สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 1329 ค่ำคืนที่ไม่มีใครรู้

” เย้นหว่าน! ”

เขาตะโกนออกมาด้วยอารมณ์ที่อยากจะควบคุม แต่เย้นหว่านไม่แม้แต่จะหันกลับมามองก็เดินออกจากห้องไป

พอเดินไปถึงประตูแล้ว ก็พูดจาไม่สบอารมณ์ ” คุณโห้ ฉันจะไปทำกับข้าวให้คุณไม่ได้ไปออกรบสักหน่อย ”

” ผมจะไม่กินอาหารอะไรก็ตามที่คุณทำ ถ้าคุณไม่เปลี่ยนความคิดล่ะก็ ผมจะไม่กินอะไรทั้งนั้น ”

คำพูดแบบนี้ สองวันที่ผ่านมาเย้นหว่านได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน เลยไม่ได้รู้สึกอะไร จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกทันที

โห้หลีเฉินลากโซ่เหล็กจนเป็นเสียง” ตึงตัง ” เขาดูร้อนรนและโกรธเป็นอย่างมาก แต่ถ้าว่ามังกรที่ถูกต้องจำ มันถูกทำให้ติดหล่มถึงกับต้องจนมุม

เย้นหว่านทำกับข้าวไม่ค่อยบ่อย ฝีมือเลยยังไม่ค่อยคล่องแคล่วเท่าไหร่ แต่เพื่อที่จะดูแลและใส่ใจตามรสชาติที่โห้หลีเฉินชอบ ดังนั้นเมนูแต่ละอย่างต้องผัดถึงสองสามครั้ง จนกระทั่งกินและสีดูน่ากินครบครันแล้ว จึงยกออกจากกระทะ

คืนนี้ก็เป็นเหมือนตามเคย ใส่ชุดคุมอาบน้ำห่อชุดนอนเอาไว้ และยืนทรมานอยู่ในครัวเป็นชั่วโมง ในที่สุดกับข้าวสามอย่างน้ำซุปหนึ่งถ้วยก็ถูกประเคนมาถึงห้องนอน

เธอเดินเข้ามาในห้องแบบปกติ ก่อนจะเอาข้าวและอาหารยกมาไว้ข้างเตียง

น้ำเสียงดูเต็มไปด้วยความเปี่ยมสุขพร้อมพูดว่า ” คุณโห้ มากินข้าวเย็นกันเถอะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ฉันหิวจังเลยอ่ะ ”

โห้หลีเฉินเมื่อเห็นเธอเข้ามา ก็มองนิ่งอยู่แบบนั้น

เขาตั้งใจมองไปที่เธอ แล้วตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอพูด คิวทั้งสองก็ขมวดเข้าหากัน

เขาเม้มปากบางนั้น ไม่พูดไม่จา

เย้นหว่านก็ชินแล้ว ได้จัดแจงเอาโต๊ะเล็กมาวางบนเตียง แล้วค่อยนำอาหารและกับข้าวขึ้นมาวาง จากนั้นเธอก็นั่งลงตรงข้ามกับเขา

ไม่รอช้าก็พูดชวนโห้หลีเฉินอีกครั้ง ” คุณโห้ เรื่องที่ฉันตัดสินใจแล้ว จะไม่เปลี่ยนอีกเด็ดขาด คุณก็อย่าพยายามดิ้นรนไปเลย ยอมกินข้าวกับฉันดีกว่า กินเสร็จแล้ว จะได้มีแรงดิ้นต่อไง ”

โห้หลีเฉินกำลังจนถึงขีดสุด

วินาทีนั้น เขาเอื้อมมือขึ้นมาและปัดกับข้าวลงไปที่พื้นจนกระจัดกระจาย

กับข้าวและนำซุป กลิ้งกรุกกรักลงบนพื้นจนเรี่ยราดไปหมด

เย้นหว่านถูกทำให้ตกใจจนต้องกระโดดลงจากเตียง เหยียดกายขึ้นแล้วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ” โห้หลีเฉิน นี่มันอาหารที่ฉันทำเองกับมือถึงสองชั่วโมงเลยนะ ทำไมคุณปัดมันทิ้งแบบนั้นล่ะ?! ”

ความโกรธได้แพร่กระจายไปทั่วร่างของโห้หลีเฉิน ราวกับไฟที่กำลังลามลุกท่วมไปหมด

เขากัดฟันแน่น ” ผมบอกไม่กินก็คือไม่กินไง เย้นหว่านพรุ่งนี้คุณห้ามไปเจอพวกเขาเด็ดขาด! ”

เย้นหว่านก็เริ่มโมโหแล้วเหมือนกัน แต่เธอเป็นคนที่จี้จุดโห้หลีเฉินได้เก่งจริงๆ

” คุณจะคว่ำอาหารก็ย่อมได้ ฉันก็ทำใหม่ได้อีก เพราะยังไงก็มีเวลาอีกทั้งคืน คุณคว่ำมันอีกกี่ครั้ง ฉันก็จะทำมันตามจำนวนนั้น เว้นเสียแต่ว่า…. ”

เย้นหว่านหยุดชะงักไป น้ำเสียงที่พูดขึ้นมาทำให้คนฟังใจอ่อนและสลดใจ ” คุณไม่กลัวว่าฉันจะเหนื่อยตายซะก่อน ”

เมื่อพูดจบ เย้นหว่านก็พุ่งตัวออกจากห้องไป

โห้หลีเฉินนิ่งเกร็งไปหมด นิ้วกำเข้าหากันจนกลายเป็นกำปั้น เมื่อเห็นว่าเย้นหว่านได้ออกไปแล้ว ในสายตาของเขาก็ดูมีอะไรภายในลึกๆ

หลังจากสิ้นเสียงก้าวเดินของเย้นหว่านแล้ว เขากัดฟันกรอดแล้วพูดกับอากาศภายในห้องว่า

” ฉันรู้ว่าแกฟังอยู่ ฉันขอเตือนแกว่า ถ้าพรุ่งนี้แกทำร้ายเย้นหว่านแม้แต่นิดเดียว ฉันจะฆ่าพวกแกทั้งหมดให้ตายเลย ”

” อย่าใช้ลูกมาขู่ฉัน เย้นหว่านคือชีวิตของฉัน ถ้าเธอไปแล้วก็ พวกเราทั้งตระกูลจะตายไปพร้อมกับเธอ! ”

……..

ในค่ำคืนนั้น ที่เงียบสงัด

ภายในห้องที่มีเพียงแสงไฟขมุกขมัวนั้น ชายผู้หนึ่งนั่งลงข้างเตียง เงาสูงใหญ่นั้นมีเสียงที่ดูเย็นชาจนจับใจออกมา

เสียงอันแหบพร่าของเขา ถามขึ้นมานิ่งๆ ” สถานการณ์ฝั่งเย้นหว่านเป็นยังไงบ้าง? ”

” เย้นหว่านทำกับข้าวถึงสามครั้งแล้ว ก็ทนไม่ไหว เลยทะเลาะกับโห้หลีเฉินไปยกใหญ่ ทั้งเขวี้ยงจานเขวี้ยงตะเกียบกับเฟอร์นิเจอร์จนเละตุ้มเป๊ะไปหมด แยกกันไม่ได้ก็ยังทะเลาะกันอยู่จนถึงตอนนี้ ไม่มีใครยอมใคร ”

ชายผู้นั้นพยักหน้า ” แล้วยังไงต่อ? ”

” ถนนละแวกร้านกาแฟยืนนานหรือแม้กระทั่งคนที่อยู่ภายในนั้น ก็ถูกกำจัดออกมาแล้ว ตอนนี้ภายในล้วนเป็นคนมีฝีมือที่ตระกูลเย้นได้จัดเตรียมเอาไว้ คุ้มกันไม่ต่ำกว่าสิบชั้น นี่อาจจะเรียกได้ว่าเขาเห็นแล้วมันเต่าในไห ”

” เหอะ ”

ชายผู้นั้นแค่นหัวเราะ ” เธอคิดว่าป่ายฉีเป็นหมอเทวดาอันดับหนึ่งของโลกหรือไง ช่างไม่รู้อะไรซะเลย ตอนนั้นก็ไม่เห็นตรวจสอบถึงความสามารถของตัวยาที่ทำให้แข็งแกร่งออกมาได้เลย ก็เลยไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แถมยังสงสัยโห้หลีเฉินว่าโดนพวกเราล้างสมองหรือเปล่า ช่างอ่อนต่อโลกและโง่เขลาเสียจริง ”

” ตอนนี้ฉันชักจะอดใจรอได้พบหน้ากันวันพรุ่งนี้ไม่ไหวเสียด้วยสิ ฉันอยากจะเห็นด้วยตาตัวเอง เมื่อเย้นหว่านเห็นหลักฐานตรงหน้านั้นโดนทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี ฉันอยากจะรู้ว่า เธอยังจะอวดดียังไงได้อีก เมื่อถึงตอนนั้น เธอก็จะต้องส่งคืนบริษัท ตี้เหา จำกัดกลับมาให้ฉัน และแม้กระทั่ง…. ”

น้ำเสียงชายที่กำลังพูดอยู่นั้นยิ่งเปล่งวาจามากๆ ก็ยิ่งดูร้ายกาจ ” ฉันก็จะให้เธอ เอาตระกูลเย้นถ่วงน้ำลงมาพร้อมกัน ”

เย้นหว่านคือจุดหมายสุดท้ายและจุดหมายเดียวของพวกเขา

การหลอกใช้โห้หลีเฉิน คืออำนาจและความสามารถที่ยิ่งใหญ่ในการทำธุรกิจของเขา ภายในระยะเวลาสามปีสั้นๆ จากพื้นต่ำกลายเป็นตึกสูง แถมยังสั่งสร้างธุรกิจระหว่างประเทศที่เลื่องชื่อระดับโลก อย่างบริษัท ตี้เหา จำกัด

ถึงแม้ตอนนี้บริษัท ตี้เหา จำกัดจะถูกลากลงมาจากจุดสูงสุด แต่ยังไงอูฐที่ผอมแห้งก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี ถ้าค่อยๆ พัฒนา ก็สามารถกลับมายืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกได้อีกครั้ง

แต่เย้นหว่าน เธอคือตัวBUG และเป็นตัวโกง

ถ้าได้ควบคุมเย้นหว่าน และให้เธอรับใช้เขา เท่ากับว่าทั้งหมดของตระกูลเย้นก็มาอยู่ในมือของเขาด้วย ถึงตอนนั้นตระกูลเย้นกับบริษัท ตี้เหา จำกัดก็มาผนวกรวมกัน กลายเป็นที่สุดของโลกใบนี้

หากถึงเวลานั้น ทั้งโลกก็คงอยู่ในกำมือของเขาเช่นกัน ปณิธานที่ยิ่งใหญ่ที่มีมาหลายปีของเขา ในที่สุดก็สำแดงผล

” ได้พาตัวหานจื่อกลับมาหรือยัง? ” ชายวัยกลางคนเก็บความตื่นเต้นไว้ในใจแล้วถามออกมา

พรุ่งนี้จะทำให้เย้นหว่านเชื่อได้อย่างรวดเร็วหรือจะควบคุมเธอได้ไหม หานจื่อคือคนสำคัญของเรื่องนี้

เพียงนิ้วของเขาขยับเบาๆ แค่นิดเดียว ให้หานจื่อตายต่อหน้าเย้นหว่าน ยังไงเสียเย้นหว่านก็ต้องเชื่อ

” เราได้ส่งคนไปแปดกลุ่มแล้วครับ แต่เย้นหว่านได้คุ้มกันความปลอดภัยของโห้หลีเฉินเอาไว้ และเตรียมการอย่างเพียงพอ จึงทำให้การคุ้มกันมีประสิทธิภาพมาก จนเหมือนกับตึกที่ล้อมด้วยถังเหล็กอย่างไรอย่างนั้น คนของเราทั้งหมดเลยต้องกลับมา ”

” ไอ้พวกไร้ประโยชน์ ”

ชายผู้นั้นเริ่มโกรธ ” ส่งคนไปอีกครั้ง คืนนี้ต้องได้ตัวหานจื่อกลับมา! ”

” ครับ รับทราบ ”

……….

ในค่ำคืนที่มีลมแรง ขนาดนั้นเอง มีรถเอสยูวีธรรมดาคันหนึ่งขับเข้ามาด้วยความเร็วปานลมกรด

เมื่อขับมาถึงเมืองเจียงที่อยู่ติดกับเมืองหนานแล้ว ก็จอดรถ บริเวณถนนเปลี่ยวซึ่งไร้ผู้คน

ประตูรถถูกเปิดออก ก็มีหญิงคนหนึ่งใส่หมวกสีดำ สวมแว่นดำ พร้อมหน้ากากสีดำ ทั้งตัวแต่งกายด้วยความมิดชิดลงมาจากรถ

หลังจากที่เธอลงมาแล้ว รถเอสยูวีคันนั้นก็รีบขับออกไปทันที

หญิงสาวมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครแล้ว ก็รีบสาวเท้าเข้าไปในป่า ที่ไม่เปิดไม่เปิดแม่แต่ไฟ ดวงตาทั้งสองราวกับมองเห็นได้ในที่มืด และเดินเข้าไปในป่าเรื่อยๆ

หลังจากเดินเข้าไปแล้วสิบนาที ก็ไปโผล่อีกที่ที่หนึ่ง

เธอก็ไปหยุดอยู่ตรงต้นไม้เล็กๆ ที่แขวนถูกแขวนไว้ด้วยกระโปรงสีแดง เธอมองไปที่เสื้อผ้าที่ถูกแขวนอยู่ ก็หยิบกระโปรงอีกตัวที่ลักษณะพอๆ กันออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็เอาทั้งสองมาเทียบเข้าด้วยกัน จนเนื้อผ้าแนบสนิท

หญิงสาวจึงรีบหยิบกระโปรงทั้งสองตัวเก็บเอาไว้ แล้วมองไปที่ความมืดรอบทิศ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมากเท่าไหร่:

” ฉันคือเย้นหว่าน ฉันมาแล้ว ”

เมื่อเสียงของเธอดังออกมา บริเวณนั้นมืดสนิท ภายในป่าเงียบและไร้ซึ่งผู้คน จู่ๆ รอบข้างก็มีเสียงซอกแซกขึ้นมา

แล้วก็มีเงามืดขนาดใหญ่หลายอัน กระจายกันออกมาราวกับมันฟุ้งอยู่บนอากาศ ที่ออกมาจากความมืด

หนึ่งในนั้นก็มีใครบางคน เดินออกมาอย่างรวดเร็ว คนคนนั้นสาวเท้าและเดินพุ่งเข้ามาตรงหน้าเย้นหว่าน ไม่พูดไม่จาสักคำ และกอดเธอไว้แน่น

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset