สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 742 มีความคิดเห็นเหรอ?

เธอเดินมาที่ด้านข้างของโห้หลีเฉินและเห็นว่าเขาที่ยังคงมองดูและเคาะแป้นพิมพ์อยู่

บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีรายการข้อมูลและตัวเลขถี่ยิบที่เธอแทบจะไม่เข้าใจ

เย้นหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายไปพักสักหน่อยเถอะ”

นับตั้งแต่ที่เธอมาจนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว นอกจากที่เธอกินข้าวแค่ชั่วครู่นั้นโห้หลีเฉินก็ได้พักไปแค่แป๊บเดียว ส่วนเวลาอื่นมือของเขาก็ไม่ได้หยุดพักเลย

มือของโห้หลีเฉินหยุดชะงักไปสักพัก แล้วมองเย้นหว่านด้วยสายตาที่รักใคร่

“ฉันเริ่มหิวนิดหน่อยแล้ว เธอให้เวนเดลล์พาเธอไปหาอะไรให้ฉันกินหน่อยก็แล้วกัน ดีไหม?”

เย้นหว่านรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวใจ

ความจริงแล้วเมื่อครู่นี้ตอนที่เธอมา ก็เป็นเวลาทานข้าวพอดี แต่เพราะเป็นของที่ ซาอินติส่งมา ดังนั้นโห้หลีเฉินจึงไม่คิดที่จะกินเลยสักคำ

แต่ตอนนี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว เขายังไม่ได้กินอะไรเลยสักคำ

ส่วนเธอ ก็หิวตั้งนานแล้ว

“นายรอก่อนนะ ฉันจะรีบไปเอามา”

เย้นหว่านรีบเดินไปหาเวนเดลล์ที่ห้องทำงาน

โห้หลีเฉินมองเห็นแผ่นหลังที่รีบร้อนของเย้นหว่าน มุมปากก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มแวบหนึ่ง

สำหรับเขาแล้ว หิวแค่ไม่กี่มื้อไม่ได้สำคัญอะไรนัก

แต่เย้นหว่านห่วงใยเขา เทียบกับการกินน้ำผึ้งแล้วยังหวานกว่าด้วยซ้ำ

เพียงแต่รอยยิ้มในดวงตาของเขาก็หายแวบไปทันที ใบหน้าที่หล่อเหลากลับมามองดูคอมพิวเตอร์อีกครั้งและเดิมมีท่าทางทำงานอย่างรวดเร็ว

เวลาของเขามีไม่มาก จึงต้องรีบแข่งกับเวลา

ในเมื่อที่เย้นหว่านบอกกับเขาในห้องว่าเธอคิดถึงเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นก็ยิ่งเบื่อหน่ายคุณป้าเข้าไปอีก ถึงได้วางยาใส่ร้ายคุณป้า ถือโอกาสหนีออกมา

จากความเข้าใจที่เธอมีต่อเย้นหว่าน แต่ไรมาเย้นหว่านไม่ใช่คนที่ทำอะไรซี้ซั้วอย่างนี้

คำพูดของเธอนั้น แน่นอนว่าพูดให้ซาอินติฟัง

คนที่เฉียบแหลมอย่างโห้หลีเฉิน ก็ยังรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดของเย้นหว่านและแทบจะคาดเดาความจริงได้ทั้งหมด

เธอใส่ร้ายคุณป้าเป็นเรื่องโกหก แต่ในอาหารมียาพิษอยู่จริง ๆ เธอตั้งใจพูดให้ ซาอินติฟัง อย่างนั้นคนที่ลงมืออยู่เบื้องหลังก็คือซาอินติ

ในตอนที่เขาไม่อยู่ คิดไม่ถึงเลยว่าซาอินติจะกล้าวางยาฆ่าเย้นหว่าน

รนหาที่ตาย!

ในใจของโห้หลีเฉินมีความปรารถนาที่จะฆ่าอย่างแรงกล้า แต่ด้วยแก่นแท้ของจิตใจนั้นเข้มแข็ง จึงทำให้เขาข่มกลั้นไม่เผยการกระทำและการแสดงออกใด ๆ เลยสักนิด

ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาฆ่าซาอินติ

แต่เขารับรองเลยว่า ซาอินติจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่นานแน่ เธอกล้าทำร้ายเย้นหว่าน ย่อมต้องชดใช้ราคาที่น่าเวทนาเป็นร้อยเท่า

นอกจากนี้เหตุผลที่โห้หลีเฉินไม่สามารถพักผ่อนได้ ก็เป็นเพราะที่นี่ยังเหลือคนอยู่อีกห้าหกคน

แม้จะบอกว่าเหลือเอาไว้ช่วยงาน ทว่าแต่ละคนกลับว่างงานไม่มีอะไรทำ แต่การที่มีพวกเขาอยู่กลับเหมือนเป็นการเฝ้าติดตามดูสถานการณ์อยู่กลายๆ

ถ้าหากตอนนี้โห้หลีเฉินเมินเฉยต่อการพักผ่อน คนที่เหลือก็จะเปิดโอกาสให้ซาอินติเข้ามาอีกครั้ง

สวรรค์รู้ดีว่าเขารังเกียจมากแค่ไหน จนแทบไม่อยากจะมองหน้าผู้หญิงคนนั้น

เย้นหว่านรีบวิ่งเข้าไปในห้องของเวนเดลล์ มองดูเขาที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟา

เย้นหว่านอึ้งไปสักพัก

โห้หลีเฉินรีบจะตายอยู่แล้ว แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเวนเดลล์จะยังมีเวลามานั่งเล่นเกมอยู่?

นี่มันอะไรกัน?

หลังจากที่เวนเดลล์รู้สึกประหลาดใจอยู่พักหนึ่ง ก็รีบเก็บโทรศัพท์มือถือในมือ ยิ้มอย่างอาย ๆ เล็กน้อย

“คุณเย้น คุณอย่าเข้าใจผิดนะครับ งานตรวจสอบของคุณโห้ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กต่างก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลย ผมเป็นคนแก่สายตาเลอะเลือน ก็เลยช่วยอะไรไม่ได้มาก ดังนั้นความจริงแล้วในเวลาปกติก็เลยมีเวลาว่างมาก”

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ช่วย แต่เป็นเพราะเขาช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ

ข้อมูลตัวเลขกองนั้นของโห้หลีเฉิน โยงใยกันอันต่ออัน แค่ขยับอันเดียวก็จะเละทั้งกอง นอกจากคนที่มีประสิทธิภาพในการจัดการอย่างเขาแล้ว หากรับหน้าที่แล้วช่วยเหลือไม่ได้ก็มีแต่จะทำให้เละเทะ

เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจไป เพราะนึกไม่ถึงว่าจะมีสถานการณ์อย่างนี้ด้วย

เธอรู้ว่าการตามหาเมล็ดแมกโนเลียเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแพร่งพรายได้ ดังนั้นเลยไม่สามารถให้เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ช่วยเหลือได้ แต่เวนเดลล์ที่รู้เรื่องทุกอย่างกลับไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้

มิน่าล่ะโห้หลีเฉินถึงได้รีบเสียจนเท้าไม่ติดพื้นอย่างนี้

เธอรู้สึกปวดใจอีกครั้งแล้ว

“ฉันเข้าใจแล้ว คุณทำเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของโห้หลีเฉิน ก็เลยเข้าออกเป็นเพื่อนเขาทุกวัน ลำบากมากจริง ๆ ”

เย้นหว่านพูดขอบคุณอย่างสุภาพ

โห้หลีเฉินนั้นแทบจะทำงานล่วงเวลาทุกวัน วันเว้นวันถึงจะได้กลับไปครั้งหนึ่ง เป็นเพราะยุ่งมากจริงๆ

แต่เห็นได้ชัดว่าเวนเดลล์กลับไม่ยุ่งเลย แต่จังหวะการทำงานล่วงเวลาเหมือนกับโห้หลีเฉินทุกวัน เข้าและออกพร้อมกัน สิ้นเปลืองเวลาส่วนใหญ่ไปกับการอยู่เป็นเพื่อน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อโห้หลีเฉิน

พอได้ยินเย้นหว่านพูดอย่างนี้แล้ว เวนเดลล์ก็รู้สึกปลื้มปีติยินดีมากและถอนหายใจอย่างโล่งอก

เย้นหว่านเข้าใจเขาก็ดีแล้ว

เขายิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “คุณเย้น คุณบอกว่าจะหาอะไรให้คุณโห้ทานใช่ไหมครับ?”

พอพูดถึงเรื่องนี้ เย้นหว่านก็รีบพยักหน้า

“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณจะมา ก็เลยให้ห้องครัวเล็กนำอาหารมาให้แล้ว วางอยู่ในกล่องเก็บความร้อนครับ คุณตรงไปหยิบมาได้เลย”

เวนเดลล์เดินไปที่ด้านข้าง แล้วจึงได้นำกล่องอาหารที่สวยงามออกมาจากกล่องเก็บความร้อนสามชั้น ก่อนจะยื่นให้เย้นหว่าน

เย้นหว่านรีบรับไป แล้วยิ่งซาบซึ้งใจเต็มเปี่ยมกับการเตรียมการที่ละเอียดรอบคอบของเวนเดลล์

“คุณเป็นคนที่ดีมากจริงๆ ขอบคุณนะคะ”

มีเพียงความช่วยเหลือที่จริงใจและห่วงใยเท่านั้น ถึงจะสามารถทำอะไรได้รอบคอบถึงขั้นนี้

ยิ่งไม่ต้องถาม เย้นหว่านก็รู้เลยว่า อาหารที่โห้หลีเฉินทานเป็นประจำล้วนเป็นเวนเดลล์ที่เป็นคนจัดการให้

เวนเดลล์รีบหัวเราะฮ่า ๆ แล้วพูดว่า “นี่เป็นสิ่งที่ผมสมควรทำครับ คุณถือซะว่าผมตอบแทนบุญคุณเถอะ ถ้าปีนั้นไม่ได้ป่ายฉีช่วยชีวิตเอาไว้ ผมก็คงตายไปนานแล้ว”

ที่ตอนนี้พยายามทุ่มเทช่วยเหลือโห้หลีเฉินอย่างสุดความสามารถ ทุกอย่างเป็นเพราะจดหมายแนะนำของป่ายฉี

เวนเดลล์เป็นชายชราแสนดีที่รู้จักตอบแทนบุญคุณ

เย้นหว่านเองก็รู้สึกขอบคุณและเคารพนับถือเขาด้วยใจจริง

หลังจากที่พูดเวนเดลล์กับอีกไม่กี่ประโยค เย้นหว่านก็ค่อย ๆ ถือกล่องอาหารไปที่ด้านข้างโต๊ะทำงานของโห้หลีเฉิน

เธอเป็นฝ่ายนั่งลง แล้วขยับมือด้วยตัวเอง เปิดกล่องอาหารออกและวางมันลงทีละชั้น

เพิ่งจะวางได้ไม่นาน กลิ่นหอมของอาหารก็ลอยโชยออกมา

เย้นหว่านมองดูชายหนุ่มที่กำลังเคาะแป้นพิมพ์อยู่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า

“โห้หลีเฉิน กินข้าวก่อนเถอะ”

“ได้”

โห้หลีเฉินตอบเสียงต่ำ ตอนนี้จึงได้หยุดการเคลื่อนไหวในมือลง

เขามองดูเย้นหว่านแวบหนึ่ง ความละอายใจวาบผ่านในดวงตาแวบหนึ่ง

เขาเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า

“คืนนี้เธอก็นอนอยู่ในห้องพักเจ้าหน้าที่ตลอดทั้งคืนเถอะ สองวันนี้ ฉันจะต้องหาที่อยู่ของเมล็ดแมกโนเลียให้ได้”

เมื่อมองดูขอบตาที่เริ่มแดงเล็กน้อยของโห้หลีเฉินแล้ว เย้นหว่านก็รู้สึกปวดใจอย่างสุดซึ้ง

“นายไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ พวกเรายังมีเวลาอีกมาก ค่อยเป็นค่อยไปได้ นายอย่าเหนื่อยจนทำให้ตัวเองแย่สิ”

จากที่มองดูแล้ว ก็รู้เลยว่าระดับความเข้มข้นการทำงานของโห้หลีเฉินนั้นสูงมาก

นิ้วมือที่เคาะแป้นพิมพ์ไม่หยุด ดวงตาที่มองดูข้อมูลกองใหญ่ในขณะนั้นคร่าว ๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือสมองต้องประมวลผลอย่างรวดเร็วไม่หยุด

หากเป็นคนธรรมดา แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ทนไม่ได้แล้ว

แต่ไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินนั้นอดทนมาได้กี่วันกี่คืนแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะทำเข้มแข็งต่อไป ก็ต้องมีวันหนึ่งที่ร่างกายฝืนต่อไปไม่ไหว

โห้หลีเฉินพยักหน้าเบา ๆ มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่หยอกล้อ

“นี่เริ่มก้าวก่ายผมแล้วเหรอ?”

เขาเน้นคำว่าก้าวก่าย แล้วพูดอย่างมีเลศนัย

เย้นหว่านเข้าใจความหมายของเขาในทันที ฉับพลันนั้นแก้มก็เห่อแดงราวกับลูกแอปเปิลเลยทีเดียว

การก้าวก่ายแบบนี้ ดูเหมือนเป็นการก้าวก่ายของภรรยาที่มีต่อสามี

แต่พวกเขา ยังไม่ได้แต่งงานกันนะ

เย้นหว่านมองเขาอย่างเขินอายแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “มีความคิดเห็นเหรอ?”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset