สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 126 เธอเอาตัวไม่รอดแน่

กู้ฉางฉิงรู้สึกโกรธอยู่ในห้องรับรองอยู่พักใหญ่กว่าจะฝืนระงับโทสะในใจลงได้
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ มุมปากยกขึ้นเยาะเย้ยตัวเอง
ช่วงนี้เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายสบายเกินไปหน่อย จนทําให้ลืมไปว่าผู้ชายคนนี้มีจิตใจโหดเหี้ยมเพียงไร
เขาไม่สนใจว่าเธอเป็นคนขโมยหรือไม่ สิ่งที่เขาสนใจคือแผนการของเขาเท่านั้น นั่นก็คือลูกสาวอีกคนของเขา
เมื่อคิดได้ดังนั้น กู้ฉางฉิงก็บังคับตัวเองให้ไม่ต้องสนใจ
อย่างไรก็ไม่มีใครสนใจเธออยู่แล้ว ฉะนั้นเธอจึงต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน เพื่ออนาคตจะสามารถดูแลคุณแม่ได้
……
ขณะเดียวกัน ที่ภายในงานเลี้ยง
เมื่อเฟิงจิ้งหยวนกับลู่ซือหยี่เห็นกู้หงเซินเดินออกมาจากห้องพักรับรอง ทั้งสองก็มองหน้าและยิ้มให้กัน
จากนั้นพวกเธอก็ก็ถือแก้วไวน์และเดินไปยังตําแหน่งที่ฉินเป่ยหานยืนอยู่
“ทุกคนคะ จะรังเกียจไหมถ้าจะขอยืมตัวคุณชายฉินสักครู่?”
เฟิงจิ้งหยวนก้าวเข้าไปแทรกระหว่างการสนทนาของบรรดาคุณชายทั้งหลาย
เหล่าคุณชายซึ่งรู้จักเฟิงจิ้งหยวนอยู่แล้ว ต่างก็ถ่อมเนื้อถ่อมตัว
“คุณเฟิง คุณลู่ ไม่ทราบว่าต้องการพบผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
คุณชายฉินเดินตามเธอทั้งสองไปที่มุมหนึ่งและขมวดคิ้วขึ้นถาม
เฟิงจิ้งหยวนและลู่ซือหยี่สบตากัน ก่อนที่เฟิงจิ้งหยวนจะเอ่ยปากขึ้นมาก่อน
“ดูเหมือนว่าคุณชายฉินจะยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้”
ฉินเป่ยหานได้ยินดังนั้นก็มองทั้งสองคนอย่างงงงวย
เขาไม่ได้มาถึงที่งานเลี้ยงการกุศลตรงเวลา เนื่องจากมีธุระส่วนตัวบางอย่างระหว่างทางจึงทำให้ล่าช้าเล็กน้อย
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“เมื่อกี้มีเหตุการณ์ขโมยเกิดขึ้น ฉางซินถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย ยังดีที่สุดท้ายก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เธอได้ แต่ว่า……”

กู้ฉางฉิงรู้สึกโกรธอยู่ในห้องรับรองอยู่พักใหญ่กว่าจะฝืนระงับโทสะในใจลงได้
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ มุมปากยกขึ้นเยาะเย้ยตัวเอง
ช่วงนี้เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายสบายเกินไปหน่อย จนทําให้ลืมไปว่าผู้ชายคนนี้มีจิตใจโหดเหี้ยมเพียงไร
เขาไม่สนใจว่าเธอเป็นคนขโมยหรือไม่ สิ่งที่เขาสนใจคือแผนการของเขาเท่านั้น นั่นก็คือลูกสาวอีกคนของเขา
เมื่อคิดได้ดังนั้น กู้ฉางฉิงก็บังคับตัวเองให้ไม่ต้องสนใจ
อย่างไรก็ไม่มีใครสนใจเธออยู่แล้ว ฉะนั้นเธอจึงต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน เพื่ออนาคตจะสามารถดูแลคุณแม่ได้
……
ขณะเดียวกัน ที่ภายในงานเลี้ยง
เมื่อเฟิงจิ้งหยวนกับลู่ซือหยี่เห็นกู้หงเซินเดินออกมาจากห้องพักรับรอง ทั้งสองก็มองหน้าและยิ้มให้กัน
จากนั้นพวกเธอก็ก็ถือแก้วไวน์และเดินไปยังตําแหน่งที่ฉินเป่ยหานยืนอยู่
“ทุกคนคะ จะรังเกียจไหมถ้าจะขอยืมตัวคุณชายฉินสักครู่?”
เฟิงจิ้งหยวนก้าวเข้าไปแทรกระหว่างการสนทนาของบรรดาคุณชายทั้งหลาย
เหล่าคุณชายซึ่งรู้จักเฟิงจิ้งหยวนอยู่แล้ว ต่างก็ถ่อมเนื้อถ่อมตัว
“คุณเฟิง คุณลู่ ไม่ทราบว่าต้องการพบผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
คุณชายฉินเดินตามเธอทั้งสองไปที่มุมหนึ่งและขมวดคิ้วขึ้นถาม
เฟิงจิ้งหยวนและลู่ซือหยี่สบตากัน ก่อนที่เฟิงจิ้งหยวนจะเอ่ยปากขึ้นมาก่อน
“ดูเหมือนว่าคุณชายฉินจะยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้”
ฉินเป่ยหานได้ยินดังนั้นก็มองทั้งสองคนอย่างงงงวย
เขาไม่ได้มาถึงที่งานเลี้ยงการกุศลตรงเวลา เนื่องจากมีธุระส่วนตัวบางอย่างระหว่างทางจึงทำให้ล่าช้าเล็กน้อย
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“เมื่อกี้มีเหตุการณ์ขโมยเกิดขึ้น ฉางซินถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย ยังดีที่สุดท้ายก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เธอได้ แต่ว่า……”
“ฉางซิน ผมได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้แล้ว ผมมั่นใจว่าคุณไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีก็สามารถเล่าให้ผมฟังได้นะ ผมจะร่วมเสียใจเป็นเพื่อนคุณ ผมไม่อยากเห็นคุณซ่อนตัวและรักษาบาดแผลเพียงลำพัง แบบนั้นผมรู้สึกปวดใจนะ”
เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินคำพูดนี้ก็พอเดาออกว่าเขามาเพื่ออะไร
น่าจะเพราะเขาได้รู้เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นและคิดว่าเธอคงจะเสียใจอยู่
แม้ว่าเธอจะเสียใจจริง ๆ แต่เธอก็ไม่ต้องการความเห็นใจจากเขา
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เธอก็มองไปยังผู้ชายเบื้องหน้าที่มีความรู้สึกรักใคร่ลึกซึ้งต่อเธอ จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดหัวสับสนไปหมด ทั้งยังรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย
อิจฉากู้ฉางซิน ทั้งที่นิสัยไม่ดี แต่กลับมีคนรักใคร่ห่วงใยเธอมากมาย
เธอไม่เข้าใจเลย ทั้งที่พวกเธอเป็นพี่น้องกันแท้ ๆ แต่ทําไมโชคชะตาจึงแตกต่างราวฟ้ากับเหว
ขณะที่ความคิดของเธอล่องลอยไป ฉินเป่ยหานที่เห็นว่าเธอเงียบไม่พูดอะไร ก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาทําให้เธอรู้สึกไม่ดี
เขาทุกข์ใจจนอยากจะลูบไล้ใบหน้าของกู้ฉางฉิง ไม่อยากให้กู้ฉางฉิงตกใจตื่นจากภวังค์
กู้ฉางฉิงมองดูมือเขาที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ คิ้วขมวดมุ่นแล้วถอยหลังไปอีกหน่อยพูดขึ้นว่า “ขอบคุณคุณชายฉินที่เป็นห่วง แต่ฉันไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เพียงแค่เหนื่อยเล็กน้อย จึงเข้ามาพักผ่อนที่นี่” ”
เมื่อฉินเป่ยหานเห็นดังนั้น เขาก็ยิ้มอย่างขมขื่นและดึงมือกลับ
ขณะที่เขายังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง กู้ฉางฉิงกลับรู้สึกว่าการที่พวกเขาสองคนอยู่ในห้องรับรองนี้ตามลำพังนั้นไม่เหมาะสม
โดยเฉพาะข่าวลือก่อนหน้านี้ของทั้งสองคน ถ้าหากมีคนมาเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันอีก ก็ไม่รู้ว่าจะมีข่าวลืออะไรออกไป
เธอคิดได้ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จําเป็น จึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้างนอกยังมีแขกเหรื่ออีกมากที่ฉันต้องไปดูแล คุณชายฉินโปรดทำตัวตามสบาย”
เมื่อพูดจบเธอก็หันหลังเดินไปที่ประตู
เดิมทีเธอตั้งใจจะเปิดประตูแล้วออกไป แต่ประตูตรงหน้าไม่สามารถเปิดได้ไม่ว่าเธอจะผลักอย่างไรก็เปิดไม่ออก ราวกับว่ามันถูกล็อคจากด้านนอก
“เกิดอะไรขึ้น?”

กู้ฉางฉิงรู้สึกโกรธอยู่ในห้องรับรองอยู่พักใหญ่กว่าจะฝืนระงับโทสะในใจลงได้
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ มุมปากยกขึ้นเยาะเย้ยตัวเอง
ช่วงนี้เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายสบายเกินไปหน่อย จนทําให้ลืมไปว่าผู้ชายคนนี้มีจิตใจโหดเหี้ยมเพียงไร
เขาไม่สนใจว่าเธอเป็นคนขโมยหรือไม่ สิ่งที่เขาสนใจคือแผนการของเขาเท่านั้น นั่นก็คือลูกสาวอีกคนของเขา
เมื่อคิดได้ดังนั้น กู้ฉางฉิงก็บังคับตัวเองให้ไม่ต้องสนใจ
อย่างไรก็ไม่มีใครสนใจเธออยู่แล้ว ฉะนั้นเธอจึงต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน เพื่ออนาคตจะสามารถดูแลคุณแม่ได้
……
ขณะเดียวกัน ที่ภายในงานเลี้ยง
เมื่อเฟิงจิ้งหยวนกับลู่ซือหยี่เห็นกู้หงเซินเดินออกมาจากห้องพักรับรอง ทั้งสองก็มองหน้าและยิ้มให้กัน
จากนั้นพวกเธอก็ก็ถือแก้วไวน์และเดินไปยังตําแหน่งที่ฉินเป่ยหานยืนอยู่
“ทุกคนคะ จะรังเกียจไหมถ้าจะขอยืมตัวคุณชายฉินสักครู่?”
เฟิงจิ้งหยวนก้าวเข้าไปแทรกระหว่างการสนทนาของบรรดาคุณชายทั้งหลาย
เหล่าคุณชายซึ่งรู้จักเฟิงจิ้งหยวนอยู่แล้ว ต่างก็ถ่อมเนื้อถ่อมตัว
“คุณเฟิง คุณลู่ ไม่ทราบว่าต้องการพบผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
คุณชายฉินเดินตามเธอทั้งสองไปที่มุมหนึ่งและขมวดคิ้วขึ้นถาม
เฟิงจิ้งหยวนและลู่ซือหยี่สบตากัน ก่อนที่เฟิงจิ้งหยวนจะเอ่ยปากขึ้นมาก่อน
“ดูเหมือนว่าคุณชายฉินจะยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้”
ฉินเป่ยหานได้ยินดังนั้นก็มองทั้งสองคนอย่างงงงวย
เขาไม่ได้มาถึงที่งานเลี้ยงการกุศลตรงเวลา เนื่องจากมีธุระส่วนตัวบางอย่างระหว่างทางจึงทำให้ล่าช้าเล็กน้อย
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“เมื่อกี้มีเหตุการณ์ขโมยเกิดขึ้น ฉางซินถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย ยังดีที่สุดท้ายก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เธอได้ แต่ว่า……”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset