สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 34 ให้คุณ คุณจึงจะมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะอยากได้

กู้ฉางชิงตามคุณอาหวางไปยังบ้าน
เพียงเข้ามาที่นี่ เธอก็รู้สึกว่าบรรยากาศไม่ปกติเล็กน้อย เหล่าคนรับใช้ข้างๆล้วนก็หลีกถอยออกไปไกล
คุณนายเฟิงก็คล้ายกับนั่งในห้องรับแขกเพื่อรอเธอโดยเฉพาะ มือสองข้างยังถือแก้วน้ำแก้วนึง เพียงแต่มองไปยังสายตาของเธอ เฉียบคมราวกับลูกธนู คล้ายกับเธอจะถูกยิงในช่วงเวลาต่อไป
คุณนายเฟิงจ้องมองเธอโดยไม่พูดจา กู้ฉางชิงได้เพียงกล่าวว่า “คุณแม่? คุณหาฉันมีเรื่องอะไรหรอ?”
เธอพยายามไม่สนใจความผิดปกติโดยรอบ พยายาทกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“คุณยังจะมีหน้ามาถามฉันอีกหรอ?”
เธอเพิ่งจะพูดจบคุณนายเฟิงก็หัวเราะเยาะ แก้วน้ำในมือก็วางลงลบโต๊ะอย่างแรง ทำให้เกิดเสียงกระทบเสียงใส
“แม่พูดแบบนี้ฉันไม่เข้าใจ ฉันอยู่ที่ตระกูลเฟิงมาสองสามวัน ไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย ไม่ทราบว่าทำผิดตรงไหน”
กู้ฉางชิงเพียงพูดคำนี้ ทั้งที่อยู่ข้างๆทั้งหมดก็ตกตะลึงจนก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว
นี่มันเมื่อไรกัน คาดไม่ถึงว่าคุณนายรองยังจะกล้าต่อปากต่อคำกับคุณนาย
คนเหล่านั้นมองหน้ากันไปมา คล้ายกับทั้งโลกต่างรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
คุณนายเฟิงร้องเห๊อะอย่างเย็นชา “คุณนี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! ฉันก็จะพูดว่าทำไมคุณถึงใจดีขนาดนั้น จู่ๆก็ช่วยจิงเหยา ทั้งหมดแฝงไปด้วยจุดประสงค์ กู้ฉางชิง ตอนนี้เป็นคนของตระกูลเฟิง ไม่ใช่คนของตระกูลกู้!”
กู้ฉางชิงขมวดคิ้ว ทันใดก็ฉลาดขึ้นมาในชั่วพริบตา
เธอคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะเผยแพร่รวดเร็วขนาดนี้ เธอและเฟิงจิงเหยาไปพบกู้หงเซินก่อน หลังจากนั้นพวกเขาก็รู้เรื่อง
ถ้านี่เป็นเรื่องจริง เธอก็ไม่อยากจะแก้ตัวอะไร
เห็นเธอเงียบ คุณนายเฟิงก็ยิ่งแสดงความโกรธในใจออกมา “กู้ฉางชิง! ในตอนแรกที่แต่งคุณ ก็ให้ประโยชน์กับตระกูลเฟิงอย่างนับไม่ถ้วน คิดไม่ถึงว่า พวกคุณสองคนทั้งพ่อทั้งลูกสาวยังไม่รู้จักพอมาโดยตลอด”
พูดถึงด้วยความโมโห คุณนายเฟิงก็ลุกจากโซฟาเดินเข้ามา เดินมายังด้านหน้าของกู้ฉางชิง จ้องมองแล้วกล่าวกับเธออย่างคับแค้นใจว่า “พวกคุณคิดว่าจิงเหยาเป็นอะไร เอทีเอ็มหรอ?”
กู้ฉางชิงพูดไม่ออกเลยสักคำ
ในที่สุดเธอก็ได้รู้แล้วว่าคุณนายเฟิงเรียกตนเองมาเพราะอะไร
เหล่าคนรับใช้ก็มองมาตามๆกัน เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดคิด ไม่นึกเลยว่าข่าวลือเมื่อเร็วๆนี่จะเป็นเรื่องจริง
มากจนกระทั่งในสายตาสองสามคู่ล้วนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในสายตาที่มองมายังกู้ฉางชิงเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
เห็นได้ชัดว่าที่พวกเขามองมาคุณนายรองคือคนของตระกูลเฟิง คาดไม่ถึงว่าจะคิดถือโอกาสหาประโยชน์จากตระกูลเฟิงมาโดยตลอด นี่คือการเนรคุณ!
พอหลู่ซือหยีลงมาชั้นล่าง ก็พบว่าคุณนายเฟิงโมโหไม่เบา รีบเดินเข้ามาลูบหลังปลอบโยน “คุณน้าหมิง คุณอย่าโมโหเลย ไม่คุ้มค่าหรอก!”
ต่อจากนั้น สายตาก็หันไปมองกู้ฉางชิง กล่าวด้วยความเคืองแค้นต่อความไม่เป็นธรรม “กู้ฉางชิง คุณกับพ่อของคุณ คือเพื่อจุดประสงค์นี้ จู่ๆก็จะพูดว่าภาพการออกแบบภาพนั้นคือการออกแบบของตัวเองงั้นหรอ? ทำให้พี่จิงเหยาชื่นชมคุณ ตบมือข้างเดียวจริงๆเลย!”
จนถึงเวลานี้แล้ว คาดไม่ถึงว่าหลู่ซือหยียังโหยหารูปออกแบบ
คาดไม่ถึงว่าจะใช่สิ่งเหล่านี้ล้มล้างเธอ
“……” กู้ฉางชิงชำเลืองมองเธอทีนึง ไม่นึกเลยว่าหลู่ซือหยีผู้หญิงคนนี้จะยังจินตนาการได้
เธอไม่ให้ความสนใจหลู่ซือหยี แต่กลับเผชิญหน้ากับคุณนายเฟิงแล้วกล่าวอธิบายว่า “เรื่องนี้ ฉันเอ่ยกับจิงเหยาแล้วจริงๆ แต่เขาปฏิเสธ ฉันก็ไม่บีบบังคับความสามารถของเขา ในที่สุดก็ตัดสินใจตามสถานการณ์ ให้อยู่ในมือของเฟิงเหยาตั้งแต่ต้นจนจบ”
ข้อเท็จจริงแท้ที่จริงก็เป็นแบบนี้ แต่คุณนายเฟิงคิดว่ายิ่งปกปิดยิ่งเห็นได้ชัด
เธอผลักหลู่ซือหยีออก ยืนตัวตรง กล่าวกับกู้ฉางชิงว่า “ฉลาดปากดีนัก! กู้ฉางชิง วันนี้ฉันจะบอกคุณไว้นะว่า ตระกูลเฟิงก็คือตระกูลเฟิง มีเพียงสิ่งที่ให้คุณ ตระกูลกู้คุณจึงจะมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะอยากได้ ไม่เช่นนั้น ไม่ว่าอะไรคุณก็ล้วนอย่าคิดที่จะอยากได้”
สายตาเธอมั่นคง นี่คือแม่คนนึงที่ปกป้องลูกชาย
เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอจะพูดอะไรให้มากก็ไร้ความหมาย
บรรยากาศภายในห้องคล้ายกับต่างฝ่ายต่างยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน แฝงไปด้วยกลิ่นอายที่ทำให้คนหายใจติดขัดอย่างรุนแรง
กำลังคิดว่าจะถอนตัวออกไปอย่างไร ก็ได้ยินคุณนายเฟิงกล่าวว่า “ไสหัวไป!”
เธอไม่อยากพบเจอเธอ
กู้ฉางชิงก็ไม่ได้โต้แย้ง ก็ไม่มีทางที่จะโต้แย้ง เธอทำเกินไปจริงๆ
คนทั้งหมดเห็นแววตาของเธอที่ก็ไม่พอใจเล็กน้อย เดิมทีกูฉางชิงก็ไม่ได้อยากอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้อยู่แล้ว
พอออกจากบ้าน เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ตอนนี้เธอพูดออกมาก็คือกำปั้นทุบดิน
ขณะนี้คนของตระกูลเฟิงขัดขวางเธอ คุณนายเฟิงก็ใช้คำพูดกล่าวเตือน
แม้แต่เฟิงจิงเหยาก็ต้องหลบเขา
แต่ไม่ว่าอย่างไรกู้หงเซินต้องการให้เธอบรรลุวัตถุประสงค์ โดยไม่สนสถานการณ์ของเธอเลยแม้แต่น้อย กระทั่งยังคิดที่จะใช้แม่มาเป็นอำนาจคุกคามเธอ
กู้ฉางชิงไม่เพียงแต่งงเล็กน้อย เธอก็ไม่รู้ว่าตกลงเธอควรจะทำยังไง จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายไปได้
กู้ฉางชิงไม่ชอบความไม่เป็นตัวเองนี้เอาซะเลย ถูกคนควบคุมโดยไม่สมัครใจ แต่ก็จนปัญญา
อารมณ์ความรู้สึกนี้ ก็เหมือนกับวัชพืชในที่แห้งแล้ง เติบโตอย่างโหดเหี้ยมในอกของเธอที่บ้าคลั่ง กระทั่งแพร่ขยายไปตามอำเภอใจ
กู้ฉางชิงออกแรงขยี้ผม จิตใจสับสน ร้อนใจไม่เป็นสุขอย่างไม่สามารถอธิบายได้
แค่คิดกลับไปถึงแววตาของคนรับใช้เหล่านั้น กู้ฉางชิงก็ กู้ฉางชิงก็ไม่เต็มใจที่จะเดินกลับไปที่บ้านหลังนั้นใหม่
ไม่เช่นนั้น ถึงเวลาก็จะถูกสาวใช้กลุ่มนั้นมองเธอกลับมาแบบนั้น แถมยังไม่รู้ว่าวิพากย์วิจารณ์กันไว้ยังไงอีก
คิดเรื่องที่อยู่ในใจพลาง กู้ฉางชิงก็เดินเล่นในหลังบ้านซะเลย พอเดินไปยังที่ว่างเปล่า ก็พบนายท่านเฟิงนั่งอาบแดดอยู่บนเก้าอี้โยกตัวหนึ่ง
ในมือเขาหยิบหนังสือ ข้างๆยังมีแมวขาวตัวนึง บิดขี้เกียจอย่างเซื่องซึม
คนรับใช้สองสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆต่างก็เงียบอย่างมาก คล้ายว่ากลัวจะรบกวนการพักผ่อนของผู้อาวุโส
กู้ฉางชิงไม่นึกเลยว่า เธอจะพบคนายท่านเฟิงในสวนหย่อม เดิมทีหลังจากอารมณ์ของฝนที่ตกลงใบตอง(จนปัญญา,หดหู่,วังเวง) คล้ายกับถูกจี้ถูกจุดเมื่อพบกับท่าทางที่อ่อนโยนของนายท่าน ช่วงเวลาอันรวดเร็วก็เปลี่ยนเป็นสวยงามขึ้นมา
เห็นเธอเข้ามา นายท่านก็ดีใจมาก กวักมือเรียกเธอแล้วกล่าวว่า “ฉางชิง มาเร็วเข้า มาเร็วเข้า!”
“นายท่าน!”
นายท่านเฟิงดีกับกู้ฉางชิงมากมาโดยตลอด กู้ฉางชิงรีบวิ่งสองสามก้าวมาถึงตรงหน้าเขา ในน้ำเสียงยังมีความอัดอั้นตันใจอยู่เล็กน้อย
คล้ายกับเด็กน้อยที่พบผู้ใหญ่ที่คอยหนุนหลังหลัง เพียงแต่เธอก็ซ่อนเร้นเอาไว้อย่างรวดเร็ว ไม่ได้กระตุ้นความสงสัยของนายท่าน
คนรับใช้ก็ตาไวมากจึงหยิบเก้าอี้ตัวหนึ่งมาให้เธอ แล้วก็รินชาให้เธอ
“ช่วงนี้ทำไมอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกมาเดินหรอ?”
นายท่านยิ้มแล้วกล่าวกับเธอว่า ดวงตาคู่นั้นของคุณเมตตากรุณาอย่างมาก
“ตอนนี้จิงเหยากลับมา เป็นธรรมดาที่ต้องทำอารมณ์ให้สงบ
กู้ฉางชิงพูดพลาง ถือโอกาสลูบหลังแมวขาวตัวนั้นไปพลาง มันสบายจนอดไม่ได้ที่จะบิดขี้เกียจ
นายท่านพยักหน้ายิ้มแล้วกล่าวว่า “ดี แบบนี้ดีแล้ว แต่กลัดกลุ้มอยู่นานก็ไม่ดี ไม่ดีเท่า ตอนบ่ายออกไปเป็นเพื่อนฉันข้างนอกไหม?”
กู้ฉางชิงชะงักไปชั่วขณะ กล่าวว่า: “แน่นอน”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset