สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 657 แยกจาก​กัน​ไม่ได้อีกต่อไป​แล้ว​

บทที่​657 แยกจากกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจ ก่อนจะเริ่มคิดไปในทางที่เลวร้ายอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อคืนพวกเขาไม่ได้นอนทั้งคืน ทุกคนอยู่ในห้องโถงรอให้เธอและโห้หลี​เฉิน​เสร็จ​ธุระ​แล้ว​ออกมา

ไม่ใช่มั้ง

ตอนนี้มันสิบเอ็ด​โมง​ครึ่ง​แล้ว​นะ​

เมื่อกู้จื่อเฟยเห็นเย้นหว่านถูกโห้หลี​เฉินอุ้มเข้ามาในห้อง ใบหน้าซีดเซียว​และ​แดงก่ำผสมผสาน​กัน​ เธอก็ยิ่งรู้สึก​กังวล

เธอก้าวไปข้างหน้าสองก้าว แล้วถามอย่างเป็นห่วง

“ เสี่ยวหว่าน เธอเป็นยังไง​บ้าง​”

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ เย้นหว่านถึงได้เห็นเส้นเลือดสีแดงในดวงตาของกู้จื่อเฟยอย่างชัดเจน รวมถึงรอยดำใต้ตาของเธอ

ถือเป็นการยืนยันว่า เธอยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าพวกเขาไม่ได้นอนมาทั้งคืนและต่างพากันนั่งรอพวกเธออยู่ที่นี่

แก้มของเย้นหว่านยิ่งแดงมากขึ้น​ อีกทั้งยังรู้สึกผิดเล็กน้อย

“ฉันไม่เป็นไร”

เธอส่ายหัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบตบไหล่โห้หลี​เฉิน​เพื่อส่งสัญญาณว่า “ปล่อยเธอลงมา”

เธอรู้สึกอายที่ถูกคนจำนวนมากยืนดู

โห้หลี​เฉิน​เม้มริมฝีปาก ไม่ยอมวางเย้นหว่านลง แต่เดินไปที่โซฟาก่อนจะวางร่างของเย้นหว่านลงบนโซฟา

เขาพูดกำชับ “นั่งลง ห้ามลุกขึ้น​ยืน​ด้วย”

แก้มของเย้นหว่านแดงขึ้นมาอีกครั้ง

เธอเองก็ไม่กล้าที่จะยืนขึ้นเหมือนกัน ขาของเธอสั่นและอ่อนระทวย​ ถ้าเธอจะยืนขึ้น ท่าทางการเดินคงแปลก ๆ เธอไม่ยอมทำเรื่องขายหน้า​ต่อหน้าทุกคนแน่นอน​

กู้จื่อเฟยมองไปที่ความสนิทสนม​ระหว่างทั้งสอง แล้วมองไปที่ท่าทางเขินอายของเย้นหว่าน แล้วเริ่มไม่สบายใจมากขึ้น

เธอพอจะเดาอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน แต่ยังมีเช้าวันนี้ด้วย อีกทั้งเย้นหว่านยังคงถูกอุ้มลงมาอีกด้วย ทำให้​เธอยิ่งเป็นห่วงเย้นหว่านมากขึ้น​

กู้จื่อเฟยเดินตามไปที่โซฟา แล้วนั่งลงอีกด้านหนึ่งของเย้นหว่าน

เธอจับมือของเย้นหว่าน แล้วกระซิบถาม “เสี่ยวหว่าน ยังไหวหรือเปล่า​”

เย้นหว่านหน้าแดงและส่ายหน้าด้วยท่าทางเอียงอาย

เธอกระซิบตอบ “โห้หลี​เฉิน​เป็นห่วงฉัน ก็เลยยืนกรานที่จะอุ้มฉันลงมา ฉันไม่เป็นไรจริงๆ”

กู้จื่อเฟย “… “

จู่ๆก็ถูกทั้งสองสวีทหวานใส่ นี่มันอะไรกัน

ก่อนจะมีเสียงดัง “ปึง”ขึ้นมา

โห้หลี​เฉิน​ซึ่งเดิมทียืนอยู่ข้างๆเย้นหว่าน ร่างสูงต้องเซถอยหลังไปสองสามก้าว

ใบหน้าซีดขาวของเขามีรอยแดงขนาดเท่ากำปั้นและรอยเลือดจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

เขาถูกทำร้าย

เย้นหว่านเบิกตากว้างอย่างตกใจและตะโกนเสียงดัง “เย้นโม่หลิน ใครให้คุณทำร้ายเขา”

เย้นหว่านพูด แล้วลุกขึ้น​จากโซฟา แต่ กู้จื่อเฟยที่อยู่ข้างๆเธอรีบรั้งเธอไว้

กู้จื่อเฟยกระซิบบอก“นี่เป็นเรื่องของพวกผู้ชาย ปล่อยให้พวกเขาแก้ปัญหาด้วยตัวเองเถอะ”

แก้ไขกันเองอย่างนั้นเหรอ?

โห้หลี​เฉิน​ไม่ตอบโต้​กลับ แล้วปล่อยให้เย้นโม่หลินทำร้ายเขาอย่างนั้น​เหรอ​

เย้นหว่านไม่ยอม

เธอขมวดคิ้วแน่น พยายามที่จะหนีจากการขัดขวาง​ของกู้จื่อเฟย จากนั้นเธอก็เห็นเย้นโม่หลินจับที่คอเสื้อของโห้หลี​เฉิน​ แล้วข่มขู่​เขาอย่างดุเดือด

เขาต่อว่าด้วยน้ำเสียงที่ดุเดือด​ “โห้หลี​เฉิน​ ฉันเตือนคุณเมื่อวานนี้แล้ว ว่าอย่าแตะต้องเสี่ยวหว่าน นายหูหนวกหรือไง”

โห้หลี​เฉิน​ลูบขอบปากของตัวเอง ปล่อยให้เย้นโม่หลินจับคอไว้ โดยไม่มีร่องรอยของการตอบโต้​

เมื่อคืนเขามีอะไรกับเย้นหว่านคือความจริง และไม่จำเป็นต้องเล่นลิ้น

การยอมรับอย่างเงียบ ๆ เช่นนี้ยิ่งทำให้ความโกรธของเย้นโม่หลินเพิ่มมากขึ้น

เขาจับคอของเขาไว้แน่นและคำรามด้วยความโกรธ

“ ไอ้บ้า รู้ไหมว่าถ้านายแตะต้องเสี่ยวหว่าน ถ้าอยู่ห่างเธอสามวัน…หรือไม่มีอะไรกับเธอ จะป่วยตายหรืออายุขัยสั้นลง!”

“ มันไม่สำคัญหรอกว่านายจะตายหรือไม่ตาย แต่ทำไมต้องลากน้องสาวของฉันไปเป็นยาแก้พิษด้วย ทำไมต้องใช้เธอเป็นเครื่องสังเวยด้วย”

การมีอะไรกันระหว่าง​ชายหญิง​เป็นเรื่องปกติ แต่ในใจของเย้นโม่หลิน ในขณะที่​ยังไม่แต่งงาน แล้วการมีอะไรกันเพื่อเป็นยาแก้พิษพิษ มันไม่ยุติธรรม​กับ​เย้นหว่านเอาซะเลย

ทันทีที่เย้นโม่หลินพูดจบ ทุกคนต่างก็ตกอยู่ใน​อาการตกตะลึง

แม้แต่กงจืออวีที่มีสีหน้า​ไม่ดี ก็เปลี่ยนสีหน้าอย่างตกใจ ตอนนี้ร่างกายของเธอสั่นเทา​ และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความตกใจ

เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ร่างกายและจิตใจของเธอเหนื่อยล้ามาก คำพูดของเย้นโม่หลินเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ถูกดึงจนขาด

“ เรื่องราวกลายเป็น​แบบนี้ได้ยังไงกัน”

เสียงของเธอสั่นสะท้านราวกับว่าวิญญาณของเธอแหลกสลาย​ลงในชั่วพริบตา

ตอนนี้ยังไม่ใช่​แค่เสียลูกสาวของเธอไป ยังต้องใช้​ลูก​สาวของเธอเป็นยาแก้พิษอีกอย่างนั้นเหรอ

เธอหน้ามืด เธอคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวเมื่อคืนจะนำไปสู่จุดจบที่น่าเศร้าแบบนี้

ใบหน้าของเย้นเจิ้นจื๋อยิ่งบึ้งตึง​มากขึ้น เมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้น ดวงตาที่บึ้งตึง​ของเขาก็พุ่งตรงไปที่โห้หลี​เฉิน​

ถ้าการจ้องมองนั้นเป็นเรื่องจริง คงจะฟันโห้หลี​เฉิน​เป็นพันครั้งแล้ว

นี่มันรังแก​ลูกสาวของเขาไม่ใช่​หรือไง

และถ้าใช้วิธีนี้เย้นหว่านและโห้หลี​เฉิน​ถูกแยกจากกันเกินสามวัน หรือโห้หลี​เฉิน​เกิดอุบัติเหตุ อัตราการตายของโห้หลี​เฉิน​จึงมีเยอะขึ้น

เดิมทีเขาไม่ได้มองโลกในแง่ดีนัก โอกาสที่โห้หลี​เฉินสามารถหายาแก้ได้สำเร็จมีน้อยมาก เขาแทบไม่เชื่อเลยว่าเขาจะมีชีวิตต่อไปได้

ถ้าผ่านไปสามปี เย้นหว่านต้องกลายเป็นม่ายอย่างนั้นเหรอ

หัวใจของเย้นเจิ้นจื๋อเจ็บ เขาต้องการแยกเย้นหว่านกับโห้หลี​เฉิน​ออกจากกัน แต่ภรรยาของเขาต้องรับผิดชอบที่การก่อเรื่องนี้ขึ้น

แต่พวกเขาสองคน ไม่ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่จะหยุดทั้งสองคนได้

“บาปกรรม​ เฮ้อ บาปกรรมจริงๆ​”

เย้นเจิ้นจื๋ออดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้

กู้ซึงยืนตัวแข็งมองไปที่เย้นหว่านด้วยสายตาที่สับสน ในดวงตาของเขามีแววตาที่เจ็บปวด

ไม่ยินยอม​ ไม่เต็มใจ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้

ในความรักครั้งนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเป็นเพียงนักแสดง เป็นแค่ตัวแทน

เรื่องราวปิดฉากลง เขาควรขอบคุณ​แล้วเดินจากไป

แต่บังเอิญเขาเป็นคนสุดท้ายที่ถูกย้ายและมีความเสน่หาและเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องแม้ว่าหัวใจของเขาจะเจ็บปวดอีกครั้งเขาก็ไม่สามารถแม้แต่จะก้าวเท้าเข้าไปได้

เขาไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง แต่เขากลับเกิดรักคนที่ไม่ควรจะรัก เขาที่ไม่มีตัวตนอยู่ในเรื่อง ถึงแม้จะเจ็บปวดมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งด้วยได้

เขาได้แต่ยืนมองอยู่ไกลๆ และภาวนาให้เธอผ่านอุปสรรค​ทุกอย่างไปได้ด้วยดี และมีความสุข​

กู้จื่อเฟยจับมือของเย้นหว่านแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เธอรู้สึกตกใจที่เย้นหว่านและโห้หลี​เฉิน​มีความสัมพันธ์​ที่​ซับซ้อนแบบนี้

มีชีวิตหรือตาย

การมีอะไรกันระหว่างชายหญิงเดิมทีควรจะเกิดขึ้นโดยสมัครใจ แต่ชีวิตของโห้หลี​เฉิน​กลับถูกทุ่มน้ำหนักบนร่างกายของเย้นหว่าน เธอยิ่งรู้สึก​เป็นห่วง

กู้จื่อเฟยมองไปทางเย้นหว่านอย่างเป็นห่วง และไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันเป็นความรู้สึก​อย่างไร

เย้นหว่านตัวสั่นอย่างรุนแรงและมองไปที่โห้หลีเฉินด้วยความตกใจ

เธอไม่รู้เรื่องแบบนี้มาก่อนเลย

ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ความรู้สึกแรกคือความสงสาร

เธอไม่รู้​เลยว่าร่างกายของโห้หลี​เฉิน​จะอาการหนักถึงขนาด​นี้​ ตอนนี้อาการของเขาแย่มาก จนเขาต้องพึ่งเธอถึงจะอยู่รอด

เธอจมูก​เริ่มแสบ น้ำตาของเธอเริ่มไหล ก่อนจะพูดด้วยเสียงสะอื้น

“ฉันเต็มใจค่ะ ตราบใดที่ฉันสามารถช่วยเขาได้ ฉันก็เต็มใจที่จะทำทุกอย่าง”

เธอหันหน้าไปมองโห้หลี​เฉิน​ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าโศก แต่มุมปากของเธอกลับพยายามยกยิ้มอย่างยากลำบาก “โห้หลี​เฉิน​ ตอนนี้คุณต้องพาฉันไปหายาสมุนไพรด้วยแล้วนะ คุณจะไปไหนฉันจะติดตามคุณไปทุกที่ ฉันยอมเป็นยาแก้พิษให้คุณด้วยความเต็มใจ”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset