สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 256 ความห่างไกลที่ใกล้ที่สุด

บทที่256 ความห่างไกลที่ใกล้ที่สุด

เธอไม่ทันได้คิดอะไรก็พูดขึ้น “คุณโห้ งั้นฉันขอตัวไปห้องพักก่อนนะ”

ห้องพักนั้นเป็นผู้จัดงานเป็นคนจัดเตรียมให้ เย้นหว่านก็ยังไม่รู้ว่าห้องของเธอนั้นอยู่ที่ไหน ดังนั้นจึงต้องไปถามพนักงานที่ใกล้ที่สุด

เมื่อพนักงานคนนั้นเห็นนามบัตรของเย้นหว่าน ก็แปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เปี่ยมเต็มไปด้วยความชื่นชอบ

“คุณเย้น ห้องพักของคุณกับคุณโห้อยู่ที่ชั้นบนสุดห้องดีลักซ์สูทA ต้องการให้ดิฉันนำไปไหมคะ? ”

เย้นหว่านแปลกใจเล็กน้อย นี่คนนั้นไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่ไหมนะ

ห้องเธอกับโห้หลีเฉินอย่างนั้นหรอ?

ห้องพักไม่ได้อยู่กันคนละห้องหรอกหรอ

เย้นหว่านสงสัย กำลังจะถามพนักงานคนนั้นว่ามันยังไง โห้หลีเฉินก็เดินมาถึงเธอพอดี

เขาเอื้อมมือขึ้นมาแตะไหล่พนักงานคนนั้น ก่อนจะออกคำสั่งกับเธอ “เธอไปทำงานเธอเถอะ”

“ได้ค่ะ คุณโห้ หากต้องการอะไรบอกได้เลยนะคะ”

พนักงานเดินออกไปด้วยความเคารพ

ทันทีที่คนคนนั้นเดินจากไป เย้นหว่านก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่ชายหนุ่มที่หันข้างอยู่ด้วยความสงสัย

ใบหน้าของเขาดูไม่แยแส และเดินมาทางเธอ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เรื่องที่พวกเขาอยู่ห้องเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว

โห้หลีเฉินเม้มปาก ก่อนจะเริ่มอธิบายให้เย้นหว่านฟัง

“เธอเป็นคนที่ฉันพามา เป็นคู่ควงของฉัน อีกอย่างผู้จัดงานเองก็รู้ว่าพวกเราเป็นคู่หมั้นกัน ดังนั้นจึงจัดให้อยู่ห้องเดียวกัน

โห้หลีเฉินได้ประกาศต่อหน้าสาธารณชนไปแล้วว่าเย้นหว่านเป็นคู่ควงของเขาและที่งานเลี้ยงนี่ส่วนใหญ่ก็รู้กันหมดแล้ว

การที่ผู้จัดงานจัดห้องให้แบบนี้ก็ดูจะเหมาะสมดีแล้ว

เพียงแต่ว่า………

เย้นหว่านมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ด้วยความหดหู่ รู้สึกไม่เป็นตัวเอง ด้วยเธอไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาอยู่ห้องเดียวกับเขา

ในขณะที่เย้นหว่านกำลังหดหู่ใจอยู่นั้น โห้หลีเฉินก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สบายๆ

“ไว้เข้าพักเพียงแค่ช่วงบ่ายเท่านั้นแหละ อีกอย่างห้องก็กว้าง อยู่สองคนไม่แออัดหรอก”

หยุดไปพักหนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกด้วยเสียงเข้ม “ถ้าเธอรู้สึกไม่สบายใจ ฉันไม่เข้าไปพักก็ได้นะ”

“งั้นคุณจะไปไหนหล่ะ? ” เย้นหว่านถามขึ้นทันที

โห้หลินเฉินยักไหล่ “ที่นี่ออกจะกว้าง ออกไปเดินเล่นรอบๆ เดี๋ยวก็คงจะบ่ายเองแหละ”

ไปเดินเล่นอะไร เดินจนถึงบ่าย?

เย้นหว่านรู้สึกผิดขึ้นมา การที่เธอนอนเล่นอยู่ที่ห้องพักคนเดียวแล้วให้โห้หลีเฉินไปเดินเล่นรอบห้องโถงนั่นนั้น มันก็ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อย

เมื่อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เย้นหว่านก็อดไม่ได้ที่จะพูด “งั้นก็อยู่ที่ห้องพักด้วยกันนั่นแหละ มันเป็นห้องชุดนี่ ยังไงก็มีโซฟา”

ก็แค่พักช่วงบ่ายเฉยๆ นอนที่โซฟาเดี๋ยวเดียวก็ได้

อีกอย่างก่อนหน้านี้เธอกับโห้หลีเฉินก็เคยนอนบนเตียงเดียวกันมาก่อน ในหัวเธอก็เลยคิดไปไกลโดยอัตโนมัติ ตอนนี้ถึงถึงแม้จะไม่อยากจะอยู่ใกล้นัก แต่ถ้าแค่อยู่ห้องเดียวกันก็เป็นอะไรที่พอจะรับได้

โห้หลีเฉินพยักหน้า ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกใดๆ

แต่ภายใต้ดวงตาที่ลึกลับนั้น กลับมีประกายรอยยิ้มขึ้นมา

ด้วยเพราะเหตุผลของนิทรรศการครั้งนี้ ห้องพักในโรงแรมทั้งหมดถูกจองจนหมดแล้ว โดยแขกแต่ละคนก็ต่างได้ห้องพักที่เตรียมไว้ให้

ห้องพักในโรงแรมนั้นมันก็มีทั้งดีและไม่ดี มีระดับต่างกัน อีกทั้งเย้นหว่านก็แทบจะมั่นใจได้เลยว่ามันเป็นเพราะโห้หลีเฉิน เธอจึงสามารถที่จะได้ห้องสูทหรูหราแบบนี้ได้

ด้านในตกแต่งอย่างสวยงาม อุปกรณ์ถูกจัดเตรียมอย่างครบครัน คุณภาพระดับที่ดีกว่าโรงแรมทั่วไป

คาดว่าน่าจะจัดเตรียมให้แก่โห้หลีเฉินเป็นพิเศษ

ดูท่า เย้นหว่านดูจะอาศัยบารมีของโห้หลีเฉินล้วนๆ

เธอกวาดตาดูรอบห้องอย่างรวดเร็ว ก็จะเดินตรงไปยังโซฟาที่กว้างใหญ่และแสนนุ่ม

“งั้นฉันนอนตรงนี้สักพักก็ได้”

โห้หลีเฉินมองตามไป การที่เย้นหว่านทำแบบนี้ มันเห็นได้ชัดว่าเป็นการรักษาระยะห่างจากเขา โดยไม่อยากจะนอนเตียงเดียวกัน

เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้เหมือนจะเป็นไปด้วยความหวาดระแวง และโห้หลีเฉินก็ไม่อารมณ์ที่จะไปบังคับฝืนใจเธอ

เขาพยักหน้าตอบรับ “ได้สิ”

เมื่อเห็นโห้หลีเฉินแสดงความเป็นสุภาพบุรุษอีกทั้งยังพูดจาดี เย้นหว่านก็ออกจากแปลกใจหน่อยๆ

ก่อนหน้านี้ในทุกครั้งที่มีโอกาสได้อยู่ห้องเดียวกัน โห้หลีเฉินก็มักจะทำทุกวิถีทางที่จะลากให้เธอมานอนกับเขาบนเตียงให้ได้ ถึงแม้ว่าไม่ได้จะทำอะไรเธอจริงๆ แต่ก็จะเอาตัวเธอมากอด หรือหาเศษหารือกับเธอซึ่งมันก็กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

วันนี้เขากลับมาพูดแบบนี้ นั่นทำให้เย้นหว่านตกใจอีกทั้งยังคลายความห่อเหี่ยวใจลงหน่อยๆ

และก็รู้สึกไม่ค่อยจะอึดอัดใจที่จะอยู่กับโห้หลีเฉิน

เย้นหว่านวางกระเป๋าของเธอลง ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟา แต่ด้วยเพราะเธอใส่ชุดเดรส มันเหมาะแก่การที่จะนั่งยังเรียบร้อยเท่านั้น การที่จะล้มตัวนอนลงนั้น ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย

เธอมองไปที่โซฟากว้างใหญ่แสนนุ่มด้วยความรู้สึกปลงๆ ดูท่าทางว่าการพักผ่อนในตอนกลางวันนี้ เธอจะทำได้เพียงนั่งพักเท่านั้น

จะให้นอนก็คงไม่ได้

โห้หลีเฉินมองไปที่ใบหน้าเล็กๆ ของเย้นหว่าน เม้มปากเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอพลางยื่นชุดนอนสีขาวให้

“เปลี่ยนก่อนนอนสิ”

เย้นหว่านมองชุดนอนชุดนั้นด้วยความแปลกใจขั้นสุด ดูจากขนาดแล้ว มันเป็นของผู้หญิง

แล้วโห้หลีเฉินไปเอาชุดนี่มาจากไหนหล่ะ?

ดูเหมือนว่าจะรู้ถึงความแคลงใจของเย้นหว่าน โห้หลีเฉินจึงเอ่ยอธิบายขึ้นด้วยตัวเอง:

“นี่เป็นชุดของโรงแรมหน่ะ มันอยู่ในตู้เสื้อผ้า เป็นชุดใหม่ คุณภาพพอใส่ได้ ใส่เล่นเฉยๆ ได้”

เย้นหว่านอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ไม่แปลกใจเลยก็นี่มันเป็นห้องที่จัดเตรียมไว้ให้แก่ประธานาธิบดี แม้แต่ชุดนอนก็ยังมีเตรียมไว้ให้

อีกอย่างด้วยคุณภาพแบบนี้ มันดีกว่าที่เธอสวมปกติทั่วไปด้วยซ้ำ

ด้วยเพราะมันสามารถเปลี่ยนแล้วให้เธอนอนได้สักครู่ เย้นหว่านจึงไม่หยิ่งผยอง รับเอาชุดมาจากมือของโห้หลีเฉินก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

ไม่รู้ว่ามันเป็นความบังเอิญหรือว่าอะไร ชุดนอนนั้นมันพอดิบพอดีตัวเธอ ทั้งยังใส่ได้อย่างสบายทีเดียว

เมื่อเย้นหว่านเปลี่ยนเสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ ก็แปลกใจที่ในห้องมีของมากมาย ทั้งยังมีกลิ่นหอมของอาหารที่ช่วยเรียกความอยากอาหารของเธอด้วยอีก

โห้หลีเฉินกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา เมื่อเห็นว่าบรรยากาศดูเงียบๆ ก็ปิดหนังสือลงด้วยท่าทางที่สง่างาม

จากนั้นก็ยืนขึ้นก่อนจะพูดขึ้นเรียบๆ :

“มาสิ มากินข้าวกัน”

พูดจบ เขาก็เดินสาวเท้ายาวไปทางโต๊ะกินข้าวที่ห้องรับแขก

ในเวลานั้นอาหารอันโอชะก็ได้ถูกเรียงรายอยู่บนโต๊ะแล้ว มองจากไกลๆ ก็ทำให้คนที่เห็นน้ำลายแทบไหล

เย้นหว่านเพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเธอนั้นยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยดังนั้นเธอจึงรู้สึกหิว

เธอใส่สลิปเปอร์เดินเข้าไป “นี่คือ…..”

“อาหารที่โรงแรมส่งมาหน่ะ”

ด้วยรู้ว่าเย้นหว่านกำลังคิดที่จะถามอะไร โห้หลีเฉินจึงชิงอธิบายขึ้นไปก่อน

เขานั่งลงที่ข้างโต๊ะด้วยท่าทีที่สวยงาม ท่าทีสูงส่ง ใบหน้าหล่อเหลา มองแล้วยิ่งทำให้อาหารบนโต๊ะน่ากินขึ้นไปอีก

เย้นหว่านใจเต้นแรงก่อนจะรีบดึงสติกลับคืนและเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ

ในใจก็คิดว่านี่คงจะเป็นที่ผู้จัดงานที่เตรียมมาให้นั่นแหละ

อย่างไรตามหลังจากที่การเดินแคทวอล์คจบลง เธอก็เดินตรงกลับห้องพักเลย แม้แต่เรื่องที่ผู้จัดงานได้จัดเตรียมอาหารไว้ที่ไหนก็ไม่รู้

ตอนนี้คงเห็นอกเห็นใจส่งมาให้ที่ห้อง นี่มันดีเยี่ยมไปเลย

เพียงแต่ว่า เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เย้นหว่านก็รู้สึกสับสนในใจ ดูเหมือนมันก็ผ่านมาสักพักแล้วที่เธอไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันกับโห้หลีเฉิน

ก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องปกติ

มันเป็นความรู้สึกที่กำลังทำสิ่งที่ไม่ค่อยได้ทำแต่ก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่ในที

โห้หลีเฉินเห็นท่าทีเหม่อลอยของเย้นหว่านก็ถึงขึ้นนิ่งๆ “มีอะไรรึเปล่า? ”

“ป่ะ เปล่า”

เย้นหว่านฟื้นคืนสติ รู้สึกวุ่นวายใจกับสิ่งที่นึกถึง นี่เธอกำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย?

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset