สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 840 กินมื้อดึก ด้วยกัน?

“คุณโห้ ผมไม่ได้สงสัยกับความสามารถของคุณ แต่ก็ต้องเผื่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเหมือนกัน ถ้าเกิดเงินของฝู้เหวยข่าย ร่ำรวยพอๆกับทรัพย์สินของชาติล่ะ?”

เงินของเขาไหลออกมาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน โห้ถิงอาจจะไม่สามารถยืนหยัดจนถึงตอนสุดท้ายก็ได้

แล้วก็จะทรุดตัวลง

แสดงว่าสงครามธุรกิจในครั้งนี้ จะต้องพ่ายแพ้ไปอย่างน่าอนาถใจแน่นอน

โห้หลีเฉินชักมุมปากอย่างนิ่งๆ น้ำเสียงเป็นธรรมชาติราวกับกำลังบอกว่าอากาศในวันนี้ไม่เลวเลย

“ต่อให้เงินของมันเยอะกว่านี้ ต่อให้สามารถบดทับโห้ถิงเป็นสิบแห่งได้ ผมก็สามารถชดเชยส่วนที่เสียหายได้เหมือนกัน”

คำพูดที่นิ่งสงบนั้น กลับทำให้กู้หรงชะงักนิ่งอยู่ที่เดิมราวกับถูกฟ้าผ่า

เขาถลึงตาโต มองโห้หลีเฉินด้วยความช็อกตกใจ

โห้ถิงสิบแห่ง?

นั่นมันต้องใช้เงินเท่าไรกัน คงเป็นเงินจำนวนมหาศาลนับไม่ถ้วนแน่ๆ

แต่โห้หลีเฉินนิ่งเฉยแบบนี้ สามารถหาเงินมากมายขนาดนี้มาได้อย่างง่ายดาย ต่อให้เป็นคนที่ร่ำรวยมีทรัพย์สินพอๆกับประเทศก็แทบจะเทียบไม่ได้แล้วล่ะ

ในขณะที่กำลังช็อกตกใจอยู่ กู้หรงเพิ่งจะรู้สึกได้ว่า สถานภาพและอำนาจของโห้หลีเฉิน คงจะไม่ใช่แค่ตระกูลโห้ของเมืองหนานอย่างเดียวแล้ว พลังอำนาจที่แท้จริงของเขา แทบจะไม่ได้แสดงออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว

ผู้ชายคนนี้ต่างหาก ที่เป็นผู้แข็งแกร่ง เป็นพยัคฆ์ที่ดุร้ายในความมืดที่แท้จริง

การที่ฝู้เหวยข่ายใช้เงินมารุกรานโจมตีอย่างซื่อๆ คิดที่จะทำลายโห้ถิงแบบนี้ เกรงว่าคงจะเป็นแค่ความฝันของคนโง่เท่านั้น

เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินด้วยความสงสัย พร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ“คุณใช้แหล่งทรัพยากรทางการเงินของตระกูลหยูมาสนับสนุน?”

จากความเข้าใจของเธอที่มีต่อโห้หลีเฉิน เบื้องหลังของโห้ถิง ก็คือตระกูลหยู

ทรัพยากรทางการเงินของตระกูลหยู อย่าว่าแต่โห้ถิงเลย ต่อให้เป็นร้อยๆก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย

โห้หลีเฉินพูดยิ้มอ่อนๆ“ผู้ชายของคุณ โง่เขลาถึงขนาดที่ต้องไปแตะต้องเงินของตระกูลนั่นเลยเหรอ?”

ภายในน้ำเสียงที่พูด แฝงไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามตระกูลหยูอยู่ไม่น้อย

แม้ว่าเขาจะเป็นทายาทสืบต่อ แม้ว่าคนกลุ่มนั้นตอนนี้จะร้องห่มร้องไห้ขอร้องอ้อนวอนให้เขากลับไปก็ตาม แต่พอใช้ประโยชน์จากตระกูลหยูในการตามหาเย้นหว่านจนเจอแล้ว โห้หลีเฉินก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับที่นั่นอีกต่อไปแล้ว

สถานที่ของพวกคนเลือดเย็นนั่น ไม่สมควรที่จะถูกคนคิดถึงอาลัยอาวรณ์หรอก

เย้นหว่านคิดๆ ด้วยเหตุผลนี้ ด้วยความเย่อหยิ่งทะนงตัวของโห้หลีเฉิน ไม่มีทางให้ตระกูลหยูเข้ามาช่วยแน่นอน

แล้วทรัพย์สินที่มหาศาลของเขาเหล่านั้น เอามาจากไหนกัน?

เย้นหว่านคิดๆ จู่ๆสายตาก็เปลี่ยนไปเฉียบแหลมขึ้นมาทันที จ้องเขม็งโห้หลีเฉิน

ถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังเข้มงวด“คุณแอบซ่อนเงินเก็บส่วนตัวไว้ใช่ไหม?”

โห้หลีเฉิน“……”ให้ตอบกลับไปยังไง?

กู้หรงทำตะเกียบตกลงบนพื้นด้วยความตกใจ

นี่เรียกว่าเงินเก็บเหรอ? เงินเก็บนี้มันเยอะจนน่าเหลือเชื่อเกินไปไหม

ป่ายฉีถลึงสองตาโตอย่างเหม่อลอย รู้สึกไม่อยากจะเชื่ออยู่ไม่น้อย

โห้หลีเฉินนอกจากตระกูลหยูแล้ว ก็มีแค่ตระกูลโห้แค่ตระกูลเดียวแล้วนี่นา แล้วเขายังมีแหล่งสนับสนุนอื่นอีกหรือไง?

โห้หลีเฉินเม้มปากยิ้มๆ ยื่นมือออกมาลูบหัวของเธอ พูดขึ้นอย่างอบอุ่น

“ผมมีเงินเยอะแยะมากมาย คุณอยากจะใช้ยังไง ก็ใช้ได้ตามสบายเลย”

นิ่งไปสักพัก เขาก็พูดเสริมขึ้นมาเบาๆอีกครั้ง“หรือไม่ก็ พอแต่งงานแล้วผมจะให้บัตรเงินเดือนกับคุณ ให้คุณนับเอาก็แล้วกัน”

เย้นหว่านแก้มแดงขึ้นมาทันที ทำไมจู่ๆถึงพูดถึงเรื่องแต่งงาน แถมยังให้บัตรเงินเดือนอีก?

เธอแต่งงานกับเขาไม่ใช่เพราะเงินหรอกเหรอ?

ไม่ถูกสิ เธอยังไม่ถึงขั้นที่พูดเรื่องแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำ!

เย้นหว่านหน้าแดง รีบก้มหน้ากินข้าวทันที ไม่สนใจเขา

ถึงยังไงโห้หลีเฉินก็เตรียมอะไรไว้รอบคอบหมดแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องไปกังวลว่าโห้ถิงของเขาจะพังทลายลงหรอก

……

หิว

เสียงท้องร้องจ๊อกๆ

กู้จื่อเฟยลุกขึ้นมานั่งบนเตียง มือกุมท้องตัวเอง ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบๆ

ช่วงค่ำเนื่องจากที่เย้นโม่หลินจากไป เธอก็เลยอารมณ์ฟุ้งซ่าน ไม่ได้กินอะไรเลย จากนั้นก็นอนไม่หลับทั้งคืน

ทำให้ตอนนี้หิวสุดๆ

อาจจะเพราะอารมณ์ไม่ดี ก็เลยต้องหาอะไรกินเพื่อเติมเต็มล่ะมั้ง

ดังนั้น กู้จื่อเฟยจึงตื่นขึ้นมา สวมเสื้อนอนลงมาชั้นล่างทันที

เธอเดินวนอยู่ในห้องครัวหนึ่งรอบ มองวัตถุดิบในตู้เย็น กะที่จะทำบะหมี่สักถ้วย

เธอจับนู่นจับนี่ไปพลางต้มน้ำ กำลังจะใส่บะหมี่ลงไป ในตอนนี้เอง กลับมีเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังขึ้นมาจากตรงประตูห้องครัว

“คุณทำอะไร?”

กู้จื่อเฟยตกใจ บะหมี่ในมือร่วงตกลงแตกกระจายเต็มพื้น

เธอหันหน้าไปด้วยความตกใจ เห็นเย้นโม่หลินที่ใส่ชุดนอนผ้าไหม กำลังยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า

สายตาของเขามองต่ำลงไปที่พื้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย“บะหมี่?”

กู้จื่อเฟยเหม่อมองเขา พยักหน้าอย่างแข็งทื่อ

กลางดึก ทำไมเย้นโม่หลินถึงมาโผล่ที่นี่ได้?

แถมยังมาเห็นตอนเธอกำลังกินมื้อดึกพอดีอีก……

เขาจะมองว่าเธอเป็นคนตะกละเหมือนหมูไหม

เย้นโม่หลินเม้มปาก พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม“ช่วยต้มอีกสักถ้วยจะรังเกียจไหม?”

กู้จื่อเฟยสีหน้าอึ้งชะงักไป“หา?”

เย้นโม่หลินสีหน้าอึดอัดไม่น้อย น้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ผมก็อยากกินเหมือนกัน”

กู้จื่อเฟยอึ้งมึนงงอยู่ที่เดิม

ก่อนจะเข้าใจขึ้นมาได้ว่า ที่แท้เย้นโม่หลินก็ลงมากินมื้อดึกเหมือนกันนี่เอง

ก็ใช่ เพราะตอนค่ำเขาก็ไม่ได้กินข้าวเลยสักคำด้วยเหมือนกัน

แต่กู้จื่อเฟยยังคงใจเต้นแรงสุดๆ จังหวะนี้คงจะไม่ใช่ให้เธอต้มบะหมี่ให้เย้นโม่หลินกินใช่ไหม?

เธอต้มให้เขากิน……

คิดๆดู กู้จื่อเฟยก็รู้สึกว่า มันเพ้อฝันสุดๆ เธออาจจะกำลังฝันอยู่

เย้นโม่หลินมองสีหน้าที่เปลี่ยนไป ท่าทางที่ยืนไม่ขยับเขยื้อนของเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ไม่สะดวก?”

กู้จื่อเฟยดึงสติกลับมาทันที ส่ายหัวโดยสัญชาตญาณ“เปล่า เปล่านะ คุณนั่งลงก่อน ฉันจะต้มให้เดี๋ยวนี้แหละ”

พูดพลาง เธอกำลังจะใส่บะหมี่ลงไปในหม้อด้วยความรีบร้อน แต่พอยกมือขึ้น ถึงจะสังเกตได้ว่า ในมือของเธอเหลือบะหมี่แค่ซองเดียว บะหมี่ที่เหลือตกลงไปที่พื้นหมดแล้ว

แตกกระจายจนหมด

กู้จื่อเฟยรู้สึกอึดอัด รีบไปหยิบไม้กวาดมาทันที

ขณะที่มือของเธอกำลังจะแตะโดนไม้กวาดนั้น ฝ่ามือที่ใหญ่เรียวยาวข้างหนึ่งกลับเข้ามาคว้าไม้กวาดเอาไว้ก่อน กู้จื่อเฟยช้าไปวินาทีเดียว มือจึงไปคว้าเข้ากับหลังมือของเขาแทน

ทั้งสองคนนิ่งชะงักไปทันที

กู้จื่อเฟยเงยหน้าขึ้น ก็หันไปสบตากับเย้นโม่หลิน

ราวกับไฟฟ้าช็อต เธอดึงมือกลับมาทันที ใจเต้นแรงสุดๆ

“ขอโทษ ฉัน ฉัน……”

แค่อยากจะหยิบไม้กวาดเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะแตะต้องเขาเลยนะ

เย้นโม่หลินเลื่อนสายตามองลงมายังหลังมือที่เพิ่งจะถูกสัมผัสเมื่อตะกี้อย่างลึกซึ้ง ที่หลังมือนั้นเหมือนกับยังคงทิ้งสัมผัสที่นุ่มนวลของผู้หญิงไว้อยู่

เขาไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกรังเกียจมันแล้ว แต่ยิ่งรู้สึกคิดถึงมันด้วยซ้ำ

เย้นโม่หลินเม้มริมฝีปากบางๆ พูดขึ้นอย่างนิ่งขรึม

“ผมกวาดพื้นเอง คุณต้มบะหมี่เถอะ”

พูดพลาง เขาก็หยิบไม้กวาดเดินไปยังจุดที่บะหมี่ตกแตกกระจายที่พื้น ก่อนจะเริ่มกวาด

ท่าทางโค้งตัวลงเล็กน้อย ดูแล้วสบายตาแปลกๆ

กู้จื่อเฟยเหม่อมองเขา สติล่องลอยไปไม่กลับมา เธอแทบจะไม่เชื่อเลยว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้ฝันไป

คนที่ทำตัวสูงส่งยโสโอหังแบบเย้นโม่หลิน จะกวาดพื้นเป็นอย่างนั้นเหรอ?

แถมใส่ชุดนอน กวาดบะหมี่ที่ตกลงบนพื้นต่อหน้าต่อตาเธออีกด้วย ความรู้สึกแบบนั้น มันดูสมัครสมานกันอย่างบอกไม่ถูก

ความเยือกเย็นไม่แยแสของเขาคนนี้ดูลดลงไปไม่น้อย ทำให้รู้สึกเข้าถึงง่ายมากขึ้น

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset