สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 472 ตรวจสอบใบหน้า

บทที่472 ตรวจสอบใบหน้า

หยูซือห้านขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโกรธเคือง เพลิงไฟในหน้าอกลุกโหมแต่กลับไม่สามารถพ่นออกมาได้

สถานการณ์ถูกผลักดันมาถึงตรงนี้แล้วแท้ ๆ แต่ไม่คิดเลยว่ากู้ซึงจะสู้กลับด้วยวิธีทำลายตัวเองเช่นนี้

แต่เขาก็ทำมาถึงตอนนี้แล้ว เขาไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปแบบนี้ได้อย่างแน่นอน

วันนี้ เขาจะต้องเปิดโปงโฉมหน้าปลอม ๆ ของกู้ซึง ให้คนทั้งหมดรู้ให้ได้ ว่ากู้ซึงคนนี้ ที่จริงแล้วก็คือโห้หลีเฉิน!

ถึงเวลานั้น ไม่เพียงแค่ตระกูลเย้นจะรังเกียจการหลอกลวงของเขา ตระกูลหยูเอง ก็จะต้องอับอายที่โห้หลีเฉินแอบอ้างตัวตนของบุคคลอื่นด้วย

ที่ยืนของโห้หลีเฉินในตระกูลหยูนั้นเดิมก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นสถานการณ์ในตระกูลหยู ก็มีแต่จะยิ่งย่ำแย่และบีบคั้น

ไม่ว่ายังไงก็ตาม การเดินพลาดก้าวนี้ของโห้หลีเฉิน ก็เป็นโอกาสของหยูซือห้าน

สายตาคมกริบของโห้หลีเฉินพลันหันไปมองทางเย้นหว่าน เอ่ยเสียงดัง

“เสี่ยวหว่าน ฉันอยากจะถามเธอสักคำถาม”

เขากำลังออกปากถาม แต่น้ำเสียงนั้น กลับไม่ยอมเปิดโอกาสให้ปฏิเสธ

เย้นหว่านรู้ดีว่าหยูซือห้านนั้นเป็นพวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เป็นพวกอสรพิษมาตลอด เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดจะคุยกับเขาในเวลานี้ เพราะเบื้องหน้านั้นย่อมมีหลุมพรางอยู่แน่นอน

เย้นหว่านเอ่ยด้วยใบหน้าขรึม “ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงใส่ความว่ากู้ซึงคือโห้หลีเฉิน แต่การทำอย่างนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกแย่มาก คุณชายหยู ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ”

ปฏิเสธโดยไม่ไว้หน้าใด ๆ

หยูซือห้านผงะไปเล็กน้อย แววตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะ

ต่อหน้าเย้นหว่านแล้วเขาไร้ค่าโดยสิ้นเชิง ถูกเธอเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แต่แย่หน่อยที่เขาถูกเหยียบจนชินชาไปแล้ว แม้แต่ความโกรธก็ไม่รุนแรงเท่าครั้งแรกแล้ว

ดังนั้น เขาแทบจะไม่ต้องใช้เวลาปรับอารมณ์เลยแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ

“เสี่ยวหว่าน คำถามที่ฉันจะถาม น่าจะเป็นคำถามที่ทุกคนในตระกูลเย้นอยากรู้นะ ในเมื่อเธอมั่นใจขนาดนี้ว่ากู้ซึงไม่ใช่โห้หลีเฉิน ถ้างั้นในก้นบึ้งหัวใจของเธอ สุดท้ายแล้วกู้ซึงสำคัญที่สุด หรือโห้หลีเฉินสำคัญที่สุดกันแน่?”

สายตาของหยูซือห้านมองเย้นหว่านอย่างเฉียบคม แต่ละคำเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ เหมือนกับการขว้างมีดคมกริบใส่เย้นหว่าน

“ถ้าเธอยังมีโอกาส เธอจะเลือกที่จะอยู่กับโห้หลีเฉินอีกไหม? หรือว่า ที่จริงเธอได้เลือกกู้ซึงไปแล้ว และคิดจะลืมความรู้สึกที่เคยมีต่อโห้หลีเฉินไปอย่างสิ้นเชิงอย่างนั้นเหรอ?”

“ฉัน….”

เย้นหว่านอ้าปากค้าง แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

เธอพบว่า ไม่ว่าเธอจะตอบกลับไปยังไง ทั้งหมดก็ล้วนเป็นกับดัก มันผิดทั้งหมด

หากเธออยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเย้นแบบนี้ เลือกกู้ซึงอย่างตรงไปตรงมา ก็จะหมายถึงการประกาศจะละทิ้งความเป็นไปได้ในความสัมพันธ์กับโห้หลีเฉิน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ พูดออกไปแล้ว ก็จะไม่สามารถเรียกคืนมา

จากนี้ไม่ว่าโห้หลีเฉินจะปรากฏตัวด้วยฐานะไหน เธอก็ไม่สามารถอยู่กับโห้หลีเฉินได้อีก

แต่ถ้าหากตอนนี้เธอบอกว่ายังไม่ลืมโห้หลีเฉิน แต่กลับไม่สามารถอธิบายต่อกู้ซึงที่อยู่ตรงหน้าได้ หัวใจของคนคนหนึ่งมีคนถึงสองคน ด้วยสถานะนี้ของกู้ซึง ก็จะไม่ยุติธรรม

ยังไง เย้นหว่านจะพูดอะไรก็ผิดทั้งนั้น ล้วนตัดเส้นทางที่เธอกับโห้หลีเฉินจะไปต่อทั้งสิ้น

หัวใจเย้นหว่านหนักหน่วงและหดหู่อย่างมาก หยูซือห้านพยายามต้อนให้เธอหมดทางหนีนี่นา!

หยูซือห้านเมื่อเห็นสีหน้าของเย้นหว่านซีดเผือดและสับสน มุมปากก็ยกยิ้มเย้ยอย่างเย็นชา

เขาขึ้นเสียงพูด “เสี่ยวหว่าน เธอลังเล หรือจะบอกว่า ใจของเธอยังไม่ปล่อยวางโห้หลีเฉิน คิดว่าหลังจากนี้หากมีโอกาสก็จะกลับไปกับเขาอย่างนั้นเหรอ?”

เย้นหว่านขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จ้องเขม็งไปที่หยูซือห้านอย่างดุเดือด

เขาถามแบบนี้ เธอก็ไม่มีทางตอบได้อยู่แล้ว

ทุกคนในตระกูลเย้นต่างจ้องมองปฏิกิริยาของเย้นหว่าน เห็นเธอนิ่งเงียบไม่ปริปาก ในใจก็ต่างคิดวางแผนของตัวเองเอาไว้แล้ว

สายตาของกงจืออวีมองเย้นหว่านอย่างเฉียบคม ความรู้สึกในแววตาซับซ้อน ทำให้ดูไม่ออกว่าเธอคิดอะไรอยู่กันแน่

แต่ยังไง ก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องดีอะไรแน่

เมื่อกุมอำนาจได้แล้ว หยูซือห้านก็ตวัดสายตวัดสายตามองกู้ซึงอย่างดุร้าย แล้วถามอีกครั้ง

“ถ้าคุณคือกู้ซึงจริง ๆ พอเห็นเย้นหว่านยังไม่ลืมคนรักเก่าไปแบบนี้ คุณไม่รู้สึกหึงหวงเลยงั้นเหรอ? ตามที่ผมรู้ คุณเป็นคนที่เกลียดความไม่ถูกต้องมากนี่”

สีหน้าของกู้ซึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาลอบมองเย้นหว่านแวบหนึ่ง

เขาเอ่ยเสียงนิ่ง “ผมก็ต้องเชื่อใจเย้นหว่านอยู่แล้ว”

“งั้นเหรอ? แต่สุดท้ายแล้วถึงเธอจะเลือกคุณหรือเลือกโห้หลีเฉิน ก็คงจะไม่สามารถพูดออกมาอย่างสบายใจได้หรอก”

หยูซือห้านถามอย่างเฉียบคม “แต่ดูไปแล้วที่คุณสงบนิ่งได้แบบนี้ คงไม่ใช่จะหึงหวงจริง ๆ งั้นที่จริงก็ง่ายมาก มีความเป็นไปได้อยู่แค่สองอย่างเท่านั้น

หนึ่ง ถ้าคุณเป็นแค่กู้ซึง แต่ไม่ได้รักเย้นหว่านขนาดนั้น ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจ

สอง คุณก็คือโห้หลีเฉิน เย้นหว่านจะรักคุณหรือรักโห้หลีเฉิน คนที่เธอรักแท้จริงแล้วก็เป็นคุณเท่านั้น!”

การคาดคะเนที่สอดคล้องกันนั้น ทำให้ความขัดแย้งมุ่งไปยังตัวกู้ซึงอีกครั้ง

และในครั้งนี้ ก็ใช้เย้นหว่านเป็นหลักฐาน

ในปากของเย้นหว่านขมปร่า จิตใจว้าวุ่นอย่างมาก ในสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่สามารถพูดอะไรได้จริง ๆ แต่ท่าทีของเธอ กลับกลายเป็นBUGที่ใหญ่ที่สุด

เธอไม่สามารถพูดในทางใดได้เลย ทุกทางนั้นไม่สามารถเดินไปได้

เธอมองไปที่กู้ซึงอย่างลนลาน หัวสมองของเย้นหว่านตื้นตัน ดวงตามืดหม่น ราวกับกำลังจะหมดหวัง

เธอกัดฟัน สู้เฮือกสุดท้าย “หยูซือห้าน คุณกำลังเถียงข้าง ๆ คู ๆ”

“ผมเถียงข้าง ๆ คู ๆ รึเปล่า คนในที่นี้ ทุกคนต่างเห็นกันอย่างชัดเจนแล้ว”

หยูซือห้านเชิดคาง เอ่ยอย่างน่าเชื่อถือ

เย้นหว่านที่จิตใจว้าวุ่นอยู่แล้ว ยิ่งโดนจ้องมองจากรอบทิศ ความไม่มั่นใจนั้นก็ราวกับจะแผ่ออกมาทั้งหมด

แววตาของกู้ซึงขรึมลง เขาหรี่ตาแล้วยิ้มอย่างเย็นชาพลางเอ่ย

“คุณชายหยูนี่สุดยอดจริง ๆ พูดดำให้เป็นขาวได้ ยืนกรานจะบอกว่าผมคือโห้หลีเฉิน ช่างชักแม่น้ำทั้งห้าจริง ๆ “

คำพูดแดกดัน ยังคงเป็นการปฏิเสธ

แต่หยูซือห้านมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ตอนนี้คนที่ควบคุมทุกคนไว้ คือเขา

ที่เขาเพิ่งพูดไปนั้น ราวกับไปสะกิดคนของตระกูลเย้นอีกครั้ง ตอนนี้ต่อให้เป็นกงจืออวี ก็คงน่ากลัวว่าจะกำลังสงสัยกู้ซึงอยู่ด้วย

ตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องทำ ก็คือการทำให้ความไม่แน่นอนหนึ่งในร้อยนั้นเปิดโปงออกมาอย่างสมบูรณ์

“ได้ ในเมื่อคุณอายืนกรานที่จะไม่ยอมรับ งั้นก็ขอเชิญคุณป่ายฉีมาช่วยประเมิน คลำใบหน้าของคุณ ว่ามีการศัลยกรรมหรือปลอมแปลงรึเปล่า! เชื่อว่าด้วยทักษะทางการแพทย์ที่ดีที่สุดในโลกของป่ายฉี ไม่ว่าวิธีการแบบไหน ก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาของเขาได้”

ถึงแม้จะเป็นหมอฝีมือไม่เลว ตรวจสอบอย่างละเอียด ก็แยกแยะการปลอมแปลงออกมาได้ง่าย ๆ นับประสาอะไรกับป่ายฉีที่มีทักษะการแพทย์ถึงระดับผิดธรรมดา

แค่เขายกมือ ความลับของหน้าตาของกู้ซึงก็จะไม่อาจปกปิดได้แน่

เย้นหว่านแทบจะกระโจนเข้าไปด้วยความลุกลี้ลุกลน พูดออกไปโดยไม่ทันได้คิด “ฉันไม่เห็นด้วย!”

หยูซือห้านหัวเราะอย่างประชดประชัน “เสี่ยวหว่าน เธอตอบสนองได้แตกตื่นขนาดนี้ กำลังร้อนตัวอยู่งั้นเหรอ?”

หลังจากหยุดชั่วขณะเขาพูดอีกครั้ง “ในเมื่อเธอยึดมั่นอย่างแน่วแน่ว่ากู้ซึงไม่ใช่โห้หลีเฉิน ทำไมไม่ให้ป่ายฉีตรวจสักหน่อยล่ะ? ขอแค่เขาบอกว่ากู้ซึงไม่ใช่โห้หลีเฉิน พวกเราทั้งหมด ก็ไม่มีข้อโต้แย้งอะไรอีก”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset