สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 865 โลกมันกลม

กู้จื่อเฟยอึ้งไปเล็กน้อย เมื่อได้สติเธอก็คิดจะพูดว่าไป

ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากอยู่กับเย้นโม่หลินตามลำพังด้วยกัน อย่างน้อยตอนมีคนอยู่เยอะๆ เขาก็คงไม่สะดวกจะพูดอะไรมากนัก

แต่ถ้ากินข้าวด้วยกัน งั้นก็กินพร้อมกับเย้นโม่หลินอีกน่ะสิ?

เมื่อคืนเพิ่งจะผ่านเรื่องแบบนั้นมา เธอเผชิญหน้ากับเย้นโม่หลินไม่ติดจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมองเขาแล้วกินข้าวไปเลย

กู้จื่อเฟยสับสนวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง ก็กอดผ้าปูเตียงที่พันอยู่รอบตัวแล้วพูด

“ไม่ล่ะ พวกเธอไปกินเถอะ ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”

เย้นหว่านมองออกว่าอารมณ์ของกู้จื่อเฟยในตอนนี้ว้าวุ่นมาก บางทีความกระทบกระเทือนของเรื่องเมื่อคืนต่อเธอคงจะมากไปหน่อยจริงๆ

ที่เธออยากจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ที่จริงแล้วเพราะอยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียวสินะ

ถ้าหากเธอเองเจอเรื่องแบบนี้ ย่ากลัวว่าเธอเองก็อาจจะไม่มีกะจิตกะใจจะกินอะไรแล้ว

เย้นหว่านกังวลใจ แต่ก็เข้าใจ ควรจะให้พื้นที่ส่วนตัวกับกู้จื่อเฟยบ้าง

“โอเค ถ้าเธอหิวก็มากินนะ ฉันอยู่ตลอด”

ตอนที่ต้องการเธอก็เรียกเธอได้เสมอ

โห้หลีเฉินโอบเย้นหว่านแล้วเอ่ยเร่ง “ไปกันเถอะ”

สถานการณ์ในตอนนี้ของกู้จื่อเฟบ ไม่ควรจะให้เย้นหว่านยื่นมือเข้าไป ไม่อย่างนั้น ก็จะเป็นก้างขวางคออย่างชัดเจน

เย้นหว่านคิดว่าโห้หลีเฉินนั้นหิวและหงุดหงิดที่จะรอแล้ว จึงไม่ได้ร่ำไรอะไรต่ออีกแล้วเดินไปด้วยกัน

ในห้องพิเศษ ได้เหลือฝู้หงที่กำลังคร่ำครวญ และยังมีกู้จื่อเฟย เย้นโม่หลินและป่ายฉีสามคน

นอกจากคนอื่นๆ ที่เหมือนเป็นแบคกราวด์แล้ว ป่ายฉีก็กลายเป็นคนที่เกินออกมาอย่างเห็นได้ชัด

เขาพูดอย่างไม่ลังเล “ฉันเองก็ไปกินอาหารเช้าล่ะ บ๊ายบาย”

พูดจบก็เดินออกไปด้านนอกอย่างว่องไว

กู้จื่อเฟยมึนงงขึ้นมาทันที ถ้าป่ายฉีหนีไปแบบนี้ งั้นก็เหลือแค่เธอกับเย้นโม่หลินงั้นเหรอ?

สิ่งที่เธอกลัวที่สุดไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้ก็คือการอยู่คนเดียวกับเย้นโม่หลิน

กู้จื่อเฟยพูดอย่างรีบร้อน “ฉันกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนะ”

ไม่ทันพูดให้จบเธอก็วิ่งออกไป แทบจะออกจากประตูไล่ตามหลังป่ายฉีไปแค่ก้าวเดียว

ท่าทางรีบร้อนนั้น ราวกับว่าข้างหลังมีภูตผีที่น่ากลัวอยู่อย่างนั้น

สีหน้าของเย้นโม่หลินมืดมน เม้มปากแน่น

จากนั้น ขายาวก็เดินออกไปข้างนอกเช่นกัน

ห้องอาหารและห้องชั่วคราวไม่ได้อยู่ทางเดียวกัน หลังจากเดินออกมาจากห้อง กู้จื่อเฟยและป่ายฉีก็แยกกันเป็นสองทาง

แต่สิ่งที่ทำให้เธอล้มครืนก็คือ เย้นโม่หลินนั้นเดินตามเธอมา

ขายาวของเขาก้าวได้กว้าง ระยะห่างระหว่างทั้งสองสั้นลงจนเห็นได้ชัด

กู้จื่อเฟยเหมือนจะเริ่มดูท่าไม่ดี ทำไมเย้นโม่หลินไม่ไปกินอาหารเช้าล่ะ? เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงคิดว่ามันเป็นแค่การร่วมทางเดียวกัน แต่ในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้เลย

หรือนี่เย้นโม่หลินจะตามมาคิดบัญชีงั้นเหรอ?

กู้จื่อเฟยตื่นตระหนก เธอหอบผ้าปูเตียงแล้วเริ่มวิ่งโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง

เธอไม่แม้แต่จะมองคนที่อยู่ข้างหลัง ในเฮือกเดียวเธอวิ่งมาถึงประตูของห้องที่เธอสามารถใช้ได้ เปิดประตูและปิดประตูในรวดเดียว

แต่ทว่า ในขณะที่อีกนิดเดียวประตูก็จะปิดลงนั้น ก็พลันมีฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นเข้ามาข้างนอกแล้วคว้าบานประตูเอาไว้ สกัดกั้นไม่ให้ประตูปิดสนิทอย่างแข็งกร้าว

กู้จื่อเฟยตกใจจนตัวเกร็ง ก่อนเห็นเย้นโม่หลินที่ยืนอยู่ข้างนอกจากซอกประตู

เธอมองเขาด้วยแววตาสั่นไหว “คุณ ทำอะไรน่ะ?”

ในน้ำเสียงนั้น ล้วนเป็นความกังวลและสิ้นหวัง

เย้นโม่หลินจ้องมองเธอด้วยแววตามืดหม่น พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “คุยกันหน่อย”

ท่าทีที่ดื้อรั้น

ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

กู้จื่อเฟยเหงื่อตก มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเธอไม่อยากจะคุยมากแค่ไหน

แต่ท่าทีนั้นของเย้นโม่หลิน เธอแทบจะไม่สามารถจะหลบซ่อนได้เลย หรือว่าเธอจะต้องยอมรับความตายอย่างนั้นเหรอ?

ใบหน้าของกู้จื่อเฟยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง “ถ้างั้น รอฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ สภาพฉันตอนนี้ไม่สะดวก”

เธอยังห่อตัวด้วยผ้าปูอย่างน่าสงสารอยู่เลย

จากนั้นเย้นโม่หลินก็เลื่อนสายตามายังร่างของกู้จื่อเฟย ทั้งรอยจูบที่เห็นได้จางๆ และด้านหลังของผ้าปูเตียงนั้น เรือนร่างอันสมบูรณ์แบบที่ไม่มีอะไรอยู่เลย

เขาสูดหายใจลึกในทันที ภายในร่างกายพลันลุกโชนขึ้นดั่งเปลวไฟ

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ความรู้สึกว้าวุ่นอย่างอธิบายไม่ได้

นึกไม่ถึงว่าแค่คำคำเดียว ความคิดเดียว ก็ทำให้เขามีปฏิกิริยาที่ไร้เหตุผลแบบนี้แล้วงั้นเหรอ?

ช่างน่ารำคาญจริงๆ

พูดอีกอย่างก็คือ หลังจากที่ผู้ชายได้เริ่มกินเนื้อก็จะเสพติด ดังนั้นจึงได้จินตนาการขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

ถึงอย่างไร การควบคุมตนเองในเขานึกภูมิใจนั้นได้พังทลายลงแล้ว

หากเป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ได้การ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกู้จื่อเฟยที่ห่อด้วยผ้าปูเตียงตรงหน้า เขายิ่งลุกโชน

เย้นโม่หลินละสายตาออก เอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“รอเธอเปลี่ยนเสร็จเราค่อยคุยกัน”

พูดจบ เขาก็ปล่อยมือแล้วหันตัวเดินไปด้านข้างทันที

กู้จื่อเฟยมองคนที่หายไปจากประตู หัวใจที่ห้อยอยู่ที่คอหอยของเธอถึงได้สงบลงหน่อย

เธอปิดประตูลงกลอนทันทีอย่างไม่ลังเล

แต่ร่างกายที่แข็งเกร็งของเธอ กลับทำยังไงก็ผ่อนคลายลงไม่ได้เลย

เย้นโม่หลินดูเหมือนจะตั้งใจมาคุยกับเธอ แต่เมื่อคืนเธอขืนใจคนนอน เรื่องแบบนั้นจะสามารถพูดได้ยังไง?

เธอจะชดใช้ให้เขาเหรอ ตระกูลของเขาร่ำรวยเสียขนาดนั้น ทั้งทรงพลังยิ่งใหญ่ ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง

เธอน่ะเหรอจะรับผิดชอบเขา? ในสายตาของเขาไม่มีเธออยู่ จะไปต้องการเธอได้ยังไง

เธอทำอะไรไม่เลย การเจรจาครั้งนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่เธอจะถูกคิดบัญชี ถูกลงโทษและทำให้อับอายขายหน้า

เธอไม่ต้องการมัน

ยิ่งไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเขาตัวต่อตัวในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดขนาดนี้ด้วย

กู้จื่อเฟยตัดสินใจ เธอต้องหนี รีบหนีไปตอนนี้เลย

คิดดังนั้น เธอก็มองไปรอบห้อง และสุดท้ายสายตาก็มาตกอยู่ที่หน้าต่าง

อื้ม ปีนหน้าต่าง!

เป็นความคิดที่ดี

เธอรีบเดินไปข้างเตียง เปิดหน้าต่างแล้วมองออกไป ชั้นสาม ด้านนอกนั้นเป็นตกแต่งสไตล์ยุโรป มีที่ให้เหยียบอยู่ทุกที่เหมือนกับการปีนผาอย่างนั้น

ปัญหาในการปีนลงไปคงจะไม่ใหญ่เท่าไหร่

กู้จื่อเฟยเกิดความคิดขึ้นมาแล้ว เธอก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองกลับคืนอย่างรวดเร็วทันที จากนั้นก็ปีนข้ามหน้าต่างออกไปข้างนอกอย่างรีบเร่ง

อย่างที่เธอคาดไว้ ด้วยการตกแต่งสไตล์ยุโรป หากเธอระวังสักหน่อยก็สามารถปีนลงไปชั้นล่างได้อย่างราบรื่น

เธอยืนบนพื้นหญ้าแล้วเงยหน้ามองขึ้นไปที่หน้าต่างชั้นสามอีกครั้ง มุมปากยกยิ้มราวสุนัขจิ้งจอก

“คุณพี่เย้น ล่าก่อนนะ โอ๊ะ ไม่ถูก อย่าเจอกันอีกเลย”

เธอควรอยู่ให้ห่างเข้าไว้

กู้จื่อเฟยอ้อมผ่านสวนเล็กๆ ด้านหลังไปอย่างรวดเร็ว ก่อนวิ่งออกไปข้างนอก

แต่ทว่า สิ่งที่เธอไม่คาดคิดเลยแม้แต่น้อยก็คือ เธอจะโลกกลมไปปะหน้าเข้ากับฝู้เหวยข่าย

ที่ประตูหลังของโรงแรม มีรถจอดอยู่กว่าสิบยี่สิบคัน ฝู้เหวยข่ายลงมาจากรถที่อยู่หน้าสุด ใบหน้าของเขามืดหม่นราวกับทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยความโกรธ

ในเวลาเดียวกัน ประตูของรถคันข้างหลังก็เปิดออก ทันใดนั้นบอดี้การ์ดชุดดำก็กรูกันออกมา

พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยสีหน้าดุร้าย สีหน้าและบรรยากาศนั้น พวกเขามาเพื่อต่อสู้แท้ๆ เลย

ฝีเท้าของกู้จื่อเฟยหยุดลงกะทันหัน ในใจส่งเสียงตึกตัก

หรือว่า ฝู้เหวยข่ายจะได้รับข่าวการขอความช่วยของฝู้หง จึงได้มาช่วยงั้นเหรอ?

พาคนมามากมายขนาดนี้ น่ากลัวว่าจะตัดสินใจจะต่อสู้ครั้งใหญ่แล้ว

เธอต้องรีบไปแจ้งกับโห้หลีเฉิน

กู้จื่อเฟยกำลังคิดที่จะวิ่งกลับไปบอกโห้หลีเฉิน ทว่า ฝู้เหวยข่ายกลับมองตรงมาทางเธอ ตวาดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“กู้จื่อเฟย!”

กู้จื่อเฟยตัวสั่นสะท้านขึ้นมาในทันที รู้สึกได้ถึงความหนาวยะเยือก

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset