สอนสวาทคุณอาที่รัก – ตอนที่ 6

“คุณหนูวดี… กลับมาแล้ว”

ป้าแก้วรีบถลาเข้ามาหาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นชาติพยัคฆ์วางร่างของราชาวดีลงกับพื้นห้อง จากนั้นเขาก็ถอยออกห่าง

คงรังเกียจมากสินะ หญิงสาวคิดอย่างน้อยใจ

“พาคุณหนูของป้าแก้วไปอาบน้ำอาบท่าซะ เสร็จแล้วก็ให้ไปพบผมที่ห้องด้วย”

คนตัวโตกำลังจะก้าวเท้าเดินไป แต่คำปฏิเสธของคนตัวเล็กก็ทำให้เขาหยุดเดิน และหันมาเค้นเสียงเลือดเย็นใส่หน้า

“ถ้าขัดคำสั่งของอา เธอเจอดีแน่วดี”

แล้วคนก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องรับแขก ทิ้งให้ราชาวดีบ่นอุบตามไปอย่างขุ่นเคือง

“อาเสือเอาแต่ใจ วดีไม่รักอาเสือแล้ว”

“ทำได้หรือคะคุณหนูวดี”

คำถามของป้าแก้วทำให้ราชาวดีสะอึก ใช่… หล่อนไม่มีทางล้มเลิกความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อชาติพยัคฆ์ได้ และแน่นอนว่าไม่มีทางหยุดรักเขาได้เช่นกัน

“วดีจะพยายามทำให้ได้ค่ะ”

หญิงสาวหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง ป้าแก้วรีบเดินตามมาข้างหลัง

“คุณหนูวดีไปเล่นไปที่ไหนมาหรือคะ กลับซะมืดค่ำเชียว”

คนที่เดินนำหน้าน้ำตาคลอ ก่อนจะเค้นเสียงสั่นเครือตอบกลับออกมา

“วดีแค่ไม่อยากกลับบ้านค่ะ”

“โธ่ คุณหนูของป้า ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะคะ ที่นี่บ้านของคุณหนูนะคะ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยได้เท่ากับที่นี่หรอกค่ะ”

หยาดน้ำตาหลั่งรินลงมาอาบแก้ม ราชาวดีหันมาเผชิญหน้ากับป้าแก้วทั้งน้ำตา ความเจ็บปวดอัดแน่นอยู่ภายในอกมากมายนัก

“ตอนนี้… ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้วค่ะ ป้าแก้วก็เห็นว่าอาเสือไม่รักวดีแล้ว”

ป้าแก้วมองหน้าเด็กสาวที่เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยด้วยความเวทนา ก่อนจะจับมือขาวสะอาดขึ้นมากุมและให้กำลังใจ

“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะคะคุณหนูวดี… คุณเสือไม่มีทางหมดรักในตัวของคุณหนูวดีได้หรอกค่ะ เชื่อป้าเถอะนะคะอย่างอน อย่าน้อยใจไปเลย”

“ป้าแก้วอย่ามาปลอบใจวดีเลยค่ะ วดีรู้ตัวเองดีว่าตอนนี้อยู่ในฐานะอะไร สักวันเมื่ออาเสือแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น วดีก็จะเป็นแค่เพียงส่วนเกินเท่านั้น”

“ไม่เอาค่ะคุณหนูวดี อย่าคิดเลยเถิดไปขนาดนั้นเลยค่ะ ยังไงซะคุณเสือก็ไม่มีทางเห็นใครดีไปกว่าคุณหนูวดีของป้าได้หรอกค่ะ เชื่อป้านะคะ”

หากเป็นเมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว

“ก็คนรักของอาเสือยังไงล่ะคะ”

ป้าแก้วเลิกคิ้วสูง

“คนรัก? คุณเสือมีคนรักตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ ป้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

ราชาวดีหมุนตัวหันหลังให้กับป้าแก้ว หยาดน้ำตายังคงหลั่งรินไม่ขาดสาย ภาพที่เห็นเมื่อตอนบ่ายยังคงชัดเจนติดตาไม่จางหาย

“มีแล้วค่ะ วดีเห็นกับตา”

“แต่ป้าว่าคุณหนูวดีอาจจะเข้าใจผิดไปเองนะคะ”

คนฟังเม้มปากเป็นเส้นตรง กัดฟันเชิดหน้าสูงด้วยความน้อยอกน้อยใจ

“วดีไม่ได้เข้าใจผิดหรอกค่ะ เพราะเห็นมาด้วยตาทั้งสองข้าง”

“งั้นคุณหนูวดีก็ใช้วิธีเดิมสิคะ ไล่แม่บรรดาผู้หญิงที่มาเกาะแกะคุณเสือออกไป”

ความน้อยใจทำให้หญิงสาวเลิกที่จะปฏิเสธ

“วดีจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นอีกแล้วล่ะค่ะ อาเสือจะมีใคร จะรักจะคบกับผู้หญิงคนไหนก็ตามสบาย วดีไม่สนใจอาเสืออีกแล้ว”

“คุณหนูวดี”

ป้าแก้วแตะแขนเรียวสวยของเด็กสาวเบาๆ อย่างปลอบใจ แต่ราชาวดีดูจะเข้มแข็งมากกว่าเดิม

“ป้าแก้วไม่ต้องเป็นห่วงวดีนะคะ วดีจัดการกับหัวใจของตัวเองได้ และวดีสัญญาว่าจะไม่วุ่นวายทำให้อาเสือลำบากใจอีก”

เสียงสั่นๆ เงียบลงพร้อมๆ กับร่างอรชรที่ก้าวหายเข้าไปในห้องน้ำ

ป้าแก้วยืนมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวลใจ

“ป้าไม่เชื่อหรอกว่าคุณหนูจะสามารถตัดใจจากคุณเสือได้”

แม่บ้านสูงวัยส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไป มุ่งหน้าตรงไปยังห้องนอนของชาติพยัคฆ์ที่อยู่ห่างออกไปอีกมากโข

“เข้ามาครับ”

เมื่อเสียงเข้มเอ่ยอนุญาต ป้าแก้วที่เป็นคนเคาะประตูจึงเปิดเข้าไป

“อ้าว ป้าแก้วนั่นเอง มีอะไรกับผมหรือครับ”

คนที่กำลังยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้อง เอ่ยทักทาย และหมุนตัวกลับมานั่งลงบนโซฟาตัวที่ใกล้ที่สุดด้วยท่าทางสง่า

ป้าแก้วมองใบหน้าหล่อลากดินของชาติพยัคฆ์อยู่ชั่วขณะก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา ทุกพยางค์เต็มไปด้วยความห่วงใย

“คุณหนูวดีบอกว่าคุณเสือมีคนรักแล้วหรือคะ”

ชาติพยัคฆ์นั่งนิ่ง ความเงียบสีดำที่ครอบงำอยู่รอบกายทำให้เขาเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ แม้อยากจะฝืนยิ้มให้กับคู่สนทนาแค่ไหนแต่ก็ทำไม่สำเร็จ ใบหน้าหล่อลากดินเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

“มันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วไม่ใช่หรือครับที่วดีคิดแบบนั้น”

ป้าแก้วถอนใจออกมาด้วยความไม่สบายใจ ก่อนจะเดินมาหยุดใกล้ชาติพยัคฆ์มากยิ่งขึ้น

“คุณเสือคะ ถือว่าป้าขอร้องล่ะคะ อย่าทำร้ายจิตใจคุณหนูวดีเลย ป้า…”

ชายหนุ่มไม่สามารถทนรอให้ป้าแก้วพูดจนจบประโยคได้ เขาแย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงกระด้างทันที

“ถ้าไม่ให้ผมทำร้ายจิตใจของวดี ก็เท่ากับให้ผมลากวดีขึ้นเตียงอย่างนั้นหรือครับ นี่ใช่ไหมที่ป้าแก้วต้องการอยากให้ผมทำ”

ป้าแก้วนิ่งอึ้ง ชาติพยัคฆ์จึงพูดต่อ

“ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ”

“แต่ถ้าคุณเสือเองก็รักคุณหนูวดี มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดไม่ใช่เหรอคะ”

คนฟังลุกขึ้นยืน เดินไปเกาะขอบหน้าต่างอีกครั้ง แผ่นหลังกว้างสะท้อนขึ้นลงแรงระรัว

“พ่อกับแม่ของวดีไว้ใจที่จะฝากฝังวดีเอาไว้กับผม ดังนั้นผมจะไม่ทำลายความไว้วางใจของทั้งสองคนนั้นหรอกครับ ผมจะมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้กับวดี และจะหาผู้ชายที่เพียบพร้อมให้กับวดีด้วยเช่นกัน”

“แต่คุณหนูวดีไม่ได้รักผู้ชายคนอื่นหรือคนไหนนะคะ คุณหนูวดีรักคุณเสือ”

“ในชีวิตของวดีผมเป็นเหมือนฮีโร่ของเธอ อีกหน่อยวดีก็จะแยกแยะได้ว่าความรู้สึกไหนคือความรัก และความรู้สึกไหนคือเคารพ ชื่นชม”

ป้าแก้วถอนใจและส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

“คุณเสือ… นี่ป้าต้องทำยังไง ต้องอธิบายยังไงคุณเสือถึงจะยอมเข้าใจความหมายของป้าคะ”

ชาติพยัคฆ์หมุนตัวกลับมามองหน้าคู่สนทนา นัยน์ตาสีคืนเดือนไร้แสงจันทร์นั้นไร้ความรู้สึกอ่านไม่ออกเหมือนเช่นเคย

“ผมเข้าใจดี แต่ผมทำไม่ได้ ป้าแก้วเลิกล้มความคิดที่จะให้ผมกินเด็กของตัวเองเถอะครับ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ ผมไม่มีทางแตะต้องวดี”

“แต่ว่า…”

“ผมขอตัวนะครับ แล้วถ้าวดีมา บอกให้ไปหาผมที่ห้องหนังสือ”

แล้วชาติพยัคฆ์บุรุษที่ทั้งสง่างามและสมบูรณ์แบบก็ก้าวยาวๆ เดินออกไปจากห้องนอนของตัวเอง ป้าแก้วมองตามไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล

สอนสวาทคุณอาที่รัก

สอนสวาทคุณอาที่รัก

Status: Ongoing
อ่านนิยาย สอนสวาทคุณอาที่รักเสื้อกล้ามสีขาวบนเรือนกายบึกบึนทรงพลังของชาติพยัคฆ์เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ซิกแพ็คสมบูรณ์แบบจึงมองเห็นได้อย่างง่ายดาย และนั่นก็ยิ่งทำให้ราชาวดีต้องรีบยกมือขึ้นป้ายน้ำลายที่สออยู่มุมปากอย่างรวดเร็ว แต่สายตากลับแหงะออกจากมาจากกำยำของคุณอานอกไส้ตรงหน้าไม่ได้เลยแม้แต่วินาที ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่ชาติพยัคฆ์คนเดียวเท่านั้นที่คอยดูแลและปกป้องหล่อน จากคำบอกเล่าของเขาก็คือพ่อกับแม่ของหล่อนเสียชีวิตไปตั้งแต่หล่อนเกิดได้มาไม่เพียงกี่เดือน และเขาก็เป็นเพียงญาติคนเดียวของหล่อนจึงต้องทำหน้าที่อุปการะหล่อนเอาไว้ ทุกอย่างมันคงดำเนินไปด้วยดีตามวิถีทางของมันถ้าหล่อนกลับไม่บังเกิดไปหลงรักชาติพยัคฆ์เข้าให้อย่างจังแบบตอนนี้ หล่อนพยายามที่จะตัดใจจากเขา พยายามที่จะไม่สนใจผู้ชายที่แก่กว่าเกือบยี่สิบปี แต่ก็ทำไม่ได้สักที หึงและหวงทุกครั้งที่มีผู้หญิงมาเข้าใกล้เขา “อาไม่ใช่ข้าวนะ ไม่ต้องมองแบบหิวอย่างนั้นหรอก” คำพูดเตือนสติของผู้ชายตรงหน้าทำให้คนฟังแก้มแดงก่ำ แต่ก็รีบกลบเกลื่อน “อาเสืออย่ามาแซววดีแต่เช้าสิคะ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset