สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 691 คำเตือน

บทที่ 691 คำเตือน

ขณะพูด หล่อนก็ยื่นมือมาจะคว้ายาในมือของโห้หลีเฉิน

เย้นหว่านรู้สึกได้ถึงอาการปวดตึงของร่างกาย ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกต่อต้าน ความเจ็บปวดบนร่างกายของเธอก็เป็นเพราะคุณป้า การให้หล่อนรักษาเธอ ก็ทำให้เธอรู้สึกกังวลว่าหล่อนจะวางยาพิษลงไปในนั้นหรือไม่

ในวินาทีที่คุณป้ายื่นมือออกมานั้น โห้หลีเฉินเหลือบตามองทันที สายตาอันเยือกเย็นนั่นทิ่มแทงไปยังคุณป้า

ทำให้คุณป้าตกใจจนไม่สามารถควบคุมท่าทีที่เป็นอยู่ได้

ด้วยสัญชาตญาณที่มีต่อความกลัว ทำให้หล่อนต้องถอยหลังด้วยความสั่นกลัว แล้วอธิบายด้วยท่าทางที่อ่อนโยนว่า

” คุณโห้ ถึงแม้เธอจะเป็นน้องสาวของคุณ แต่คุณก็ไม่ควรกระทำพฤติกรรมที่ดูคลุมเครือระหว่างชายหญิงเฉกเช่นนี้… “

น้ำเสียงของหล่อนที่ยิ่งพูดก็ยิ่งอ่อนลง แต่ท่าทีที่ใช้เตือนกลับดูเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่

อย่างกับว่าเป็นแนวคิดบางอย่าง ที่ถูกฝังรากลึกเอาไว้

คิ้วของโห้หลีเฉินอดไม่ได้ที่จะเลิกขึ้น ที่ผ่านมาไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใด ก็ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจสายตาของคนอื่นที่มองมาเลยสักครั้ง

แต่ทว่า…..

มือของเขากำขวดยาไว้แน่น จากนั้นก็ค่อยๆ ผ่อนแรงลง แล้วยืนขึ้น

พูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ ว่า ” หาผู้หญิงที่ทำงานคล่องแคล่วและมือเบามาสักคน “

เขาคงไม่วางใจปล่อยเย้นหว่านไว้กับคุณป้าคนนี้แน่

เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินอย่างประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะยอมให้คนอื่นมาทำแผลให้เธอ

ถ้าเป็นเมื่อก่อน แม้เธอจะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก็เป็นเขาเพียงคนเดียวที่เป็นคนทำแผลให้เธอด้วยตัวเอง แม้แต่ป่ายฉีก็ไม่ยอมให้ทำแผลให้

เย้นหว่านรู้สึกไม่เข้าใจโห้หลีเฉินเลยสักนิด

คุณป้ารีบตอบกลับโดยพลัน แค่โห้หลีเฉินไม่รักษาเย้นหว่านด้วยตัวเอง ที่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีแบบนี้ หล่อนก็รู้สึกพอใจ

จากนั้นหล่อนก็ตะโกนออกไปข้างนอก ” ฉู่ฉู่ เข้ามานี่ซิ “

” อ้อ ได้ค่ะ “

เสียงตอบรับที่ดูดังไม่ไกลนักตอบกลับมา ไม่นาน ก็มีหญิงสาวที่ดูรุ่นราวคราวเดียวกับเย้นหว่านเดินเข้ามา

ผิวของเธอดูขาวสะอาดหมดจด อัตลักษณ์ในส่วนต่างๆ ของใบหน้าดูสวยสดงดงาม ดูน่าเอ็นดู ราวกับคุณหนูที่เป็นลูกสาวมหาเศรษฐีก็ไม่ปาน

” แม่ มีเรื่องอะไรเหรอ “

เธอยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า ก้มหัวลงอย่างสุภาพไม่กล้าที่จะมองผู้ใด

ดูเหมือนว่า กำลังเหนียมอายเป็นพิเศษ

เย้นหว่านประหลาดใจเล็ก ๆ หญิงสาวที่มีท่าทีจิตใจงามเช่นนี้ จะเป็นลูกสาวของคุณป้าจริง ๆ น่ะหรือ

ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ระหว่างหญิงที่ดูจิตใจเหี้ยมโหดกับหญิงสาวที่ดูจิตใจดีและอ่อนโยน มันดูต่างกันเกินไป จนไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหล่อนสามารถสั่งสอนลูกสาว ให้ออกมาดูน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ได้อย่างไรกัน

คุณป้าพูดด้วยเสียงที่หยาบกระด้างว่า ” แกไปทำแผลให้เย้นหว่านสิ “

” อ๋อ ได้ค่ะ “

ฉู่ฉู่จึงเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย มองไปที่เย้นหว่าน จากนั้นตาก็เหลือบไปเห็นโห้หลีเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เย้นหว่านแบบไม่ตั้งใจ

ผู้ชายที่ดูรูปร่างหล่อเหลา ด้วยท่าทีที่ดูสูงส่งแบบไม่ประดิษฐ์ใด ๆ ทำให้รู้สึกว่าคนคนนี้มีความไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ ส่งผลให้ดูดึงดูดสายตาของเธอไปชั่วขณะ

ทำให้เธอถึงกับจ้องมองตาค้าง

เย้นหว่านสังเกตเห็นแววตาของฉู่ฉู่ ก็ย่นคิ้วขึ้นอย่างกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย รูปลักษณ์ความหล่อของโห่หลีเฉินมันเกินไปจริง ๆ ไม่ทันได้ระวังตัวก็ดึงดูดให้หญิงสาวมากหน้าหลายตามาตกหลุมรักเสียแล้ว

สายตาโห้หลีเฉินไม่ได้ดูสนใจฉู่ฉู่เลยแม้แต่น้อย ดูคล้ายกับเข้าไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แค่ถามด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ ว่า

” เธอทำแผลเป็นหรือไม่ “

” เป็น ทำเป็นค่ะ “

ฉู่ฉู่ พยักหน้าหงึก ๆ พร้อมแก้มที่แดงระเรื่อ ” ฉันเคยเรียนเกี่ยวกับวิธีการทำแผลมา คุณโห้วางใจเถอะค่ะ แผลเล็กแค่นี้ฉันจัดการได้สบาย ๆ เลยค่ะ “

โห้หลีเฉินจึงส่งขวดยาในมือให้ฉู่ฉู่

ฉู่ฉู่รีบรับมาอย่างเบิกบานใจ ทำท่าทีไม่เจตนาที่จะเอานิ้วไปสัมผัสมือของโห้หลีเฉิน แต่ครั้นเมื่อกำลังจะไปแตะมือ โห้หลีเฉินก็รีบชักมือกลับทันทีทันใด

สีหน้าของเขาดูเย็นชาและนิ่งเฉย ไม่ได้ใส่ใจจะมองเธอเลยสักนิด

เขาพูดกับเย้นหว่านด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า ” ทนหน่อยนะ เดี๋ยวสักพักก็คงจะดีขึ้น “

ใจของเย้นหว่านนั้นกลัดกลุ้ม อย่างกับว่ามีหินก้อนหนึ่งทับเอาไว้

เธอไม่เข้าใจโห้หลีเฉินเลยว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่ แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถขัดใจต่อคำสั่งได้

เธอพยักหน้าอย่างอึดอัดแล้วพูดต่อ ” ค่ะ”

ฉู่ฉู่ยังคงมองโห้หลีเฉินอย่างเคลิบเคลิ้มใจ สายตาดูแพรวพราว จนแทบจะกระเด็นไปติดอยู่บนตัวของชายหนุ่ม

เขาดูอ่อนโยนต่อน้องสาวขนาดนี้ ชายหนุ่มผู้นี้ ไม่เหมือนกับชายใดที่อาศัยอยู่ที่นี่เลยสักน้อย

ที่สำคัญคือ ทำไมเขาถึงหล่อเหลาได้ขนาดนี้!

เธออยากแต่งงานกับเขาเสียจริง

” มองอะไรนักหนา รีบไปทำแผลสิ “

โห้หลีเฉินหันไปพูดกับฉู่ฉู่อย่างอดไม่ได้ หน้าตาดูเย็นชาไร้ความรู้สึก แตกต่างกับสีหน้าท่าทางที่อยู่ต่อหน้าเย้นหว่านโดยสิ้นเชิง

ฉู่ฉู่ที่โดนความหนาวเย็นสาดเข้ามาที่ตัวถึงกับสะดุ้งตื่นจากภวังค์นั้นอีกครั้ง

ทำไมชายหนุ่มผู้นี้ถึงมีความหล่อเหลาและโดดเด่นขนาดนั้น แต่ฐานะของเขาตอนนี้ ไม่ใช่ระดับที่เธอจะสามารถฝันถึงได้

คิดแล้วในใจก็มีความหดหู่และต่อต้านเล็กน้อย เธอกัดฟัน หยิบยาน้ำขึ้นมา แล้วนั่งลงข้างเตียง แต่ขณะเดี๋ยวกันกลับดูมีความชำนาญเมื่อเริ่มทำแผลให้เย้นหว่าน

โดยมีคุณป้าที่พูดอย่างเอาใจอยู่ข้างๆ ว่า

“คุณโห้ ตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉู่ฉู่เถอะค่ะ ที่นี่มีแต่กลิ่นคาวเลือด จะขัดตาคุณไปเสียเปล่า ๆ พวกเราไปจากที่นี่กันเถอะค่ะ “

เย้นหว่านเงียบสนิท เพราะกำลังช็อกกับคำพูดของคุณป้าอยู่

คนที่ได้รับบาดเจ็บคือเธอ แต่การทำแผลที่เป็นเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ กลับทำให้ดูรกหูรกตาอย่างงั้นหรือ

นี่มันแนวคิดอะไรกันแน่

” จริงสิ เวนเดลล์กำลังรอพบคุณอยู่นะคะ “

คุณป้าพูดขึ้นมาอีกประโยค

แววตาโห้หลีเฉินดูนิ่ง สายตาของเขามองไปยังเย้นหว่านอย่างสับสน

ลังเลใจสักพัก เขาก็พูดด้วยน้ำเสียต่ำลงว่า

” เธอทำแผลเสร็จแล้ว ก็พักผ่อนในห้องนี้เถอะ อย่าไปวิ่งวุ่นที่ไหนล่ะ อีกสักพักฉันจะกลับมา “

เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินด้วยความงุนงง ไม่รู้จะตอบรับอย่างไร

โห้หลีเฉินมองดูท่าทีของเย้นหว่าน ดวงตาก็หม่นลงกว่าเดิม ปากบางนั่นขยับไปมา แต่สุดท้ายก็ไม่เอ่ยคำพูดใด ๆ

เข้าเม้มริมฝีปาก ก่อนจะกลับตัวแล้วเดินออกจากห้องไป

เข้าก้าวเดินออกมาด้วยท่าทีแข็งกระด้าง และสาวเท้าอย่างรวดเร็วรู้สึกราวกับต้องการจะหนีไปอย่างรีบร้อน

เย้นหว่านมองไปตรงม่านประตูอย่างเหม่อลอย ในใจยังคงว้าวุ่น คล้ายกับเส้นด้ายที่พันกันจนยุ่งเหยิงมั่วซั่ว ช่างน่าร้อนใจเสียจริง

เธอรู้เพียงแค่โห้หลีเฉินบอกเธอว่า เขาเจอที่อยู่ของเมล็ดแมกโนเลียแล้ว อีกไม่นานก็สามารถเก็บเมล็ดแมกโนเลียนั่นได้

แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่มันประเทศหรือครอบครัวแบบไหนกัน แล้วโห้หลีเฉินจะเอาเมล็ดแมกโนเลียนั่นได้ยังไงกัน

เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง

อีกทั้งยังรู้สึกว่า โห้หลีเฉินกำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเธออยู่

” ซี๊ด…. “

ทันใดนั้น แขนของเธอก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส สติสัมปชัญญะของเย้นหว่านโดนลากกลับเข้ามาดังเดิม

สำลีก้านในมือของฉู่ฉู่กดเข้าไปที่แผลของเย้นหว่านอย่างหนักมือ

เย้นหว่านรีบคว้ามือของเธอไว้ ” เธอช่วยเบามือกว่านี้หน่อยได้ไหม “

ความเจ็บจากแผลยังไม่หาย ก็โดนเธอทำซ้ำให้เจ็บเข้าไปกว่าเดิมเสียอีก

ฉู่ฉู่ดูเหมือนจะเบามือลง แล้วก็นำมือของเย้นหว่านที่มาจับมือของเธอไว้ออก

เธอพูดว่า ” เจ็บนิดเจ็บหน่อยก็ทนเถอะ เป็นผู้หญิงแท้ ๆ อ่อนแอเสียจริง “

เย้นหว่านถลึงตากลมโตนั่นด้วยความแปลกใจ

เกิดเป็นหญิงก็ยังอ่อนแอไม่ได้ นี่มันตรรกะประหลาดอะไรกัน

ฉู่ฉู่รู้สึกหงุดหงิดเลยเงยหน้าขึ้นมามองเย้นหว่านก่อนจะพูดว่า

“เย้นหว่าน ถึงเธอจะเป็นน้องสาวของโห้หลีเฉิน แต่เธอก็อย่าหวังจะตะกายขึ้นไปอยู่สูงเหมือนเขาเลย หมายถึงผู้หญิงที่สูงศักดิ์น่ะ แต่จะว่าไป เธอมันก็แค่คนนอก ประเทศของเราคงไม่ต้อนรับคนอย่างเธอหรอก “

“จริง ๆ แล้วเธออยู่ที่นี่ก็คงไม่สามารถมีชีวิตและสวัสดิการที่ดี ๆ ได้หรอก รอสำเร็จเสร็จงานของโห้หลีเฉินแล้ว เธอก็ไปจากที่นี่ซะสิ “

คำพูดของฉู่ฉู่นั้นดูเถรตรง ก็นับว่าเป็นความหวังดีก็แล้วกัน

แต่เนื้อความที่เธอพูดออกมานั้น ทำให้เย้นหว่านไปต่อไม่ถูก ไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอะไร

แต่เมื่อเธอเริ่มจับใจความได้ จึงเริ่มเปิดปากถามต่อว่า

” เธอรู้หรอว่าโห้หลีเฉินกำลังจะทำอะไร “

ตามหลักแล้ว สำหรับประเทศเล็ก ๆ อย่างเบียนหนาน เมล็ดแมกโนเลียนั้นเป็นของล้ำค่ามาก โห้หลีเฉินจึงมาที่นี่เพื่อตามหามัน หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงไม่บอกกันได้ง่ายๆ

ฉู่ฉู่ไม่รู้เรื่องนี้สิถึงจะถูก

แต่เรื่องที่เธอพึ่งพูดออกมา มันคืออะไรกันนะ

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset