สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 42 ไม่พอใจนางเหมือนกัน

“ฮัลโหล? “กู้ฉางชิงรับโทรศัพท์แล้วถาม “มีธุระอะไรหรือเปล่า?
ผู้ถือสายลังเลครู่หนึ่ง และกล่าว “ข้าคือฟู่หยุนชวน ขอโทษที่รบกวน โทรมาวันนี้แค่อยากถามว่า เรื่องที่เจ้ากำลังพิจารณาอยู่เป็นอย่างไรบ้าง”
น้ำเสียงของฟู่หยุนชวนสุภาพและนุ่มนวล ทำให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดี
อย่างไรก็ตาม กู้ฉางชิงตอบกลับด้วยความสุภาพ “ขอโทษนะ ข้ายังไม่สามารถให้คำตอบได้! ”
คำพูดที่รุนแรงของเฟิงจิงเหยายังวนเวียนอยู่ในหัว
หลายวันมานี้เพราะปัญหานี้ทำให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน นางไม่อยากมีปัญหาเพิ่ม
พูดจบนางก็จะวางสาย แต่ฟู่หยุนชวนห้ามไว้ก่อน
“คุณนายฉาง เจ้ายังกังวลเรื่องอะไรอยู่ ข้อเสนอของข้าไม่มากพองั้นหรือ? ถ้าหากใช่ นอกจากหุ้นแล้วเจ้าอยากได้อะไรอีก ถ้าฟู่หยุนชวนอย่างข้าหามาได้ ข้าจะทำให้เจ้าทุกอย่าง ”
ฟู่หยุนชวนพูดอย่างจริงใจ
กู้ฉางชิงได้ยินแล้ว สะดุ้ง ” ไม่ใช่ๆ จริงๆแล้วข้อเสนอของเจ้า… ข้าพอใจมากแล้ว แต่แค่……”
ฟู่หยุนชวนเริ่มรู้คำตอบ น้ำเสียงเบาลง “คุณนายฉางมีอะไรที่ไม่สามารถบอกข้าได้งั้นหรือ? ข้าชื่นชมในความสามารถของเจ้าจริงๆ หากขาดมันไปจะเป็นการสุญเสียของวงการออกแบบเลยก็ว่าได้ เพราะเหตุนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ปฏิเสธข้า ”
กู้ฉางชิงหายใจเข้าลึกๆ ฟู่หยุนชวนพูดแบบนี้ทำให้นางเริ่มใจอ่อน
“ฟู่หยุนชวน ขอบคุณที่เลือกข้า”
นางเห็นถึงความจริงใจของอีกฝ่าย แต่ทว่านางตอนนี้ก็ไม่อาจทำตามใจตนได้
“แน่นอนอยู่แล้ว ข้าเห็นถึงความสามารถของเจ้า ข้าคิดว่าหากเราร่วมมือกัน แบรนด์ของเราต้องโด่งดังไปทั่วโลกทำกำไรได้มากมาย ข้ารับประกันได้เลยว่าเจ้าจะมีทั้งชื่อเสียงและเงินทอง”
ฟู่หยุนชวนพูดล่อใจหวังให้กู้ฉางชิงรีบตอบตกลง
กู้ฉางชิงเม้มริมฝีปากเบาๆ นางออกมาเป็นเวลานานแล้ว นางพูดเปลี่ยนเรื่อง “คุณฟู่ ตอนนี้ฉันไม่สะดวกจริงๆ ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ ”
ฟู่หยุนชวนอ่ำอึ่งไปสักครู่ “ต้องขออภัย ถ้าอย่างงั้นเรานัดคุยกันต่อหน้าดีไหม ”
ตรงข้ามประตู นางรู้สึกถึงบรรยากาศที่ผิดปกติในห้องอาหาร
“ขออภัยด้วย ข้าไม่สะดวกจริงๆ”
กู้ฉางชิงรีบวางโทรศัทพ์ และกลับไปที่ห้องอาหาร
เห็นนางถือโทรศัพท์เดินเข้ามา สีหน้าของคุณนายเฟิงก็เปลี่ยนไป พูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว เจ้ายังมีธุระมากมายเช่นนี้อีก ปล่อยให้ทุกคนรอเจ้าคนเดียว ”
“ขอโทษด้วยนะคะ! ” กู้ฉางชิงนั่งลงกับที่
เห็นสายตาทุกคู่มองมาที่นาง นางรู้สึกเกรงใจมาก
“ก็แค่รับโทรศัพท์แค่นี้เอง”
นายท่านเฟิงพูดปลอบกู้ฉางชิง น้ำเสียงฟังออกว่านายท่านเฟิงไม่พอใจกับคำพูดของคุณนายเฟิง
บรรยากาศควบแน่นทันที คุณนายเฟิงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แต่ไม่กล้าทำให้นายท่านขุนเคือง
นางไม่กล้าพูดอะไร นายท่านเฟิงทำให้บรรยากาศสงบลง ” เอาล่ะ รีบทาน รีบทาน เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นซะก่อน ”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ โทรศัพท์ของกู้ฉางชิงดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่แม้แต่สีหน้าของคุณนายเฟิงจะเปลี่ยนไป นายท่านเฟิงก็เริ่มไม่พอใจ
ลู่ซือยวี่พูดดูถูกเหยียดหยาม เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกู้ฉางชิง พึงพำเบาๆ ” คิดว่าตัวเองสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ ”
เสียงนางพูดเบามาก ทุกคนให้ความสนใจไปที่กู้ฉางชิง ไม่มีใครสังเกตนาง
หน้าจอโทรศัพท์ยังคงกระพริบ ชื่อของฟู่หยุนชวนปรากฏขึ้นที่หน้าจอ ทำให้เฟิงจิงเหยาตื่นตามาก
ใบหน้าที่เย็นชาตลอดเวลาของเขาเห็นได้ชัดขึ้น และจ้องมองไปที่กู้ฉางชิง
นางกับฟู่หยุนชวนมีธุระอะไรกันแน่ เมื่อกี้ก็โทรศัพท์ ตอนนี้ก็ส่งข้อความ?
กู้ฉางชิงสูดหายใจเข้าลึกๆ หยิบโทรศัพท์ ตอบกลับข้อความ
เธอรีบตอบกลับฟู่หยุนชวนด้วยข้อความสั้นๆว่า “ถ้าอย่างงั้นเจอกันพรุ่งนี้ตอนบ่าย”
ทันทีที่กู้ฉางชิงตอบกลับข้อความเสร็จ ลู่ซือยวี่ก็ลุกขึ้นจากอีกด้านของโต๊ะและคว้าโทรศัพท์ไปจากมือกู้ฉางชิง “ฉางซิน มีเรื่องอะไรก็เก็บไว้คุยหลังกินข้าวเสร็จ”
นางยิ้มและเขย่าโทรศัพท์พร้อมพูดว่า “ข้ายึดโทรศัพท์ชั่วคราว! ”
ลู่ซือยวี่พูดจบก็แกล้งวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ตั้งใจจะให้คุณนายเฟิงเห็นข้อความ
โทรศัพท์ยังไม่ได้ล็อค และหน้าจอยังแสดงอยู่ในหน้าที่กู้ฉางชิงตอบกลับฟู่หยุนชวน
คุณนายเฟิงหันไปเห็นข้อความ “เจอกันพรุ่งนี้ตอนบ่าย” ใบหน้านางบูดบึ้งและพูดออกมาอย่างโมโห “กู้ฉางซิน! ”
นางตะโกนออกมา สายตาทุกคนจับจ้องไปที่ตัวนาง
กู้ฉางชิงหันมองโทรศัพท์ของเธอแล้วจ้องไปที่
ลู่ซือยวี่ เข้าใจถึงสถานการณ์
นางก็ไม่ได้เขียนอะไร
คุณนายเฟิงก็ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
เมื่อเห็นกู้ฉางชิงแสดงอาการนิ่งๆ ทำให้คุณนายเฟิงหงุดหงิดขึ้นมา นางกำลังจะโจมตีแต่ถูกเสียงหนึ่งขัดจังหวะไว้ซะก่อน
“ท่านแม่ มีเรื่องอันใดค่อยคุยหลังทานข้าวเสร็จ” เฟิงจิงเหยาขมวดคิ้วและขัดจังหวะคุณนายเฟิง
คุณนายเฟิงถูกเฟิงจิงเหยาขัด ทำได้เพียง
กัดฟันและอดทนไว้
ใบหน้าบึ้งตึงน่าเกลียด
บรรยากาศในห้องอาหารเงียบมาก ไม่มีใครกล้าคีบตะเกียบเลยสักคน
นายท่านเฟิงโกรธ “หมิงฮัว เจ้ามีเรื่องขัดข้องเกี่ยวกับงานแต่งของกู้ฉางซินกับจิงเหยาอย่างงั้นหรือ? หากมีก็พูดมากับข้า จะไปกดดันเด็กทำไม? ”
นายท่านโกรธมาก คุณนายเฟิงเงียบพร้อมอารมณ์ที่เต็มไปด้วยไฟและพูดว่า “ไม่กล้ามีหรอก! ”
“ถ้าอย่างงั้นก็รีบๆทานข้าวซะ”
นางยอมรับผิดแล้ว นายท่านเฟิงก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ
เสียงของนายท่านเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมทำให้ทั้งห้องอาหารเงียบลง
กู้ฉางชิงมองไปที่ปู่ของนางด้วยความรู้สึกผิด แต่ก็รู้สึกอบอุ่นในใจ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ลู่ซือยวี่รู้สึกไม่พอใจ “กู้ฉางชิงเป็นแบบนี้แต่นายท่านยังเข้าข้างนาง แถมยังตำหนิคุณน้าหมิงอีก”
คุณนายเฟิงถูกนายท่านกดดันต่อหน้าคนอายุน้อยกว่าทำให้นางสงบลง นั่งทานอาหารโดยไม่พูดอะ ทำให้ทั้งห้องเงียบมากไม่มีใครกล้าออกเสียง
เวลาผ่านไปไม่นานก็แยกย้าย
“ท่านปู่ ข้าไปส่งท่านเอง”
เฟิงจิงเหยาเปิดประตูรถให้นายท่าน และขึ้นไปขับรถ
กู้ฉางชิงเดินตามไปที่รถนั่งข้างๆนายท่าน
ทันทีที่ขึ้นรถนายท่านก็เชิดหน้าเขามีสง่าผ่าเผยมาก
บรรยากาศบนรถเคร่งขรึม
รถขับผ่านไปครึ่งทาง นายท่านเฟิงก็ดุว่า “จิงเหยา เจ้าไม่พอใจฉางซินเหมือนกันงั้นหรือ? ให้นางเข้ากับแม่เจ้าแบบนี้อย่างงั้นหรือ? ในฐานะลูกชายเจ้าควรปรับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เจ้าและภรรยา ทำไมปล่อยให้แม่เจ้ากดขี่ฉางซิน?
นายท่านโกรธมาก และไอออกมาสองสามที
กู้ฉางชิงรีบยื่นมือไปประครองนายท่าน
เฟิงจิงเหยาที่กำลังขับรถอยู่ตกใจ รีบยอมรับผิด “ขอโทษครับท่านปู่ ต่อไปข้าจะไม่ให้เป็นแบบนี้อีกแล้ว ! “

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset