สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 61 ปล่อยเธอไปไม่ได้เด็ดขาด

เดิมทีแล้วกู้ฉางชิงไม่ต้องการโอ้อวดมากเกินไป และยิ่งไม่อยากให้คนในบริษัทรู้ฐานะของเธอ จะได้ไม่ให้เกิดปัญหา
“ขอบคุณที่เตือนสติ ฉันเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย ไม่ต้องห่วง ฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเรารู้จักกัน”
เธอตอบรับด้วยรอยยิ้มที่ดูห่างเหิน ท่าทีที่เรียบง่ายและไม่ไยดีของเธอ ทำให้เฟิงจิงเหยารู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ถูกเขากดเอาไว้
“หวังว่าคุณจะจำคำพูดในวันนี้ได้”
พูดจบ เขาก็ไม่สนใจกู้ฉางชิง เดินตรงไปที่ประตูแล้วออกไป
กู้ฉางชิงเห็นอย่างนั้นแล้วก็รีบเดินตามไป
ทั้งสองออกจากร้านอาหารและนั่งรถไปที่บริษัท
บริษัทที่จัดตั้งใหม่มีชื่อแบรนด์ว่าUnique
ตั้งอยู่บนถนนการค้าที่คึกคัก และเป็นหนึ่งในตึกที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง
นอกจากที่จอดรถชั้นหนึ่งแล้ว ด้านบนทั้งหมดเป็นสำนักงาน
บริษัทตั้งอยู่บนชั้นที่สิบห้าของตึก ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางมาก
กู้ฉางชิงอยู่ตอนที่เฟิงจิงเหยาบอกคนขับรถพอดี ก็เลยจำได้
เมื่อเห็นว่ากำลังจะถึงที่หมาย เธอจึงบอกคนขับให้รีบหยุดรถ
“รบกวนคุณหยุดตรงทางเข้าด้วยค่ะ”
เฟิงจิงเหยาเข้าใจเจตนาที่กู้ฉางชิงทำแบบนี้ เลยไม่ได้คัดค้าน
“ทำตามที่เธอบอก”
คนขับรถรับคำสั่งและจอดให้กู้ฉางชิงลงที่ทางเข้า
กู้ฉางชิงกำลังจะลงจากรถและตั้งใจจะกล่าวขอบคุณเฟิงจิงเหยา แต่ไม่ต้องการให้รถที่อยู่ข้างหน้าเธอออกไปต่อหน้าเธอโดยตรง
เธอมองไปที่รถที่กำลังออกไป ทำได้เพียงกลืนคำพูดของเธอกลับไป แล้วเดินไปที่บริษัทใหม่
ตึกสูงเสียดฟ้าตั้งตรงตระหง่าน
ตั้งแต่ชั้นบนถึงชั้นล่างของตึกทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยกระจกนิรภัยสีฟ้า ภายใต้แสงแดดจะสะท้อนแสงสีทองเป็นชั้นๆ
กู้ฉางชิงแหงนมองจนปวดคอ ถึงจะสุดสายตา
เธอมองไปยังประตูที่ไม่ไกล จัดระเบียบกระโปรงที่ยับยู่ยี่ จากนั้นสูดหายใจเข้า แล้วเดินเข้าไป
เมื่อเธอเข้ามาในบริษัท เริ่มแรกเธอไปที่แผนกบุคคลเพื่อรายงาน จากนั้นรับบัตรพนักงาน แล้วตามเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลไปที่แผนกออกแบบ
แผนกออกแบบถือเป็นหัวใจหลักของบริษัท ดังนั้นจึงมีพื้นที่กว้างที่สุดในบริษัท และยังเป็นแผนกที่มีผู้คนมากที่สุด
แม้ว่าบริษัทจะเพิ่งก่อตั้งขึ้น แต่ก็ไม่ขาดแคลนสิ่งที่แผนกออกแบบควรมี
ตั้งแต่เข้ามาที่แผนกออกแบบ เธอก็มองไปรอบๆโดยไม่ให้ผิดสังเกต
ท่ามกลางผู้คนเธอพบคนรู้จักสองคน——ชวี่ชิงหยุนและมู่ฉิงคง
สองท่านนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบคนใหม่ที่เพิ่งได้รับรางวัลในต่างประเทศ ไม่คิดว่าจะถูกเฟิงจิงเหยาดึงตัวเข้ามาในบริษัท
ส่วนคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่รู้จัก คิดว่าน่าจะเป็นน้องใหม่ในวงการ
เธอคิดดูแล้วก็หันไปมองทางด้านอื่น
แต่ทว่าไม่อยากเห็นลู่ซือยวี่
ก็เห็นลู่ซือยวี่ยืนอยู่ข้างๆชวี่ชิงหยุนและมู่ฉิงคง ทั้งสามคนคุยไปหัวเราะไป ราวกับว่าพวกเขาสนิทกัน
เธอไม่รู้ว่าลู่ซือยวี่สังเกตเห็นเธอหรือเปล่า เธอจึงหันหลบไป กู้ฉางชิงเดินหลบออกมาช้าๆ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงพากู้ฉางชิงไปยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“ฉางซิน นี่คือผู้ช่วยลู่ เป็นผู้ช่วยท่านประธาน แต่เนื่องจากแผนกออกแบบไม่มีหัวหน้าแผนก ประธานกรรมการจึงแต่งตั้งให้เธอเป็นหัวหน้าแผนกชั่วคราว ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวหน้าในอนาคตของคุณ”
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลแนะนำกู้ฉางชิง เธอขมวดคิ้วด้วยความไม่สบายใจ
ลู่ซือยวี่เป็นหัวหน้าเธอ ตามเจตนาร้ายของเขาที่มีต่อเธอแล้ว เกรงว่าในอนาคตงานของเธอจะไม่ค่ายราบรื่นนัก
และข้อเท็จจริงก็เป็นไปตามที่เธอคิดไว้
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลได้แนะนำคราวๆแล้ว ก็ส่งกู้ฉางชิงให้ลู่ซือยวี่จัดการ
ลู่ซือยวี่รอให้เขาจากไป ตาทั้งสองข้างจ้องมองมาที่กู้ฉางชิง
“ยินดีตอนรับเธอเข้าสู่แผนก”
เธอพูดพร้อมกับอมยิ้มมุมปาก ก้าวมาข้างหน้าและกอดกู้ฉางชิง
“กู้ฉางซิน เธออยู่ในกำมือของฉันแล้ว ต่อไปอยู่ที่นี่ก็ทำตัวให้ดีๆ ที่นี่ไม่ใช่บ้านตระกูลเฟิง อย่าให้ฉันจับผิดเธอได้ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่”
เธอโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของกู้ฉางชิง ข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา และมีเพียงพวกเธอสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
เมื่อกู้ฉางชิงได้ยินก็เหลือบไปมองเธอ และพูดด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกันว่า:“ไม่ต้องห่วง ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ และจะพยายามไม่ให้เธอจับผิดได้”
พูดจบเธอก็เริ่มถอนตัวจากการกอด และมองลู่ซือยวี่อย่างยิ้มเยาะ
ลู่ซือยวี่รู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีของเธอ
แต่เพราะมีคนอื่นอยู่ข้างๆ เธอเธอจึงทำได้เพียงแค่ระงับความโกรธไว้ในใจ
แต่การเผชิญหน้ากันอย่างเงียบๆของพวกเธอ คนอื่นไม่มีใครสังเกตเห็น
เมื่อเห็นว่ากู้ฉางชิงมาใหม่ ก็เริ่มเข้ามาพูดคุย
กู้ฉางชิงเห็นอย่างนั้น ก็เลิกสนใจลู่ซือยวี่ และพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานใหม่ เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ของบริษัท
ลู่ซือยวี่คิดไม่ถึงว่าหลังจากนั้นไม่นานเธอก็สนิทกับทุกคน
เธอมองกู้ฉางชิงพูดด้วยเสียงหัวเราะมีความสุข ก็แทบอยากจะฉีกหน้าเขาให้แตกละอียด
ดีที่เธออดกลั้นไว้ได้ รีบปรบมือแล้วพูดว่า:“เสียเวลากันมาไม่น้อยแล้ว ทุกคนควรกลับไปทำงานได้แล้ว”
ทันทีที่คำพูดของเธออกจากปาก ทุกคนก็นึกถึงงานที่พวกเขากำลังทำอยู่ ทันใดนั้นพวกเขาก็กลายเป็นนกแตกรัง เหลือเพียงกู้ฉางชิงที่ยังคงยื่นอยู่
“รักษาการหัวหน้าแผนกคะ ขอถามหน่อยค่ะ โต๊ะทำงานขอฉันอยู่ตรงไหนคะ?”
เธอมองไปที่ลู่ซือยวี่เพื่อสอบถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
เมื่อลู่ซือยวี่ได้ยินดังนั้น ก็เบะปากใส่ ชี้ไปที่มุมมุมหนึ่ง แล้วพูดว่า:“เธอไปทำงานตรงนั้น ตำแหน่งอื่นๆมีคนทำงานอยู่แล้ว รอให้มีตำแหน่งว่างแล้วฉันจะปรับเลี่ยนให้”
กู้ฉางชิงได้ยินแล้วก็หันไปมองตรงที่เธอบอก
ก็เห็นว่าเป็นมุมเล็กๆใกล้กับที่ชงชา พื้นที่แคบมากๆ เพียงแค่ตั้งโต๊ะกับเก้าอี้ก็เต็มแล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแสงในที่ตรงนั้นก็ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักออกแบบอย่างพวกเขา ถ้าแสงไม่ดีจะเกิดความผิดพลาดในการออกแบบได้ง่าย
เมื่อเห็นเช่นนั้นกู้ฉางชิงก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง
เธอรู้ว่าลู่ซือยวี่จงใจทำให้เรื่องมันยุ่งยาก แต่เธอไม่อยากทะเลาะกับเขาในวันแรกที่มาบริษัท
อย่างมากพรุ่งนี้เธอก็แค่เอาโคมไฟมาด้วย
เมื่อคิดแล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไร เดินถือกระเป๋าไปที่มุมมุมนั้น
ลู่ซือยวี่มองเธอเดินจากไปด้วยสายตาประหลาดใจ
“ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนนิสัยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
พูดได้ว่ากาารกระทำของกู้ฉางชิงเหนือความคาดหมายของเธอ
เธอคิดว่าตามนิสัยของกู้ฉางชิงแล้ว จะต้องต่อต้านเธอในทันที แต่นี่ไม่แม้แต่จะถกเถียงกับเธอ
คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมรับมันได้อย่างเงี่ยบสงบ
เดิมทีเธอวางแผนไว้ว่า ถ้าผู้หญิงคนนี้เอะอะโวยวาย ไม่ยอมทำตามกฏระเบียบก็จะไล่ออกจากบริษัท
มันน่าเสียดายนัก
เธอนึกดูแล้วก็เปลี่ยนความคิดทันที ซึงก่อนหน้านี้เธอมีท่าทีท้อถอย เธอเบะปากและยิ้มอย่างเยือกเย็น
ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะอยู่ในบริษัท และเธอก็กลายเป็นหัวหน้าของเขา อย่างนั้นก็ให้โอกาสเขาอยู่ที่นี่ เธอจะได้สั่งสอนนังสารเลวนี่ด้วย
เมื่อคิดถึงตรงนี้เธอก็ชำเลืองมองกู้ฉางชิง แล้วหันเดินจากไป

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset