สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 134 คนที่เคยแอบรักมาก่อน

ถึงวันที่สอง เพราะเรื่องงานเลี้ยงรุ่น กู้ฉางชิงไปบริษัท
เพราะเรื่องงานเลี้ยงรุ่นทำให้เธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดทั้งวัน ในใจกังวลอย่างมาก
รอถึงเลิกงาน เธออืดอาดอยู่ที่บริษัทครู่หนึ่งแล้วจึงตรงไปยังสถานที่ที่นัดรวมตัวกัน
เพียงแต่เธอก็ไม่ได้เข้าไปโดยตรง แต่ไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเสื้อผ้าที่เรียบง่ายอีกชุดนึงก่อน
ถึงอย่างไรเธอก็เข้าไปในฐานะกู้ฉางชิง โดยปกติแล้วจำเป็นต้องสวมกริยามารยาทให้เหมือนแต่ก่อน
อีกทั้งสวมใส่ชุดดีเกินไป ก็กลัวว่าพวกเพื่อนๆจะถามนั่นถามนี่ ทำให้เธอหลุดปากพูด
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เธอก็เดินทางมาถึงประตูที่สามสิบสองของพระราชวังฤดูร้อน
เธอมองไปยังภัตตาคารที่ปรับปรุงใหม่ตรงหน้า บรรยากาศโดยรอบสวยงามไม่ธรรมดา ชื่อหนึ่งของศิลปวรรณคดีบนรูปแบบลักษณะประเพณีโบราณ หากไม่รู้ก็ยังคิดว่านี่คือโรงน้ำชา
เห็นแผ่นป้ายที่ประตูทางเข้าพิมพ์ด้วยตัวอักษรสีทองบนพื้นหลังสีดำ——อาคารเวฬุวัน
ก้าวเท้าเข้าประตูใหญ่ ก็จะเป็นระเบียงทางเดินยาว มีสระน้ำอยู่ตรงกลาง มีดอกบัวปลูกอยู่ด้านใน มีปลาคาร์ฟสีแดงว่ายสองสามตัวว่ายไปมาในนั้น
และบริเวณรอบสระน้ำมีป่าไผ่ที่เรียงกันเป็นแถว พวกมันพลิ้วไหวตามลมเกิดเป็นเสียง’ซ่าซ่า’ กลิ่นหอมสดชื่นของต้รไผ่ก็ส่งกระจายไปนากาศทุกหนทุกแห่ง ทำให้คนที่ได้สูดดมจิตใจเบิกบาน อดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายลงมา
กู้ฉางชิงก็ค่อยๆปล่อยวางความไม่สงบภายในจิตใจลง ตามบริกรเดินเข้าไปยังที่นั่งพิเศษ
เห็นในที่นั่งพิเศษมีคนนั่งอยู่ไม่น้อยแล้ว
ผู้ชายสวมเสื้อสูทหนัง ผู้หญิงสวมเสื้อผ้าสีสดใส
ยกเว้นส่วนน้อยที่แต่งตัวไม่เป็นทางการ คนอื่นๆล้วนคล้ายกับว่าตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ
พวกเขาเห็นกู้ฉางชิงเข้ามา ก็หยุดประเด็นที่พูดคุยกันลงทันที แต่ละคนทักทายกันอย่างกระตือรือร้น
“ดาวโรงเรียนกู้มาแล้ว ดูเหมือนว่ายังมีหน้าหัวหน้าห้องเหมือนเดิม!”
“นั่นนะสิ ตั้งแต่หลังเรียนจบ ดาวโรงเรียนกู้ของพวกเราน้อยมากที่จะได้ออกมารวมตัวกัน”
“เฮ้ย คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะ ดาวโรงเรียนกู้ของพวกเราล้วนคือความหวังของอาจารย์มาโดยตลอด มีเวลาออกมาเที่ยวที่ไหนกัน เกรงว่าเท้าหน้าออกมาแล้ว เท้าหลังก็จะถูกอาจารย์กลับไปสอน”

ถึงวันที่สอง เพราะเรื่องงานเลี้ยงรุ่น กู้ฉางชิงไปบริษัท
เพราะเรื่องงานเลี้ยงรุ่นทำให้เธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดทั้งวัน ในใจกังวลอย่างมาก
รอถึงเลิกงาน เธออืดอาดอยู่ที่บริษัทครู่หนึ่งแล้วจึงตรงไปยังสถานที่ที่นัดรวมตัวกัน
เพียงแต่เธอก็ไม่ได้เข้าไปโดยตรง แต่ไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเสื้อผ้าที่เรียบง่ายอีกชุดนึงก่อน
ถึงอย่างไรเธอก็เข้าไปในฐานะกู้ฉางชิง โดยปกติแล้วจำเป็นต้องสวมกริยามารยาทให้เหมือนแต่ก่อน
อีกทั้งสวมใส่ชุดดีเกินไป ก็กลัวว่าพวกเพื่อนๆจะถามนั่นถามนี่ ทำให้เธอหลุดปากพูด
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เธอก็เดินทางมาถึงประตูที่สามสิบสองของพระราชวังฤดูร้อน
เธอมองไปยังภัตตาคารที่ปรับปรุงใหม่ตรงหน้า บรรยากาศโดยรอบสวยงามไม่ธรรมดา ชื่อหนึ่งของศิลปวรรณคดีบนรูปแบบลักษณะประเพณีโบราณ หากไม่รู้ก็ยังคิดว่านี่คือโรงน้ำชา
เห็นแผ่นป้ายที่ประตูทางเข้าพิมพ์ด้วยตัวอักษรสีทองบนพื้นหลังสีดำ——อาคารเวฬุวัน
ก้าวเท้าเข้าประตูใหญ่ ก็จะเป็นระเบียงทางเดินยาว มีสระน้ำอยู่ตรงกลาง มีดอกบัวปลูกอยู่ด้านใน มีปลาคาร์ฟสีแดงว่ายสองสามตัวว่ายไปมาในนั้น
และบริเวณรอบสระน้ำมีป่าไผ่ที่เรียงกันเป็นแถว พวกมันพลิ้วไหวตามลมเกิดเป็นเสียง’ซ่าซ่า’ กลิ่นหอมสดชื่นของต้รไผ่ก็ส่งกระจายไปนากาศทุกหนทุกแห่ง ทำให้คนที่ได้สูดดมจิตใจเบิกบาน อดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายลงมา
กู้ฉางชิงก็ค่อยๆปล่อยวางความไม่สงบภายในจิตใจลง ตามบริกรเดินเข้าไปยังที่นั่งพิเศษ
เห็นในที่นั่งพิเศษมีคนนั่งอยู่ไม่น้อยแล้ว
ผู้ชายสวมเสื้อสูทหนัง ผู้หญิงสวมเสื้อผ้าสีสดใส
ยกเว้นส่วนน้อยที่แต่งตัวไม่เป็นทางการ คนอื่นๆล้วนคล้ายกับว่าตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ
พวกเขาเห็นกู้ฉางชิงเข้ามา ก็หยุดประเด็นที่พูดคุยกันลงทันที แต่ละคนทักทายกันอย่างกระตือรือร้น
“ดาวโรงเรียนกู้มาแล้ว ดูเหมือนว่ายังมีหน้าหัวหน้าห้องเหมือนเดิม!”
“นั่นนะสิ ตั้งแต่หลังเรียนจบ ดาวโรงเรียนกู้ของพวกเราน้อยมากที่จะได้ออกมารวมตัวกัน”
“เฮ้ย คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะ ดาวโรงเรียนกู้ของพวกเราล้วนคือความหวังของอาจารย์มาโดยตลอด มีเวลาออกมาเที่ยวที่ไหนกัน เกรงว่าเท้าหน้าออกมาแล้ว เท้าหลังก็จะถูกอาจารย์กลับไปสอน”
อันเฉียวส่ายหัว: “ไม่ใช่ นี่เพียงแค่ถือโอกาสมาก็เท่านั้น”
กู้ฉางชิงขมวดคิ้ว จ้องมองเธออย่างเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
อันเฉียวรู้ว่าเธอเดาไม่ออก จึงกล่าวเผยความลับด้วยตนเองว่า: “ฉันกลับมาครั้งนี้ หลักๆคือหางาน หลังจากนี้ฉันจะมาสร้างหลักปักฐานที่เมืองหลวง ดีใจไหม เซอร์ไพร์ไหม?”
กู้ฉางชิงเซอร์ไพร์แน่นอน
เดิมทีเธอก็มีเพื่อนไม่มาก อันเฉียวมาอยู่ที่เมืองหลวง เธอก็ดีใจเป็นธรรมดา
“จริงหรอ?”
เธอยืนยันอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“จริงสิ ฉันเคยโกหกคุณซะเมื่อไร? หลังจากนี้พวกเราจะสามารถทำเหมือนตอนไปเรียนหนังสือ ไปทำงานด้วยกันไปเดินเล่นดูหนังด้วยกัน อ๊ะ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!”
อันเฉียวพูดอย่างดีใจ แต่ไม่รู้เลยว่าคำพูดของเธอเหมือนกับน้ำเย็นที่ราดรดลงมาบนศีรษะกู้ฉางชิง
ไม่มีสาเหตุอื่นใด อยู่กับอันเฉียวนี้ เธอคือกู้ฉางชิง แต่อยู่ข้างนอก เธอคือกู้ฉางซิน
อันเฉียวเห็นตนเองพูดอยู่นาน คนข้างๆล้วนไม่ตอบโต้ ก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมอง ก็พบความผิดปกติบนใบหน้าของกู้ฉางชิง
“ฉางชิง คุณเป็นอะไรไป? เหมือนไม่สบายใจ”
กู้ฉางชิงได้ยิน เม้มปากมองเธอ
“อันเฉียว ฉันคงจะไม่มีเวลามาเป็นเพื่อนคุณ ฉัน…..ต้องดูแลแม่ ทางด้านของเธอนั้นไม่มีใครเลย”
เธอยังคงใช้ข้ออ้างเดิมๆเพื่อปกปิด

ถึงวันที่สอง เพราะเรื่องงานเลี้ยงรุ่น กู้ฉางชิงไปบริษัท
เพราะเรื่องงานเลี้ยงรุ่นทำให้เธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดทั้งวัน ในใจกังวลอย่างมาก
รอถึงเลิกงาน เธออืดอาดอยู่ที่บริษัทครู่หนึ่งแล้วจึงตรงไปยังสถานที่ที่นัดรวมตัวกัน
เพียงแต่เธอก็ไม่ได้เข้าไปโดยตรง แต่ไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเสื้อผ้าที่เรียบง่ายอีกชุดนึงก่อน
ถึงอย่างไรเธอก็เข้าไปในฐานะกู้ฉางชิง โดยปกติแล้วจำเป็นต้องสวมกริยามารยาทให้เหมือนแต่ก่อน
อีกทั้งสวมใส่ชุดดีเกินไป ก็กลัวว่าพวกเพื่อนๆจะถามนั่นถามนี่ ทำให้เธอหลุดปากพูด
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เธอก็เดินทางมาถึงประตูที่สามสิบสองของพระราชวังฤดูร้อน
เธอมองไปยังภัตตาคารที่ปรับปรุงใหม่ตรงหน้า บรรยากาศโดยรอบสวยงามไม่ธรรมดา ชื่อหนึ่งของศิลปวรรณคดีบนรูปแบบลักษณะประเพณีโบราณ หากไม่รู้ก็ยังคิดว่านี่คือโรงน้ำชา
เห็นแผ่นป้ายที่ประตูทางเข้าพิมพ์ด้วยตัวอักษรสีทองบนพื้นหลังสีดำ——อาคารเวฬุวัน
ก้าวเท้าเข้าประตูใหญ่ ก็จะเป็นระเบียงทางเดินยาว มีสระน้ำอยู่ตรงกลาง มีดอกบัวปลูกอยู่ด้านใน มีปลาคาร์ฟสีแดงว่ายสองสามตัวว่ายไปมาในนั้น
และบริเวณรอบสระน้ำมีป่าไผ่ที่เรียงกันเป็นแถว พวกมันพลิ้วไหวตามลมเกิดเป็นเสียง’ซ่าซ่า’ กลิ่นหอมสดชื่นของต้รไผ่ก็ส่งกระจายไปนากาศทุกหนทุกแห่ง ทำให้คนที่ได้สูดดมจิตใจเบิกบาน อดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายลงมา
กู้ฉางชิงก็ค่อยๆปล่อยวางความไม่สงบภายในจิตใจลง ตามบริกรเดินเข้าไปยังที่นั่งพิเศษ
เห็นในที่นั่งพิเศษมีคนนั่งอยู่ไม่น้อยแล้ว
ผู้ชายสวมเสื้อสูทหนัง ผู้หญิงสวมเสื้อผ้าสีสดใส
ยกเว้นส่วนน้อยที่แต่งตัวไม่เป็นทางการ คนอื่นๆล้วนคล้ายกับว่าตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ
พวกเขาเห็นกู้ฉางชิงเข้ามา ก็หยุดประเด็นที่พูดคุยกันลงทันที แต่ละคนทักทายกันอย่างกระตือรือร้น
“ดาวโรงเรียนกู้มาแล้ว ดูเหมือนว่ายังมีหน้าหัวหน้าห้องเหมือนเดิม!”
“นั่นนะสิ ตั้งแต่หลังเรียนจบ ดาวโรงเรียนกู้ของพวกเราน้อยมากที่จะได้ออกมารวมตัวกัน”
“เฮ้ย คุณพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะ ดาวโรงเรียนกู้ของพวกเราล้วนคือความหวังของอาจารย์มาโดยตลอด มีเวลาออกมาเที่ยวที่ไหนกัน เกรงว่าเท้าหน้าออกมาแล้ว เท้าหลังก็จะถูกอาจารย์กลับไปสอน”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset