สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 2 ไม่น่าเชื่อว่าจะจัดงานหมั้นวันเดียวกับแฟนเก่า

บทที2 ไม่น่าเชื่อว่าจะจัดงานหมั้นวันเดียวกับแฟนเก่า

วันที่สอง งานหมั้นจัดขึ้นที่โรงแรมหรูที่สุดในเฉิงหนานโรงแรมอ้าวเฟย

และยิ่งไปกว่านั้นสถานที่จัดงานจัดอยู่บนสวนลอยฟ้าของชั้นบนสุด ว่ากันว่าในเฉิงหนาน

คนที่มีสิทธิ์จัดงานบนสวนลอยฟ้ามีไม่เกินสิบคน เย้นหว่านใส่ชุดเดรสสีขาวยาวประดับเพชร

ใบหน้าแต่งได้สวยสง่ามาก เหมือนภูตน้อยที่หลงมายังโลกยังไงอย่างงั้น

เธอเดินเข้าไปที่ห้องโถงของโรงแรม กำลังมุ่งหน้าเดินไปทางลิฟท์

แต่กลับเห็นภาพงานแต่งงานที่อยู่ข้างๆโดยไม่ได้ตั้งใจ บนนั้นเป็นรูปแต่งงานของคู่บ่าวสาว

และเป็นคนที่เย้นหว่านคุ้นเคยที่สุดในชีวิตนี้ คนนึงเป็นแฟนเก่าเธอ อีกคนคือคู่กัดที่อยู่มหาลัยมาสี่ปี

คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะแต่งงานวันนี้ แถมยังแต่งในโรงแรมเดียวกันกับเธอ……….

สีหน้าเย้นหว่านซีดเล็กน้อย ในใจเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับไว้ มีความรู้สึกถูกเหน็บแนมอย่างบอกไม่ถูก

“เย้นหว่าน แกมาทำอะไรที่นี่?!” จู่ๆเสียงต่อว่าของผู้หญิงดังขึ้นมา เห็นแต่โอวน่อหย่า

ที่สวมใส่ชุดงานแต่งสีขาวมาด้วยความโมโห ข้างหลังเธอมีเจ้าบ่าวสวมใส่ชุดสูทเข้ารูปกำลังเดินตามมา

คนๆนั้นก็คือซือหนานนั่นเอง เขามองเย้นหว่านด้วยสายตาซับซ้อน ริมฝีปากบางเม้มไว้อย่างแน่น

เย้นหว่านมองดูทั้งสอง ภาพที่เคยถูกทำร้ายจากการหักหลังโผล่ขึ้นมาอีก ทำให้หัวใจเธอเย็นวูบ

โอวน่อหย่าเดินเข้ามามองดูชุดของ เย้นหว่านใกล้ๆแล้วสีหน้ายิ่งแย่เข้าไปใหญ่

“แกยังไม่ตายใจจากซือหนานอีกหรอ? แกถูกทิ้งไปแล้วยังมีหน้ามาที่นี่อีกหรอ?”

เสียงของเธอไม่เบาแถมยังเต็มไปการเหยียดหยาม ทันใดนั้นก็ดึงดูดผู้คนใช้สายตามุงดู

ดวงตาหลายคู่ที่มีความคิดเห็นมองมาที่ เย้นหว่าน สำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า

แม้กระทั่งบางคนยังซุบซิบเสียงเบาอยู่ เย้นหว่านมองดูทั้งสองอย่างเกลียดชัง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฉันไม่มีสนใจงานแต่งพวกคุณหรอก อย่าเอาดีใส่ตัวหน่อยเลย”

“งั้นแกใส่แบบนี้มาทำไม? ชุดเดรสยาวสีขาวแบบนี้ก็มีแต่งานแต่งกับงานหมั้นเท่านั้นถึงจะใส่”

น้ำเสียงของโอวน่อหย่าดูถูกที่สุดอย่างหาที่สุดมิได้ เหมือนกำลังดูตัวตลกคนนึงที่ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว

“ถ้าแกไม่ใช่หน้าด้านมาแย่งเจ้าบ่าว หรือแกหมั้นกับคุณโห้หรอกหรือ?” วันนี้ที่นี่ก็มีแค่สองงาน

งานหมั้นของตระกูลโห้กับงานแต่งของตระกูลซือ แต่เท่าที่โอวน่อหย่าดู

อย่าบอกว่า เย้นหว่านจะหมั้นกับโห้หลีเฉินเลย แม้แต่งานหมั้นของตระกูลโห้เธอก็ยังไม่มีสิทธิ์มาร่วมงานเลย

เพื่อนเจ้าสาวของโอวน่อหย่าก็หัวเราะออกมาอย่างดูถูก “คุณโห้เป็นใคร แล้วนังนี่คือใคร

หล่อนจะมีสิทธิ์เป็นว่าที่ภรรยาของคุณโห้ได้ยังไง? ” มองดูทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยคอยเหยียดหยามเธอ

เย้นหว่านแข็งตึงไปทั้งตัว ในใจมีไฟลุกท่วมขึ้นมา เธออยากบอกมากว่าเธอนั่นแหล่ะคือเจ้าสาวของโห้หลีเฉิน

แต่สถานการณ์แบบนี้เธอพูดไม่ออกด้วยซ้ำไป……… ไม่มีใครเชื่อคำพูดเธอหรอก

“ดูสิ พูดอะไรไม่ออกแล้วใช่ไหมล่ะ? เย้นหว่าน ฉันว่าแล้วเชียวว่าเธอต้องมายั่วซือหนานแน่ๆ! ”

โอวน่อหย่าชี้หน้าเย้นหว่านไว้อย่างโกรธ “ฉันกับซือหนานก็แต่งงานกันแล้ว เธอยังจะมายุ่งกับซือหนานอีก เธอนี่มีศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้หญิงบ้างไหมเนี่ย?” คนที่อยู่ข้างๆก็เริ่มจู้จี้ เย้นหว่าน

ราวกับว่าเธอเป็นเมียน้อยที่ไร้ยางอาย ซือหนานยืนตัวตรงไว้แล้วขมวดคิ้ว สายตาที่ดูเย้นหว่าน

ก็เหมือนจะแฝงด้วยคำถาม เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ หยุดได้แล้ว คุณกลับไปเถอะ

ผมกับคุณไม่มีทางเป็นไปได้ตั้งนานแล้ว ” น้ำเสียงฟังดูเหมือนปลอบใจและเกลี้ยกล่อม

แต่กลับเหยียบศักดิ์ศรีของเย้นหว่านให้จมดิน เย้นหว่านแข็งทื่อไปทั้งตัวและรู้สึกอัดอั้นตันใจมาก

คนพวกนี้มีสิทธิ์อะไรนึกว่าตัวเองถูกต้องแล้วมาเหยียดหยามเธอ?

“คุณซือนี่ใหญ่โตจริงๆที่กล้าบอกให้ว่าที่ภรรยาผมหยุดได้แล้ว”

เสียงเย็นชาของผู้ชายก้องมาจากหน้าประตู คำพูดของเขาแฝงด้วยความดูถูกและประชดประชัน

ซือหนานทึ่งเล็กน้อย เขามองไปตามเสียง ทันใดนั้นเขายืนแข็งทื่ออยู่กับที่ สีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ

ในเวลาเดียวกันโอวน่อหย่าก็มองไป พอเห็นชัดว่าผู้ชายคนนั้นคือใครแล้วสีหน้าซีดขึ้นมาทันที

เหมือนถูกฟ้าผ่าเลย คือโห้หลีเฉิน!

เขา ทำไมเขาถึงบอกว่า เย้นหว่านเป็นว่าที่เจ้าสาวเขา……..นี่ไม่มีทางเป็นเรื่องจริงมั้ง?

โห้หลีเฉินเดินมาอย่างสง่าผ่าเผย ก้าวเท้ามาอย่างใจเย็นและดูสูงส่ง

ชุดสูทสีดำชูให้หุ่นของเขายิ่งเพอร์เฟคจนไร้ที่ติ สายตาของเขาส่องมาที่บนตัวของ เย้นหว่าน

เขากวักมือเรียกเธอ “มานี่”

เย้นหว่านมองผู้ชายอย่างอึ้ง หัวใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ เธอคิดไม่ถึงว่าตอนที่เธอตกที่นั่งลำบากไม่รู้จะรับมือยังไง

จะเป็นเขาที่มาช่วยเคลียร์ปัญหา พอดึงสติกลับมาได้ เธอยืดอกอย่างมั่นใจยิ้มและเดินไปหาเขา

มองดูเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินยืนอยู่ด้วยกัน ซือหนานรู้สึกถึงใบหน้ากำลังแผดเผาอยู่

นี่ยิ่งเป็นการตอกย้ำเขาว่าการกระทำของเมื่อกี๊ช่างตลกเสียจริงๆ แต่เขาเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยม

ไม่นานก็ปกปิดอารมณ์ตัวเองไว้ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจผิดครับ เป็นการเข้าใจผิดเฉยๆ

ผมกับคุณเย้นเป็นเพื่อนกัน เมื่อกี๊แค่ล้อเล่นกับเธอครับ”

ล้อเล่น?

เย้นหว่านมองซือหนานอย่างเย็นชาและเกลียดชัง

ทำไมเมื่อก่อนไม่สังเกตุเห็นว่าเขาเป็นคนไร้ยางอายขนาดนี้ โห้หลีเฉินเดินมาข้างหน้าก้าวนึง

รูปร่างที่สูงใหญ่บังอยู่ตรงหน้าเย้นหว่านอย่างไม่เอียงไม่เฉียง และปกป้องเธอไว้ในวงล้อมของตัวเอง

เขาเม้มปากไว้ สายตาที่จ้องซือหนานเย็นชาเป็นพิเศษ คำที่พูดก็ไร้ซึ่งความปราณี

“คุณมีสิทธิ์อะไรมาล้อเล่นของเธอ?” สีหน้าของซือหนานเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด

ตกที่นั่งลำบากจนอยากจะเอาหัวมุดเข้าไปใต้ดิน นี่เป็นการเหยียดหยามอย่างซึ่งๆหน้าเลยชัดๆ

แต่เขาอ้าปากแล้วก็กลับไม่กล้าพูดหักล้างให้ตัวเอง ถึงแม้ตระกูลซือเองก็เป็นผู้มีอำนาจ

แต่อยู่ตรงหน้าของโห้หลีเฉินก็เป็นแค่มดตัวนึงที่บีบให้ตายได้ทุกเมื่อ

ซือหนานแอบกำหมัดแน่นไว้แน่นและก้มศีรษะเล็กน้อยกล่าวขอโทษ

“ขอโทษครับ คุณโห้ ผมรับประกันว่าต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วครับ”

โห้หลีเฉินหัวเราะเยาะอย่างดูถูก และไม่สนใจซือหนานอีก เขาหันไปมอง เย้นหว่านและงอแขนเล็กน้อย

เย้นหว่านเหม่อลอยเล็กน้อย หัวใจเธอเต้นตุ๊มต่อม เมื่อวานโห้หลีเฉิน

ทำตัวเย็นชาอย่างไม่แคร์อะไรเลยสักนิดเชียวนะ ทำไมวันนี้ก็ดีกับเธอขนาดนี้แล้วล่ะ?

ปกป้องเธออย่างเผด็จการ แถมยังช่วยเธอระบายอารมณ์ เหมือนว่าที่เจ้าบ่าวที่รักใคร่กันเลย

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset