สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 1312 ยังคงห่วงใย

เย้นหว่านหันหน้าไป มองไปที่คนสองคนที่เดินเข้ามาทีละคน แล้วก็หรี่ตาลงอย่างอันตราย

เธอจ้องไปที่เก่อหรูซวนอย่างเย็นชา “เธอจะย้ายเข้ามาทำงานที่นี่อย่างนั้นเหรอ? ”

ห้องทำงานประธานคือเขตอิทธิพลของโห้หลีเฉิน ขนาดตอนที่เธอเป็นหัวหน้าเลขา ยังได้ทำงานอยู่ที่ห้องทำงานของเลขา แต่ว่าตอนนี้เก่อหรูซวนจะเข้ามาทำงานที่นี่อย่างนั้นเหรอ?

จะอยู่ห้องทำงานเดียวกับโห้หลีเฉินตลอด24ชั่วโมงเลยอย่านั้นเหรอ?

ชายหญิงสองต่อสองเหรอ?

เหอะ สมควรตายจริงๆ

เพราะว่าแรงอาฆาตบนตัวของเย้นหว่านมันแรงเกินไป เหมือนกับอาวุธ ทำให้เก่อหรูซวนรู้สึกหวาดกลัว

เก่อหรูซวนมองไปที่โห้หลีเฉินด้วยแววตาที่คลุมเครือ พอเห็นว่าใบหน้าของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม ก็เม้มปากไม่อยากจะพูดอะไรต่อ

แต่ว่าจู่ๆ เธอก็รู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมา และพูดว่า

“ใช่ค่ะ เพื่อที่สะดวกต่อการทำงาน เพื่อชดเชยปัญหาที่คุณก่อเอาไว้”

เย้นหว่านหัวเราะเยาะ เป็นเหตุผลที่ดีให้กับเก่อหรูซวน

เธอหันไปมองโห้หลีเฉิน “คุณโห้ คุณยอมที่จะให้เธอทำงานอยู่ในห้องทำงานเดียวกับคุณเหรอ? ในห้องนี้ เพิ่มโต๊ะทำงานเธอเข้ามาอีกโต๊ะหนึ่ง? ”

โห้หลีเฉินเป็นคนที่จู้จี้มาก ไม่ใช่แค่ไม่ชอบให้คนอื่นเข้าใกล้เท่านั้น แถมยังไม่ชอบให้คนอื่นมายึดครองพื้นที่ส่วนตัวของเขาอีก

ถ้าพูดตามหลักเหตุผลก็คือ เขาไม่มีทางยอมให้เก่อหรูซวนมาเพิ่มโต๊ะทำงานในห้องนี้อย่างแน่นอน

โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านด้วยสายตาที่มืดมน ในน้ำเสียงของเขา มีความเย็นชาและความห่างเหิน

เขาพูดอย่างไม่แยแสว่า “งานต่อไปที่จะมาถึงมันซับซ้อน และยุ่งมาก เก่อหรูซวนจะมาทำงานในห้องของผม” ระหว่างที่พูดนั้น เขาก็มองไปที่โต๊ะกาแฟตรงหน้าของเย้นหว่าน “แค่นั้นเอง”

ก็ยังคงเป็นสไตล์ของโห้หลีเฉินอยู่ดี ไม่อนุญาตให้ใครมาเพิ่มสิ่งของอะไรในเขตอิทธิพลของเขา

แต่ว่าเขากลับยอมให้เก่อหรูซวนคนนี้ มาอยู่ในห้องทำงานของเขาเป็นเวลานาน

แม้ว่าจะเพื่อรับมือกับงาน มันทำได้ถึงกับขั้นนั้นเลยเหรอ?

ใบหน้าของเย้นหว่านเย็นชามาก เธอกัดฟันแล้วพูดว่า “ถ้าเกิดว่าฉันไม่เห็นด้วยล่ะ? ”

“เย้นหว่าน ฉันไม่อยากมาเถียงกับเธอในเรื่องเล็กน้อยพวกนี้นะ”ดวงตาของโห้หลีเฉินทั้งเย็นชาและเหนื่อยล้า

เขาไม่เคยทำแบบนี้กับเย้นหว่านมาก่อนเลย

ความแปลกแยกและความไม่แยแสที่ออกมาจากตัวของเขา ทำให้เย้นหว่านรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาจากฝ่าเท้า

กาแฟในมือของเธอยังคงอุ่นอยู่ แต่เธอไม่รู้สึกถึงความร้อนเลย

เธอรู้สึกหนาวไปทั้งตัว และหัวใจของเธอกลับยิ่งหนาวมากกว่านั้น

เธออยากจะถามเขาว่า เขาจำสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับการต่อสู้เคียงข้างกันได้ไหม

แต่ว่าสุดท้ายแล้ว เย้นหว่านก็ไม่ได้ถามออกไป

เธอกำถ้วยกาแฟแน่น จู่ๆ ก็ยิ้ม แล้วเอนหลังพิงโซฟาอย่างเกียจคร้าน

“จริงๆ มันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ยังไงฉันก็ยังอยู่ที่นี่ ก็ไม่ถือว่าชายหญิงอยู่กันสองต่อสองหรอก พวกคุณทำงานของตัวเองไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน แต่ว่า……”

เย้นหว่านหรี่ตามองเก่อหรูซวน “รักษาระยะห่างให้ดี อย่าเข้าใกล้ผู้ชายของฉันให้มากเกินไป อย่าสบตาเขา อย่าเอางานมาบังหน้าและหวังอย่างอื่น ไม่ยังงั้น ฉันจะฆ่าคุณ——คาที่”

ประโยคสุดท้าย เธอพูดอย่างจริงจังมาก

เจตนาฆ่านั้นรุนแรงมาก เยือกเย็นและไม่มีการล้อเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว

เก่อหรูซวนอดไม่ได้ที่จะหนาวสั่น รู้สึกได้ว่าชีวิตของเธอถูกขู่อย่างแท้จริง

เธออยากจะให้โห้หลีเฉินปกป้อง แต่ว่าคำพูดของเย้นหว่านเป็นเพียงแค่การตักเตือนเท่านั้น ยังไม่ได้ทำจริง โห้หลีเฉินไม่มีทางสนใจอย่างแน่นอน

เก่อหรูซวนต้องระงับความตื่นตระหนกและไฟในใจของตัวเองเอาไว้

แต่ริมฝีปากของเธอยังคงไม่แสดงท่าทีอ่อนแอ และตอบกลับอย่างแปลกประหลาดกว่า

“ฉันอดหลับอดนอนก็เพื่องาน ไม่เหมือนคุณหรอกที่ทำงานร้ายคนอื่น ที่มาคอยซ้ำเติมคนอื่น มองดูคนอื่นประสบหายนะ”

เย้นหว่านยกยิ้มมุมปากอย่าเย็นชา เอนตัวไปนั่งเล็กน้อยและเอาส้อมจิ้มขนมขึ้นมากิน

รสชาติหวานมาก มันสามารถขจัดความขมขื่นที่แพร่กระจายในปากของเธอ

โห้หลีเฉินเดินไปตรงโต๊ะทำงานของตัวเองด้วยใบหน้าที่เย็นชา เปิดคอมพิวเตอร์ แล้วก็เริ่มจัดการธุระด้วยความรวดเร็ว

เก่อหรูซวนเองก็เอาคอมพ์มาเปิดที่โต๊ะกาแฟ แล้วก็เริ่มทำงาน

บางทีเธอก็ไปปริ้นเอกสาร หรือไม่ก็ถือคอมพ์ไปคุยกับโห้หลีเฉิน

เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เย้นหว่านได้ยินความลับอะไร เวลาที่เธอพูดก็กดเสียงให้เบามาก แล้วก็เข้าใกล้โห้หลีเฉินมากกว่าระยะครึ่งเมตร

ระยะห่างเท่านี้ ทำให้เย้นหว่านรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เธออยากจะเตะเก่อหรูซวนออกไป แต่ว่าเมื่อมองดูใบหน้าที่มืดมนที่เต็มไปด้วยความรำคาญของโห้หลีเฉิน สุดท้ายเธอก็อดไว้

เธอขุดหลุมขนาดใหญ่เช่นนี้ ก็ควรจะให้โอกาสโห้หลีเฉินได้ต่อต้านและช่วยให้รอดพ้น ไม่สามารถบีบเขาแน่นเกินไปได้

ดังนั้น ตอนที่เย้นหว่านไม่ได้พูดอะไรนั้น เธอก็แค่นั่งอยู่บนโซฟาไม่ขยับไปไหนเลย ทั้งกิน ดื่มกาแฟ ออกแบบเสื้อผ้าตัวเล็กๆ กับแท็ปเล็ตของเธอ

ท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างค่อยๆ สว่างขึ้น และไม่ใช่ความมืดมนในยามค่ำคืนอีกต่อไป

เย้นหว่านยื่นมือออกไปปิดปาก เป็นการหาวครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้แล้วของเธอ

เธอเงยหน้าขึ้นดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้าแล้ว

อดหลับอดนอนมาหนึ่งคืน

เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินที่นั่งอยู่หน้าคอมพ์แล้วพูดว่า “คุณโห้ เหนื่อยไหม อยากนอนสักหน่อยไหม? ”

เธอไม่ได้พูดมาหลายชั่วโมงแล้ว ตอนที่พูดขึ้นมาอีกครั้งนั้น เสียงก็แหบแห้งเล็กน้อย

นิ้วบนแป้นพิมพ์ของโห้หลีเฉินหยุดชั่วคราว และทันใดนั้น เขาก็เคาะมันอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

เขาตอบอย่างเฉยเมย “ไม่เหนื่อย”

เมื่อวานนอนหลับจนฟ้ามืดถึงจะตื่น นี่พึ่งผ่านมาคืนเดียวเอง คิดไปคิดมาโห้หลีเฉินน่าจะไม่ค่อยเหนื่อยจริงๆ

แต่ว่าน้อยครั้งมากที่เธอจะอดหลับอดนอนแบบนี้ เธอง่วงจนหาทิศหาทางไม่เจอแล้ว

เย้นหว่านก็เลยยืนขึ้น แล้วก็ไปชงกาแฟให้ตัวเองที่ห้องครัว

ฉันไม่รู้ว่าเธอดื่มไปกี่ครั้งแล้วคืนนี้

ปากของเธอเต็มไปด้วยรสขมของกาแฟ และเธอเกรงว่า เธอจะเบื่อกาแฟหลังจากดื่มไปทั้งหมดในคืนนี้

เย้นหว่านคิดอย่างไม่มีทางเลือก แล้วก็ถือถ้วยกาแฟพร้อมกับยื่นเข้าปากอีกครั้ง

ในตอนนี้เอง จู่ๆ โห้หลีเฉินที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพ์ก็ลุกขึ้น

เก่อหรูซวนที่กำลังจะถือคอมพ์ไปคุยกับเขาก็รู้สึกประหลาดใจ “คุณชาย? ”

โห้หลีเฉินไม่ได้สนใจเธอ เขาก้าวยาว และเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเย้นหว่าน พร้อมกับแย่งแก้วกาแฟในมือของเธอ

“ไม่ต้องดื่มแล้ว ง่วงก็ไปนอน”

เย้นหว่านมองเขาด้วยความประหลาดใจ พร้อมกับคลี่ยิ้มขึ้นมา “นายโกรธฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังมาสนใจว่าฉันจะนอนหรือไม่นอน”

โห้หลีเฉินขมวดคิ้วขึ้นแน่นกว่าเดิม “เย้นหว่าน ฉันไม่อารมณ์มาล้อเล่นกับเธอหรอกนะ”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่อดทนและความโกรธที่ยับยั้งไว้

เห็นได้ชัดว่าแม้แต่การมาพูดกับเธอแบบนี้ เขาก็กำลังพยายามระงับความโกรธของตัวเองอยู่ แต่ว่าระหว่างความโกรธของเขากับสุขภาพของเธอแล้ว เขาเอาสุขภาพของเธอมาก่อน

เย้นหว่านไม่รู้ว่าควรจะซาบซึ้งใจ หรือว่าปวดใจ แต่ว่าเธอยังคงทำแบบเดิม

เธอส่ายหน้า “ฉันไม่นอน ถ้าเกิดว่าฉันนอนนายกับเก่อหรูซวนก็จะอยู่กันสองต่อสองสิ เธอจะทำอะไรกับนายฉันก็จะไม่รู้ ฉันไม่สบายใจหรอก”

โห้หลีเฉิน “เย้นหว่าน ฉันเป็นคนประเภทที่เธอจะทำอะไรกับฉันได้งั้นเหรอ? ”

เย้นหว่าน “แน่นอนว่าไม่ใช่ แต่คนที่ฉันไม่ไว้ใจก็คือเธอ”

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเหตุผลที่ไม่ถูกต้อง แต่ว่าเธอก็พูดออกมาอย่างแน่วแน่ ดื้อดึงมาก แถมยังยื่นมือออกไปแย่งแก้วกาแฟในมือของโห้หลีเฉิน “เอามาให้ฉันดื่ม ฉันฝืนได้”

โห้หลีเฉินรีบชูแก้วกาแฟให้สูงขึ้นในทันที ทำให้เธอแย่งไม่ถึง

ขมับของเขาเต้นแรงมาก เส้นประสาทที่ตึงในสมองแทบจะแตกออกมา

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset