สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 198 เธอมีสิทธิ์​อะไร

บทที่ 198 เธอมีสิทธิ์​อะไร

พอถึงคฤหาสน์​ตระกูล​โห้ ท้องฟ้ากำลังเริ่มมืดลงมา ตรงกับเวลาอาหารเย็น​พอดี

บนโต๊ะอาหารมีอาหารวางเรียงราย​ไว้แล้ว

จูเหลียนอีเห็นเย้นหว่านเดินเข้ามาก็ส่งยิ้ม​ให้อย่างเอ็นดูและเป็นกันเอง ก่อนจะกวักมือเรียก แล้วจูงมือเย้นหว่านมานั่งลง​ตรงเก้าอี้ แล้ว​ยังจัดให้เย้นหว่านนั่งอยู่ข้างๆท่านด้วย

ส่วนโห้หลี​เฉิน​ก็นั่งอีกข้าง​ของ​เย้นหว่าน

นี่เป็นงานเลี้ยง​ครอบครัว ไม่มีคนนอก มีแค่คุณ​ป้าใหญ่อย่างเฝิงเสวียนหลันนั่งอยู่ตรงเก้าอี้อีกข้าง​ของ​จูเหลียนอีง

จูเหลียนอีงมองไปทางเย้นหว่านอย่างเอ็นดู น้ำเสียงที่พูดก็ดูเป็นห่วง​เป็นใย “เสี่ยวหว่าน อาการ​เป็นยังไง​บ้าง​ลูก ยังมี​ตรงไหน​ไม่สบายอีกไหมจ้ะ”

“ไม่มีแล้วค่ะ หนู​ดีขึ้น​มากแล้ว​ ขอบคุณ​ที่เป็นห่วง​นะ​คะ​คุณ​ย่า”

เย้นหว่านยิ้มออกมาอย่างจริงใจ เธอรู้สึก​ได้ถึงความห่วงใย​ที่มาจาก​ผู้ใหญ่

ช่วงนี้ เธอถูก​เย้นซินไล่ออกมาจากบ้าน เธอไม่มีพ่อแม่อีกต่อไป​แล้ว​ จากนี้ไป เธออาจจะ​ไม่สามารถสัมผัส​ความรักความห่วงใย​ของ​พ่อแม่​ได้อีกแล้ว

พอคิดแบบนี้ เย้นหว่านก็รู้สึกเศร้าใจ​ขึ้นมาทันที

จูเหลียนอีงไม่ทันได้เห็นสีหน้า​ที่เปลี่ยน​ไปของเย้นหว่าน เธอดึงมือของเย้นหว่านมาจับไว้ แล้วพูดต่อ “ดีขึ้น​แล้ว​ก็ดีจ้ะ ครั้งที่แล้ว​หนูได้รับบาดเจ็บ​ ทำให้​งานแต่งงาน​ต้องเลื่อน​ออก​ไป​ แต่ย่าให้คนเลือกฤกษ์ดี​มาได้สามวัน ถือโอกาส​ในวันนี้ หนู​เลือกมาหนึ่งวัน จัดงานแต่งงาน​เลยนะจ้ะ”

ฤกษ์​แต่งงาน

เย้นหว่านนิ่งอึ้ง​ไปทันที ก่อนจะมองไปทางโห้หลี​เฉิน

เขาพาเธอกลับมากินข้าว​กับ​คุณ​ย่า แต่ไม่ได้บอกว่าจะเป็นงานเลี้ยง​แบบนี้นะ

พอสบตา​เข้ากับสายตา​ของ​เย้นหว่าน โห้หลี​เฉิน​ก็​เม้มปาก​ สีหน้า​นิ่งเฉย​ ไม่มีความคิด​เห็นใดๆ

เหมือนกับว่า เขารู้อยู่​ก่อนแล้ว

เย้นหว่านเบะปาก ผู้ชาย​คน​นี้​จงใจจริงๆด้วย

ตอนนี้ทุกคนมากันพร้อมหน้าแล้ว ในเมื่อ​คุณนายใหญ่ตระกูลโห้เอ่ยปาก​พูดเร่งเร้า​แล้ว​ เธอจะพูดอะไรได้

แต่ว่า​จะให้​พยักหน้า​รับ​ เธอก็ทำไม่ได้นี่สิ

เย้นหว่านสับสน​ไปหมด และเริ่มทำตัวไม่ถูก

จูเหลียนอีงรีบกวักมือเรียกให้พ่อบ้าน​หยิบกระดาษ​สีแดงออกมาสามใบ บนกระดาษ​เขียนฤกษ์​แต่งงานทั้งสามวันไว้

คุณนายใหญ่ตระกูลโห้วางไว้ตรงหน้าเย้นหว่าน แล้วถามเธอ “เสี่ยวหว่าน หนูชอบวันไหนลูก”

เย้นหว่านมองวันที่​บนกระดาษ​ทั้งสามแผ่น ในใจ​รู้สึก​ลำบากใจมาก เธอสามารถบอกว่าไม่​ชอบ​สักวันจะได้ไหม

วันที่​เหล่านี้ เร็วสุดคือครึ่งเดือนหลังจากนี้ ช้าสุดก็ไม่เกินสามเดือน แสดงให้เห็น​ว่า​คุณนายใหญ่ตระกูลโห้

ร้อนใจ​กับงานแต่งงานในครั้งนี้มากแค่ไหน

พอสบตาเข้ากับสายตา​รอคอย​ของ​คุณนายใหญ่ตระกูลโห้ เย้นหว่านก็ไม่รู้​ว่า​จะ​อธิบาย​ความรู้สึก​ตัวเองออกมายังไง​ เธอรู้สึก​ผิดมาก

เธอยังไม่อยากแต่งงาน แต่ก็ทนเห็นผู้ใหญ่​ที่​เคารพผิดหวัง​ไม่ได้

เธอสับสน​มาก ข้างล่างโต๊ะ​อาหาร เธอดึงชายเสื้อ​ของ​โห้หลี​เฉิน​มาจับไว้แน่น

ก่อนจะหันไปส่งสายตา​ขอความช่วยเหลือ​จากเขา ก่อนจะ​พูด​เสียงต่ำ “คุณ​โห้คะ คุณ​พูดอะไรหน่อยสิคะ”

หาเหตุผลอะไรก็ได้มาเลื่อนเวลา​เรื่อง​นี้ออกไป

โห้หลี​เฉิน​เม้มปาก ก่อนจะมองหน้าเย้นหว่านนิ่ง

ก่อนจะเอ่ยปากพูด “ฤกษ์​ทั้งสามวันดีทั้งหมด​ครับ ถ้าให้ผมเลือก งั้นก็เลือกครึ่งเดือนหลังจาก​ก็ได้ครับ”

เย้นหว่านบิดกางเกงของโห้หลี​เฉิน​แน่น ผู้ชาย​คน​นี้​พูดอะไรของเขากันแน่เนี่ย

เธอหมายความ​ว่า​ให้เขาหาเหตุ​ผล​เลื่อนเวลาไปนะ

จูเหลียนอีงได้ยิน​แบบนี้ จึงพยักหน้า​อย่างพึงพอใจ​ “ฤกษ์​อีกครึ่งเดือน​หลังจาก​นี้เป็นฤกษ์​ที่ดีที่สุด อีกทั้งงานแต่งงานก็เตรียมพร้อม​ไว้​แล้ว​ สามารถจัดงานวันนั้น​ได้เลย งั้นก็ทำการกำหนดวันที่…”

“เดี๋ยว​ก่อนค่ะ”

พอเห็นว่าคุณนายใหญ่ตระกูลโห้กำลังตัดสิน​ เย้นหว่านจึงรีบพูดขึ้นมา

จูเหลียนอีงมองไปทางเย้นหว่านด้วยสีหน้า​สงสัย “เสี่ยวหว่าน มีอะไรจ้ะ”

“เอ่อ… คือว่า…”เย้นหว่านร้อนใจ​เหมือนมดที่เหยียบอยู่บนกะทะร้อน แล้วเริ่มพูดอ้ำอึ้ง

ฤกษ์​แต่งงานจะกำหนดไว้ครึ่งเดือน​หลังจาก​นี้ไม่ได้ ระหว่าง​เธอกับโห้หลี​เฉิน​ ตอนแรกก็แค่ทำสัญญา​เป็นคู่หมั้น​กัน แล้ว​งานแต่งงาน​นี่มันอะไรกัน

เธอร้อนใจจนแทบจะบ้า ก่อนจะรีบพูดอย่างมีเหตุผล​ “งานแต่งงาน​เป็นเรื่องใหญ่​ หนูตัดสินใจ​คนเดียวไม่ได้ ต้องปรึกษา​กับ​คุณ​พ่อ​คุณแม่​ด้วยค่ะ”

“มันก็ใช่ งั้นวันมะรืน หนูโทรนัดพ่อแม่ของหนูออกมากินข้าว พวกเราจะได้คุยกันเรื่องงานแต่งงาน​กัน” จูเหลียนอีงพูดออกมาอย่างง่ายดาย​

ถ้า​เย้นหว่านรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ตอนนี้​เลือกหรือว่าวันมะรืนเลือก ก็ไม่มีความแตกต่าง​อะไรกัน

ที่สำคัญ​ ตอนนี้​ พ่อแม่​ตระกูล​เย้น อาจจะ​ไม่ยอมรับ​เธอเป็นลูกแล้วก็ได้

เย้นหว่านลังเล​ใจ ก่อนจะ​พูด​ “วันมะรืน​ไม่ได้ค่ะ ตอนนี้​พ่อแม่​กับหนู…”

“งั้นก็นัดกันวันมะรืน​ครับ เดี๋ยว​ผม​จะ​เชิญ​คุณ​ลุง​กับคุณ​ป้าเอง” โห้หลี​เฉิน​พูดขัดเย้นหว่าน

เย้นหว่านหันหน้า​ไป​ทาง​โห้หลี​เฉิน​ แล้วย่นคิ้วขึ้น​เล็กน้อย​ “คุณ​ก็​รู้​ว่า​ความสัมพันธ์​ของ​ฉันกับพ่อแม่ไม่ค่อยดี”

“ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ยกให้เป็นหน้าที่ของผม”

โห้หลี​เฉิน​พูด​เสียงทุ้ม ให้ความรู้สึก​ปลอดภัย​กับคนฟัง

เย้นหว่านใจสั่น และ​กระตุก​เล็กน้อย​ แค่คำพูด​นี้ของเขา เธอก็มีความหวังขึ้นมา ว่าเขาจะสามารถจัดการ​เรื่อง​ความสัมพันธ์​ของ​เธอกับพ่อแม่ได้

เขาจะจัดการยังไง​กัน​นะ

ถึงแม้​ตอนนี้​เธอ​จะ​ยังไม่รู้​ ว่าตัวเองถูก​ไล่ออกมา ถูก​ทอดทิ้ง แล้ว​จะกลับมาคุย​กัน​พ่อแม่​เหมือนเดิมได้ยังไง​

แต่​ตอนนี้​เธอยังคงมีความหวัง​ หวังว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้

เรื่อง​ที่โดนพ่อแม่ไล่ออก​จาก​บ้าน​ เย้นหว่านยังไม่รู้​เลย​ว่า​วันมะรืน​จะทำยังไง​

รอจนเธอได้สติกลับมา มันก็สายไปแล้ว​

คุณนายใหญ่ตระกูลโห้สุขภาพ​ไม่ดี ท่านจึงขึ้นไปพักผ่อน​ข้างบนแล้ว

ท่านมีเรื่อง​จะ​คุย​กับ​โห้หลี​เฉิน​จึงเรียกโห้หลี​เฉิน​ตามท่านขึ้นไปด้วย ทิ้งเย้นหว่านไว้ข้างล่างรอเขา

ตอนที่​กินข้าว​ เฝิงเสวียนหลันไม่ได้พูดอะไรเลย

ตอนนี้ เธอเดินเจ้ามาหาเย้นหว่าน แล้วนั่งลงบนโซฟาข้างๆ

เย้นหว่านไม่ค่อย​รู้จัก​เธอสักเท่าไหร่​ แต่ก็นังเอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท “สวัสดี​ค่ะ​คุณ​ป้า”

เฝิงเสวียนหลันนั่ง​อยู่​บนโซฟาอย่างสง่างาม เธอหันหน้า​ไป​มองเย้นหว่าน แล้วพูดถึงจุดประสงค์​ที่เดินมาคุยตรงๆ “เย้นหว่าน ฉันได้ยิน​มา​ว่า​ช่วงนี้เธอกับครอบครัว​ทะเลาะ​กัน​ จนถูกไล่ออกมาจากบ้านอย่างนั้น​เหรอ​”

คำพูด​ที่​ไม่ปกปิด เหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจ​ของ​เย้นหว่านอย่างแรง ทำให้​บาดแผล​ในใจของเธอถูกแกะออกมาอีกครั้ง

เย้นหว่านย่นคิ้ว สีหน้า​ของ​เธอ​ลำบากใจมาก “มีเรื่อง​ทะเลาะ​กัน​นิดหน่อย​ค่ะ”

“น่าสงสารจริงๆ​ เดิมทีก็เป็นเด็กกำพร้าอยู่แล้ว​ ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่​แล้วยังไม่มีบ้านให้กลับอีก”เฝิงเสวียนหลันถอนหายใจ​ออกมา แต่น้ำเสียงของเธอไม่มีความเห็น​ใจอยู่เลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังดูเหมือน​จะ​เยาะเย้ย​เล็กน้อย​ด้วย

เย้นหว่านขมวดคิ้ว​อย่างไม่​ชอบ​ใจ

ดูท่าคุณ​ป้าคนนี้จะไม่ได้มาดีซะแล้ว​ คืนนี้​ถึงกับพูดเยาะเย้ย​เธอโดยไม่ปกปิดเลยด้วย

เธอคิดจะทำอะไรกันแน่

เฝิงเสวียนหลันพูดขึ้นมาอีก “ถึงแม้จะเป็น​วันมะรืน​ คู่สามีตระกูล​เย้นก็คงเชิญมากำหนดงานแต่งงานให้เธอไม่ได้หรอก แต่ว่า เธอถูก​พวกเขาไล่ออกมาจากบ้านแล้ว ตอนที่​แต่งงาน เย้นซินคงไม่ยอมให้เธอเดินออกมาจากบ้านของเธอแน่ๆ เธอเคยคิดไหม ว่าวันรับตัวเจ้าสาว เธอจะให้​ไปรับเธอที่ไหน”

วันรับตัวเจ้าสาว จะต้อง​รับจากบ้านของเจ้าสาว และ​ต้องมีเพื่อนสนิท​มาร่วมงานอย่างสนุก​สนาน แต่หลังจาก​ที่​เย้นหว่านถูกไล่ออกมา เธอก็ไม่มีบ้านแล้ว

ถึงแม้​ว่าถึงเวลานั้นจะไปรับที่โรงแรม​ หรือว่าบ้านพัก​ของ​โห้หลี​เฉิน​ได้ก็ตาม…

“​ตระกูล​โห้ของพวกเรามีหน้ามีตา​ทางสังคม และ​มีสายตา​หลายคู่มองอยู่ เธอแต่งเข้ามา ก็คือคุณ​นายน้อยตระกูล​โห้ แต่​เธอไม่มีแม้แต่​บ้านที่จะกลับ สถานที่รับตัวเจ้าสาวก็ไม่มี เธอจะให้​ตระกูล​โห้ของเราเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

เฝิงเสวียนหลันพูดเสียงแหลม และ​เยาะเย้ย​อย่างปิดไม่อยู่

“เย้นหว่าน เดิมทีตระกูล​เย้นก็เป็นตระกูล​ธรรมดา เห็นแก่หน้าของคุณนายใหญ่ตระกูล​โห้ ถึงได้ยอมให้เธอแต่งงานเข้ามา แต่ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่​ตระกูล​เย้น แล้วเธอมีสิทธิ์​อะไร​จะแต่งเข้ามาในตระกูล​โห้”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset