถื่อนแล้ว ก็ซุกไซ้ต่ำลงมายังซอกคอ เขาดูดเม้มเนื้อนุ่มจนเป็นรอยแดงช้ำ ฝ่ามือบีบขยำทรวงอกจนมันแทบเละคามือ

“อย่า…”

“อย่าปฏิเสธเลยวดี เธอต้องการมัน พอๆ กับอานั่นแหละ”

เขากระซิบกับร่องอกสาว จากนั้นก็ดูดงับหัวนมเข้าไปอุ้งปาก ฟันขบ ลิ้นตวัดเลียอย่างเชี่ยวชาญ สติสัมปชัญญะของราชาวดีเริ่มถดถอยน้อยลงไปทุกขณะ ตอนนี้… ร้อนเสียววาบไปทั้งตัว ยิ่งยามที่ปากร้อนผ่าวดูดอมหัวนมของหล่อนเอาไว้ ดูดราวกับทารกกระหายนมจากมารดา และนิ้วมือที่ล้วงลึกบุกทะยานเข้าใส่ร่องแคบเล็กด้านล่าง กายของหล่อนก็ร้อนเป็นไฟ สะโพกงามเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้

“อาเสือ…”

นั่นมันคำต้านทานหรือเป็นการวิงวอนกันแน่หล่อนยังไม่รู้เลย รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้สะโพกงามของหล่อนส่ายระริกรับปลายนิ้วพลิ้วไหวของพ่อเจ้าประคุณด้วยความเต็มอกเต็มใจ

“อาเสือขา…”

หล่อนอาจจะหูแว่วไปเองหรือว่ามันคือเรื่องจริงก็ไม่อาจรู้ได้ แต่เสียงหัวเราะเบาๆ จากลำคอแกร่งมันดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับลิ้นลากของเขาที่ลากต่ำลงไปยังหน้าท้องแบนเรียบ และแน่นอนว่ามันจะต้องไปหยุดนิ่งแทนที่ปลายนิ้วพลิ้วไหว ซึ่งมันก็จริงดังคาด

“อ๊า… อาเสือ ซี๊ดดดดด”

สะโพกงามสั่นพรั่บๆ ด้วยความเสียวกระสัน ยามที่ปลายนิ้วแกร่งแยกกลีบสาวออกจากกัน โดยมีสายตาคมกริบจับจ้องอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าหล่อเหลาแทบจะแนบชิดกับร่องสาวหยาดเยิ้มอยู่แล้ว

“อาเสือ… อย่า… อย่า…”

สอนสวาทคุณอาที่รัก

สอนสวาทคุณอาที่รัก

Status: Ongoing
อ่านนิยาย สอนสวาทคุณอาที่รักเสื้อกล้ามสีขาวบนเรือนกายบึกบึนทรงพลังของชาติพยัคฆ์เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ซิกแพ็คสมบูรณ์แบบจึงมองเห็นได้อย่างง่ายดาย และนั่นก็ยิ่งทำให้ราชาวดีต้องรีบยกมือขึ้นป้ายน้ำลายที่สออยู่มุมปากอย่างรวดเร็ว แต่สายตากลับแหงะออกจากมาจากกำยำของคุณอานอกไส้ตรงหน้าไม่ได้เลยแม้แต่วินาที ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่ชาติพยัคฆ์คนเดียวเท่านั้นที่คอยดูแลและปกป้องหล่อน จากคำบอกเล่าของเขาก็คือพ่อกับแม่ของหล่อนเสียชีวิตไปตั้งแต่หล่อนเกิดได้มาไม่เพียงกี่เดือน และเขาก็เป็นเพียงญาติคนเดียวของหล่อนจึงต้องทำหน้าที่อุปการะหล่อนเอาไว้ ทุกอย่างมันคงดำเนินไปด้วยดีตามวิถีทางของมันถ้าหล่อนกลับไม่บังเกิดไปหลงรักชาติพยัคฆ์เข้าให้อย่างจังแบบตอนนี้ หล่อนพยายามที่จะตัดใจจากเขา พยายามที่จะไม่สนใจผู้ชายที่แก่กว่าเกือบยี่สิบปี แต่ก็ทำไม่ได้สักที หึงและหวงทุกครั้งที่มีผู้หญิงมาเข้าใกล้เขา “อาไม่ใช่ข้าวนะ ไม่ต้องมองแบบหิวอย่างนั้นหรอก” คำพูดเตือนสติของผู้ชายตรงหน้าทำให้คนฟังแก้มแดงก่ำ แต่ก็รีบกลบเกลื่อน “อาเสืออย่ามาแซววดีแต่เช้าสิคะ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset