สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 572 เปลี่ยนยาให้เขา

บทที่ 572 เปลี่ยนยาให้เขา

ทว่าเย้นหว่านก็ไม่ได้ถามไถ่ได้ทัน กู้ซึงรีบหยิบยาขึ้นมา จากนั้นก็เดินเข้าห้องโห้หลีเฉินก่อนเลย

การกระทำอันคุ้นเคยของเขาพลันเปิดผ้าห่มของโห้หลีเฉินทันที

เมื่อเห็นผ้าก๊อซพันแผลที่พันโห้หลีเฉินอยู่เต็มตัว สายตาของเย้นหว่านพลันถูกมนต์สะกดทันที คอหอยตีบตันอย่างยากลำบาก

พอมองทุกครั้ง เธอก็จะลำบากใจทุกครั้งไป

กู้ซึงมองเย้นหว่านที่ยืนตัวแข็งอยู่ นัยน์ตานั้นมองข้ามอาการทนไม่ไหว

ถ้าเป็นไปได้ เขาขอเป็นคนจัดการรอยแผลของโห้หลีเฉินด้วยตัวของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงให้เย้นหว่านมาเห็นแล้วลำบากใจอยู่เช่นนี้

ทว่า …

เขาเม้มปากเอาไว้ พร้อมทั้งตีหน้าเคร่งขรึมแล้วเปิดถุงออก จากนั้นก็เอายาที่ต้องใช้เอามาเรียงวางเป็นแถวอยู่ด้านข้างทั้งหมดอย่างเรียบร้อย

จากนั้น เขาก็เอากรรไกรยื่นให้เย้นหว่าน

“คุณทำเอง ฉันจะสอนคุณว่าคุณต้องทำอย่างไร”

เย้นหว่านเริ่มแสดงอาการประหลาดใจตอนที่มองมาทางกู้ซึง เธอทำงั้นเหรอ?

เธอสามารถจัดการกับรอยบาดแผลพวกนี้ได้บ้างแล้วจริงๆ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะคุ้นเคยเรื่องทางการปฐมพยาบาลเบื้องต้นมากกว่ากู้ซึงก็ตาม ทว่าการต้องมาเผชิญหน้ากับบาดแผลของโห้หลีเฉิน เย้นหว่านตื่นเต้นจนเริ่มหายใจติดขัดแล้ว

เธอเริ่มแสดงอาการต่อต้าน เพราะกลัวว่าจะเห็นรอยบาดแผลอันเหวอะหวะของโห้หลีเฉิน จนมันทำให้หัวใจของเธอต้องแหลกสลายไปด้วย

สายตาของกู้ซึงเคร่งขรึมลง ใบหน้า พลันปรากฏรอยยิ้มขี้เล่นเล็กน้อยออกมา

“เสี่ยวหว่าน ช่วงกลางวันคุณก็ยอมตกลงกันแล้ว ว่าต่อไปคุณต้องมาดูแลโห้หลีเฉิน ฉันดูแลเขามาตั้งนานขนาดนี้แล้ว เลยไม่อยากจะทำต่อแล้ว”

ทั้งน้ำเสียงและการแสดงออกของเขานั้น เหมือนว่าเธอนั้นทิ้งภาระไว้ให้เช่นนั้นแหละ

ในใจของเย้นหว่านนั้นอึดอัดทันที เธอไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้อย่างแน่นอน

แต่การได้มาดูแลโห้หลีเฉิน ถึงแม้จะยากลำบากขนาดไหนก็ยอมทน เพราะนี่เป็นส่วนที่เธอต้องรับผิดชอบ

เย้นหว่านสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ พลางเม้มปากแล้วเดินไปนั่งข้างเตียง พร้อมทั้งเอากรรไกรออกมาจากหม้ออย่างด้วยอาการตัวเกร็ง

เธอก้มหน้าก้มตาจ้องมองสภาพของโห้หลีเฉินที่หลับตาลง แววตาทอประกายอยู่ตลอด

ในเวลาร่างกายก็ห่อหุ้มไปด้วยผ้าพันแผล พร้อมทั้งเห็นรอยเลือดที่ซึมออกมาจางๆ อาการบาดเจ็บของเขา สรุปแล้วมันหนักหนาขนาดไหนกัน? แล้วยังแผลที่เหวอะหวะมากมายขนาดไหน?

เย้นหว่านไม่กล้าคิดเลย

เธอจับกรรไกรเอาไว้แน่น แล้วทั้งตัดตรงมุมผ้าก๊อซพันแผลออกอย่างช้าๆ แต่ก็ตัวแข็งทื่ออยู่เช่นเดิม

มันเป็นเพียงการกระทำที่แสนจะธรรมดา แต่สำหรับเธอแล้วนั้นเหมือนการยกภูเขาอันหนักอึ้งออกจากอก

กู้ซึงจ้องมองเย้นหว่านจนทนไม่ไหว เลยพูดทันที “บาดแผลของเขาไม่สะดวกกับการขยับมากนัก ตัดผ้าก๊อซพันแผลของเขาทั้งหมดออกก่อน พอจัดการด้านหน้าเสร็จแล้ว ค่อยไปจัดการด้านหลัง”

เป็นไปตามนั้น จากนั้นก็จัดการตัดต่อเรื่อยๆ

แสนธรรมดาแต่หยาบกร้าน

เย้นหว่านกัดฟันทน พลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตั้งสติ

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับโห้หลีเฉิน เธอย่อมตั้งใจเต็มร้อย เมื่อได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจหยุดทันที

เธอหยิบเอากรรไกรขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทั้งใช้กรรไกรตัดทีละชั้น ที่มันรัดลำตัวของเขาเอาไว้แน่น

หลังจากที่ตัดที่มันรัดลำตัวอยู่หลายชั้นของเขาออกแล้ว รอยเลือดที่แห้งกรังเริ่มปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าของเย้นหว่านอย่างเด่นชัด

แต่ละอัน มันติดกันแน่น

กู้ซึงเอาแต่จ้องมองเย้นหว่านอยู่ด้านข้างตั้งแต่จนถึงตอนนี้ พร้อมทั้งมือกอดอก แต่ก็ไม่ได้เริ่มลงมือช่วยเหลือแต่อย่างใด

เขาเริ่มพูดออกมา “ตรงที่มันมีเลือดออกมานั้น ผ้าก๊อซกับปากแผลมันจะติดกัน คุณต้องค่อยๆ ดึงมันออกอย่างเบามือ”

“ดึงออก?”

เย้นหว่านเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ สีหน้าซีดเผือด

ถ้าดึงออกแล้ว งั้นแผลนั้นก็จะเจ็บปวดมากนะสิ! อาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำสองได้

ก็จัดการกับปากแผลเรียบร้อยแล้ว แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?

กู้ซึงพูดว่า “เสี่ยวหว่าน ตอนนี้เราตกอยู่ในสภาพไม่ดีเลย มันไม่มีวิธีอื่นแล้ว”

ตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องทำคือ การรักษาชีวิตของเขาให้รอดเอาไว้

ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น เราหยุดคิดเรื่องพวกนั้นไปก่อน

เย้นหว่านจับกรรไกรเอาไว้แน่น นิ้วมือสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ ในทรวงอก อัดแน่นไปด้วยความโกรธเคืองและความเกลียดชังอย่างรุนแรง

เธอไม่เคยเกลียดคนคนหนึ่งแบบนี้มาก่อนเลย

เธอเกลียดจนทนไม่ไหวที่จะฆ่าหยูซือห้านด้วยมือของตนเอง เธออดไม่ได้ที่จะส่งหยูซือห้านลงนรกขุมที่ 18

โห้หลีเฉินได้รับความทุกข์ทรมานทั้งหมดนี้ หยูซือห้านเป็นคนทำร้ายทั้งหมดทั้งสิ้น!

มันต้องมีสักวันหนึ่ง เธอที่จะสับหยูซือห้านเป็นหมื่นๆ ชิ้นแล้วเอาไปโยนให้กากิน!

กู้ซึงจ้องมองเย้นหว่านอย่างปวดใจ จนในที่สุดก็ทนไม่ไหว พลางยื่นมือออกมาตบแผ่นหลังของเธออย่างแผ่วเบา

“เพื่อโห้หลีเฉิน คุณต้องหนักแน่นเข้าไว้”

เพื่อโห้หลีเฉิน คุณต้องหนักแน่นเข้าไว้

ดังนั้น ทุกอย่างที่อยู่ด้านหน้า มันทำให้เธอหวาดกลัวจนตัวเธอสั่นเทา

ฟันของเย้นหว่านนั้นกัดริมฝีปากของตนเองอย่างรุนแรง พลันยื่นมืออันแข็งทื่อออกไป เพื่อค่อยๆ ตัดผ้าที่ติดกันอยู่ออกจากกันอย่างแผ่วเบา

การกระทำของเธอนั้นค่อยๆ เป็นไปทีละนิดทีละหน่อย ช้าๆ เนิบนาบ แต่ก็เห็นได้ชัดว่า หลังจากดึงมันออกแล้ว มันทำให้ปากแผลของโห้หลีเฉินนั้นปริจนเริ่มมีเลือดสดๆ ไหลซึมออกมา

น้ำตาของเย้นหว่านพรั่งพรูไหลออกมาทันที เธอผละมือออกทันที พร้อมทั้งกุมใบหน้าของตนเองเอาไว้

พร้อมทั้งร้องไห้สะอึกสะอื้น “ฉันทำไม่ได้ ทำไม่ได้”

สายตาของกู้ซึงสั่นเทาอย่างหนักหน่วง แม้จะทนไม่ไหว แถมต้องการจะจัดการเอง เพื่อไม่ให้เธอต้องลำบากใจอีก

ขนาดนายแพทย์มืออาชีพโดยตรง ระหว่างการอยู่บนเตียงผ่าตัดนั้น ก็ไม่มีสักกี่คนที่สามารถฮึกเหิมในการผ่าตัด ในการช่วยรักษาชีวิตของญาติพี่น้อง ที่ตนเองคอยห่วงใยได้

ด้วยสถานการณ์นี้ ทั้งๆ ที่เย้นหว่านเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง

“เสี่ยวหว่าน”

เขาค่อยๆ ตบแผ่นหลังของเธออย่างแผ่วเบา พร้อมทั้งพูดปลอบใจเบาๆ “คุณอย่าไปมองเขา คุณก็คิดว่า เขาเป็นคนไม่รู้จักคนหนึ่งแล้วกัน คุณกำลังช่วยเหลือเขาอยู่เท่านั้นเอง”

เย้นหว่านได้แต่ส่ายศีรษะไปมาพร้อมทั้งน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนเป็นทาง

ในหัวของเธอนั้นมีแต่เขาทั้งหมด ทุกอณูของเขาเธอก็จดจำได้ดี แล้วเธอจะทำว่าเขาเป็นคนไม่รู้จักได้อย่างไรเล่า

เย้นหว่านยื่นมือออกไปคว้าแขนเสื้อของกู้ซึงเอาไส้ พร้อมทั้งพูดน้ำเสียงสะอึกสะอื้นแกมขอร้องไปด้วย

“กู้ซึง รบกวนคุณหน่อย คุณทำได้ไหม? ฉันทำไม่ได้จริงๆ”

เธอเคยลองมาแล้ว ทว่าไม่รู้ว่า เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของโห้หลีเฉินในตอนนั้น มันทำให้เธอรู้สึกหมดเรี่ยวแรงได้ขนาดนี้

เธอแค่ดึงเท่านั้น มันยิ่งทำให้ปากแผลของโห้หลีเฉินเริ่มปริออกมาอีกครั้ง จนเลือดสดๆ ไหลทะลักออกมา ราวกับว่าเธอเป็นคนทำร้ายเขาเช่นนั้น

เธอก้มหน้าก้มตา ก็เห็นว่าบริเวณแผงอกของเขานั้นมีอยู่จุดหนึ่งที่ไม่มีผิวหนังปกคลุมเอาไว้ มันมีแต่กระดูกและเลือดอันเหวอะหวะ แถมยังมีรูพรุนไปทั่ว มันลึกมากจนสามารถเห็นกระดูกได้

แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่เช่นเดิม

ทว่าเธอนั้นกลับกลัวไปซะทุกสิ่งอย่าง ตนเองลงแรงอีกนิด เขาก็จะโดนทิ่มแทงจนเป็นรู แล้วจะเสียชีวิตทันที

กู้ซึงตัวแข็งทื่อ แววตาทั้งสับสนทั้งหมดความอดทน

ใช่ว่าเขาไม่ใช่ไม่อยากจะช่วย แต่ว่าเขาในเวลานี้นั้นไม่มีเรี่ยวแรงเหลือไว้แล้ว มีเวลาที่เหลือแค่คืนนี้เท่านั้น จำต้องยกทุกอย่างให้เย้นหว่านทั้งหมด

เป็นการป้องกันเอาไว้เผื่อหลังจากพรุ่งนี้ไปแล้วจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ….

“เสี่ยวหว่าน เขาเป็นผู้ชายของคุณ คุณจะวางใจที่จะยกเขาไปให้คนอื่นจัดการเหรอ? ตอนนี้เขาก็สลบไม่ได้สติ สิ่งที่ขาดอยู่คือแรงจูงใจในการปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา คุณได้ดูแลเขาด้วยตัวของคุณเอง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่าในการปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา”

เย้นหว่านย่อมรู้ว่า คนที่สลบไม่ยอมตื่นขึ้นมานั้น จำต้องให้ญาติพี่น้องไปเรียกเขา คอยพูดคุยอยู่ข้างหูอยู่ตลอดเวลา

ถ้าสามารถเชื่อมจิตตานุภาพของเขาได้ เขาก็สามารถปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาได้

สภาพของโห้หลีเฉินในเวลานี้สลบไม่ยอมตื่น หรือว่าอาจจะตกอยู่ในสภาพนี้ก็ได้

นัยน์ตาเย้นหว่านทอประกาย ราวกับความอึดอัดท่ามกลางความกลัวของเธอนั้น มันปรากฏความหวังที่ไม่อาจดับวูบไปได้

ถ้าโห้หลีเฉินสามารถตื่นกลับมาได้จริงๆ เธอยอมทำทุกอย่างอะไรก็ได้

ไม่ว่าจะลำบากอะไร เธอก็ยินยอมที่จะลิ้มลอง

เธอไม่อาจจะอ่อนแอได้อีกแล้ว

ในใจมีการต่อสู้กลับมาอีกครั้ง เย้นหว่านใช้มือปาดน้ำตาของตนเองให้สะอาด พร้อมทั้งกัดฟันเอาไว้แน่น แววตามองไปทางปากแผลของโห้หลีเฉินอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง

ผ้าก๊อซพันแผลที่เพิ่งดึงออกมาเมื่อครู่นั้น กำลังมีเลือดไหลซึมออกมาด้านนอก

ยิ่งดึง ก็จะทำให้เลือดไหลออกมามากขึ้นกว่าเดิม

แต่ว่านี่มันคือ ขั้นตอนที่จำเป็นในการรักษาและวิธีการทายา

เย้นหว่านสูดลมหายใจเข้า พร้อมทั้งบังคับหัวใจที่สั่นเทาพร้อมทั้งความรู้สึกไม่อดทนของตนเองเอาไว้ เธอค่อยเอื้อมมือออกไป จับผ้าก๊อซเอาไว้ พร้อมทั้งค่อยๆ ใช้แรงอย่างเบามืออีกครั้ง

จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงออกอย่างแผ่วเบา

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset